▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
ภาพถ่ายทิวทัศน์
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
เที่ยวต่างประเทศ
เที่ยวยุโรป
[CR] ไปเที่ยวสวิส อย่าคิดมาก (7)
ตอนที่ 2: Luzern - Zug – Kussnacht – Interlaken – Bern อ่านได้ที่นี่ http://pantip.com/topic/35323829
ตอนที่ 3: Schynige Platte – Lauterbrunnen - Murren – Wengen อ่านได้ที่นี่ http://pantip.com/topic/35332007
ตอนที่ 4: Grindelwald – First - Vevey – Montreux อ่านได้ที่นี่ http://pantip.com/topic/35338489
ตอนที่ 5: Zermatt – Sunnegga – St. Moritz อ่านได้ที่นี่ http://pantip.com/topic/35348778
ตอนที่ 6: Richterswil – St. Gallen – Rapperswil อ่านได้ที่นี่ http://pantip.com/topic/35360008
ไปเที่ยวสวิส อย่าคิดมาก ตอนสุดท้าย: Rhine Fall – Winterthur - Zurich
สองวันสุดท้ายของการเดินทาง (วันที่สิบและสิบเอ็ด) เป็นสองวันที่ไม่มี Swiss Pass ใช้แล้ว เพราะซื้อแบบ 8 วันติดกัน เดิมคิดว่าสองวันนี้จะซื้อ Zurich Card มาใช้ มีให้เลือกสองแบบคือ แบบ 24 ชั่วโมง ราคาคนละ 24 ฟรัง แบบ 72 ชั่วโมง ราคาคนละ 48 ฟรัง แต่ปัญหาของ Zurich Card ก็คือใช้เดินทางได้ในโซนใกล้ๆ City of Zurich แต่ Hostel ริมทะเลสาบที่ผมพัก มันออกไปไกลว่านั้น มีอีกทางเลือกหนึ่งก็คือต้องซื้อ ZVV Day Pass ซึ่งก็มีหลายแบบให้เลือก จะให้ครอบคลุมโซนไหน ถ้าโซนเดียวก็ราคาถูกถ้าหลายโซนก็แพงขึ้น และขึ้นอยู่กับว่าจะให้ใช้ได้นานแค่ไหนด้วย ถ้าเป็นแบบนับรวม 24 ชม. ก็ราคาหนึ่ง ถ้าเป็นแบบให้เริ่ม 9 โมงเช้าจนถึงเที่ยงคืนก็อีกราคาหนึ่ง (โอ้ย ปวดหัว ว่าจะไม่คิดมากแล้วเชียว)
สรุปว่า Day Pass ที่ผมเลือกใช้เพื่อให้ครอบคลุมถึง Hostel ที่พักก็คือต้องซื้อแบบ All Zone คือให้ครอบคลุมทุกโซนรอบเมืองซูริค แต่ไม่ซื้อแบบ 24 ชม. เอาแค่ 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืนก็พอ (เรียกว่าเป็น 9 O'Clock Day Pass ดูรูป Pass แบบนี้ได้ในช่องความคิดเห็นที่ 2) ราคาคนละ 26 ฟรัง (ต่อหนึ่งวัน) สามารถนั่งรถไฟไปถึงน้ำตกไรน์จุดหมายของการเที่ยววันนี้ได้ และเพื่อให้ไม่เสียเวลา ผมขอพาไปดูรูปน้ำตกกันเลยดีกว่าครับ
น้ำตกไรน์เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป มีความกว้าง 150 เมตร ความสูงของสายน้ำ (แม่น้ำ) ที่ตกลงมานั้นมองดูไม่สูงมากนัก แต่กระแสน้ำแรงเชียว
ปราสาทริมแม่น้ำไรน์ที่อยู่ใกล้ๆ บริเวณน้ำตก
บนปราสาท
มีร้านอาหารด้วย
สะพานรถไฟข้ามแม่น้ำไรน์
กังหันน้ำ
ออกจากน้ำตกไรน์นั่งรถไฟไปเมืองวินเทอร์ทูร์ (Winterthur) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น Switzerland’s City of Art หรือเมืองแห่งศิลปะของสวิสนั่นเอง เดินเที่ยวในเมืองและเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์แสดงงานศิลปะ
บรรยากาศหน้าสถานีรถไฟคึกคักดีและมีความเป็นอาร์ท
ถนนคนเดินในเมือง Winterthru
หลังจากนั้นก็มุ่งหน้าเข้าเมืองซูริค
รถรางพาหนะหลักสำหรับการสัญจรในเมืองซูริค
เหนื่อยนักนั่งพักหน้าสวนสาธารณะเล็กๆ
เด็กหิวน้ำ
น้ำพุทรงแปลกกลางลานกว้าง (Plaza)
มหาวิหารเฟรามึนสเตอร์ (Fraumunster)
จากสะพาน Quaibrucke มองเห็นมหาวิหารเฟรามึนสเตอร์ (ทางซ้ายมือ) และเห็นโบสถ์เซ็นต์ปีเตอร์ (St. Peters Kirche) (ทางขวามือ) นาฬิกาที่โบสถ์เซ็นต์ปีเตอร์เป็นนาฬิกาที่ได้ชื่อว่ามีหน้าปัดใหญ่ที่สุดในยุโรป
หอคอยคู่สุดอลังการของมหาวิหารโกรสส์มึนสเตอร์ (Grossmunster) ที่ได้กลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองซูริคไปแล้ว
สิ่งที่น่าสังเกตอย่างหนึ่งก็คือภายในโบสถ์ต่างๆ ที่กล่าวมานี้ อย่าได้คาดหวังว่าจะเห็นการตกแต่งภายในที่ยิ่งใหญ่อลังการแต่ประการใด เพราะข้างในค่อนข้างจะเรียบง่าย เนื่องจากได้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นโบส์ถของนิกายโปรเตสแตนท์ไปแล้วเมื่อครั้งที่มีการปฎิรูปศาสนามาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16
ความเรียบง่ายภาพภายในโบสถ์
ริมฝั่งแม่น้ำลิมมัตมีอาคารเก่าที่น่าสนใจหลายอาคาร เป็นสถานที่สำคัญอย่างเช่นศาลาว่าการของเมือง และแม้กระทั่งโรงแรมหรือสโมสรที่มีคนออกมานอนอาบแดดกันมากมาย
(ภาพนี้ห้ามขยายนะ)
วันสุดท้ายของการเดินทางใช้เวลาอยู่ในเมืองซูริคทั้งวัน เดินซื้อของฝาก เดินถ่ายรูปบางมุมที่เมื่อวันก่อนถ่ายย้อนแสงเพราะไปถึงที่นั่นในตอนเย็น วันนี้ก็เลยกลับมาถ่ายมุมเดิมใหม่แต่เป็นการถ่ายในช่วงเช้าแทน เดินไปเดินมารู้สึกว่าเวลาผ่านไปรวดเร็วมาก มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ต้องรีบกลับไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่ Hostel ก่อนที่จะไปสนามบินเพื่อขึ้นเครื่องกลับเมืองไทย ผมเกือบลืมบอกไปว่าสองวันสุดท้ายที่ซูริคนี้อากาศค่อนข้างร้อน และแดดจัดมาก คนละเรื่องกับแปดวันที่ผ่านมาโดยสิ้นเชิง
ขอปิดท้ายทริปนี้ด้วยภาพเมือง Richterswil ยามเช้า ยามค่ำคืน และร่ำลากันด้วยภาพชูมือกดไลค์ที่สถานีรถไฟ Richterswil
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านการรีวิวมาราทอนนี้ และสิ่งที่จะขาดไม่ได้ในทุกๆ ตอนก็คือข้อสรุปประจำตอนซึ่งในครั้งนี้อยากจะบอกแต่เพียงสั้นๆ ว่า "ถ้าคิดจะมาเที่ยวสวิส ไม่ต้องคิดมากเรื่องการเดินทาง ซื้อสวิสพาส (Swiss Pass) เถอะครับ คุ้มค่ามาก" อย่างในกรณีของผมถ้าซื้อแบบ 15 วันมาซะก็จบเรื่อง แม้จะใช้แค่เพียง 11 วันก็ตาม (ถ้าอยากรู้ว่าทำไมลองอ่านในความคิดเห็นที่ 1 ดูนะครับ) สำหรับท่านที่อยากรู้เรื่องค่าใช้จ่าย ดูได้จากในความคิดเห็นที่ 3 นะครับ