ต่อๆๆ ตอนที 04 : ในที่สุดก็ลืมตามาโผล่ที่นี่ ฮอยอัน ไอเยิฟลู เอ้ย ไอเลิฟยู ลงรถมาด้วยความสะลึม สะลือ หาไรกินก่อนน่ะ กะจะอาศัย ไวฟายฟรีด้วย หาโฮสเทลนอนคืนนี้ก่อน และแล้วเราก็มาเจอที่นี่ DK's House หรือ Hoi an backpacker Hostel คือมันดีมากอ่ะ ราคาไม่แพง รวมอาหารเช้า จักยานฟรีด้วย ฟรี Happy hour ด้วย อันนี้เราชอบสุดๆอ่ะ 555 เพื่อนใหม่เพียบ ฝารั่งทั้งนั้น อร๊ายย ใครชอบสายนี้ แนะนำเลย ได้เพื่อนเพียบๆๆๆ เย็นๆเค้าจะมานั่งรวมตัวคุยกัน โน่ นี่ นั่น สนุกดี ไอ้เราก็อาศัยเรียนภาษาไปด้วยเลย ฮิฮิ ทุกคนเฟลนลี่มากๆ

จากนั้นเราก็ยืมจักยานเค้าปั่นไปรอบๆ ปั่นจนน่องโตอ่ะ 555 การปั่นจักยานที่นี่เป็นอะไรที่สนุกมาก ตื่นเต้น และท้าทายดี และแล้วก็ไปโผล่ที่สะพานญี่ปุ่น (Japanese Covered Bridge) ต้องซื้อตั๋วก่อนเข้าไปดูน่ะจ๊ะ ส่วนใครที่ไม่อยากเสียตังค์ ก็ยืนถ่ายรูปข้างนอกเฉยๆก็ได้ คือคนยืนบนสะพานเยอะมากชั้นกลัวมันจะหัก เลยไม่อยากเป็นผู้ร่วมก็การร้าย ทำลายมรดกโลก เหอะๆ

ปั่นต่อดีกว่า เลือดนั่งปั่นทีมชาติเข้าสิง

ฮอยอันที่นี่ติดกับทะเลน่ะเทอ เราเพื่งรู้ มาที่เดียวเที่ยวได้สองอารมณ์ ปั่นไปปั่นมาก็หลงมาเจอพิพิธภัทฑ์หม้อ ใช่ฟังถูกแล้ว หม้อจริงๆ ที่นี่น่าจะเหมาะกะผู้ชายน่ะ 55 มีกัดนิดๆ ที่นี่เค้าจะรวบรวมศิลปะ เครื่องปั้นดินเผา ของศิลปินทั่วเวียดนาม และจากที่อื่นๆ ใครที่ออกแนวอาร์ตก็แวะมาได้เลย ค่าเข้าไม่แพง

เส้นทางปั่นกลับก็มาเจอเหมือนวัด แต่สงสัยคงจะร้างล่ะมั้ง แต่ดูขลังดีเลยเก็บมาสักชอต

จากนั้นก็เริ่มเย็นกลับมาอาบน้ำที่โฮสเทล แล้วเราก็ไม่พลาด Happy Hour >< ! หลังจากนั้นก็ได้เพื่อนใหม่ พากันหาไรกินแล้วก็เดินเล่นกันต่อ ช่วยอาหาร ตอนกลางคืนที่นี่น่ารักมาก ของฝาก ของขายเยอะแยะไปหมด คนเยอะมากนึกว่ามีงานประจำปี แสง สี เสียงมาเต็ม 555 เราถ่ายรูปไม่เยอะน่ะ ขี้เกียจแย่งกะมนุษย์ ป้าๆๆๆ 55

เดินไปเดินมา เดินมาแล้วก็เดินไป ก็กลับมามาเป็นลำยองเหอะๆ เพื่อนๆที่โฮสเทล ยกฝูงพากันไปดื่ม อีกแล้วจร้าาาเข้าทางอีนี่เลย แต่ก็รู้ตัวน่ะว่าห้ามเมา ไม่ใช่ว่ากลัวอะไรไม่ดีไม่ร้ายจะเกิดขึ้นกะตัวเองน่ะ กลัวมันจะเกิดขึ้นกับคนอื่นมากกว่า (กลัวไม่มีใครพากลับต่างหาก) หลังจากที่ดื่มกันอย่างเมามันส์ฉันก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าตอนนี้มันก็ดึกมากแล้ว ไม่กี่ชั่วโมงก็เช้า อร๊ายยยอีกแล้วหรอชั้น วิ่งจร้า วิ่งงง กลับสิ รอไร ต้องเก็บกระเป๋า เตรียมตัวเพราะรถมารับ 7 โมงจร้า ท่าเป็นเวลาทำงานไม่ตื่นเร็วขนาดนนี้น่ะค่ะจะบอกให้ จำได้ว่าทิ้งตัวลงที่นอนไม่กี่ชั่วโมง ต้องดึงร่างและวิญญาณตัวเองลุกไปอาบน้ำ แต่งตัวแบกกระเป๋ากระโดดขึ้นรถอีกล่ะ และแล้วเราก็นอนตายอย่างสงบ...บนเส้นทางต่อไป
ตอนที่ 05 : จุดหมายปลายทางต่อมา Hue (เว้) นั่นเอง และแล้วเราก็พักโฮสเทลเดิม เค้ามีสาขาที่นี่ด้วย ดี๊ดีอ่ะ แต่เดินหาอยู่นาน ฮ่าฮ่า ได้โดมรวมมา ในรารคา 7 ดอลล่า มัดจำกุญแจด้วยน่ะ ลืมบอก ข้างล่างเป็นบาร์ด้วยน่ะเทอ เอาอีกละ เริ่มอีกล่ะ 0_o

บรรยากาศคล้ายๆถนนข้าวสารเราดีดีนี่เอง วันนี้ไม่ดื่มน่ะจ๊ะพูดเลย อาการยังทรงตัวอยู่ ไม่อยากทำร้ายตัวเองมากไปกว่านี้และ แฮ่ๆ
กะว่าวันต่อมาจะหาอะไรทำสักหน่อย...และแล้ววันต่อมาก็ได้มอไซต์พาเที่ยว กะว่าจะซื้อทัวร์จาดโฮสเทลเลย แต่ก็แงเกินไป จ้างข้างนอกที่จริงวันเดย์ทริปก็แพงอยู่ แต่ก็พอตกลงกันได้ไม่แน่ใจว่านางเรียกเอา 350,000.- VND แต่เราบอกไปว่า เรามี 200,000.-VND แค่นี้จะพาฉันไปไหนได้บ้าง?! นางก็โอเค นางก็พาไปได้หลายที่ดูหมือนกัน เราก็พอใจกะราคานี้ และแล้วก็กระโดดซ้อนท้าย ไปเลยจร้าาาา จะบอกว่าที่เว้ สถานที่โบราณเยอะมาก เหมาะกับคนโบราณ เอ้ย ไม่ใช่ เหมาะกับคนที่ชอบเรื่องประวัติศาสตร์ สถานที่ที่มีเรื่องเล่า ใครที่อินกับเรื่องอะไรประมาณนี้จริงๆ คงจะมีความสุขน่าดู ส่วนเราไม่ค่อยอินกะเรื่องอย่างงี้สักเท่าไร แต่ไหนๆก็มาเยือนถึงถิ่นก็ต้องมาชมให้เห็นกะตาสักหน่อย จะได้คุยกะเค้าได้ว่าชั้นก็เคยมาแล้ว อิอิ ที่นี่ไม่รู้ว่าเค้าเรียกว่าอะไม่รู้อ่ะ

ต่อมาเป็นเจดีย์ สูง 7 ชั้น เรียกว่า วัดเทียนหมุ (Thien Mu) คนก็ไปเยี่ยมชมกันเยอะ

ต่อมา สุสานจักรพรรดิตือดึ๊ก (Tomb of Tu Duc) ซื้อตั๋วก่อนเข้าชมน่ะจ๊ะ ตอนแรกคิดว่าจะฟรี อิอิ

และแล้วก็มาจบลงที่นี่ ที่นี่คงถือว่าเป็นไฮไลท์ ค่าเข้าก็ค่อนข้างแพงด้วยยืนคิดอยู่นานจะเข้าดี ไม่เข้าดี และแล้วก็เข้าจ้าาา เอาว่ะมาถึงนี่ล่ะ มาให้เห็นเป็นบุญตาเถอะน่า ไม่รู้ชีวิตนี้จะได้กลับมาอีกรึป่าว ลุยยยย ส่วนไอ้มอไซต์ที่เราจ้างมานางก็บอกว่าถ้าเธอจะเข้าไปข้างในฉันไม่รอน่ะ คงใช้เวลาเดินนาน เธอเดินกลับโฮสเทลเองล่ะกัน ไม่ไกลหรอก ไอ้เราก็คิดในใจ เวร กำล่ะทิ้งตรูง่ายๆเลยหรือเนี่ย แต่ก็เข้าใจนางอยู่ต้องไปทำมาหากินต่อ จะให้มานั่งเฝ้าเราทั้งวันก็ไม่พอกินพอดี ก็ได้ๆ เดินกลับก็ได้ 55
นครจักรพรรดิ หรือนครต้องห้าม (Imperial Enclosure / Forbidden Purple City)

ข้างในคือกว้างมากกกเดินเป็นสอง-สาม-สี่ ชั่วโมงได้ แล้วแต่คนชอบ ไอ้เราก็แค่พยายามเก็บภาพความทรงจำให้ได้มากที่สุด

จากนั้นก็เดินต่อ เดินกลับโฮสเทลสิค่ะ ใช้เวลาหนึ่งวันได้คุ้มล่ะ ชั้นว่า กลับไปรอรถเพื่อจะไป ฮานอยต่อ คือฮานอยเป็นจุดหมายปลายทางสุดท้ายของเราในทริปหนีเที่ยวล่ะ จากนี้ก็ต้องกลับไปชดใช้เวร ชดใช้กรรม นั่งทำงานรอเวลาได้โบยบินอีกที เฮ้ยยย คิดแล้วเหนื่อยใจ เริ่มบ่นๆล่ะ ยังไม่แก่เลย 555
เราออกจากเว้ตอนเย็น อาศัยรถนอน หนึ่งคืนคือกะจะไมหาที่พักที่ฮานอยอยู่แล้ว เพราะเวลาไม่พอ ก็เลยนอนเก็บแรงไว้เดินชมเมืองต่อ ห่ะ ชีวิตชั้นมีแต่การเดินหรือเนี้ย ไม่อยากจะคิดว่าทั้งทริปการเดินของชั้นรวมกันมันไกลกี่กิโลไปแล้วเนี้ย ระยะคงไปถึงดาวอังคารได้เลยมั้ง เอิ่ม เว้อไปไหมฟ่ะ แต่ก็ใกล้เคียงล่ะ

เอาล่ะค่อยตื่นมาเจอกันอีกที่ ที่ ฮานอย แล้วกัน กัน กัน
ตอนที่ 06 : และแล้วก็มาถึงตอนอวสาน นางเอกกะพระเอก จะได้มาเจอกันล่ะ อ่าวว ไปนั่น ฮานอยจ่ะฮานอย เราได้เจอฮานอยแล้ว หลังจากที่สู้แดด สู้ฝน สู้ลม ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆนานา Xin cao Ha noi กราบงามๆ 3 ที 555666 จากนั้นก็มุ่งตรงหาที่ ที่เราจะฝากกระเป๋าอันหนักอึ๋งนี่ ก็จะเป็นที่ไหนไม่ได้ โฮสเทลเพื่อนรัก เค้าก็มีสาขาที่นี่น่ะเทอ ในฮานอยเค้าเปิด 2 ที่ ในตลาดที่นึง แล้วอีกที่จะอยู่ใกล้โบสถ์ (St Joseph Cathedral) ชื่อว่า Ha noi Backpacker Hotel จร้า แซ่บบบเหมือนเดิม ฮุฮุ @_@

หลังจากที่หน้าด้านขอเค้าฝากกระเป๋าได้ ช่างกล้าเนอะ พักก็ไม่ำดเพักกะเค้า 55 ผูกเชือกร้องเท้า จากที่ใหม่ๆ ก็เก่าล่ะ เดินสิจ๊ะ เดิน เดินกันให้ตายไปเลย เดินตามแผนที่ ที่เพื่อนจาก ฮอยอัน ให้มาก็มาเจอจุด Landmark ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม แล้วก็เห็นสะพานสีแดงๆด้วย ตอนนี้ยังเช้าอยู่คนแก่ที่นี่เค้ามาออกกำลังกายกันเต็มเลย เดินผ่านกลุ่มคุณยายๆ เค้าน่ารักมาก ชวนเราไปเต้นอาราบิคด้วย เหอะๆ สงสัยหน้าตาเหมือนไม่ออกกำลังกาย ออกสิ ก็เดินอยู่นี่ไง!!!

หลังจากที่เดินรอบๆทะเลสาบเสร็จ ก็เดินตามลายแทงต่อไปที่ตลาด Dong Xuan Market ตลาดที่ใหญ่ที่สุดในฮานอย แถวๆ Old Quarter ของฝาก เสื้อผ้า รองเท้า อะไรอิรุงตุงนังไปหมด ขาช๊อปแวะมาได้ เตรียมรถเข็นมาขนของด้วยน่ะ 55

เดินๆๆ ต่อไป ไปต่อ แล้วก็ไปเจอ (Quan Chuong City Gate) ประตูเมืองเก่า

แอบถ่ายศิลปะเค้ามาด้วย สวยดีน่ะ แล้วก็โผล่มาเรือนจำกลาง เดี๋ยววว ก่อนที่จะคิดว่าเราไปทำอะไรผิดมา ที่นี่ก็เป็นอีกสถานที่สำหรับนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมกันเทอ maison centrale prison museum

และแล้วเราก็ไม่รู้จะเดินไปไหนล่ะ ต้องกลับไปแบกกระเป๋าที่ฝากไว้ขึ้นรถตู้ไปสนามบินล่ะ ขอทิ้งภาพบรรยากาศบ้านเมืองเค้าไว้ก่อนจาก ถือว่าเป็นทริปที่ ประทับใจมากๆ 9 วันเต็มๆ คุ้มสุดๆ สำหรับเพื่อนๆใครที่กำลังคิดิย฿่ว่าจะไป ไม่ต้องคิดล่ะ ไปโลดดด คนเดียวอย่างเราก็ได้ ทั้งทริปเรา ใช้ไปหมื่นต้นๆ รวมตั๋วล่ะน่ะ สบายกรธเป๋า เบาเลย กลับมากินแกรบบเหมือนเดิม 555 หวังว่าโอกาศหน้าจะได้มานั่งเมื่อยก้น รีวิวให้ทุกคนได้อ่าน ในทริปต่ไปปปปปน่ะจ๊ะ



ขอจากเพียงเท่านี้คร้าาา ขอบคุณร้าาาา สำหรับใครที่มาเจอเราภาคนี้ ย้อนกลับไปดุภาคแรกได้น่ะค่ะ
http://pantip.com/topic/35302103
[CR] ภาคต่อ ของการหนีงานเที่ยวเวียดนามของฉาน (Solo Backpacker)
ตอนที่ 05 : จุดหมายปลายทางต่อมา Hue (เว้) นั่นเอง และแล้วเราก็พักโฮสเทลเดิม เค้ามีสาขาที่นี่ด้วย ดี๊ดีอ่ะ แต่เดินหาอยู่นาน ฮ่าฮ่า ได้โดมรวมมา ในรารคา 7 ดอลล่า มัดจำกุญแจด้วยน่ะ ลืมบอก ข้างล่างเป็นบาร์ด้วยน่ะเทอ เอาอีกละ เริ่มอีกล่ะ 0_o
กะว่าวันต่อมาจะหาอะไรทำสักหน่อย...และแล้ววันต่อมาก็ได้มอไซต์พาเที่ยว กะว่าจะซื้อทัวร์จาดโฮสเทลเลย แต่ก็แงเกินไป จ้างข้างนอกที่จริงวันเดย์ทริปก็แพงอยู่ แต่ก็พอตกลงกันได้ไม่แน่ใจว่านางเรียกเอา 350,000.- VND แต่เราบอกไปว่า เรามี 200,000.-VND แค่นี้จะพาฉันไปไหนได้บ้าง?! นางก็โอเค นางก็พาไปได้หลายที่ดูหมือนกัน เราก็พอใจกะราคานี้ และแล้วก็กระโดดซ้อนท้าย ไปเลยจร้าาาา จะบอกว่าที่เว้ สถานที่โบราณเยอะมาก เหมาะกับคนโบราณ เอ้ย ไม่ใช่ เหมาะกับคนที่ชอบเรื่องประวัติศาสตร์ สถานที่ที่มีเรื่องเล่า ใครที่อินกับเรื่องอะไรประมาณนี้จริงๆ คงจะมีความสุขน่าดู ส่วนเราไม่ค่อยอินกะเรื่องอย่างงี้สักเท่าไร แต่ไหนๆก็มาเยือนถึงถิ่นก็ต้องมาชมให้เห็นกะตาสักหน่อย จะได้คุยกะเค้าได้ว่าชั้นก็เคยมาแล้ว อิอิ ที่นี่ไม่รู้ว่าเค้าเรียกว่าอะไม่รู้อ่ะ
นครจักรพรรดิ หรือนครต้องห้าม (Imperial Enclosure / Forbidden Purple City)
เราออกจากเว้ตอนเย็น อาศัยรถนอน หนึ่งคืนคือกะจะไมหาที่พักที่ฮานอยอยู่แล้ว เพราะเวลาไม่พอ ก็เลยนอนเก็บแรงไว้เดินชมเมืองต่อ ห่ะ ชีวิตชั้นมีแต่การเดินหรือเนี้ย ไม่อยากจะคิดว่าทั้งทริปการเดินของชั้นรวมกันมันไกลกี่กิโลไปแล้วเนี้ย ระยะคงไปถึงดาวอังคารได้เลยมั้ง เอิ่ม เว้อไปไหมฟ่ะ แต่ก็ใกล้เคียงล่ะ
ตอนที่ 06 : และแล้วก็มาถึงตอนอวสาน นางเอกกะพระเอก จะได้มาเจอกันล่ะ อ่าวว ไปนั่น ฮานอยจ่ะฮานอย เราได้เจอฮานอยแล้ว หลังจากที่สู้แดด สู้ฝน สู้ลม ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆนานา Xin cao Ha noi กราบงามๆ 3 ที 555666 จากนั้นก็มุ่งตรงหาที่ ที่เราจะฝากกระเป๋าอันหนักอึ๋งนี่ ก็จะเป็นที่ไหนไม่ได้ โฮสเทลเพื่อนรัก เค้าก็มีสาขาที่นี่น่ะเทอ ในฮานอยเค้าเปิด 2 ที่ ในตลาดที่นึง แล้วอีกที่จะอยู่ใกล้โบสถ์ (St Joseph Cathedral) ชื่อว่า Ha noi Backpacker Hotel จร้า แซ่บบบเหมือนเดิม ฮุฮุ @_@