(ขออญุญาตแท็กวิทยาศาสตร์หน่อยนะคะ)
อยากหยุดค่ะ ตอนนี้ร่างกายและจิตใจได้เดินทางมาถึงจุดๆนึง ซึ่งมันกำลังรู้สึกว่างเปล่า ยืดเยื้อ เดิมๆ
และจากที่ได้ผ่านพ้นเรื่องราวต่างๆมา เราได้สัมผัสถึงความรู้สึกการมีชีวิตจนพอใจแล้ว เรามีความทุกข์ มีความสุข มีความรัก ดีใจ เสียใจ ผิดหวัง และสมหวัง
ซึ่งตอนนี้เริ่มพอเข้าใจแล้วค่ะว่า การที่ทุกคนยังคงดำรงชีวิตอยู่ นั่นก็เพราะ ยังมีความรู้สึก และยังมีความปรารถนา (น่าจะใช่)
ก็คือยังมีความรู้สึกผูกพันธ์ มีความรู้สึกรัก มีความรู้สึกเป็นห่วง อยากทำนู้น อยากทำนี่ อยากไปที่ต่างๆ หรืออาจมีหน้าที่ที่จำเป็นต้องทำ
ซึ่งเราก็มีเหมือนกัน แต่มันไม่มากพอ เราเลยกลายเป็นเฉยๆไป -..-
เราตัวคนเดียวค่ะไม่มีภาระ (คุณพ่อคุณแม่ไปอยู่ในที่ที่สบายแล้วค่ะ) เราไม่มีความรู้สึกผูกพันธ์ุกับใครเลย ไม่ใช่ไม่รู้จักใครนะคะ ก็เป็นคนปกติค่ะ มีเพื่อน มีญาติ มีพี่น้อง แต่เขาก็มีชีวิตของพวกเขา แต่ละคนก็มีเรื่องราวชีวิตของตัวเอง และเราก็ไม่ได้สนิทสนมมากนัก จึงไม่รู้สึกผูกพันธ์ อาจจะผูกพันธ์แต่ไม่มากพอ
ทุกวันนี้เราก็เหมือนใช้ชีวิตไปเฉยๆ ทำงาน กิน นอน เรื่อยเปลื่อยไปวันๆ เลยรู้สึกเบื่อค่ะ เลยตั้งคำถามว่าจะทำแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่? เหมือนรอคอยอะไรก็ไม่รู้ -.-
เราเคยหาแรงบัลดาลใจ คือตั้งเป้าหมายในชีวิต แต่เรากลับรู้สึกว่า ทำไมจะต้องดิ้นรนอะไรขนาดนั้น เท่านี้เราก็โอแล้วนะ ที่เป็นอยู่มันก็ไม่ได้แย่อะไร (กลายเป็ยแบบนี้ไปซะงั้น)
คาดว่าคงจะมีใครสักคนบอกให้เรามีแฟน สำหรับเราการมีแฟนมันไม่มีความหมายอะไรค่ะ เพราะเรามีความรักอยู่แล้ว เราจึงไม่ต้องการแฟน
ความรักของเรามันออกแนวเพ้อฝันอะไรทำนองนั้นค่ะ ซึ่งเรามีความสุขอิ่มเอมและมันดีต่อหัวใจที่สุด มันไม่ต้องคอยกังวลเรื่องใดๆ แค่ปล่อยให้หัวใจพองโตไปกับความรู้สึกรักนั้น แค่นี้ก็หลับฝันดีทุกคืนแล้วค่ะ เราเลยไม่ต้องการอะไรมาเพิ่มอีก
ชีวิตมันเหมือนกำลังเดินทางเป็นเส้นตรง ถ้าเปรียบเป็นเพลง ก็เหมือนเพลงที่ไม่มีจังหวะ ไม่มีทำนอง เอาแต่บรรเลงไปเรื่อยๆ ไม่รู้จะจบตอนไหน เราเลยอยากปิดมันค่ะ
เราไม่ได้หมายความว่าเราอยากตายนะคะ เราไม่เคยอยากตายค่ะ กลับกัน คือเราอยากเป็นอมตะ
ที่อยากหยุดน่ะหมายถึง เราอยากหยุดร่างกายและจิตใจไว้ ไม่ให้ถูกใช้งานไปตามกาลเวลาเฉยๆ มันคงจะไม่คุ้มแน่ กับเวลาที่เลยผ่านไปเพราะร่างกายมันคงเก่าลงเรื่อยๆและพัง
เราอยากแช่แข็งทุกอย่างเอาไว้ค่ะ ทั้งความรู้สึกและร่างกาย อยากรักษามันไว้เพื่อรอเวลาที่ได้ตื่นขึ้นมาใหม่ อาจจะซัก100ปี 1000ปี ข้างหน้า
คิดจริงๆนะคะ ไม่ได้คิดเล่น
แบบตื่นขึ้นมาแล้วอยู่ในโลกยุคอนาคตอะไรแบบนี้ค่ะ ^0^ คือเราคิดมาตลอดว่าอยากเห็นโลกอนาคตที่ล้ำหน้าทางเทคโนโลยี มีตั๋วบินไปเที่ยวดวงจันทร์ และซื้อของฝากจากดวงจันทร์ มีเมืองใต้น้ำมีเมืองลอยฟ้า มีอุปกรณ์เครื่องใช้ล้ำๆ มีเครื่องแยกมวลสาร วาปไปที่ไหนก็ได้ที่อยากไป (เคยเห็นในหนังค่ะ และรู้ว่าอนาคตต้องมีจริงแน่)
อยากไปเห็นอารยธรรมใหม่ๆนอกโลก เรามั่นใจและเชื่อเสมอว่ามันต้องมีจริงแน่นอน แค่ยังหาไม่เจอเท่านั้น เพราะเอกภพนี้มันใหญ่นัก เต็มไปด้วยปริศนา
เรามันก็แค่สิ่งมีชีวิตชนิดนึง อายุไขก็สั้นแสนสั้น แค่ส่งยานไปนอกโลกเพื่อสำหรวจดาวพลูโตแปปเดียว ยานเดินทางด้วยความเร็วในอวกาศสามารถนับเวลาเป็นชั่วโมงได้ แต่คนบนโลกกลับใช่เวลาเพื่อรอหลายปี รอจนแก่ - -*
เพ้อเจ้อไปอย่างนั้นแหละค่ะ ไม่ได้มีสารละลายอะไรเลยค่ะ มันเป็นความปราถนาอย่างนึงในชีวิตน่ะค่ะ เรื่องที่อยากจะมีชีวิตอยู่ไปจนถึงยุคอนาคต 1000ปีข้างหน้า เพื่อเห็นความเจริญก้าวหน้าต่างๆ
โอกาสเป็นไปได้คงน่าจะซัก 0.00000...1%ค่ะ ถึงน้อยนิดแต่ก็มีโอกาสอยู่นะ รีบไปศึกษาเรื่องแช่แข็งมนุษย์แปบค่ะ ^0^ มันเป็นไปได้แน่นอน เพราะนักวิทยาศาสตร์ก็กำลังคิดและเริ่มทดลองมานานแล้ว ขอให้ฝันเป็นจริงด้วยเถิด
ให้ความหวังหน่อยได้มั้ยคะ ใครที่อยากเป็นอมตะเหมือนกัน
กระทู้ไร้สาระค่ะ ผู้ใดมาหาความรู้ก็ปล่อยผ่านเลยค่ะ
อยากหยุดค่ะ ตอนนี้ร่างกายและจิตใจได้เดินทางมาถึงจุดๆนึง ซึ่งมันกำลังรู้สึกว่างเปล่า ยืดเยื้อ เดิมๆ
และจากที่ได้ผ่านพ้นเรื่องราวต่างๆมา เราได้สัมผัสถึงความรู้สึกการมีชีวิตจนพอใจแล้ว เรามีความทุกข์ มีความสุข มีความรัก ดีใจ เสียใจ ผิดหวัง และสมหวัง
ซึ่งตอนนี้เริ่มพอเข้าใจแล้วค่ะว่า การที่ทุกคนยังคงดำรงชีวิตอยู่ นั่นก็เพราะ ยังมีความรู้สึก และยังมีความปรารถนา (น่าจะใช่)
ก็คือยังมีความรู้สึกผูกพันธ์ มีความรู้สึกรัก มีความรู้สึกเป็นห่วง อยากทำนู้น อยากทำนี่ อยากไปที่ต่างๆ หรืออาจมีหน้าที่ที่จำเป็นต้องทำ
ซึ่งเราก็มีเหมือนกัน แต่มันไม่มากพอ เราเลยกลายเป็นเฉยๆไป -..-
เราตัวคนเดียวค่ะไม่มีภาระ (คุณพ่อคุณแม่ไปอยู่ในที่ที่สบายแล้วค่ะ) เราไม่มีความรู้สึกผูกพันธ์ุกับใครเลย ไม่ใช่ไม่รู้จักใครนะคะ ก็เป็นคนปกติค่ะ มีเพื่อน มีญาติ มีพี่น้อง แต่เขาก็มีชีวิตของพวกเขา แต่ละคนก็มีเรื่องราวชีวิตของตัวเอง และเราก็ไม่ได้สนิทสนมมากนัก จึงไม่รู้สึกผูกพันธ์ อาจจะผูกพันธ์แต่ไม่มากพอ
ทุกวันนี้เราก็เหมือนใช้ชีวิตไปเฉยๆ ทำงาน กิน นอน เรื่อยเปลื่อยไปวันๆ เลยรู้สึกเบื่อค่ะ เลยตั้งคำถามว่าจะทำแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่? เหมือนรอคอยอะไรก็ไม่รู้ -.-
เราเคยหาแรงบัลดาลใจ คือตั้งเป้าหมายในชีวิต แต่เรากลับรู้สึกว่า ทำไมจะต้องดิ้นรนอะไรขนาดนั้น เท่านี้เราก็โอแล้วนะ ที่เป็นอยู่มันก็ไม่ได้แย่อะไร (กลายเป็ยแบบนี้ไปซะงั้น)
คาดว่าคงจะมีใครสักคนบอกให้เรามีแฟน สำหรับเราการมีแฟนมันไม่มีความหมายอะไรค่ะ เพราะเรามีความรักอยู่แล้ว เราจึงไม่ต้องการแฟน
ความรักของเรามันออกแนวเพ้อฝันอะไรทำนองนั้นค่ะ ซึ่งเรามีความสุขอิ่มเอมและมันดีต่อหัวใจที่สุด มันไม่ต้องคอยกังวลเรื่องใดๆ แค่ปล่อยให้หัวใจพองโตไปกับความรู้สึกรักนั้น แค่นี้ก็หลับฝันดีทุกคืนแล้วค่ะ เราเลยไม่ต้องการอะไรมาเพิ่มอีก
ชีวิตมันเหมือนกำลังเดินทางเป็นเส้นตรง ถ้าเปรียบเป็นเพลง ก็เหมือนเพลงที่ไม่มีจังหวะ ไม่มีทำนอง เอาแต่บรรเลงไปเรื่อยๆ ไม่รู้จะจบตอนไหน เราเลยอยากปิดมันค่ะ
เราไม่ได้หมายความว่าเราอยากตายนะคะ เราไม่เคยอยากตายค่ะ กลับกัน คือเราอยากเป็นอมตะ
ที่อยากหยุดน่ะหมายถึง เราอยากหยุดร่างกายและจิตใจไว้ ไม่ให้ถูกใช้งานไปตามกาลเวลาเฉยๆ มันคงจะไม่คุ้มแน่ กับเวลาที่เลยผ่านไปเพราะร่างกายมันคงเก่าลงเรื่อยๆและพัง
เราอยากแช่แข็งทุกอย่างเอาไว้ค่ะ ทั้งความรู้สึกและร่างกาย อยากรักษามันไว้เพื่อรอเวลาที่ได้ตื่นขึ้นมาใหม่ อาจจะซัก100ปี 1000ปี ข้างหน้า
คิดจริงๆนะคะ ไม่ได้คิดเล่น
แบบตื่นขึ้นมาแล้วอยู่ในโลกยุคอนาคตอะไรแบบนี้ค่ะ ^0^ คือเราคิดมาตลอดว่าอยากเห็นโลกอนาคตที่ล้ำหน้าทางเทคโนโลยี มีตั๋วบินไปเที่ยวดวงจันทร์ และซื้อของฝากจากดวงจันทร์ มีเมืองใต้น้ำมีเมืองลอยฟ้า มีอุปกรณ์เครื่องใช้ล้ำๆ มีเครื่องแยกมวลสาร วาปไปที่ไหนก็ได้ที่อยากไป (เคยเห็นในหนังค่ะ และรู้ว่าอนาคตต้องมีจริงแน่)
อยากไปเห็นอารยธรรมใหม่ๆนอกโลก เรามั่นใจและเชื่อเสมอว่ามันต้องมีจริงแน่นอน แค่ยังหาไม่เจอเท่านั้น เพราะเอกภพนี้มันใหญ่นัก เต็มไปด้วยปริศนา
เรามันก็แค่สิ่งมีชีวิตชนิดนึง อายุไขก็สั้นแสนสั้น แค่ส่งยานไปนอกโลกเพื่อสำหรวจดาวพลูโตแปปเดียว ยานเดินทางด้วยความเร็วในอวกาศสามารถนับเวลาเป็นชั่วโมงได้ แต่คนบนโลกกลับใช่เวลาเพื่อรอหลายปี รอจนแก่ - -*
เพ้อเจ้อไปอย่างนั้นแหละค่ะ ไม่ได้มีสารละลายอะไรเลยค่ะ มันเป็นความปราถนาอย่างนึงในชีวิตน่ะค่ะ เรื่องที่อยากจะมีชีวิตอยู่ไปจนถึงยุคอนาคต 1000ปีข้างหน้า เพื่อเห็นความเจริญก้าวหน้าต่างๆ
โอกาสเป็นไปได้คงน่าจะซัก 0.00000...1%ค่ะ ถึงน้อยนิดแต่ก็มีโอกาสอยู่นะ รีบไปศึกษาเรื่องแช่แข็งมนุษย์แปบค่ะ ^0^ มันเป็นไปได้แน่นอน เพราะนักวิทยาศาสตร์ก็กำลังคิดและเริ่มทดลองมานานแล้ว ขอให้ฝันเป็นจริงด้วยเถิด
ให้ความหวังหน่อยได้มั้ยคะ ใครที่อยากเป็นอมตะเหมือนกัน