Ep. 5 บทสรุป ....ก่อนการก้าวสู่โลกใหม่

ก่อนอื่นเลยต้องกราบขออภัยทุกท่านที่ Ep. 5 ไม่มาตามนัดในวันที่ 20 มิถุนายนนะครับ ..ด้วยงานยุ่งๆ นั้นนี้โน้น บวกกับป่วยด้วย (ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยรักษาสุขภาพด้วยนะครับ)  เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มกันเลยนะครับ

  ณ ตอนนี้การงานก็โอนะครับ เริ่มดูดี ได้การต้อนรับจากเพื่อนที่ทำงานอย่างดี  (ทั้งที่มีความเป็นจริงที่มีอยู่ในทุกสังคมซ่อนอยู่ แต่ด้วยว่าอันความไร้เดียงสา น้อยประสบการณ์ มองภาพบวกไปหมด)   ทำงานสนุกครับ  ทุ่มเทตั้งใจทำงาน  แต่ด้วยความที่เป็นคนใจร้อน ทำอะไรบางอย่างข้ามหน้าข้ามตาคนเก่าไปบ้างโดยไม่รู้ตัว ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่อันตรายมากครับ สำหรับคนที่มีตำแหน่งงานสูง แล้วมาทีหลังตำแหน่งพุ่งเลยอย่างผม  เพราะถ้าพลาดมา นั้นหมายถึงมีด หอก เท้า อยู่ข้างล่างมากมาย พร้อมจะซ้ำเติมอยู่นั้นเอง......ผมเคยดูโฆษณาชิ้นหนึ่ง เค้าบอกว่าชีวิตคนเรามันขึ้นได้มันก็ดิ่งลงได้ แต่เราต้องมีสติในทุกๆช่วงชีวิต

   เดือนมิถุนายน 58 เป็นช่วงที่มีการอบรมสัมนาค่อนข้างบ่อย ซึ่งนั้นผมเองพึ่งมาทำงานแบบเต็มตัวเข้าเดือนที่ 3 เองนะครับ เดินสายอบรม 5 วัน วันที่ 19 มิถุนายน 2558 สุดท้ายของการสัมนา เดินทางกลับมาจากกทม. แล้วมานั้งคุยงานกับบเจ้านายต่อ เพราะวันที่ 20 มิถุนายน 58 จะมีงานเลี้ยงทำบุญบริษัทฯ



  รูปนี้ถ่ายตอนมาถึงบริษัท ก่อนการเริ่มบี๊บลำดับงาน เพราะผมเป็นพิธีกรเอง (แลดูสดใส มีความสุขเนอะ)  คุยงานเสร็จแยกย้ายไปนอนครับ.....เช้าวันที่ 20 มิถุนายน 2558 ผมทำหน้าที่ผมผ่านไปได้ด้วยดี  งานลุล่วง  ....ตกเที่ยงก็มีการกินเลี้ยงกัน  (....ในขณะทีผมพิมพ์อยู่นี้มือไม้สั่นไปถึงขั้วหัวใจ มันคือแผลที่ยากจะลืมจริงๆครับ  ถ้านี้คือการดูหนังแบบรีรัน ตอนนี้คงเป็นตอนที่ผมจะกดข้ามครับ)   ดื่มกันตั้งแต่เที่ยง จนเย็น ....ไม่ต้องถามว่าหมดเยอะไหม  แต่ละคนสภาพไปหมดละ  แต่ยังๆๆครับย้ายจากการกินที่บริษัท ไปกินต่อที่ร้านตอน 6 โมงเย็น ประมาณ 2 ทุ่มได้ เจ้านายกลับบ้านโดยปลอดภัย ซึ่งในขณะนั้นยังมีพนักงานบางส่วนที่กำลังกิน แล้วไม่มีรถกลับบ้าน....ซึ่งนี้คือจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ครับ

  ก่อนที่จะออกไปกินต่อที่ร้าน ผมได้หยิบกุญแกรถยนต์ของบริษัทติดกางเกงไปด้วย และนั้นพอ  2 ทุ่มผมก็ย้อนมาเอารถของบริษัทออกไป เพื่อจะไปส่งพนักงาน แล้วก็จะขับกลับห้อง ถามว่าถูกไหม โคตรๆๆผิดตั้งแต่คิดละครับ ใบขับขี่ก็ยังไม่มี (เปรี้ยวมากกกกกกกกกกกกก) เมื่อได้รถแล้ว ทำการขับรถส่งทุกคนกลับบ้านโดยปลอดภัย เหลือกัน 4 คน ชวนกันไปต่อ ....ผมทำไง (หึ....!!!) ไปต่อผับตอนนั้น สี่ทุ่มกว่าละ แต่ผมไปหลับในผับ  (ผมเลิกกินตั้งแต่ 6 โมงเย็นแล้วนะครับ ตอนนี้มีแต่อาการเพลียล้วนๆ)  พอเข้าไปในผับไปหลับ เลยรู้แล้วว่าไม่ไหวแล้วจึงบอกพนักงานที่ไปด้วยกันว่าเดี่ยวมา  แล้วผมก็เดินออกมาจากร้านจะขับรถไปนอนรอที่ร้านที่พึ่งออกมา (เป็นร้านรู้จักกันพอดีครับ)  ซึ่งถ้าผมหยุดเวลาได้ ย้อนเวลาไปได้ ผมคงจะให้คนไปส่งผมแหละครับ T___________T

   ขับออกมาจากหน้าผับ เลี้ยวมาสู่ถนนใหญ่  (ภาพนั้นมัน......)  แล้วออกสู่ถนนใหญ่ 300 เมตรจากหน้าผับ ผมพุ้งมาอย่างเร็วข้ามเลนแล้วพุ้งไปชนรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าร้านบะหมี่ (พังยับ....) ซึ่งเป็นรถยนต์ของเจ้าของร้านบะหมี่นี้แหละครับ  (ร้านนี้ก่อนหน้านี้ผมมากินบ่อยมากนะครับ อร่อยมากกกกกก) ก่อนจะพุ้งไปชนมอไซค์เวสป้า (รุ่น Limited ของเจ้าของรถยนต์คันนี้แหละครับ)   ก่อนที่จะพุ่งไปเฉี่ยวรถยนต์อีก 2 คันที่จอดอยู่ใกล้ๆร้านบะหมี่ แล้วหยุดที่เสาร้าน......จิตนาการออกไหมครับ ว่าเละขนาดไหน.......ผมรู้สึกตัวอีกทีกลิ่มไหม้คละคลุ้งไปทั่วรถ เสียงคนร้องตะโกนกัน คิดในใจเกิดไรขึ้นวะเนี๊ย...ในขณะที่งัวเงียอยู่นั้น มีมือจากใครไม่รู้มาเปิดประตูรถ แล้วกระชากผมลงไปกระทืบกับพวก   (มาทราบอีกทีคือเป็นเจ้าของรถยนต์คนแรกที่ผมไปชนครับ)....เฮ๊อออออ  แผลที่ชนไม่มีหรอกครับ  แต่จะตายเพราะโดนกระทืบนี้แหละ

   เวลานั้นผมไม่โทรหาเจ้านายนะครับ  คิดอะไรไม่ออก โทรหาน้องชายเจ้านายก่อน 5 นาทีน้องชายเจ้านายก็มาถึง พร้อมกับเพื่อนที่จะสวมคนขับเพื่อจะได้เคลมประกันได้................ใครจะรู้ละว่ารถบริษัทผม ประกันหมดได้เกือบจะ 1 อาทิตย์ละ  (เป็นไงละอยากเปรี้ยวดีนัก....)  เมื่อไม่อาจสวมได้ ก็ต้องยอมรับครับ ไปโรงพักเทียบปรับ 1,000 บาท หลังจากนั้นหรอครับ ??????   เอาง่ายสั้นๆเลยนะครับ หนี้ท่วมหัว เพราะผมคิดว่าผมต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ผมทำ

    เหตุการณ์นั้นมันทำให้ผมรู้อะไรหลายๆอย่างครับ อาทิเช่น
ข้อที่ 1 ชีวิตคนเรามันไม่แน่ไม่นอน จงใช้ชีวิตอย่างมีสติในทุกๆช่วงเวลาของลมหายใจ จงคิดใตร่ตรองในทุกๆการกระทำ
ข้อที่ 2 คนที่ว่ารักเรา ชื่นชมเรา สักกี่คนที่รักเราจริง  ผมรู้ได้ทันทีว่าใครรักผม....คนแรกเลยนะครับ พ่อแม่ "คนไม่เป็นไรก็ดีแล้วลูก"  สั้นๆนะครับ แต่รับรู้ได้ว่าพ่อแม่เค้ากังวลห่วงมากขนาดไหน เพราะค่าเสียหายที่ต้องรับผิดชอบมันเกือบจะซื้อรถใหม่ได้เลยนะครับ....คนต่อมาคุณแม่ของเจ้านาย ผมจะบอกว่าผมโชคดีมากนะครับที่เจอซ้อที่มองโลกในแง่บวก และให้กำลังใจผมขนาดนี้ ท่านบอกว่าสิ่งที่โอทำโอก็รับผิดชอบไปแล้ว  เรามาเริ่มใหม่กัน (ทำงานชดใช้ไปรวม 3 ปีครับ) ..ซึ่งท่านก็ช่วยบางส่วนด้วยนะครับ แล้วช่วงนี้ท่าจะไลน์หาผม โทรหาผมทุกเช้า ถามผมว่าอากาศวันนี้สดใสไหม ท่านกำลังจะบอกผมว่าตื่นมาได้ ยังหายใจก็ต้องสู้ต่อไป  ลูกหลานก็ไม่ใช่ แต่ท่านให้กำลังใจผมมาก  เช่นเดียวกันครับ พี่ชายของเจ้านายท่านก็ช่วยเหลือค่าเสียหายที่เกี่ยวเนื่องบางส่วนเช่นเดียวกัน  ส่วนเจ้านายผมหรอ  ช่วยมาก ช่วยสุดๆครับ แต่ท่านก็ช่วยในขอบเขตที่พอเหมาะพอควร มันคือสิ่งที่เจ้านายผมสอนผมว่ารักก็ส่วนรัก ผิดก็ส่วนผิด รับผิดชอบก็ต้องรับผิดชอบ ทำให้หนี้ผมมันลดลงไปมาก แต่เหนือสิ่งอื่นใด เจ้านายผมคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการหยิบยื่นความช่วยเหลือ และกำลังใจทั้งหมดครับ

  ผมว่าเหตุการณ์นี้มันสุดๆละครับ ช่วงนั้นนะจะบอกว่าชัดเจนเลยว่าใครสร้างภาพรักผม.......แต่ละคนมาเต็ม  กว่าจะผ่านมาได้ พอสมควร แต่ก็นั้นแหละครับจากเหตุการณ์ครั้งนั้นมันทำให้ผมเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ทำให้จะทำอะไร จะพูดอะไรต้องคิดให้ดี แล้วตระหนักว่าอย่าหลงไหลกับตำแหน่งให้มันมาก เพราะสุดท้ายคนเราต่อให้อยู่สูงขนาดไหนก็เท่านั้น เพราะขึ้นชื่อว่าคนสุดท้ายก็ต้องตาย คือสังขารให้กับพื้นดิน แล้วนั้นก็ทำให้ผมได้รู้จักนักสร้างแรงบัลดาลใจคนหนึ่ง คือจะบอกว่าเวลาผมตกอยู่สถานะการที่เลวร้ายมากๆ ผมจะหาแรงบัลดาลใจใหม่ๆเสมอ แล้วผมก็รู้จักครูอ้อย ประโยคที่ผมชอบมากคือ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา มันกำลังจะส่งเราไปสู่ที่จุดที่ดีขึ้นเสมอ ขอแค่เราเชื่อแล้วเราจะผ่านมันไป ผมฟังคลิปครูอ้อยทุกเช้า  กลับมาห้องไปเจอคนด่านินทามา หลายครั้งก็มาร้องไห้คนเดียวที่ห้อง  ครูอ้อยบอกไว้ในคลิปผ่านนิทานลิงกำถั่ว ชาวไร่ไม่ชอบที่ลิงมาโขมยกินพืชผล เลยตัดหัวลูกมะพร้ามพอให้ล้วงไปได้ จากนั้นใส่ถั่วลงไป พอถั่วเจอความชื้นก็จะเริ่มงอก ส่งกลิ่มหอมหวนชวนน้ำลายเจ้าลิงน้อย ทันทีนั้นเจ้าลิงน้อยก็ล้วงมือลงไปกำถั่วไว้ แต่พอจะดึงมือออกมากลับติดลูกมะพร้าวซ่ะงั้น  ลิงนอยดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด ชาวสวนเห็นแบบนั้นพากันหัวเราะยกใหญ่ และคิดว่าถ้าอยากหลุดก็ง่ายๆแค่ปล่อยถั่วไปก็แค่นั้น คนเราก็ไม่ต่างกะเจ้าลิงน้อย ชอบเก็บความทุกข์ความเศร้ามาไว้กับตัว โดนคนด่าคนว่ามาก็เก็บมาคิด คนด่าเค้าด่าแล้วจบ แต่เราชอบเอาที่คนด่ามาคิดวกวน แล้วจมอยู่กับความทุกข์เอง  .....แล้วประโยคหนึ่งของครูอ้อยคือ ทุกครั้งที่เรามีปัญหาใหม่ ถ้าเราเป็นนักสู้เราจะหามุมมองใหม่ ยกระดับจิตใจใหม่ เพื่อจะผ่านเรื่องร้ายๆนั้นไป แล้วนั้นผมคือสิ่งที่ผมยึดมั่น แล้วผ่านเหตุการณ์เหล่านั้นมาได้ครับ

   ถามว่าทุกวันนี้เป็นไงบ้าง ผมว่าโอเครนะครับ ได้บทเรียนก้าวสู่ความเป็นผู้ใหญ่ได้สักที  แต่ชีวิตมันก็ยังต้อพบเจอกับอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ.....การผจญภัยยังมีมาให้ดำเนินเรื่อยๆ แต่ด้วยความที่ว่าเราผ่านเรื่องที่ใหญ่ๆมา พอมีเรื่องปัญหาเล็กน้อยๆ ทำให้มองว่าสิวไปเลยแหละครับ  ส่วนตอนนี้ชีวิตก็ทุ่มให้แต่งาน ความรักก็ไม่เอา อยู่คนเดียวสร้างเนื้อสร้างตัว  แต่อนาคตผมเองก็ยังไม่รู้จะทำได้ดีขนาดไหน แต่ผมก็จะทำให้ดีที่สุด ทำทุกๆอย่าง ใช้ชีวิตเหมือนวันสุดทายที่จะได้อยู่บนโลกใบนี้ ถ้าถามว่าความสำเร็จนั้น ผมก็ยังตอบไม่ได้หรอกครับว่าสำเร็จยัง ถามว่ามาไกลมากไหม ตอบเลยว่ามากครับ แต่ถามว่าถึงที่สุดยัง ก็คงตอบได้เลยว่ายังครับ แต่อย่างน้อยมันทำให้เรารู้จุดยืนของเรา อย่างที่คนประสบความสำเร็จพูดแหละครับ คนเราต้องมีจุดยืน ถ้ารู้จุดยืนก็พุ้งไป ทำให้สุดครับ  จะว่าอยู่ตรงกลางของความสำเร็จก็ได้แหละมั้งครับ  แต่คนที่รู้จักผมเอง เค้าชอบพูดกันว่าไม่คิดว่าโอจะมาไกลได้ขนาดนี้ มองย้อนกลับไปอดีต เรื่องราวต่างๆที่มันผ่านเข้ามา สนุกดีครับ มีอะไรพูดอะไรคุยเยอะดี

   สุดท้ายนี้ผมกราบขอบพระคุณทุกท่านที่สละเวลามาอ่าน  จบ Ep. นี้ผมเองตั้งใจจะเขียนเพิ่มนะครับ มีเรื่องเล่ามากมายเลยครับ แต่ถ้าจะกรุณาหากได้คำแนะนำจากท่านผู้รู้นะครับ อยากจะเริ่มเขียน แต่ก็อยากทราบหลักการเริ่มเขียนเบื้องต้นครับ แล้วถ้าบทความผมสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้บางคนได้ ผมเองก็อยากจะบอกว่า สู้ๆนะครับ โลกนี้ไม่มีพื้นที่สำหรับคนอ่อนแอ จงยิ้มรับกับปัญหาที่ก้าวผ่านเข้ามา สร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองเรื่อยๆ แล้วสักวันจะเป็นวันของเราครับ วันนี้หากเราไม่มีรถเดินทางด้วยเท้า มองไปข้างหน้าอาจจะรู้สึกท้อเพราะมองเห็นคนปั่นจักรยาน ขับรถยนต์ แต่หากเรามองไปข้างหลังมีหลายคนเดินไม่ได้ เราโชคดีขนาดไหนที่ยังเดินได้ หรือบางคนพิการ แต่ก็ยังดี เพราะบางคนขอแค่มีลมหายใจได้อยู่กับคนที่เค้ารักก็ช่างโชคดีขนาดไหนแล้ว ที่อยากจะบอกคือชีวิตอยู่ที่เราจะมองครับ มองบวกเราก็เดินต่อไป มองลบเวลาก็เสียเปล่าไปกับเรื่องลบๆ   ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่อยากถ่ายทอด สัญญาจะกลับมาพบกับทุกท่านอีกครั้งเร็วๆนี้ครับ  ท้ายนี้ขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตาม แล้วพบกันใหม่เร็วๆนี้ ขอบคุณและสวัสดีครับ ^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่