[CR] แชร์บันทึกชีวิตของเด็กอินดี้ตัวกลม 2 เดือนในอินเดีย Ep.2 กับวิถีชีวิตการกินแบบชิคๆ (Indian eating style in Bangalore)

มาแล้วๆๆ สวัสดีค่ะทุกคน ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ
จากความเดิมของแชร์บันทึกชีวิตของเด็กอินดี้ตัวกลม 2 เดือนในอินเดีย (story indy in Bangalore India)
http://pantip.com/topic/35377030

และแล้ววิถีชีวิตการกินของเด็กอินดี้ตัวกลมแบบชิคๆก็เริ่มขึ้น ในสิ่งที่หลายคนห่วงและก็หวังกันไว้ว่าไขมันของเด็กตัวกลมคงจะหายไปหลังจากกลับจากอินเดีย เพราะที่อินเดียเป็นอาหารที่เน้นเครื่องเทศแบบจัดหนักจัดเต็ม และเอกลักษณ์การกินที่ไม่เหมือนใคร
จากการหาข้อมูลก่อนเดินทางก็ให้มีการเตรียมตัวเรื่องการกินเป็นอันดับแรก เพราะเราอาจจะปรับตัวเข้ากับอาหารเขายากนิดนึง ถึงขั้นมีเพื่อนซี้คนหนึ่งห่วงว่าไขมันที่สะสมมานานจะหายไป ก็ได้ซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาให้แบบยกลังพร้อมกับน้ำพริกรสเด็ดกันเลยทีเดียว
เฮ้ย++พวกยกลังมาขนาดนี้เอาใส่กระเป๋าก็เต็มพอดีของใช้อย่างอื่นไปหาเอาดาบหน้าซินะ ดี้ดี รู้สึกรักนาง แต่ก็เอาไปได้แค่ประมาณ 8 ซอง เกรงว่าเอาไปหมดผมน่าจะร่วงหมดหัวอ่ะนะ

ในระหว่างการเดินทางสู่ดินแดนภารตะ มีสาวงามของสายการบินมาถามว่าต้องการจะรับอาหารเป็นซูชิหน้ากุ้งหรืออาหารมังสังวิรัติของอินเดียดีค่ะ ห๊ะ!!! มังสวิรัติ สาวกบุพเฟ่เนื้อสัตว์อย่างเราจะไปเลือกอะไรได้ ก็ต้องเลือกอาหารมังสังวิรัติของอินเดียซิคะ ฮึ่ๆ จะไปอยู่ดินแดนเขาทั้งที่ลองดิ่จะซักแค่ไหน
Wow! น่าตาน่ากินแท้ จัดเต็มแหละ แต่พอข้าวพร้อมกับแกงถั่วเข้าปากปุ๊ป Ohh อินีนายจ๋า คอมันแข็งขึ้นมาทันใดเลย คือปฏิกิริยาตอบโต้ไวมากอ่ะ ร่างรับรู้ถึงการผิดปกติ 555 กลืนๆไปก่อน แล้วแอบหันไปมองคนอินเดีย เห้ย!! เขากินสลัดก่อนว่ะ สงสัยเรากินผิดสูตรเอาใหม่ สลัดมั้ง เมื่อลิ้นได้สัมผัสรสชาติเท่านั้นแหละ น้ำตาแทบไหลพรากออกมา พร้อมกับมองหน้าเพื่อนที่นั่งข้างๆ และก็ได้แต่อมยิ้มพร้อมคิดในใจว่า พลาดแหละตัวกลมเอ้ย!! จะคายออกมาก็เกรงใจ โคตรเปรี้ยวอ่ะ ง่วงๆนี่ตาค้างเลย ทำไงอ่ะทีนี้ เราคงต้องให้เวลาปรับตัวของลิ้นเราอ่ะนะ คำต่อไปมาแบบสั่นๆ สั่นไปสั่นมา เอ้า หมดแล้วหรือนี่ 555 มันปรับได้เร็วดีจริง

ทุกๆ เช้าอารมณ์มึนๆอึนๆ ก็ต้องมีการสั่งอาหารจากทางโรงแรมโดยเขาจะเอามาให้ถึงห้อง อ่านๆดูแล้วก็สั่งแบบทั่วไปง่ายๆ ขนมปังปิ้งกับไข่เจียว toast and omelet
Oop! ขนมปังของฉันมันไปผ่านมรสุมอะไรมาเนี่ย คนทำหลับรึป่าว หรือมันเป็นสไตล์ของเขา อืม?? แต่รสชาดมันก็คงไม่แตกต่างกันหรอกกินไปเถอะ

แต่!!!!ไม่เลย....ความคิดหล่นตุ๊บ ขนมปังแช่เนยและเอาไปวิ่งผ่านไฟมาแน่ๆ แต่ก็ยังดีไข่เจียวช่วยชีวิต มีผสมพริกกับเครื่องเทศนิดหน่อย ให้ผ่าน แต่บางวันก็มีเกลือตกใส่ไปในไข่เจียวเป็นกิโลก็มี แต่ก็เอาเหอะ คนทำอาจจะหลับใน เมนูยอดฮิตของเด็กตัวกลมในทุกเช้าคือ ไข่ต้ม กินจนคิดว่ากลับไทยคงจะฟักไข่ได้แหละ


เมนูเช้าๆในโรงแรมผ่านไป ออกไปดูข้างนอกดิ้เช้าๆ เขามีไรกินกัน นี่จ้าสภากาแฟ ชื่อ new udupi


มีอาหารเครื่องดื่มหลายแบบให้เลือก กาแฟขิง กาแฟนม แต่ว่าไม่มีกาแฟดำ เศร้าแป๊ป!! งั้นมาแล้วก็ลองชามะนาวแล้วกัน โห!! ซดทีนึงนี่เบาหวานขึ้นตาเลย ย้ำ!! ชามะนาวนะ ชาหรือกาแฟเขาจะใส่รวมๆมาในแก้วสแตนเลสแล้วเราต้องมาเทกลับไปกลับมาเอา เหมือนกับชาชักบ้านเรานี่แหละ แต่ทุกเมนูเป็นของร้อนทั้งหมด ถ้าชักช้านิ้วอาจจะพองได้ ชักไปชักมาก็ชักเลยไปแซว Barista ยิ้มดีนักถ่ายรูปซะ ฮึ่ๆ อาหารเช้าเขาจะเป็นแป้งแผ่นๆ คล้ายๆขนมถังแตกบ้านเรา ชื่อว่า Dosa แต่ว่า..ที่สั่งมาขอครั้งเดียวพอนะ เพราะจิ้มกับน้ำแกงถั่ว แนวไม่ได้จริงๆ ร้านนี้เปิดแต่เช้าแล้วก็ปิดดึกด้วย เมืองนี้เขาคงกินกาแฟทั้งวันทั้งคืน



มื้อเช้าหรอ?? ไม่เน้นจ้า กลมๆชิคๆ ต้องเน้นมื้อเย็น ปะๆ ก่อนเจเจ่จะหนีกลับไทยเราต้องไปจัดแนวอินเดี่ยนซะหน่อย เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง จากการสอบถามในระแวก CMR Road เราต้องไม่พลาดร้านเด็ดแบบอินเดี่ยนแท้ๆ ชื่อ A2B เป็นอาหารมังสวิรัติ ที่มีทั้งของคาวและของหวาน สาวกเนื้อสัตว์อย่างตัวกลม ต้องเปลี่ยนแนวมาเป็นเด็ก healthy งานรักสุขภาพก็ต้องมา งานมือ......ก็มาด้วยเช่นกัน  

เมื่อเข้าไปในร้านก็มีอาการอึ้งเล็กน้อย จากสภาพความวุ่นวานแบบอินเดี่ยนสไตล์ที่รู้ๆกัน กลิ่นที่ได้สัมผัสเนี่ยบอกเลย......คือแยกไม่ออกว่ามันกลิ่นอาหารหรือกลิ่นมนุษย์กันแน่ 55 แต่มาแล้วจะช้าอยู่ใย เดินไปด่อมๆมองๆ ไอ้ไรวะนะ กินไงแบบไหนชื่ออะไร โอ๊ย!!! ตึบ++ แต่มีเมนูในใจมาอย่างหนึ่งที่เขาบอกว่ามาแล้วห้ามพลาด มีนามว่า biryani (บิรยานิ) เป็นข้าวหมกเครื่องเทศกินกับซอสที่เปรี้ยวๆคล้ายโยเกิร์ต แล้วก็ไปดูเมนูอะไรก็ได้ที่จัดเป็นเซ็ตๆไว้ เอาไอ้นั้นแล้วกัน รวมๆมาลองก่อน เอาจริงๆคือเรียกชื่อมันไม่ถูก เมื่อจ่ายเงินเสร็จเอาบิลไปยื่นให้พนักงานเพื่อรอรับอาหาร ก็เห็นเขายิ้มๆเนอะ ยิ้มสยามอย่างเราก็ยิ้มไป แต่ก็มารู้ทีหลังว่าที่เขายิ้มน่ะ งงขำเราว่ะเฮ้ย!! ไอ้ที่สั่งเป็นเซ็ตๆไปน่ะมันเป็นอาหารเช้า แต่เราจัดเย็น เอ่อ??? แล้วใครจะไปรู้อ่ะ กินได้เหมือนกันจะเช้าหรือเย็นตัวกลมกินหมดแหละ อิอิ แล้วก็ได้เวลางานมือที่รอคอย มันต้องฟินมากแน่ๆ ครั้งนี้มีแอบมองก่อนลงมือปฏิบัติการจะได้ไม่พลาดอีก ออๆ เขามีจุดล้างมือให้ เจ๋ง!!ไปล้างมือแล้วพร้อมลุย อาหารที่เป็นเซ๊ตมาไม่ใช่ปัญหาผ่านฉลุย คล้ายๆ หยิบข้าวเหนียวจิ้มน้ำพริกแหละ ผ่านนนน

และขนมลูกกลมๆที่มีไส้ข้างในนั้นมีนามว่า Panipuri กินกับน้ำซอสที่มี 2 แบบหวานกับเปรี้ยว แต่บางร้านก็มีให้เลือกมากกว่านั้น เพื่อนที่เป็นคนอินเดียบอกว่าห้ามพลาด ตัวกลมมีรึจะช้า คนถิ่นบอกจะไม่จัดได้ไง Puri ก็มีหลายแบบนะ ที่ลองอีกอันนึงเป็นแบบรวมๆ ยำๆมาเลย รสชาดจะออกเปรี้ยวๆหวานๆ


มาๆเมนูข้าวที่พลาดไม่ได้เหมือนกัน เมื่อจีบนิ้วอันอวบเรียวไปที่ข้าวเม็ดเรียวที่ผสมไว้กับโยเกิร์ตขึ้นมาเท่านั้นแหละ ข้าวก็พอจะเข้าปากได้นะ แต่ไอ้น้ำที่อยู่กับข้าวเนี่ยดิ่ มาเต็มง่ามนิ้วเลยจ้าาาา งานขำก็มา งานมือก็ไม่ผ่านสงสัยจะไม่ใช่ทางอีกแหละ ยังดีนะที่ร้านเขายังมีทางเลือก มีช้อนไว้บริการ สงสัยจะมีแนวตัวกลมมาเยอะ คงไม่ใช่ของแปลกเนอะ


อาหารอินเดียใต้จะเป็นแนวรสชาดเข้มข้มก็ประมาณปักษ์ใต้บ้านเราแหละ แต่อาหารของเขาจะเน้นสุขภาพอยู่เหมือน อย่างเมนูนี้ ขอแนะนำชื่อว่า Idli sambar เป็นอาหารที่นิยมทานกันตอนเช้า แป้งรสชาดจะเปรี้ยวนิดๆ กินกับซอสสีเขียวๆ ที่ได้จากพริกผสมกับมะพร้าวชื่อว่า Chutney จัดว่าเด็ด เมนูนี้ จากวัสดุที่ห่อมาก็เด็ดแล้ว


อาหารสุขภาพก็ดีนะแต่เด็กตัวกลมมีความต้องการโปรตีนจากเนื้อสัตว์แล้วแหละ ได้เวลาสรรหาเมนูเนื้อสัตว์กันแล้ว ร้านนี้เลยใกล้ๆที่พักด้วย Olive Garden Restaurant อยู่ CMR Road เยื้องๆ Shoba center ร้านนี้มาแนวอาหารแบบปิ้งๆย่างๆ มีเนื้อแกะ ไก่ กุ้ง ปลา ที่มีเครื่องเทศสีจัดจ้าน จัดเต็ม แต่สีของเครื่องเทศก็ไม่น่ากลัวเท่ารอยดำรอยไหม้ของเครื่องเทศที่ติดมา จริงๆมันก็อร่อยนะ แต่พี่มะเร็งจะเข้ามายึดพื้นที่ลำไส้รึป่าวเนี่ยซิ น่ากลัว คนอินเดียเขามีความเชื่อว่ากินอาหารต้องกินของสุกๆเท่านั้น เพื่อสุขภาพที่ดีไม่กินของดิบ แต่บางทีความเชื่อก็น่ากลัวเหมือนกันเนอะ ฮึ่ๆ




ที่เห็นจัดจานใหญ่ๆปังๆมาเนี่ยแต่ราคาย่อมเยาว์มาก......ไม่น่าเชื่อ
ที่เด็ดอีกอย่างของร้านนี้คือน้ำผลไม้ เขาจะใช้ผลไม้สดมาปั่น ดูสีสันธรรมชาติจริงๆ ธรรมชาติลงโทษแต่รสชาดนี่ขึ้นสวรรค์กันเลยทีเดียว
*แต่บอกไว้นิดนึงคืออย่าหวังความเย็นฉ่ำถึงใจจากการดื่มน้ำของที่นี่ มันเป็นของราคาแพงและหาได้ยากพอสมควร


เมื่ออิ่มท้องจากของคาวเราก็ควรได้รับของหวานด้วยเช่นกัน เมนูของหวานในแผ่นดินไทยที่อาบังเอาไปเผยแพร่ อย่างโรตี ที่เรารู้จักกันดี ราดนมค้นหวานไปกระตุ้นต่อมเบาหวานแหละไขมันได้เป็นอย่างดี เราก็ควรที่จะมาพิสูจน์กันจากต้นตำหรับเลยดีกว่า สรรหาสถานีต่อไป เจอแล้วๆ ร้านขาย Rolls

แต่....เอ๊ะ!!!! รู้สึกถึงความเหมือนที่แตกต่าง ทำไมรายการขนมฉันมันมีไก่ มีเนื้อสัตว์ได้ไง ลองดิ่อย่าลีลา
OMG!!!! มันใหญ่แท้หว่าน่ะ มาเป็นรำๆ เอ้ย..แท่งๆ เต็มไม้เต็มมือเลยทีเดียว มันเป็นความคิดที่พลาดอย่างแรงอีกแล้วซินะ ตัวกลมเอ้ย??


Rolls หรือโรตีที่เรารู้จักกัน มีลีลาและสไลต์การทำเหมือนในเมืองไทยแต่ไส้ข้างในเนี่ยแหละ เมืองไทยเป็นของหวาน แต่เป็นของคาวของอินเดีย ใครนะใคร!!!! ช่างทำ!!! มันเป็นความเหมือนที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงจริงๆ เอ้า...ไหนๆก็ไหนๆแหละ ก็กินอาหารมื้อหลักไปแหละกัน Rolls มักจะเป็นอาหารมื้อกลางวันสำหรับเราอยู่บ่อยๆ โดยร้านประจำของเรา คือ New Kadai แต่แป้งจะมี 2 แบบคือ แบบทอดในเนยในน้ำมันแบบบ้านเรา กับแบบเอาแผ่นแป้งแปะติดในตุ่มเป็นแบบการเผา เรียกว่า tandoori roti จะกรอบๆ




แต่ก็มีอีกร้านนึงชื่อ Food Magic เด็ดอีกแล้วจ้า ร้านนี้มี shawarma แป้งสีขาวนิ่มๆมีนามว่า Naan ใส่ไส้ไก่กิวและก็มีน้ำผลไม้ที่ผสมกับนมปั่นด้วย พลังไขมันของตัวกลมคงไม่ต้องห่วงว่าจะสูบไปขนาดไหน


ร้านนี้มีกล้วยแขกหรือกล้วยทอดขายนะจ๊ะ กล้วยแขกของแท้ ต้องเป็นกล้วยหอมนะ เมืองไทยนี่กล้วยน้ำหว้า โดนหรอกอีกแล้ว


เฮ้ย!!!!!!!!! โดนสับขามาหลายรอบขอกลับไปตั้งหลักกับอาหารที่คุ้นเคยของเรากันดีกว่า 55555

อุตส่ามีความมานะขนข้ามน้ำข้ามทะเลกันมา จัดเต็ม เด็กเส้นไปมื้อนี้

ตามไปต่อกันข้างล่างนะ >>>>>