เรื่องสั้น...ไม่มีใครตายเพราะอกหัก...

กระทู้สนทนา



*** เรื่องสั้นชุดนี้ เป็นนิยายที่ผู้เขียน สมมุติเหตุการณ์ บุคคล และสถานที่ ขึ้นมาตามจินตนาการเท่านั้น
ผู้เขียนแต่งเพื่อความบันเทิง ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลใดๆทั้งสิ้น โปรดอ่านอย่างใช้วิจารณญาณ ขอบคุณค่ะ ***




ไม่มีใครตายเพราะอกหัก    คำนี้แม่พร่ำบอกกับเมย์เสมอ   เมื่อคราวที่เมย์มานั่งน้ำตาอาบแก้ม
หลังจากถูกรุ่นพี่ในโรงเรียนเดียวกัน  สลัดรักจากไปอย่างไม่ใยดี    และเป็นคำสอนของแม่ที่เมย์ ไม่มีวันลืม

ความรักครั้งแรกในวัย ม 3  ไม่ได้สร้างความประทับใจให้เมย์มากนัก  เมื่อถูกรุ่นพี่หักอก ตอนนั้นโลกทั้งโลกเหมือนดำมืด
เมย์หมกตัวอยู่แต่ในห้องไม่กิน ไม่ไปเรียน เอาแต่นอนน้ำตาอาบแก้ม  จนแม่ต้องลาหยุดงานมาอยู่เป็นเพื่อนเมย์
คอยปลอบประโลม คอยอยู่ข้างๆเมย์ ยามที่เมย์ท้อแท้ และผิดหวัง อ้อมกอดที่อบอุ่นของแม่  ทุกช่วงเวลาที่แม่ทุ่มเทให้เมย์
ชะล้างคราบน้ำตาของเมย์ให้ค่อยๆ เหือดหายไปในไม่ช้า

ในยามทุกข์  ชีวิตที่มีแต่แม่ลูกสองคน จึงมีค่าอบอุ่นและฝ่าฟันอุปสรรคมาได้

...........

หลังจากจบ ม3 เมย์เลือกเรียนต่อสายวิชาชีพ เหตุผลคือ การเรียนสายวิชาชีพ หากจบออกมาก็สามารถแบ่งเบาภาระของแม่ได้บ้าง  

แม่เลี้ยงดูเมย์มาคนเดียวอย่างดี ตั้งแต่พ่อตายจากไป ทุกๆวัน จะมีแต่แม่และเมย์เท่านั้น ที่เป็นกำลังใจของกันและกัน

และเมื่อเมย์โตมากขึ้น ระยะใกล้ระหว่างแม่กับเมย์ก็เปลี่ยนไป  แม่ได้ตำแหน่งงานใหม่ รับผิดชอบมากขึ้น คุมคนมากขึ้น
ระยะห่างระหว่างแม่กับเมย์ก็เข้ามาทดแทน จนความไม่เข้าใจสามารถก่อตัวขึ้นได้ อย่างง่ายดาย

แม่ต้องทำงานหนักกว่าเดิม เพราะหน้าที่ความรับผิดชอบ แน่นอนเมื่องานหนักขึ้น เงินก็มากขึ้น หน้าที่เพิ่มขึ้น
แม่ก็ต้องดูแลตัวเองให้สมกับตำแหน่ง แม่ของเมย์สวยขึ้นทุกวัน จนเมย์รู้สึกว่า แม่สวยจนผิดสังเกต หรือ แม่กำลังมีความรักครั้งใหม่?

จนกระทั่งวันหนึ่ง เมย์เห็นมีชายวัยกลางคนอายุ ดูเหมือนจะรุ่นๆเดียวกับแม่ มารับมาส่งแม่บ่อยๆ จึงทำให้เมย์รู้สึกได้ว่าสิ่งที่เมย์คิด
กำลังจะเป็นความจริง  เมย์จึงรู้สึกหวาดหวั่น เพราะกลัวว่าแม่กำลังจะหมดรักจากเมย์ และไปรักคนอื่นแทน  เมย์กำลังถูกแย่งความรัก

ถ้าไม่มีแม่ เมย์จะทำอย่างไร เมย์ครุ่นคิดตลอดเวลา  ยิ่งคิดยิ่งเจ็บปวด น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว เพราะกลัวเสียแม่ไป


และด้วยความไม่เข้าใจ เมย์กับแม่ จึงทุ่มเถียงทะเลาะกันตลอดเมื่อแม่กลับดึก แม่กำลังเหินห่างเมย์ เพราะชายคนใหม่
แม้แม่จะพยายามอธิบายว่า ชายคนใหม่ยังเป็นแค่เพื่อน ตราบใดที่เมย์ยังไม่จบ แม่จะอยู่ดูแลเมย์  จนกว่าเมย์จะมีทางชีวิต
และครอบครัวเป็นของตนเอง เมื่อนั้นแม่จึงจะขอโอกาสให้ตัวเอง  แม้เมย์จะรับฟังแต่ก็ยังไม่เข้าใจ....


แล้ววันที่เมย์เริ่มพอจะเข้าใจอะไรมากขึ้นก็มาถึง  เพราะโลกนี้อยู่ได้ด้วยความรัก ทุกคนๆต้องการความรัก ต้องมีคนรัก
และต้องมีชีวิตเป็นของตัวเอง   เมย์จึงปล่อยให้แม่เดินตามทางที่แม่ต้องการ เมย์รู้แล้วว่าความรักเป็นสิ่งสวยงาม
เพราะโลกของเมย์กำลังเป็นสีชมพู จากพี่วุฒิ ชายหนุ่มรุ่นพี่ ที่เพื่อนเมย์แนะนำให้รู้จักตอนฝึกงาน  

พี่วุฒิทำงานในบริษัทที่เมย์ไปฝึกงาน ด้วยบุคลิกของความเป็นคนนิ่ง สุภาพและเอาใจเก่ง
เมย์จึงให้ความไว้วางใจต่อพี่วุฒิเป็นพิเศษ ทั้งสองสานสัมพันนธ์กันแบบลับๆ...เป็นความสัมพันธ์ที่แม่เองก็ไม่เคยรู้...

..............


แม่ไม่กลับบ้านมาสองสามวันแล้ว ช่วงหลังๆแม่มักจะบอกว่าต้องออกต่างจังหวัดบ่อยๆ เพราะบริษัทกำลังขยายสาขา
และแม่ต้องรับผิดชอบ  ดูเหมือนแม่จะเหนื่อยมาก  แม่ซูบซีดและผอมลง เมย์แอบเห็นแม่กินยาบ่อยๆก่อนนอน เวลาแม่กลับมาบ้าน
เมื่อถาม แม่ก็จะบอกว่าเป็นยาแก้ปวด เพราะแม่ชอบปวดหัว เมย์ได้แต่กอดแม่และบอกให้แม่ดูแลตัวเอง

ช่วงนี้เมย์กำลังมีความสุขและบอกแม่ว่าอยากให้แม่มีความสุขเช่นกัน เดือนหน้าเมย์ก็จะจบแล้ว วุฒิบัตรของเมย์จะทำให้เมย์สมัครงาน
ได้ไม่ยาก ด้วยเกรดดีๆ ที่เมย์ทำมา ต่อไปแม่จะไม่ลำบาก เมย์จะแบ่งเบาภาระของแม่ และจะมีครอบครัวเป็นของตัวเอง
ตามที่เมย์คาดหวังไว้  ครอบครัวเมย์จะมีความสุข โดยที่แม่อยู่ร่วมทาง  แม่ได้แต่กอดเมย์ และอวยพรให้เมย์ สมความปรารถนา

........

สามเดือนต่อมา....

ฝนข้างนอกกำลังตกหนัก ฟ้าที่ร้องเปรี้ยงปร้าง เหมือนกำลังเกรี้ยวกราดใส่ความมืดที่ปกคลุมแห่งค่ำคืนนี้

ความมืดทะมึนกำลังจะกลืนกินทุกสรรพสิ่ง หากแต่สายฝนที่โหมกระหน่ำก็กำลังชะล้าง ฝุ่นดินและคราบสกปรก
ให้ไหลหลากไปกับสายน้ำจากเบื้องบน  ลงสู่ก้นบึ้งที่ลึกลงไปในผืนแผ่นดิน

สายอสุนี วิ่งไหลเป็นเส้นพาดผ่านขอบฟ้า แสงแปลบปลาบ เหมือนเส้นนำทางจากสิ่งหนึ่ง..ไปหาอีกสิ่งหนึ่ง...


บนเตียงเมย์กำลังนอนหายใจรวยริน  ขวดยานอนหลับถูกปัดตกลงไปอยู่บนพื้น มันกลิ้งไหลหล่นเข้าไปใต้เตียงอย่างเงียบสงบ
ไม่เหลือยาสักเม็ด   ฝนที่ตกกระหน่ำ ทำให้ทุกสิ่งเก็บซ่อนตัวอยู่ในบ้านของตัวเอง อากาศที่เย็นฉ่ำฉุดรั้งอารมณ์ง่วงงุน ได้ดียิ่งนัก

ความมืดที่ปกคลุมและเงาวูบไหว คือสะพานแห่งทางสายใหม่ที่เมย์กำลังจะพบเจอ


เมย์กำลังสะลึมสะลือ น้ำตาที่อาบไหลเป็นทางไม่สามารถปลุกจิตวิญญาณของมย์ให้รู้สติขึ้นมากไปกว่านี้  แต่ก่อนสติจะดับวูบลง
เงาไหวของใครบางคนกำลังก้มลงมาจูบประทับที่แก้มของเมย์ อย่างแผ่วเบาและทะนุถนอม


บนเตียงนี้เมื่อสองเดือนก่อน แม่ใช้มันเป็นที่พักผ่อนครั้งสุดท้ายเมื่อกลับบ้านมา  ครั้งนั้นเมย์รู้ว่าแม่เจ็บปวด และท้อแท้
แม่เอาแต่ร้องไห้ หมดหวัง ไม่กิน ไม่นอน และครวญคร่ำ...

เมย์รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวที่แม่ต้องพบกับความผิดหวัง แม่กลายเป็นคนละคน จากที่เข้มแข็งและอดทน
แม่กลายเป็นคนอ่อนแอและสิ้นหวัง เมื่อถูกผู้ชายทิ้ง ....

แต่เมย์ไม่เคยคิดว่าแม่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ...แม่เป็นสิ่งเดียวที่ยึดเหนี่ยวใจของเมย์ไว้ ...

......

เดือนต่อมา เมย์กำลังตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกับแม่   เมย์กำลังถูกทิ้ง บทละครชีวิตกำลังซ้ำรอยอีกแล้ว
เมย์กำลังเจ็บปวด ทุกอย่างพังทลาย เหมือนปราสาททราย ที่ก่อไว้ และพังลงเมื่อถูกมรสุมถาโถมเข้าใส่
ไม่มีประโยชน์อันใด ที่เมย์ต้องยืนสู้ตามลำพัง ทุกอย่างจบลงอย่างรันทด ไม่มีแม่ เมย์ก็ไม่รู้จะอยู่ทำไม

ตวามเจ็บปวดครั้งนี้เมย์ ทำให้เมย์เข้าใจความรู้สึกของแม่ครั้งนั้นได้ดี ว่าทำไมแม่จึงตัดสินใจทำเช่นนั้น

เงาวูบไหวอ่อนโยน กำลังโอบกอดเมย์ไว้  ชุดนอนสีขาว ชุดเก่งที่แม่ชอบใส่ ห่อหุ้มร่างกายเมย์ไว้อย่างอบอุ่น....

เสียงกระซิบแผ่วเบา  ส่งผ่านห้วงสำนึกครั้งสุดท้ายก่อนที่เปลือกตาของเมย์จะปิดลง   ....อดทนนะลูก เดี๋ยวเราก็ได้เจอกันแล้ว...


ไม่มีใครตายเพราะอกหัก.....แม่เคยบอกเมย์อย่างนั้น...


เพ็ญพิชญา


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่