หายไปนานหลายเดือนเลย ตอนแรกคิดอยู่ว่าจะเขียนต่อดีไหม แต่โดนพี่ๆน้องๆที่รู้จักเจอกันที่ไรบอกเมื่อไหร่จะเขียนต่อ รอมานานแล้วนะ ก็เลยเอานะ พยายามแงะความทรงจำหน่อยละกัน
ปล.อารมณ์อยากเขียนมาเป็นพักๆครับ พึ่งกลับมาจากไปซีอาน ลั่วหยาง มาเลยอยู่ในอารมณ์เดินทางเลยเขียนได้
ความเดิน 3 ตอนแรกครับ หลายคนที่ตามอาจลืมแล้วไปทวนความจำกันหน่อย
1.
http://pantip.com/topic/34692460 ลุยเดี่ยวเที่ยวทรานมองโกเลีย: 3 ประเทศ 14เมือง 10000 กิโล 1เดือนเต็ม กับเงิน 65xxx บาท Part 1 Intro
2.
http://pantip.com/topic/34695762 ลุยเดี่ยวเที่ยวทรานมองโกเลีย: 3 ประเทศ 14เมือง 10000 กิโล 1เดือนเต็ม กับเงิน 65xxx บาท Part 2
3.
http://pantip.com/topic/34768352 ลุยเดี่ยวเที่ยวทรานมองโกเลีย Part 3 : ต้อนรับกลับ Moscow ด้วยหิมะ เตรียมพร้อมเริ่มต้นรถไฟสายทรานไซบีเรีย
ยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับที่หายไปนานเลย แหะๆ
จากตอนที่แล้วที่จบที่จาก Vladimir แล้วเราจะนั่งรถนอนไป Kazan กัน ถ้าถามว่าทำไมถึงไปเที่ยวเมืองนี้ ก็เกริ่นความรู้ของเมือง kazan ก่อน เมือง kazan เป็นเมืองเอกของรัฐตาตาร์สถาน ซึ่งเมื่อก่อนเป็นอาณาจักรอิสลาม ดังนั้นสิ่งที่จะแตกต่างคือปกติในส่วนวังหรือ Klemlin มักจะมีโบสต์ใช่ไหมครับ แต่ที่นี้จะเป็นมัสยิดแทน และศิลปะที่เมืองนี้จะเป็นแบบผสมกับอิสลามด้วย
สำหรับเมืองคาซานเรามีเวลาที่เมืองนี้ตั้งแต่เช้าถึงเย็นแล้วเราจะนั่งรถไฟนอนต่อไป โดยรถไฟนอนผมมาถึง Kazan ตั้งแต่ตี 5 เนื่องจากยังมืดอยู่ก็เลยนอนรอเวลาสายๆที่ในสถานีเลยครับ รอจน 8 โมงค่อยออกไปเที่ยวกัน
สำหรับที่เที่ยวในเมืองคาซานหลักๆที่คนมาเที่ยวคือ เครมลินแห่งkazan ครับ
หน้าทางเข้าเครมลินของ kazan ครับ รูปปั้นของใครซักคน ลืมแล้วว
มัสยิดที่อยู่ในเครมลินครับ Kul-Sharif Mosque
มัสยิดจำลองข้างในมัสยิดอีกทีครับ
ภายในมัสยิดครับ
Agricultural Palace หรือตึกสำนักงานด้านอาหารและการเกษตรของรัฐตาตาร์สถานครับ อยู่ใกล้ๆกับเครมลินเลย

ตึกด้านขวาคือพิพิธภัณฑ์ของเมืองครับ ได้เข้าไปเดินเล่นอยู่พักใหญ่แต่เขาไม่ให้ถ่ายรูปครับ

Soviet Lifestyle Museum เป็นพิพิธภัณฑ์รวมพวกของใช้สมัยยุคสังคมนิยมต่างๆ เดินเล่นๆ ดูนู้นดูนี้พอผลาญเวลาไปได้ชั่วโมงหนึ่ง
รูปสุดท้ายก่อนเราจะเดินกลับมาสถานีรถไฟครับ
คืนนี้เราจะนั่งรถไฟนอนไปเมือง Yekenterinburg กันโดยเมืองนี้เขาบอกกันว่าเป็นเมืองที่อยู่ตรงกลางระหว่างรัสเซียฝั่งยุโรปและเอเชียด้วย โดยจะมีจุดที่เราสามารถยืนระหว่างทวีปได้เลย แต่จุดดังกล่างอยู่นอกเมืองจึงไม่ได้ไปครับ
อีกหนึ่งความสำคัญของเมืองนี้ในประวัติศาสตร์ก็คือเมืองนี้คือที่พำนักสุดท้ายของราชวงศ์โรมานอฟ ก่อนที่จะถูกสังหาร โดยบ้านพักที่สังหารนั้นตอนนี้ได้กลายเป็นโบสต์ไปแล้วครับ นั้นคือจุดที่เราถึงแวะพักเมืองนี้กัน(อีกจุดประสงค์คือ ถ้าไม่แวะนี้อยู่บนรถไฟกันเป็นวันเลย ต้องออกไปยืดเส้นยืดสายมั้ง) เรามาถึงเมืองนี้ตามเวลาของเมืองนี้ประมาณเที่ยงพอดี และคืนนี้เราจะนั่งรถไฟไปต่อครับ(คาซานเป็นเมืองสุดท้ายที่ใช้เวลาเดียวกับมอสโคว์ครับ) เราจึงมีเวลาเมืองนี้ประมาณ ครึ่งวัน ก็พอดีๆสำหรับที่เที่ยวในเมือง
Church on the Blood โบสต์ที่สร้างใหม่ทับบ้านที่เป็นบ้านที่ครอบครัวโรมานอฟถูกสังหารครับ
ตึกนี้สวยดีครับ
บรรยากาศเมือง Yekenterinburg
เดินเล่นในเมืองแปปเดียวก็กลับมาสถานีครับ หาซื้อเสบียงไปกินบนรถไฟ และสุดท้ายก่อนจะเดินทางต่อทีสถานีรถไฟนี้มี ห้องอาบน้ำ ครับ ค่าบริการ 150RUB ได้ นะจุดๆนี้ไม่ได้อาบมาตั้งแต่ Vladimir ยังไงก็อาบครับ อาบน้ำเสร็จสบายๆ พร้อมเดินทางต่อครับ นั่งรถไฟต่อกันยาวๆเลยไป 36 ชม เพื่อไปเมือง Krasnoyask ครับดังนั้นถ้าไม่ได้อาบน้ำที่นี้เท่ากับไม่ได้อาบน้ำ 4 วันเต็มๆเลย ดังนั้นนี้ละสิ่งที่ต้องการเลย
อาบน้ำเสร็จก็รอรถไฟรอบทุ่มหนึ่ง รอบนี้อยู่รถไฟเปลื่อยเลย 36 ชม ถ้าไม่มี Ipad กับ Power bank นี้เบื่อแน่นอน
และเช่นเคยครับการสื่อสารกับคนบนรถไฟไม่ได้อีกแล้ว แต่ลุงๆป้าๆนอกเมืองหลวงใจดีนะครับ มีแบ่งของกินให้บ้าง แม้จะไม่สามารถสื่อสารกันได้แต่ก็แบ่งปันของกินมาให้ กระเหรี่ยงตาดำๆ แหะๆ
มาถึงKrasnoyask ตั้งแต่เช้าของเวลาที่นี้เลย โดยเวลาที่นี้จะตรงกับเวลาประเทศไทยเลยครับ โดยเราเริ่มเดินทางจากมอสโคว์ที่เวลาช้ากว่าบ้านเรา 4 ชม จนเดินทางมาถึงโซนเวลาเท่าบ้านเราแล้ว
โดยที่เมืองนี้ที่พักเราจะพิเศษหน่อยครับ เราจะพักกับโฮสกัน โดยหาโฮสจากแอพ couchsurfing มาเนื่องจากเมืองนี้นักท่องเที่ยวน้อยตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะหาได้ แต่ไปๆมาๆดันได้คู่สามีภรรยา Max กับ Ekaterina แกชอบเมืองไทย เคยมา couchsurfing เมืองไทย พอเห็นผมมาจากเมืองไทยก็เลยตอบรับเป็นโฮสเลย
เนื่องจากเรามาถึงเมืองนี้ตั้งแต่ตี 5 เช้ามืด ก็เลยรอให้สายๆหน่อยรอในสถานี้รถไฟครับ ไม่อยากรบกวนโฮสมากเกิน พอสายๆหน่อยก็เฟสติดต่อไปกับ Max ว่าจะเดินทางไปที่บ้านเขายังไง แต่โฮสเราน่ารักมาก มารับที่สถานีเลย ทีสำคัญตอนเราไปเที่ยว Max ยังมาส่งด้วยครับ
พอเจอหน้าเจอหน้า Max เป็นหนุ่มรัสเซียสูงร่วมๆ 2 เมตรแน่ะ แต่ขับรถคันเล็กเชียวไม่เหมาะกับตัวเลย max พามาเก็บของที่อพาทเม้นของทั้งคู่ก่อนมาทำความรู้จักกับแฟน max Ekaterina แฟนคู่นี้ภาษาดีทั้งคู่เลย หลังจากอยู่ท่ามกลางคนที่ไม่สามารถพูดรัสเซียได้หลายวัน วันนิได้คุยอังกฤษแล้ว หลังจากคุยกันซักพัก
ผมก็เตรียมตัวจะไปเที่ยวจุดหมายที่เรามาเมืองนี้นั้นคืออุทยาน Stolby ซึ่งเป็นป่าไซบีเรียและมีหินผาเป็นรูปต่างๆมากมาย โดยMax จะอาสาขับรถไปส่งที่อุทยาน แต่ตอนกลับผมต้องหาทางขึ้นรถเมล์กลับมาเอง โดย Katerina ได้เขียนวิธีเดินทางกลับใส่กระดาษและเตรียมน้ำชาร้อนใส่กระติกให้เป็นเสบียงในการไปเดินเล่นที่อุทยานนี้ พอจะออกปุปหิมะตกอีกแล้ว และถ้าจะหนักด้วย Max เลยบอกว่าไปส่งเสร็จเดียวเขาต้องไปเอายางติดโซ่แล้ว และเนื่องจากหิมะตกหนักมากทำให้ max ไม่สามารถไปส่งที่ด้านในได้จึงส่งที่ทางเขาอุทยานและเราต้องเดินเข้าไปแทน ระยะไม่ไกลเท่าไหร่หรอก แค่ 6 กิโล แล้วจะถึงทางเข้าอุทยาน

เพื่อนตัวน้อยระหว่างเดินครับ

ระหว่างเดินก็ถ่ายนู้นนี้นั้นไปเลยครับ

ในอุทยานนี้จะมีพวกหินแบบนี้อยู่ๆหลายๆอัน แต่ละอันจะมีชื่อเรียกด้วยครับบางอันก็ หินปู่ หินพ่อ หินแม่ ไรงี้
และทีสำคัญจุดชมวิวป่าไซบีเรียก็ต้องขึ้นไปดูบนหินพวกนี้แหละครับซึ่งรูปที่ได้ก็ สุดยอดด ได้มาเห็นวิวป่าไซบีเรียแบบพาโนราม่า
ช่วงนี้เป็น low season แทบไม่มีคนเลยครับเดินไปเสียวแทนแทบไม่มีคนเลย หิมะก็ตกอีก เดินไปเดินมาเห็นรอยเท้าหมา เราก็อ้าวหมาไรวะ หมาป่าปะว้า เสียวดิ สุดท้ายก็ออกมาได้อย่างปลอดภัยครับ วันนิเดินไปๆมาๆรวมๆ 20 โลแน่ะ

นกอะไรไม่รู้ไม่กลัวคนเลย นี้ถ่ายห่างไม่ถึง 2 เมตรนะเนี่ย

ขาออกเดินตามเด็กน้อย 3 คนนี้เห็นเด็กๆเดินไปแกล้งกันไปรู้สึกอยากกลับไปเป็นเด็กชะมัด
ขากลับเดินออกมาหาป้ายรถเมล์ ยื่นกระดาษที่ Katerina เขียนให้กระเป๋ารถดูแล้วส่งภาษาใบ้ให้เขาบอกด้วยว่าถึง แต่พอมาถึงดันหาตึกของ max ไม่เจอ คืออพาทเมนต์ที่นี้จะอารมณ์ตึกสมัยคอมมิวนิสต์ครับ ตึกๆคล้ายๆกันหมด แล้วรัสเซียก็มีแต่ภาษารัสเซีย งงดิ ต้องเฟสให้ max ลงมารับ ไม่งั้นไม่ได้กลับครับ
คืนนี้ก็เอาพวกอาหารไทยสำเร็จรูป เปิดกินกัน ทั้งคู่กินเผ็ดเก่งมาก เลยให้น้ำพริกแก่ทั้งคู่ไป
อีกวันตอนเช้า max ก็มาส่งสถานีรถไฟครับ
กับโฮสของเราครับ น่ารักมาก ทั้งคู่บอกจะกลับมาไทยอีกแน่นอนด้วยครับ
ก็รอรถไฟออกตอนเที่ยงและ เราจะเดินทางไปต่อเมือง Irkutsk กันเพื่อไปทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลกครับ ทะเลสาบ Bikal กันต่อ
[CR] ลุยเดี่ยวเที่ยวทรานมองโกเลีย Part 4:Kazan Yekaterinburg และ Krasnoyask
ปล.อารมณ์อยากเขียนมาเป็นพักๆครับ พึ่งกลับมาจากไปซีอาน ลั่วหยาง มาเลยอยู่ในอารมณ์เดินทางเลยเขียนได้
ความเดิน 3 ตอนแรกครับ หลายคนที่ตามอาจลืมแล้วไปทวนความจำกันหน่อย
1. http://pantip.com/topic/34692460 ลุยเดี่ยวเที่ยวทรานมองโกเลีย: 3 ประเทศ 14เมือง 10000 กิโล 1เดือนเต็ม กับเงิน 65xxx บาท Part 1 Intro
2. http://pantip.com/topic/34695762 ลุยเดี่ยวเที่ยวทรานมองโกเลีย: 3 ประเทศ 14เมือง 10000 กิโล 1เดือนเต็ม กับเงิน 65xxx บาท Part 2
3.http://pantip.com/topic/34768352 ลุยเดี่ยวเที่ยวทรานมองโกเลีย Part 3 : ต้อนรับกลับ Moscow ด้วยหิมะ เตรียมพร้อมเริ่มต้นรถไฟสายทรานไซบีเรีย
ยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับที่หายไปนานเลย แหะๆ
จากตอนที่แล้วที่จบที่จาก Vladimir แล้วเราจะนั่งรถนอนไป Kazan กัน ถ้าถามว่าทำไมถึงไปเที่ยวเมืองนี้ ก็เกริ่นความรู้ของเมือง kazan ก่อน เมือง kazan เป็นเมืองเอกของรัฐตาตาร์สถาน ซึ่งเมื่อก่อนเป็นอาณาจักรอิสลาม ดังนั้นสิ่งที่จะแตกต่างคือปกติในส่วนวังหรือ Klemlin มักจะมีโบสต์ใช่ไหมครับ แต่ที่นี้จะเป็นมัสยิดแทน และศิลปะที่เมืองนี้จะเป็นแบบผสมกับอิสลามด้วย
สำหรับเมืองคาซานเรามีเวลาที่เมืองนี้ตั้งแต่เช้าถึงเย็นแล้วเราจะนั่งรถไฟนอนต่อไป โดยรถไฟนอนผมมาถึง Kazan ตั้งแต่ตี 5 เนื่องจากยังมืดอยู่ก็เลยนอนรอเวลาสายๆที่ในสถานีเลยครับ รอจน 8 โมงค่อยออกไปเที่ยวกัน
สำหรับที่เที่ยวในเมืองคาซานหลักๆที่คนมาเที่ยวคือ เครมลินแห่งkazan ครับ
ตึกด้านขวาคือพิพิธภัณฑ์ของเมืองครับ ได้เข้าไปเดินเล่นอยู่พักใหญ่แต่เขาไม่ให้ถ่ายรูปครับ
Soviet Lifestyle Museum เป็นพิพิธภัณฑ์รวมพวกของใช้สมัยยุคสังคมนิยมต่างๆ เดินเล่นๆ ดูนู้นดูนี้พอผลาญเวลาไปได้ชั่วโมงหนึ่ง
รูปสุดท้ายก่อนเราจะเดินกลับมาสถานีรถไฟครับ
คืนนี้เราจะนั่งรถไฟนอนไปเมือง Yekenterinburg กันโดยเมืองนี้เขาบอกกันว่าเป็นเมืองที่อยู่ตรงกลางระหว่างรัสเซียฝั่งยุโรปและเอเชียด้วย โดยจะมีจุดที่เราสามารถยืนระหว่างทวีปได้เลย แต่จุดดังกล่างอยู่นอกเมืองจึงไม่ได้ไปครับ
อีกหนึ่งความสำคัญของเมืองนี้ในประวัติศาสตร์ก็คือเมืองนี้คือที่พำนักสุดท้ายของราชวงศ์โรมานอฟ ก่อนที่จะถูกสังหาร โดยบ้านพักที่สังหารนั้นตอนนี้ได้กลายเป็นโบสต์ไปแล้วครับ นั้นคือจุดที่เราถึงแวะพักเมืองนี้กัน(อีกจุดประสงค์คือ ถ้าไม่แวะนี้อยู่บนรถไฟกันเป็นวันเลย ต้องออกไปยืดเส้นยืดสายมั้ง) เรามาถึงเมืองนี้ตามเวลาของเมืองนี้ประมาณเที่ยงพอดี และคืนนี้เราจะนั่งรถไฟไปต่อครับ(คาซานเป็นเมืองสุดท้ายที่ใช้เวลาเดียวกับมอสโคว์ครับ) เราจึงมีเวลาเมืองนี้ประมาณ ครึ่งวัน ก็พอดีๆสำหรับที่เที่ยวในเมือง
เดินเล่นในเมืองแปปเดียวก็กลับมาสถานีครับ หาซื้อเสบียงไปกินบนรถไฟ และสุดท้ายก่อนจะเดินทางต่อทีสถานีรถไฟนี้มี ห้องอาบน้ำ ครับ ค่าบริการ 150RUB ได้ นะจุดๆนี้ไม่ได้อาบมาตั้งแต่ Vladimir ยังไงก็อาบครับ อาบน้ำเสร็จสบายๆ พร้อมเดินทางต่อครับ นั่งรถไฟต่อกันยาวๆเลยไป 36 ชม เพื่อไปเมือง Krasnoyask ครับดังนั้นถ้าไม่ได้อาบน้ำที่นี้เท่ากับไม่ได้อาบน้ำ 4 วันเต็มๆเลย ดังนั้นนี้ละสิ่งที่ต้องการเลย
อาบน้ำเสร็จก็รอรถไฟรอบทุ่มหนึ่ง รอบนี้อยู่รถไฟเปลื่อยเลย 36 ชม ถ้าไม่มี Ipad กับ Power bank นี้เบื่อแน่นอน
และเช่นเคยครับการสื่อสารกับคนบนรถไฟไม่ได้อีกแล้ว แต่ลุงๆป้าๆนอกเมืองหลวงใจดีนะครับ มีแบ่งของกินให้บ้าง แม้จะไม่สามารถสื่อสารกันได้แต่ก็แบ่งปันของกินมาให้ กระเหรี่ยงตาดำๆ แหะๆ
มาถึงKrasnoyask ตั้งแต่เช้าของเวลาที่นี้เลย โดยเวลาที่นี้จะตรงกับเวลาประเทศไทยเลยครับ โดยเราเริ่มเดินทางจากมอสโคว์ที่เวลาช้ากว่าบ้านเรา 4 ชม จนเดินทางมาถึงโซนเวลาเท่าบ้านเราแล้ว
โดยที่เมืองนี้ที่พักเราจะพิเศษหน่อยครับ เราจะพักกับโฮสกัน โดยหาโฮสจากแอพ couchsurfing มาเนื่องจากเมืองนี้นักท่องเที่ยวน้อยตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะหาได้ แต่ไปๆมาๆดันได้คู่สามีภรรยา Max กับ Ekaterina แกชอบเมืองไทย เคยมา couchsurfing เมืองไทย พอเห็นผมมาจากเมืองไทยก็เลยตอบรับเป็นโฮสเลย
เนื่องจากเรามาถึงเมืองนี้ตั้งแต่ตี 5 เช้ามืด ก็เลยรอให้สายๆหน่อยรอในสถานี้รถไฟครับ ไม่อยากรบกวนโฮสมากเกิน พอสายๆหน่อยก็เฟสติดต่อไปกับ Max ว่าจะเดินทางไปที่บ้านเขายังไง แต่โฮสเราน่ารักมาก มารับที่สถานีเลย ทีสำคัญตอนเราไปเที่ยว Max ยังมาส่งด้วยครับ
พอเจอหน้าเจอหน้า Max เป็นหนุ่มรัสเซียสูงร่วมๆ 2 เมตรแน่ะ แต่ขับรถคันเล็กเชียวไม่เหมาะกับตัวเลย max พามาเก็บของที่อพาทเม้นของทั้งคู่ก่อนมาทำความรู้จักกับแฟน max Ekaterina แฟนคู่นี้ภาษาดีทั้งคู่เลย หลังจากอยู่ท่ามกลางคนที่ไม่สามารถพูดรัสเซียได้หลายวัน วันนิได้คุยอังกฤษแล้ว หลังจากคุยกันซักพัก
ผมก็เตรียมตัวจะไปเที่ยวจุดหมายที่เรามาเมืองนี้นั้นคืออุทยาน Stolby ซึ่งเป็นป่าไซบีเรียและมีหินผาเป็นรูปต่างๆมากมาย โดยMax จะอาสาขับรถไปส่งที่อุทยาน แต่ตอนกลับผมต้องหาทางขึ้นรถเมล์กลับมาเอง โดย Katerina ได้เขียนวิธีเดินทางกลับใส่กระดาษและเตรียมน้ำชาร้อนใส่กระติกให้เป็นเสบียงในการไปเดินเล่นที่อุทยานนี้ พอจะออกปุปหิมะตกอีกแล้ว และถ้าจะหนักด้วย Max เลยบอกว่าไปส่งเสร็จเดียวเขาต้องไปเอายางติดโซ่แล้ว และเนื่องจากหิมะตกหนักมากทำให้ max ไม่สามารถไปส่งที่ด้านในได้จึงส่งที่ทางเขาอุทยานและเราต้องเดินเข้าไปแทน ระยะไม่ไกลเท่าไหร่หรอก แค่ 6 กิโล แล้วจะถึงทางเข้าอุทยาน
เพื่อนตัวน้อยระหว่างเดินครับ
ระหว่างเดินก็ถ่ายนู้นนี้นั้นไปเลยครับ
ในอุทยานนี้จะมีพวกหินแบบนี้อยู่ๆหลายๆอัน แต่ละอันจะมีชื่อเรียกด้วยครับบางอันก็ หินปู่ หินพ่อ หินแม่ ไรงี้
และทีสำคัญจุดชมวิวป่าไซบีเรียก็ต้องขึ้นไปดูบนหินพวกนี้แหละครับซึ่งรูปที่ได้ก็ สุดยอดด ได้มาเห็นวิวป่าไซบีเรียแบบพาโนราม่า
ช่วงนี้เป็น low season แทบไม่มีคนเลยครับเดินไปเสียวแทนแทบไม่มีคนเลย หิมะก็ตกอีก เดินไปเดินมาเห็นรอยเท้าหมา เราก็อ้าวหมาไรวะ หมาป่าปะว้า เสียวดิ สุดท้ายก็ออกมาได้อย่างปลอดภัยครับ วันนิเดินไปๆมาๆรวมๆ 20 โลแน่ะ
นกอะไรไม่รู้ไม่กลัวคนเลย นี้ถ่ายห่างไม่ถึง 2 เมตรนะเนี่ย
ขาออกเดินตามเด็กน้อย 3 คนนี้เห็นเด็กๆเดินไปแกล้งกันไปรู้สึกอยากกลับไปเป็นเด็กชะมัด
ขากลับเดินออกมาหาป้ายรถเมล์ ยื่นกระดาษที่ Katerina เขียนให้กระเป๋ารถดูแล้วส่งภาษาใบ้ให้เขาบอกด้วยว่าถึง แต่พอมาถึงดันหาตึกของ max ไม่เจอ คืออพาทเมนต์ที่นี้จะอารมณ์ตึกสมัยคอมมิวนิสต์ครับ ตึกๆคล้ายๆกันหมด แล้วรัสเซียก็มีแต่ภาษารัสเซีย งงดิ ต้องเฟสให้ max ลงมารับ ไม่งั้นไม่ได้กลับครับ
คืนนี้ก็เอาพวกอาหารไทยสำเร็จรูป เปิดกินกัน ทั้งคู่กินเผ็ดเก่งมาก เลยให้น้ำพริกแก่ทั้งคู่ไป
อีกวันตอนเช้า max ก็มาส่งสถานีรถไฟครับ
ก็รอรถไฟออกตอนเที่ยงและ เราจะเดินทางไปต่อเมือง Irkutsk กันเพื่อไปทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลกครับ ทะเลสาบ Bikal กันต่อ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น