[CR] ตระเวนกินก๋วยเตี๋ยว-อาหารแทบทุกแห่งที่ขึ้นชื่อว่าอร่อย @พิษณุโลก

ในวันนี้ได้มีโอกาศมาท่องเที่ยวจังหวัดพิษณุโลกที่หลายๆคนอาจจะขับผ่านเพื่อเชื่อมไปสู่จังหวัดจุดหมายปลายทาง
ยังไม่มีโอกาศได้แวะเที่ยวชมหรือลิ้มลองอาหารของจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเชื่อว่าหลายๆคนต้องคิดว่าจังหวัดนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจ
และแน่นอนว่าเจ้าของกระทู้ก็คิดอย่างนั้นเช่นกัน จนได้มาลองพิสูจน์ด้วยตัวเอง ถึงรู้ว่า

พิษณุโลก….มีอะไรมากกว่าที่คิด!



จากสนามบินมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองไม่ไกลมาก ขับเพลินๆ ถนนถูกปรับปรุงเป็นอย่างดี
หากใครเดินทางมาด้วยเครื่องบิน สามารถใช้รถเช่าที่มีให้บริการจากสนามบินได้เลยวันละไม่กี่ร้อยบาท
แล้วแต่โปรโมชั่น เพราะทุกสถานที่ในพิษณุโลกถึงจะไม่ไกลกันมากแต่ก็แนะนำให้ใช้รถเท่านั้น
เพื่อความสะดวกสบายและการต่อสู้กับอากาศร้อน
(ตอนที่ไปเป็นช่วงหน้า high season และอากาศที่ high ไป 40+ องศาเช่นกัน)

มาถึงพิษณุโลกแน่นอนว่าเราต้องมากราบไหว้สักการะ พระพุทธชินราช
ขอพรให้ชีวิตราบรื่นและขอให้เดินทางตลอดปลอดภัย
หากใครอยากซื้อของฝากให้คนทางบ้านหรือเพื่อนๆคนพิเศษทั้งหลายแนะนำให้ซื้อกล้วยตากที่นี่ได้เลย
มีขายหลายกล่องหลายขนาด รสชาติดีทีเดียวเก็บไว้ได้หลายเดือน กล้วยตากที่พิดโลกถือว่าเป็นของฝากยอดฮิตเลยทีเดียว



หลังจากไหว้พระเสร็จเรียบร้อยแล้ว อิ่มบุญอิ่มเอมใจกันไปก็ต้องมาเติมพลังให้อิ่มท้องกันด้วย
ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา สถานที่ยอดฮิตที่นักเดินทางทุกคนต้องได้มาชิม
เดินทางไม่ไกลตรงไปจากตัววัดก็ถึงเลย มีให้เลือกหลายร้านแต่วันนี้เรามาชิมกันที่ร้าน


ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาประตูมอญ



มีที่จอดรถกว้างขวางและมีบริการร่มให้ด้วย แต่ร้านนี้ใกล้ที่จอดรถที่สุดวิ่งมาก็ถึงเลย
ในร้านเราสามารถเลือกได้ว่าจะนั่งห้อยขาตามเอกลักษณ์ชื่อร้านหรือ
จะนั่งเป็นโต๊ะๆข้างในก็ยังได้เลือกได้ตามสะดวกเลย
อย่างที่เห็นตามป้ายร้านนี้เขาแนะนำก๋วยเตี๋ยวต้มยำโบราณ
ไม่รอช้า สั่งทั้งแบบแห้งและแบบน้ำ หน้าตาดูดีทีเดียว รสชาติแอบติดหวาน
หากใครชอบทานหวานๆ ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาประตูมอญร้านนี้น่าจะถูกใจไม่ใช่น้อย

สั่งลวกจิ้มมาแกล้มสักนิดหน่อย ลูกชิ้นอร่อย หอม กรอบ จิ้มกับซีฟู๊ด ถือว่าผ่าน
ตบท้ายด้วยขนมถ้วยและไอศครีมโบราณ มีให้เลือกหลากหลายรสชาติทั้งฝอยทอง ทองหยิบ ถั่วดำ ปิดท้ายอย่างลงตัว

หลังจากอิ่มทั้งบุญทั้งท้องแล้ว หนังตาก็เริ่มหย่อน รีบขับรถเข้าไป Check in
ที่พักซึ่งไม่ไกลจากวัดตรงไปอย่างเดียวประมาณ 6km. ผ่านหน้าเซนทรัล เฟสติวัล
พิษณุโลกก็เตรียมตัวยูเทิร์นได้เลย หน้าปากซอยมีป้ายเขียนว่า Elite residence
แถวนั้นไม่มีเซเว่นนะแนะนำให้แวะเซเว่นอื่นก่อนเข้าที่พักเพื่อตุนสเบียงได้เลย

มาถึงแล้วววว Elite residence ดูดีทีเดียว ชอบการดีไซน์มาก
ผสมผสานกับปูนเปลือยดูทันสมัย ไม่น่าจะมีผีโผล่มาอย่างแน่นอน



ห้องพักสะอาด มีไวไฟบริการทุกชั้น เน็ตแรงใช้ได้ ในห้องมีทีวี เคเบิ้ล
ให้ดูหลายช่อง แอร์เย็นฉ่ำ ผนังสีฟ้าสวยงาม ห้องน้ำฝักบัวนุ่มมาก
อาบแล้วมีความสุข แต่เหมือนประเทศไทยจะแอบต้มน้ำอุ่นให้อาบ โดยไม่ต้องใช้เครื่องทำน้ำอุ่นกันเลยทีเดียว
มีแชมพูเป็นซอง ครีมนวด สบู่ให้ครบ น้ำเปล่าสองขวด แม่บ้านดูแลดีมากจะเข้ามาทำความสะอาดห้องให้ตลอดเลย
น่ารักจนมีความเกรงใจ ระบบรักษาความปลอดภัยใช้คีย์การ์ดเปิดเข้ามาจากชั้นล่างสุด
ไม่มีลิฟท์แต่เดินได้ไม่มีปัญหาเพราะมีแค่ 4 ชั้น
ครบครัน และสวยงามขนาดนี้บอกเลยว่า คืนละ 490 บาทเท่านั้น
มีที่จอดรถบริการ ไม่มีอาหารเช้า แต่มีเค้าเตอร์อาหารให้อุ่น ให้เวฟได้ตลอดทั้งคืน
ช่วงเช้าสามารถมาชงชากาแฟดื่มได้



หลังจากนอนพักเอาแรงเสร็จแล้วเราก็ตะลุยทานอาหารกันต่อ
ทริปนี้บอกเลยว่าจะเป็นทริปตะลุยกินก๋วยเตี๋ยวแทบทั้งหมด
ก็พิษณุโลกเขาบอกว่าเป็นเมืองแห่งก๋วยเตี๋ยวนี่นา เราก็ต้องมาพิสูจน์รสชาติกันหน่อย


ช่วงเย็นเราขับรถเข้าตัวเมืองมากันที่ตลาดกลางคืนที่อยู่แถวหอนาฬิกา
ก่อนจะไปทานก๋วยเตี๋ยวขอมาลองชิม ผัดไทแหนมป้าแอ๊ดก่อนสะหน่อย
ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาว่า ต้องไม่พลาด สั่งแบบไข่แหนมไป โรยถั่วงอกพูนๆ มีแหนมชิ้นโตๆมาให้
รสชาติสำหรับเราถือว่ากลางๆแต่พอทานคู่กับแหนมแล้วก็โอเคนะ เปรี้ยวๆ
และสำหรับเส้นมีความหนุบหนับเป็นเอกลักษณ์อยู่เหมือนกัน
ไม่ใช่เส้นเละๆแบบที่เคยทานทั่วไป รสชาติโดยรวมให้ผ่าน ราคาน่ารัก




หลังจากนั้นมาเอาใจคนรักเนื้อกันบ้าง
เดินต่อไปหลังตลาดจะมีร้าน นายธงก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้อวัว ตั้งอยู่ ร้านใหญ่ มีหลายที่นั่ง



ได้รับรางวัลของดีเมืองพิษณุโลกด้วยนะร้านนี้ สั่งเส้นเล็กก่วยเตี๋ยวเนื้อไป
และร้านนี้เส้นเล็กก็เหนียวหนุบหนับ แอบชอบเส้นต่างๆ ที่พิษณุโลกนะมันจะเหนียวๆเหมือน
เส้นจันทร์ ถ้าเข้าใจไม่ผิดนะ ตัวลูกชิ้นกัดเข้าไปรู้สึกถึงแป้งเยอะมาก แต่เนื้ออร่อยมากกก
นุ่ม หวาน กำลังดี อยากสั่งเกาเหลาเนื้อมาสั่งกับข้าวเปล่าอีกจานกันเลยทีเดียว
หากใครไม่ทานเนื้อก็สามารถสั่ง หมูสะเต๊ะ มาทานเพลินๆได้อีกด้วยนะ



สำหรับใครอยากทานเนื้อเยอะๆ ให้สั่งเมนูลวกลอยน้ำ คือมาแบบไม่ใส่ถั่วงอก ราคามิตรภาพ

ปิดท้ายด้วยของหวาน ไอติมกะทิไข่แข็ง ที่หากไม่ได้ทานเหมือนมาไม่ถึงพิษณุโลกเชียวนะ



มีเครื่องให้เลือกได้ตามใจชอบทั้งมันเชื่อม รากบัว รวมมิตร และแน่นอนว่าต้องตอกไข่แดงใส่ลงไปด้วยถือเป็นไฮไลท์
ของเมนูนี้เลยทีเดียว ไข่เยิ้มๆ พอโดนความเย็นกับไอศครีมกะทิแล้วก็แข็งตัวเข้ากับไอติม รสชาติหวานๆ มันๆ
ไม่มีกลิ่นเหม็นคาวของไข่นะแต่หากใครไม่ชอบทานไข่สดก็ยังสามารถสั่งเมนูอื่นๆได้



หลังจากที่ทานกันมาอย่างแน่ท้อง เราก็ต้องไปเผาผลาญกันหน่อย ซึ่งเวลามืดๆอย่างนี้แล้ว
เราจะไปที่ไหนกันดี ระหว่างขับรถกำลังจะกลับที่พักก็เห็นชิงช้าสวรรค์ใหญ่ยักษ์
จึงเลี้ยวเข้าไปในห้างเซนทรัลและเดินออกมา ชมสวนสนุกหน้าลานห้าง
(สอบถามเจ้าหน้าที่เขาบอกว่ามีแทบตลอดทั้งปี เปิดช่วงเย็นๆปิดประมาณ 4-5 ทุ่มเลยนะ)



ค่าเข้า 10 บาทต่อคนแถมมีเวเฟอร์เซี่ยงไฮ้ให้ด้วย ข้างในมีของเล่นเยอะเชียวละ
ทั้งม้าหมุน ชิงช้าสวรรค์ไปยันของเล่นหวาดเสียว อย่างปลาหมึก รถไฟเหาะ
เรียกได้ว่าเหมือนยกดรีมเวิร์ลมาไว้เลยละ แต่สายสงบเสงี่ยมอย่างเราจะไม่เล่นเครื่องเล่นหวาดเสียว
เราจึงมาที่โซน เสี่ยงโชคอย่างบิงโก ตักไข่ จับฉลากเอาเบอร์ไปเทียบเพื่อได้ตุ๊กตา
ไม่รู้ทำไมตุ๊กตางานอย่างนี้มันถึงอยากได้ยิ่งนัก ฉลากก็ไม่แพง 7 ชิ้น 20 บาทหมดไปเป็นร้อยไม่ได้สักตัว T T
คนข้างหน้าเข้าไปพร้อมกัน หิ้วออกมาสองตัว เฉยเลย
ออกจากสวนสนุกเกือบ ห้าทุ่ม ออกจากห้างเข้าที่พัก ไม่ไกล ถึงห้องแล้วก็หลับสบายกันเลยทีเดียว



อรุณสวัสดิ์เช้าวันใหม่ ตื่นมาก็ท้องร้องกันเลยทีเดียว
วันนี้ขอนอกใจเปลี่ยนมาทาน ข้าวมันไก่กันบ้าง เห็นเสียงลือเสียงเล่าอ้าง
บอกว่า ข้าวมันไก่พังกี่ อร่อยเลอเลิศมาก ไม่รอช้า
ขับวนไปค่ะ



มาถึงก็สั่งตับผัดพริกก่อนเลย และตามด้วยไก่เป็นจานๆ พร้อมน้ำจิ้มหลากรส
ตับผัดพริกที่เห็นน้ำนองนั่นไม่ใช่น้ำซอสแต่อย่างใดนะแต่เป็นน้ำมันที่ไหลเยิ้มหยดย้อยมาก
ก่อนกินนี่ต้องแอบซับกับทิชชู่ แต่รสชาติดี ตับแข็งนิดนึงแต่เราชอบ ทานคู่กับข้าวมัน ส่วนเนื้อไก่
ก็เหนียวๆแห้งๆหน่อย ไม่ได้นุ่มฟูเหมือนข้าวมันไก่ประตูน้ำ แต่ก็เป็นข้าวมันไก่อีกสไตล์นึง
ที่รสชาติโอเค จิ้มน้ำจิ้ม เผลอแปปๆข้าวมันหมดไปสองจานแล้ว


หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จก็อยากหากาแฟทานสักหน่อย จึงขับรถวนเข้าไปแถวหอนาฬิกา
และบังเอิญไปเจอร้านเปิดใหม่ น่ารักมากๆ เห็นแล้วรีบจอดรถแล้วเดินเข้าไปเลย
กับร้าน rustic boho ร้านกาแฟน่ารักๆตกแต่งเก๋ๆ มีชั้นลอยด้วย และที่สำคัญมีน้องแมวชื่อ 5 ชั้น
ตัวอ้วนกลม มากก แถมยังหลับตลอดทั้งวันน



ถึงร้านจะสวยงามดุชิคขนาดนี้ แต่ราคาต่อแก้วก็ไม่แพงเอาสะเลย รสชาติดี
ทีเดียวแถมเขายังมีความน่ารักตรงที่ครอบแก้วที่จะมีคำพูด เสี่ยวๆ หวานๆ กวนๆ
ไว้ให้เราอมยิ้มอีกด้วย แต่สงสัยตอนนี้กระแสอเวนเจอร์มาแรง เราเลยได้รูป iron man มา

หลังจากนั่งตากแอร์ชิลๆ เล่นกับน้องแมว รู้สึกระบบเผาผลาญจะดีมาก เริ่มรู้สึกหิวขึ้นมาอีกแล้ว
ก็เลยนั่งเซิร์จ google หาร้านอาหารอร่อยๆ จากทั้ง wongnai pantip และรีวิวจาก blog ต่างๆ
จนได้มาเจอร้านเย็นตาโฟร้านหนึ่งที่น่าสนใจมากๆและอยู่ไม่ไกลจากร้านกาแฟที่เรากำลังนั่งอยู่

นั่นคือร้าน ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟชิ้นแซ่บ นั่นเอง


หน้าตาดูดีทีเดียวใช่ไหมละ รสชาติก็ดีเหมือนหน้าตาจริงๆด้วย
ต้องบอกว่าส่วนใหญ่หลายๆร้านที่ทานมาก็จะติดรสหวาน สงสัยชาวพิดโลกจะชอบทานหวานกัน
แต่เมื่อมาร้านนี้ซึ่งเราสั่ง เย็นตาโฟพริกสด เย็นตาโฟต้มยำ มาพร้อมแคปหมูหน้าตาแปลกตา
ซึ่งเราขอเจ้าของร้านให้จัดรสชาติเผ็ดๆจัดจ้านมาเลย บอกได้คำเดียวเลยว่า อร่อย!
หากเป็นต้มยำน้ำใสจะราดพริกสดมาให้

และในส่วนของน้ำข้นก็จะใส่พริกเผามาให้
ถ้าได้มะนาวสดบีบอีกนิดบอกเลยว่า ฟินมาก โรยแคปหมูติดมันทอดกรอบๆลงไป ยิ่งเคี้ยวยิ่งอร่อย
น้ำซุปก็เผ็ดจัดจ้าน กินได้ไม่เลี่ยน ซึ่งเจ้าของร้านบอกว่า
ไม่ใส่ผงชูรสและวัตถุดิบทุกอย่างทำเองทั้งหมด หากใครชอบทานรสชาติจัดจ้านแนะนำให้มาร้านนี้เลย
ในร้านยังมีข้าวซอย ลวกจิ้ม ให้ได้ทานอีกหลายเมนู สั่งเป็นแบบน้ำใสก็ยังได้  

หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้วก็ขอเข้าไปพักที่ห้องพักก่อนเลยแล้วเดี๋ยวเย็นๆออกมากันใหม่อีกทีหนึ่ง