ขอสินเชื่อรถกับไทยพาณิชย์ โดนบังคับทำประกัน แถมยังโดน เอาค่าเบี้ยประกัน ไปรวมกับยอดจัด มันยังไงกันแน่

สวัสดีครับ ผมอยากจะขอแชร์ประสบการณ์ ที่เพิ่งเจอกับการขอสินเชื่อรถยนต์กับ ธนาคารไทยพาณิชย์ สักหน่อยครับ
โดยเมื่อปลายเดือน เมษา ผมได้ติดต่อ ขอสินเชื่อกับทาง ธนาคารไทยพาณิชย์ โดยผ่านทาง Marketing รายหนึ่ง
ซึ่งเข้าใจว่า เป็นคนที่คนขายรถ ติดต่อด้วยประจำ ก็ได้ดำเนินการด้านเอกสาร และตกลงเรื่องยอดสินเชื่อกันเรียบร้อย
ทุกอย่างดูไม่มีปัญหา หลังจากสินเชื่อผ่าน ก็รับรถตามปกติ แต่เมื่อสัญญามาถึง...

พอเปิดอ่านเท่านั้น ก็พบสิ่งผิดปกติตรงที่ ยอดจัด ตอนที่แจ้งกับ Marketing ที่มารับเอกสารไว้จำนวน 440,000 บาท
แต่ในสัญญาระบุ ยอดจัด 455,000 บาท คำถามแรกของผมคือ 15,000 บาทนี้ มากจากไหน
ปอกอกับว่า ในวันใกล้ๆกันนั้น ก็ได้รับ กรมธรรม์ จากบริษัท สามัคคีประกันภัย ซึ่งเมื่อเปิดอ่านดูแล้ว
ก็พบว่าเป็นประกันภัย ที่มียอดเบี้ยจำนวน 15,000 บาท ลงตัว คำถามเกิดขึ้นในใจ...

ถึงจุดนี้ ผมรีบโทรหา Marketing ทันทีเพื่อสอบถามให้หายสงสัย เมื่อสอบถาม ทาง Marketing ก็แจ้งว่า มันคือ ค่าเบี้ยประกันภัย
ซึ่งเค้าจะเอาค่าเบี้ยประกันภัย มารวมกับยอดกู้ ที่เราทำการขอไป แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังคงได้รับคำตอบในแนวทางนี้

ทีนี้ มันแปลกประหลาด ก็ตรงที่ รถคันก่อนหน้านี้ ผมขอไฟแนนซ์ กับทางแบงค์สีเหลือง ซึ่งก็มีการทำประกัน
ตรงนี้เหมือนกัน แต่จะต่างตรงที่ว่า ทางนั้น เค้าบอกกล่าว เป็นทางเลือก ไม่ได้บังคับ ซึ่งผมก็สมัครใจทำ และเค้าก็คำนวณ
ค่าเบี้ยต่างหาก แยกในแต่ละรอบบิล ว่าเป็นค่าเบี้ยประกัน เท่าไหร่ ยอดกู้ ก็ยังคงเป็นยอด ที่เราได้ตกลงเค้าตั้งแต่ต้น

เมื่อเป็นเช่นนี้ผมเลย อยากจะรู้ว่า จริงเหรอ? รีบโทรสอบถามกับทาง Call Center ของไทยพาณิชย์ ทันที
แต่ปรากฎว่า กลับได้คำตอบ ประมาณว่า ทาง Call Center จะรับผิดชอบเกี่ยวกับ การให้บริการ สอบถาม ยอดชำระ หรือ วิธีการต่อภาษี ฯลฯ
ส่วนขั้นตอน หรือ ข้อบังคับ ในการขอสินเชื่อนั้น จะไม่ทราบเลย (ผมคุยกับ Call Center ประมาณ 2 ครั้ง ได้รับคำตอบในลักษณะเดียวกันนี้ตลอด)

คำถามก็ยังคง คาใจผมอยู่ หลักๆ คือ
1.) ธนาคารไทยพาณิชย์ มีนโยบาย หรือ ข้อบังคับ ในการขอสินเชื่อ ว่าผู้ขอสินเชื่อจะต้อง มีประกันภัยคุ้มครองเงินกู้ หรือไม่?
2.) การคิดคำนวณ ค่าเบี้ยประกันภัย ใช้วิธี การคิด เบี้ยประกันภัย ตลอดอายุสัญญา มาเพิ่มในยอดเงินกู้ หรือไม่?

ถึงจุดนี้ อาจมีบางคนสงสัยว่า ทำไมผมต้องเอามาเป็นประเด็น ก็ต้องขอบอกว่า ถ้ามองให้ดีแล้ว กรณีนี้ การเอา ค่าบริการอื่นๆ
ที่ไม่เกี่ยวข้องกับ ยอดเงินที่ขอสินเชื่อ มารวมด้วย ผมถือว่าไม่ถูกต้อง และเมื่อคิดดูแล้ว การทำเช่นนี้ ทำให้ ดอกเบี้ย ที่เป็นภาระของผู้กู้
ที่ต้องชำระ เพิ่มสูงขึ้น โดยไม่มีเหตุผลสมควร ลองคิดดูว่า อยู่ๆ เราจะต้องมาจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น จากสิ่งที่ไม่ควรต้องจ่าย มันถูกต้องแล้วหรือ?
เพื่อรักษาสิทธิของผู้บริโภค เลยต้องขอตั้งกระทู้นี้ เพื่อเป็นการ เตือนหลายๆคนที่ อาจจะเจอกรณีคล้ายๆกันนี้ครับ และเพื่อทวงถาม
กับทางธนาคารด้วยเช่นกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่