หากใครที่อยู่ต่างจังหวัดก็จะรู้ว่าการจะเข้าไปทำวีซ่าในเมืองหลวงทีนี่ยุ่งยากขนาดไหนน กว่าจะจองตั๋วเดินทาง หลงกรุง เสียทั้งเงินค่าเดินทางค่าวีซ่า ไม่ใช่น้อยๆ
ก่อนอื่นเราก็ศึกษาข้อมูลจากในเน็ต ซึ่งส่วนมากก็พันทิปเนี่ยเเหละค่ะ มีการพูดถึงการขอผ่านตัวเเทนที่เชียงใหม่บ้างเเต่ข้อมูลนานมากกกก ไม่อัพเดทเลย เราเลยตั้งใจว่าหากเราทำเสร็จก็จะมาลองเเชร์ประสบการณ์ดู เผื่อใครที่ไม่รู้จะได้รู้
ก่อนอื่นเลย เราเดินทางกันเป็นครอบครัวค่ะ มีเด็กเก้าขวบไปด้วย ขอวีซ่าท่องเที่ยวหกเดือน อ่านในเน็ตมาว่าวีซ่าอังกฤษใช้เวลานานมากกกก ต้องขอเผื่อ ไอ้เราก็ทำใจไว้ละ เพราะหากจะต้องจ่ายเเบบเร็วเพิ่มอีกคนละตั้งเกือบหกพัน ก็คงไม่ไหวเเน่ๆ คือเราตัดสินใจฉุกละหุกมาก ตอนเเรกว่าจะไปนิวซีเเลนด์เเต่เพราะช่วงนี้เป็นหน้าหนาวกลัวเเม่จะทนไม่ไหมก็เลย เปลี่ยนที่ โทรไปถามเอเจนซี่หลายที่ เขาก็บอกว่าให้ทำวีซ่ากับเขาได้เลย(เเอบเเพงนะ ตั้งหลายพันเเน่ะ) เเต่เราคิดว่าเราเดินทางกันเป็นครอบครัวก็น่าจะไม่ยาก(มั้งคะ คิดไปเอง 5555 ) เพราะเคยไปขอที่เมกามาก็ได้มา 10 ปี เลยตัดสินใจวันนี้ ก็เข้าไปกรอกข้อมูลในเว็บ
https://www.visa4uk.fco.gov.uk/home/welcome เลย ทันทีทันใด เเต่ก็ยังไม่ได้กดส่งนะคะ ก็เซฟไว้เผื่อเเก้อะไร ส่งในวันถัดมา สำรับคนที่ไม่รู้จะกรอกยังไง เขาจะมีภาษาไทยกำกับอยู่ข้างๆ ไม่ก็มีกระทู้ที่เขารีวิวไว้ค่ะ เเต่เราเข้าไปอ่านผ่านๆนะ พวกนี้ยิ่งอ่านยิ่งกดดัน 5555 เลยทำเอง กรอกตามเป็นจริง พอกรอกเสร็จเเล้วเราก็ยังไม่กล้ากดส่งเพราะไม่มั่นใจว่ามีที่เชียงใหม่จริงๆ หาข้อมูลที่ไหนไม่มีเลย เเละเเม้ในhttps://www.vfsglobal.co.uk/thailand/applicationcentre.html นี้จะมี เเต่ก็ไม่รู้เชื่อได้ไหม อัพเดทหรือเปล่า เเต่ก็เห็นว่าในเเผนที่มีห้างเมญ่า ซึ่งเป็นห้างที่สร้างมาไม่นาน ก็เลยคาดเอาว่าคงอัพเดทเเหละ เลยกดส่งไป (ขั้นตอนตรงนี้ขอข้ามเลย เพราะมีคนรีวิวไว้ระเอียดมากอยู่เเล้วค่ะ)
ตอนเรากดส่งเเล้ว นัดที่ส่งเอกสาร ก็มีให้เลือกเชียงใหม่มาจริงๆ เเต่ต้องจ่ายเพิ่มอีก 86เหรียญ ซึ่งก็โอเค ดีกว่าต้องพากันเดินทางไปกรุงเทพฯ เเต่ไอ้เราก็ยังไม่มั่นใจ กดส่งวันนี้ นัดส่งเอกสารวันมะรืนเลย เหลือเวลาอีก 1 วันสำหรับเตรียมเอกสาร ซึ่งเอกสารที่เราเตรียมก็มี
1. หนังสือรับรองห้างฯ เพราะเเม่เราทำธุรกิจ
2. จดหมายเเนะนำเเผนการเที่ยวคร่าวๆ เเบบคร่าวมากจริงๆ เเล้วก็บอกประมาณว่าช่วงนี้ลูกปิดเทอมเลยอยากพาไปหาประสบการณ์ อะไรก็ว่าไป เเล้วก็จะเป็นสปอนเซอร์ให้ลูกเอง เขียนลงไปว่าลูกมีใครบ้างที่จะเดินทางไป
3.สเตทเม้นธนาคาร เราเอาบัญชีเดียวค่ะ ที่มีเงินเยอะๆหน่อย เเล้วให้ธนาคารออกหนังสือรับรองว่าออกเพื่อเป็นสปอนเซอร์ใครบ้าง เอามาเลยคนละใบ ใบละ 100 เตรียมไว้ดีกว่า หากวีซ่าไม่ผ่านมาเสียเยอะกว่านั้นอีก
4.Application form ที่ปริ๊นมา
5.โรงเเรมที่จองไว้ เรากดจองไปลวกๆใน Agoda เเล้วค่อยไปยกเลิกเอาทีหลังค่ะ (เเบบยกเลิกไม่เสียเงินนะ)
เเค่นี้เเหละสำหรับเอกสารเเม่เรา
สำหรับเรา ก็มี (Application form สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน นี้ต้องมีทุกคนอยู่เเล้ว ขอไม่พูดถึงนะคะ)
1.ใบรับรองการทำงาน ซึ่งออกจากบริษัทเเม่เรา ระบุเงินเดือน วันเริ่มทำงาน
2. เราสอบใบประกอบวิชาชีพ ทนายอยู่ ก็ส่งใบคะเเนนประกอบไปด้วย 555 เผื่อไว้เฉยๆ เพราะเอกสารน้อยเกิ๊น
3. ใบรับรองจากธนาคาร
น้องเรา กำลังจะเริ่มเรียนปีนี้ (เอกสรยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่ เพราะไม่มีหลักฐานไรเลย วีซ่าตอนไปเมกาก็ไม่มีเพราะไม่ได้ไปด้วย เลยเเอบกลัวว่าจะไม่ผ่าน)
1. ใบรับรองจากธนาคารอย่างเดียวเลย นอกจากเอกสารที่บังคับอยู่เเล้ว
น้องคนสุดท้อง (เรียนอยู่ เเต่ช่วงนี้ปิดเทอม)
1. รูปถ่ายในโรงเรียน ซึ่งเขาโทรมาบอกทีหลังว่าใช้ยืนยันไม่ได้
2. ใบเกิด
เรายื่นวันศุกร์ วันจันทร์เขาก็โทรมาขอเอกสารเพิ่ม มี
1.หนังสือรับรองการเป็นนักเรียน (ปิดเทอมอยู่ เลยลำบากนิดหนึ่ง) เเต่หากหาไม่ได้จริงๆก็ให้ทำหนังสืออธิบายไป
2.สูติบัตร ฉบับเเปล เราก็หาฟอร์มจากในเน็ตเเล้วเเปลเอง เซ็นรับรองข้างล่างว่าเเปลโดย.....
3.Consent letter เพราะพ่อไม่ได้ไปด้วย
เเล้วส่งเพิ่มไปทางอีเมล์ที่เขาให้มา ตอนเขาโทรมาก็เเอบถามว่าเอกสารคนอื่นมีปัญหาไหม เขาก็ตอบว่าไม่มี พิจารณาผ่านเเล้ว ขาดเเต่ของน้อง ไอ้เราก็โล่งเลย เพราะ ตัวเองเตรียมเอกสารไปน้อยมากกก จนคิดเผื่อไว้เเล้วว่าถ้าไม่เผื่อจะไปไหนดี 5555
เช้าอีกวันก็ได้รับอีเมล์ว่า วีซ่าพิจารณาเสร็จเเล้ว ให้ไปพาสปอร์ตได้ในอีกสองวันถัดไป ไวมากกกก ดีนะตอนนั้นไม่สมัครเเบบพิจารณา 3-5 วันไป เพราะต้องเสียเพิ่มอีกคนละเกือบหกพัน เพราะนี่เเบบปกติ ตอนเเรกเขาก็เเจ้งว่าใช้เวลา 15 วันทำการ ไอ้เราก็คิดละว่าคงนานเเน่ ไม่ทันชัวร์ ปรากฎว่าไวเหลือเชื่อ ไม่รู้เพราะช่วงนี้คนน้อย หรือ เพราะปัญหาภายในคนเลยไม่ค่อยไปหรือยังไงไม่ทราบ เเล้วVFS ที่เชียงใหม่ วันที่เราไป มีคนจองคิวไว้เเค่ 6-7 คนเอง รวมพวกเราเเล้ว ส่วนมากจะมาขอไปออสเตรเลียเยอะมาก(ที่เดียวกัน)
ก็เเค่นี้เเหละค่ะ ประสบการณ์ของเรา นไวเหลือเชื่อจริงๆ ที่อ่านๆมา หากไม่ได้จ่ายเพิ่มคนได้ไวสุดก็ประมาณ 7 วัน บางคนเกือบยี่สิบวันก็มี
ถือว่าโชคดีไปค่ะ 55555 หากใครอยู่เเถบภาคเหนืออยากขอวีซ่าไป UK เเต่ไม่อยากไป กทม เชียงใหม่ก็เป็นอีกทางเลือกนึงนะคะ เพราะก็ต้องส่งเข้าสถานฑูตเหมือนกัน ไม่ได้ช้าไปกว่ากันเลย จบรีวิวค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนจบค่ะ เราพิมพิ์ผิดบ่อย พิมพ์เเล้วไม่อ่านซ้ำด้วย หากผิดพลาดตรงไหน ขออภัยไว้ก่อนเลยค่ะ
[CR] ขอเเชร์ประสบการณ์ทำวีซ่า UK ที่เชียงใหม่ค่ะ
ก่อนอื่นเราก็ศึกษาข้อมูลจากในเน็ต ซึ่งส่วนมากก็พันทิปเนี่ยเเหละค่ะ มีการพูดถึงการขอผ่านตัวเเทนที่เชียงใหม่บ้างเเต่ข้อมูลนานมากกกก ไม่อัพเดทเลย เราเลยตั้งใจว่าหากเราทำเสร็จก็จะมาลองเเชร์ประสบการณ์ดู เผื่อใครที่ไม่รู้จะได้รู้
ก่อนอื่นเลย เราเดินทางกันเป็นครอบครัวค่ะ มีเด็กเก้าขวบไปด้วย ขอวีซ่าท่องเที่ยวหกเดือน อ่านในเน็ตมาว่าวีซ่าอังกฤษใช้เวลานานมากกกก ต้องขอเผื่อ ไอ้เราก็ทำใจไว้ละ เพราะหากจะต้องจ่ายเเบบเร็วเพิ่มอีกคนละตั้งเกือบหกพัน ก็คงไม่ไหวเเน่ๆ คือเราตัดสินใจฉุกละหุกมาก ตอนเเรกว่าจะไปนิวซีเเลนด์เเต่เพราะช่วงนี้เป็นหน้าหนาวกลัวเเม่จะทนไม่ไหมก็เลย เปลี่ยนที่ โทรไปถามเอเจนซี่หลายที่ เขาก็บอกว่าให้ทำวีซ่ากับเขาได้เลย(เเอบเเพงนะ ตั้งหลายพันเเน่ะ) เเต่เราคิดว่าเราเดินทางกันเป็นครอบครัวก็น่าจะไม่ยาก(มั้งคะ คิดไปเอง 5555 ) เพราะเคยไปขอที่เมกามาก็ได้มา 10 ปี เลยตัดสินใจวันนี้ ก็เข้าไปกรอกข้อมูลในเว็บ https://www.visa4uk.fco.gov.uk/home/welcome เลย ทันทีทันใด เเต่ก็ยังไม่ได้กดส่งนะคะ ก็เซฟไว้เผื่อเเก้อะไร ส่งในวันถัดมา สำรับคนที่ไม่รู้จะกรอกยังไง เขาจะมีภาษาไทยกำกับอยู่ข้างๆ ไม่ก็มีกระทู้ที่เขารีวิวไว้ค่ะ เเต่เราเข้าไปอ่านผ่านๆนะ พวกนี้ยิ่งอ่านยิ่งกดดัน 5555 เลยทำเอง กรอกตามเป็นจริง พอกรอกเสร็จเเล้วเราก็ยังไม่กล้ากดส่งเพราะไม่มั่นใจว่ามีที่เชียงใหม่จริงๆ หาข้อมูลที่ไหนไม่มีเลย เเละเเม้ในhttps://www.vfsglobal.co.uk/thailand/applicationcentre.html นี้จะมี เเต่ก็ไม่รู้เชื่อได้ไหม อัพเดทหรือเปล่า เเต่ก็เห็นว่าในเเผนที่มีห้างเมญ่า ซึ่งเป็นห้างที่สร้างมาไม่นาน ก็เลยคาดเอาว่าคงอัพเดทเเหละ เลยกดส่งไป (ขั้นตอนตรงนี้ขอข้ามเลย เพราะมีคนรีวิวไว้ระเอียดมากอยู่เเล้วค่ะ)
ตอนเรากดส่งเเล้ว นัดที่ส่งเอกสาร ก็มีให้เลือกเชียงใหม่มาจริงๆ เเต่ต้องจ่ายเพิ่มอีก 86เหรียญ ซึ่งก็โอเค ดีกว่าต้องพากันเดินทางไปกรุงเทพฯ เเต่ไอ้เราก็ยังไม่มั่นใจ กดส่งวันนี้ นัดส่งเอกสารวันมะรืนเลย เหลือเวลาอีก 1 วันสำหรับเตรียมเอกสาร ซึ่งเอกสารที่เราเตรียมก็มี
1. หนังสือรับรองห้างฯ เพราะเเม่เราทำธุรกิจ
2. จดหมายเเนะนำเเผนการเที่ยวคร่าวๆ เเบบคร่าวมากจริงๆ เเล้วก็บอกประมาณว่าช่วงนี้ลูกปิดเทอมเลยอยากพาไปหาประสบการณ์ อะไรก็ว่าไป เเล้วก็จะเป็นสปอนเซอร์ให้ลูกเอง เขียนลงไปว่าลูกมีใครบ้างที่จะเดินทางไป
3.สเตทเม้นธนาคาร เราเอาบัญชีเดียวค่ะ ที่มีเงินเยอะๆหน่อย เเล้วให้ธนาคารออกหนังสือรับรองว่าออกเพื่อเป็นสปอนเซอร์ใครบ้าง เอามาเลยคนละใบ ใบละ 100 เตรียมไว้ดีกว่า หากวีซ่าไม่ผ่านมาเสียเยอะกว่านั้นอีก
4.Application form ที่ปริ๊นมา
5.โรงเเรมที่จองไว้ เรากดจองไปลวกๆใน Agoda เเล้วค่อยไปยกเลิกเอาทีหลังค่ะ (เเบบยกเลิกไม่เสียเงินนะ)
เเค่นี้เเหละสำหรับเอกสารเเม่เรา
สำหรับเรา ก็มี (Application form สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน นี้ต้องมีทุกคนอยู่เเล้ว ขอไม่พูดถึงนะคะ)
1.ใบรับรองการทำงาน ซึ่งออกจากบริษัทเเม่เรา ระบุเงินเดือน วันเริ่มทำงาน
2. เราสอบใบประกอบวิชาชีพ ทนายอยู่ ก็ส่งใบคะเเนนประกอบไปด้วย 555 เผื่อไว้เฉยๆ เพราะเอกสารน้อยเกิ๊น
3. ใบรับรองจากธนาคาร
น้องเรา กำลังจะเริ่มเรียนปีนี้ (เอกสรยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่ เพราะไม่มีหลักฐานไรเลย วีซ่าตอนไปเมกาก็ไม่มีเพราะไม่ได้ไปด้วย เลยเเอบกลัวว่าจะไม่ผ่าน)
1. ใบรับรองจากธนาคารอย่างเดียวเลย นอกจากเอกสารที่บังคับอยู่เเล้ว
น้องคนสุดท้อง (เรียนอยู่ เเต่ช่วงนี้ปิดเทอม)
1. รูปถ่ายในโรงเรียน ซึ่งเขาโทรมาบอกทีหลังว่าใช้ยืนยันไม่ได้
2. ใบเกิด
เรายื่นวันศุกร์ วันจันทร์เขาก็โทรมาขอเอกสารเพิ่ม มี
1.หนังสือรับรองการเป็นนักเรียน (ปิดเทอมอยู่ เลยลำบากนิดหนึ่ง) เเต่หากหาไม่ได้จริงๆก็ให้ทำหนังสืออธิบายไป
2.สูติบัตร ฉบับเเปล เราก็หาฟอร์มจากในเน็ตเเล้วเเปลเอง เซ็นรับรองข้างล่างว่าเเปลโดย.....
3.Consent letter เพราะพ่อไม่ได้ไปด้วย
เเล้วส่งเพิ่มไปทางอีเมล์ที่เขาให้มา ตอนเขาโทรมาก็เเอบถามว่าเอกสารคนอื่นมีปัญหาไหม เขาก็ตอบว่าไม่มี พิจารณาผ่านเเล้ว ขาดเเต่ของน้อง ไอ้เราก็โล่งเลย เพราะ ตัวเองเตรียมเอกสารไปน้อยมากกก จนคิดเผื่อไว้เเล้วว่าถ้าไม่เผื่อจะไปไหนดี 5555
เช้าอีกวันก็ได้รับอีเมล์ว่า วีซ่าพิจารณาเสร็จเเล้ว ให้ไปพาสปอร์ตได้ในอีกสองวันถัดไป ไวมากกกก ดีนะตอนนั้นไม่สมัครเเบบพิจารณา 3-5 วันไป เพราะต้องเสียเพิ่มอีกคนละเกือบหกพัน เพราะนี่เเบบปกติ ตอนเเรกเขาก็เเจ้งว่าใช้เวลา 15 วันทำการ ไอ้เราก็คิดละว่าคงนานเเน่ ไม่ทันชัวร์ ปรากฎว่าไวเหลือเชื่อ ไม่รู้เพราะช่วงนี้คนน้อย หรือ เพราะปัญหาภายในคนเลยไม่ค่อยไปหรือยังไงไม่ทราบ เเล้วVFS ที่เชียงใหม่ วันที่เราไป มีคนจองคิวไว้เเค่ 6-7 คนเอง รวมพวกเราเเล้ว ส่วนมากจะมาขอไปออสเตรเลียเยอะมาก(ที่เดียวกัน)
ก็เเค่นี้เเหละค่ะ ประสบการณ์ของเรา นไวเหลือเชื่อจริงๆ ที่อ่านๆมา หากไม่ได้จ่ายเพิ่มคนได้ไวสุดก็ประมาณ 7 วัน บางคนเกือบยี่สิบวันก็มี
ถือว่าโชคดีไปค่ะ 55555 หากใครอยู่เเถบภาคเหนืออยากขอวีซ่าไป UK เเต่ไม่อยากไป กทม เชียงใหม่ก็เป็นอีกทางเลือกนึงนะคะ เพราะก็ต้องส่งเข้าสถานฑูตเหมือนกัน ไม่ได้ช้าไปกว่ากันเลย จบรีวิวค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนจบค่ะ เราพิมพิ์ผิดบ่อย พิมพ์เเล้วไม่อ่านซ้ำด้วย หากผิดพลาดตรงไหน ขออภัยไว้ก่อนเลยค่ะ