สวัสดีค่าาาาาา เราเอง จำได้ไหมนะ
เจ้าของกระทู้ปล่อยเบลอ ที่วันนี้ไม่ได้จะพาไปผจญภัยที่ไหน
แต่จะพาพวกเธอ มาปล่อยเบลอที่คาเฟ่สัตว์แปลก ย่านสาธุประดิษฐ์
คาเฟ่ที่มีสัตว์แปลกๆ มากหน้าหลายตา ที่เราไม่เคยเห็น ไม่เคยสัมผัส อับดุล เอ้ยยย ม่ายช่ายยยย
เราเห็นคาเฟ่นี้ จากกระทู้รีวิวในพันทิปเนี่ยแหละค่ะ
ก็กดเข้าไปอ่านตามปกติ เพราะเป็นคนชอบสัตว์อยู่แล้ว
พออ่านๆไป ดูๆรูปๆไป เฮ้ยยยย น่าสนใจว่ะ มีสัตว์ที่เราไม่เคยเห็น
ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยได้จับ ขอสัมผัสได้ไหมจ๊ะ อย่าทำทะลึ่ง baby
ปกติไม่ใช่สายกาแฟ แต่ที่นี่มีสัตว์แปลก อาหาร และขนมหวานด้วย
ไกลแค่ไหน เราก็เลยไปค่ะ
เราไปที่นี่มา 2 ครั้งแล้ว ครั้งแรกไปเพราะรีวิวในพันทิป
ครั้งที่ 2 มีโอกาสไปเพราะมีถ่ายรายการที่ร้าน
วันนี้นอนเปื่อยๆ เพราะฝนตก เลื่อนมือถือดูรูปไปมา เจอพอดี
เอาวะ ไหนๆก็กลิ้งว่างๆ มาเขียนรีวิวคาเฟ่ดูบ้าง ไม่เคยเขียนเลย
ผิดพลาดประการได้ ขออภัยด้วยนะคะ
ครั้งแรกที่เราไป เพราะรุ่นพี่มาจากเชียงใหม่ ว่างพอดี
และเขาก็ชอบสัตว์ค่ะ บ้านเลี้ยงสุนัขหลายตัว
เราเลยชวนเขาไป the animal cafe เพราะเพิ่งอ่านกระทู้ก่อนหน้าที่เข้ามาไม่กี่วัน
พี่เขาก็ใจง่าย เออออห่อหมกไปตามเรา
การเดินทางก็ง่ายๆค่ะ สำหรับคนเดินทางด้วยรถโดยสารนะคะ
เราเลือกเดินทางด้วย BTS ค่ะ ลงถานีช่องนนทรีค่ะ
แล้วก็ต่อ taxi บอกพี่คนขับว่า ไปสาธุประดิษฐ์ ซอย 19 ค่ะ (นราธิวาส 24)
ร้านอยู่กลางๆซอยค่ะ หาไม่ยาก ป้ายเด่นเป็นสง่า
เมื่อเดินเข้ามาในร้าน เราก็จะเจอเค้าเตอร์ และโต๊ะ4-5 ตัวค่ะ
เข้ามาแล้วรู้สึกว่าเล็กสักหน่อย มีห้องอยู่ด้านซ้ายมือ เป็นห้องที่มีสัตว์แปลกค่ะ
พอน้องพนักงานเห็นเรา เขาก็เชิญชวนให้ขึ้นไปชั้น 2
เราก็งอแงจะอยู่ชั้นล่างให้ได้ เพราะเห็นห้องที่เลี้ยงสัตว์แล้ว
แต่น้องพนักงานก็ยังไม่ลดความพยายาม ชักชวนเราไปชั้น 2 ให้ได้
พร้อมบอกว่า ข้างบนมีสัตว์เยอะกว่านะคะคุณลูกค้า
ได้ยินดังนั้น ก็ตาลุกวาว เป็นนกฮูกตาโต เหมือนเจ้าตัวที่อยู่ในร้านเลยแหละค่ะ

เจ้าตัวนี้ชื่อ เฮ็ดวิกค่ะ สามารถจับได้ ลูบได้ แต่อย่าเอานิ้วแหย่ปาก ฮ่าๆ
เดี๋ยวโดนงับ จะหาว่าไม่เตือนนะคะ น้องอยู่ชั้น 1 ค่ะ ลูบจับได้เฉพาะที่ศีรษะนะคะ
(ก่อนสัมผัสสัตว์ทุกครั้ง อย่าลืมล้างมือก่อนด้วยนะคะ ปกป้องกันไว้ก่อน)
เอาล่ะค่ะ เมื่อรู้ว่าชั้น 2 มีสัตว์เยอะกว่า
เราก็เดินตัวลอยตามน้องพนักงานไปอย่างว่านอนสอนง่าย
โอ๊ะ ขึ้นมาชั้น 2 จากที่คิดว่า ร้านแคบและเล็ก ต้องเปลี่ยนใจใหม่เลยแหละค่ะ
ชั้น2 เนี่ย มีโซนหญ้าเทียม มี bean bag ให้นั่งเล่นได้
จะอยู่ข้างๆกับห้องของน้องแมวคาราคัล (เราเรียกว่าแมวปีศาจ ฮ่าๆ)
และก็มีโซนที่เป็นโต๊ะ ให้เลือกนั่งได้เลยค่ะ มองเห็นน้องแมวคาราคัลเหมือนกัน

มองหาทำเลที่ตั้งได้ และคิดว่าตรงนี้น่าจะดีที่สุด (มีปลั๊ก แบตมือถือจะหมดด)
เราก็นั่งลง และเริ่มสั่งอาหารค่ะ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง
ท้องอิ่มก่อน ค่อยออกรบต่อกรกับเจ้าสัตว์พวกนี้

ไก่เขย่าค่ะ เป็นไก่ทอด แล้วก็จะมีให้เราเลือกผงโรยนะคะ ปาปริก้า บาบีคิว บลาบลาบลา
เป็นเมนูอาหารทานเล่นค่ะ เคี้ยวเพลินมาก จนสั่งจานที่สอง <<แนะนำ เราชอบ ฮ่าๆ

สลัดแซลมอนค่ะ ผักสดมากๆ น้ำสลัดน่าจะเป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน
ทานกับแซลมอน และผักสดๆ คือดีงามพระรามเก้ามากค่ะ

ปีกไก่ทอดค่ะ ทานตอนเสิร์ฟใหม่ๆ อร่อยมากๆ น้ำซอสชุ่มๆ (พิมพ์ไปหิวไป)

สปาเกตตี้เบคอน พริกแห้ง เหมาะสำหรับคนชอบทานเผ็ดนะคะ
เพราะรสชาติค่อนข้างจัดค่ะ
ส่วนเครื่องดื่ม เราสั่งเป็นน้ำมะม่วงปั่นค่ะ (รูปไม่ชัด อดลงเลย)

จุดจบของความอร่อยก็มีสภาพเป็นเช่นนี้แล (ทานกันสองคน ฮี่ๆ มีพุงตามมาหน่อยๆ)
อย่าลืมไก่เขย่านะคะ เราชอบบบบบ
เมื่อทานอาหารกันจนพุงกางแล้ว เราก็มาทำความรู้จักน้องๆในร้านกันค่ะ

ตรงมุมสุดของโซนโต๊ะ จะมีตู้กุ้ง กับกบอาร์เจนติน่าค่ะ

กบอาร์เจนติน่าค่ะ ชื่อน้องซูโม่ จุ๊บแล้วจะกลายเป็นเจ้าชายไหมนะ

ไม่รู้ว่าเรียกกุ้งอะไร แต่จะเป็นกุ้งสีล้วนค่ะ มีสีขาว น้ำเงิน แล้วก็แดง
แต่น้องกุ้ง ออกมาอวดโชว์โฉมแค่ตัวสีขาว และสีน้ำเงินเท่านั้นค่ะ
ส่วนทางเข้าประตูมา จะเป็นตู้น้องปูค่ะ

ส้มอะไร มีกระดอง?? เฉลยยย ส้มตำปู คือเห็นปูแล้วอยากทานส้มตำกันเลยทีเดียว
เป็นตาแซ่บแทะ

ตัวชินชิล่าค่ะ สัตว์ชนิดนี้จะไม่มีหมัด เห็บเลยนะคะ เพราะเป็นสัตว์ที่ขนละเอียดที่สุดในโลก
เขาจะนอนตอนกลางวัน และตื่นมาเล่นในเวลากลางคืนค่ะ
อีกมุมของโซนสนามหญ้าเทียม จะมีอีก 1 ตู้ค่ะ

เป็นตู้ของตัวซาลาแมนเดอร์ หรือหมาน้ำค่ะ มี2 ตัว
แต่เราเจอแค่ตัวเดียว อีกตัวนางขี้อาย ไม่ยอมออกมาคุยกันเลย

มีปูเสฉวนด้วยนะคะ เห็นแล้วก็คิดถึงทะเล
เดินชมสัตว์เพลิน ฟังพี่เจ้าของร้านอธิบายสัตว์แต่ละชนิดให้ฟัง ก็สนุกดีค่ะ
ได้ความรู้ใหม่ๆ ด้วย (ถ้าโชคดี ก็จะเจอพี่เจ้าของ เขาใจดีค่ะ ค่อยอธิบายให้ฟัง)
เราเดินดู และถ่ายรูปสักพัก ก็คิดขึ้นมาได้ ยังไม่ได้ทานของหวานเลยยยย ได้ไงๆ
อย่ารอช้าค่ะ ขอเมนูอีกที อะไรดีนะ สุดท้ายเราก็สั่งเค้กส้มค่ะ

เค้กส้มอร่อยค่ะ มีกลิ่นและรสของส้ม ไม่หวานเกินไป แต่มีข้อเสียตรงที่เล็กเกินไปหน่อย ฮ่าๆ
ทานเค้กส้มเสร็จ ก็มาล้างมือ เตรียมเข้าไปเล่นกับแมวปีศาจ หน้าตาประหลาด

ห้องของแมวคาราคัลค่ะ ก่อนเข้าต้องล้างมือ และแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนนะคะ
ห้ามเปิดเองเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยของสัตว์ และตัวเราเอง เจ้าหน้าที่จะเป็นคนพาเข้าไปค่ะ

แมวคาราคัล มี2 ตัวค่ะ ชื่อหัวหอม กับผักกาด สามารถอุ้มได้นะคะ
แต่น้องตัวค่อนข้างใหญ่และหนัก คนที่จะอุ้ม น่าจะต้องแรงเยอะหน่อย
พี่เจ้าของร้านบอกว่า เราต้องอุ้มแล้วน้องแมวเชื่อมั่นได้ว่า เราจะไม่ทำเข้าหล่น
ไม่งั้นเขาจะดีดตัวออกจากอ้อมกอดเราค่ะ

เป็นแมว จำเป็นต้องหล่อขนาดนี้ไหมคะ ลูก จะเท่ไปไหนเนี่ย
ดูแมวเท่ๆ ไปแล้ว เราก็มาเล่นกับแมวหน้าตากวนบาทากันบ้าง

น้องแมวซอมบี้ หน้าตาน่าโดนกัดมาก อยากกัดแมววว

เฮ้ย เจ้าเหมียวซอมบี้ ช่วยให้ความร่วมมือกับเราหน่อยได้เปล่า มองกล้องหน่อยจิ

ถ้าซอมบี้พูดได้ ซอมบี้คงบอกเราว่า นางทาสฉันรำคาญแก หยุดถ่ายรูปฉันใกล้ๆได้แล้ว หน้าฉันจะบานนนน

ลงมาชั้นล่างกันค่ะ มีนกฮูกอยู่ 2 ตัว มีชุดคลุมให้ใส่ด้วยนะเธอ
ให้อารมณ์เหมือนกำลังท่องอยู่ในโลกเวทมนตร์
นอกจากผ้าคลุม ยังมีเสื้อกั๊ก แว่นตา ไม้กายสิทธิ์ด้วยนะคะ เอ็กซ์เปกโต พาโตรนุมมมม

เจ้าเฮ็ดวิก

ที่ร้าน เขามีนกฮูก 2 ตัวนะคะ ตัวเล็กกับตัวใหญ่ เจ้าตัวเล็กชื่อแฮร์รี่
แฮร์รี่ นอนแทบจะตลอดเวลา ก็นกฮูกเป็นสัตว์กลางคืนนี่เนอะ
ถ้าเขาหลับก็อย่าไปปลุกเขาเชียวนะคะ อารมณ์คงเหมือนตอนเราหลับน่ะแหละ
มาถึงสัตว์ตัวสุดท้าย เจ้าเมาคลี

เมาคลีเป็นเฟนเน็คฟ็อกซ์ค่ะ สุนัขจิ้งจอกที่เล็กที่สุดในโลก
เจ้าเมาคลีเนี่ย ซนสุดๆเลยค่ะ ถ้าเขาออกมานอกกรง เขาจะวิ่งๆ
กระโดดๆ วิ่งๆ กระโดดๆ ทำทีเข้ามาหยอก แล้วก็วิ่งหนี น่าหมั่นเขี้ยวสุดๆเลย

กว่าจะได้รูปกับนาง ก็เล่นเอาวิ่งตามจนเหนื่อย พอหยุดตาม นางก็วิ่งเข้ามาหาเอง
ก็เลยได้รูปคู่มา เนี่ยแหละค่ะ
ใครสนใจ ก็แวะไปทานอาหาร ไปเล่นไปถ่ายรูปกับน้องๆได้นะคะ
แต่อย่าลืมเน้อ ธุรกิจเขาจะอยู่ได้ ถ้าเราช่วยกันอุดหนุน วันที่เราไปแอบเห็นคนกลุ่มหนึ่ง
มากัน 4-5 คน สั่งเครื่องดื่ม 2 แก้ว แต่เข้าไปถ่ายรูปกับสัตว์ทุกคน อุ้มทุกตัวที่อุ้มได้
ผิดไหม ก็คงไม่ผิดหรอกค่ะ แต่เราคิดว่าควรจะเห็นใจเจ้าของนิดนึง คนละแก้วก็ยังดี
ปล.เราตามเพจร้านอยู่รู้สึกว่าตอนนี้ มีน้องๆมาเยอะมากขึ้นนะ มีสัตว์เยอะกว่าตอนที่เราไป
https://www.facebook.com/theanimalcafethailand/

น้องแรคคูณ ชื่อน้องรักคุณ ฮ่าๆ เข้าใจตั้งชื่อเนอะ

นี่พี่เจ้าของร้าน ที่คอยแนะนำอธิบายเรื่องน้องๆในร้านค่ะ
(แอบขโมยรูปมาจากเพจ ขออนุญาตด้วยนะคะ ถ้าว่างจะไปหยอกน้องรักคุณ)
ร้านเปิด 11:00 - 22:00 น. นะคะ
ปล.สัตว์เหล่านี้ นำเข้าจากต่างประเทศ มีเอกสารนำเข้าทุกตัวนะคะ ไม่ผิดกฎหมาย
[CR] มาฟินมากิน กับอาหารและสัตว์น่ารักๆ ที่ the animal cafe
เจ้าของกระทู้ปล่อยเบลอ ที่วันนี้ไม่ได้จะพาไปผจญภัยที่ไหน
แต่จะพาพวกเธอ มาปล่อยเบลอที่คาเฟ่สัตว์แปลก ย่านสาธุประดิษฐ์
คาเฟ่ที่มีสัตว์แปลกๆ มากหน้าหลายตา ที่เราไม่เคยเห็น ไม่เคยสัมผัส อับดุล เอ้ยยย ม่ายช่ายยยย
เราเห็นคาเฟ่นี้ จากกระทู้รีวิวในพันทิปเนี่ยแหละค่ะ
ก็กดเข้าไปอ่านตามปกติ เพราะเป็นคนชอบสัตว์อยู่แล้ว
พออ่านๆไป ดูๆรูปๆไป เฮ้ยยยย น่าสนใจว่ะ มีสัตว์ที่เราไม่เคยเห็น
ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยได้จับ ขอสัมผัสได้ไหมจ๊ะ อย่าทำทะลึ่ง baby
ปกติไม่ใช่สายกาแฟ แต่ที่นี่มีสัตว์แปลก อาหาร และขนมหวานด้วย
ไกลแค่ไหน เราก็เลยไปค่ะ
เราไปที่นี่มา 2 ครั้งแล้ว ครั้งแรกไปเพราะรีวิวในพันทิป
ครั้งที่ 2 มีโอกาสไปเพราะมีถ่ายรายการที่ร้าน
วันนี้นอนเปื่อยๆ เพราะฝนตก เลื่อนมือถือดูรูปไปมา เจอพอดี
เอาวะ ไหนๆก็กลิ้งว่างๆ มาเขียนรีวิวคาเฟ่ดูบ้าง ไม่เคยเขียนเลย
ผิดพลาดประการได้ ขออภัยด้วยนะคะ
ครั้งแรกที่เราไป เพราะรุ่นพี่มาจากเชียงใหม่ ว่างพอดี
และเขาก็ชอบสัตว์ค่ะ บ้านเลี้ยงสุนัขหลายตัว
เราเลยชวนเขาไป the animal cafe เพราะเพิ่งอ่านกระทู้ก่อนหน้าที่เข้ามาไม่กี่วัน
พี่เขาก็ใจง่าย เออออห่อหมกไปตามเรา
การเดินทางก็ง่ายๆค่ะ สำหรับคนเดินทางด้วยรถโดยสารนะคะ
เราเลือกเดินทางด้วย BTS ค่ะ ลงถานีช่องนนทรีค่ะ
แล้วก็ต่อ taxi บอกพี่คนขับว่า ไปสาธุประดิษฐ์ ซอย 19 ค่ะ (นราธิวาส 24)
ร้านอยู่กลางๆซอยค่ะ หาไม่ยาก ป้ายเด่นเป็นสง่า
เมื่อเดินเข้ามาในร้าน เราก็จะเจอเค้าเตอร์ และโต๊ะ4-5 ตัวค่ะ
เข้ามาแล้วรู้สึกว่าเล็กสักหน่อย มีห้องอยู่ด้านซ้ายมือ เป็นห้องที่มีสัตว์แปลกค่ะ
พอน้องพนักงานเห็นเรา เขาก็เชิญชวนให้ขึ้นไปชั้น 2
เราก็งอแงจะอยู่ชั้นล่างให้ได้ เพราะเห็นห้องที่เลี้ยงสัตว์แล้ว
แต่น้องพนักงานก็ยังไม่ลดความพยายาม ชักชวนเราไปชั้น 2 ให้ได้
พร้อมบอกว่า ข้างบนมีสัตว์เยอะกว่านะคะคุณลูกค้า
ได้ยินดังนั้น ก็ตาลุกวาว เป็นนกฮูกตาโต เหมือนเจ้าตัวที่อยู่ในร้านเลยแหละค่ะ
เจ้าตัวนี้ชื่อ เฮ็ดวิกค่ะ สามารถจับได้ ลูบได้ แต่อย่าเอานิ้วแหย่ปาก ฮ่าๆ
เดี๋ยวโดนงับ จะหาว่าไม่เตือนนะคะ น้องอยู่ชั้น 1 ค่ะ ลูบจับได้เฉพาะที่ศีรษะนะคะ
(ก่อนสัมผัสสัตว์ทุกครั้ง อย่าลืมล้างมือก่อนด้วยนะคะ ปกป้องกันไว้ก่อน)
เอาล่ะค่ะ เมื่อรู้ว่าชั้น 2 มีสัตว์เยอะกว่า
เราก็เดินตัวลอยตามน้องพนักงานไปอย่างว่านอนสอนง่าย
โอ๊ะ ขึ้นมาชั้น 2 จากที่คิดว่า ร้านแคบและเล็ก ต้องเปลี่ยนใจใหม่เลยแหละค่ะ
ชั้น2 เนี่ย มีโซนหญ้าเทียม มี bean bag ให้นั่งเล่นได้
จะอยู่ข้างๆกับห้องของน้องแมวคาราคัล (เราเรียกว่าแมวปีศาจ ฮ่าๆ)
และก็มีโซนที่เป็นโต๊ะ ให้เลือกนั่งได้เลยค่ะ มองเห็นน้องแมวคาราคัลเหมือนกัน
มองหาทำเลที่ตั้งได้ และคิดว่าตรงนี้น่าจะดีที่สุด (มีปลั๊ก แบตมือถือจะหมดด)
เราก็นั่งลง และเริ่มสั่งอาหารค่ะ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง
ท้องอิ่มก่อน ค่อยออกรบต่อกรกับเจ้าสัตว์พวกนี้
ไก่เขย่าค่ะ เป็นไก่ทอด แล้วก็จะมีให้เราเลือกผงโรยนะคะ ปาปริก้า บาบีคิว บลาบลาบลา
เป็นเมนูอาหารทานเล่นค่ะ เคี้ยวเพลินมาก จนสั่งจานที่สอง <<แนะนำ เราชอบ ฮ่าๆ
สลัดแซลมอนค่ะ ผักสดมากๆ น้ำสลัดน่าจะเป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน
ทานกับแซลมอน และผักสดๆ คือดีงามพระรามเก้ามากค่ะ
ปีกไก่ทอดค่ะ ทานตอนเสิร์ฟใหม่ๆ อร่อยมากๆ น้ำซอสชุ่มๆ (พิมพ์ไปหิวไป)
สปาเกตตี้เบคอน พริกแห้ง เหมาะสำหรับคนชอบทานเผ็ดนะคะ
เพราะรสชาติค่อนข้างจัดค่ะ
ส่วนเครื่องดื่ม เราสั่งเป็นน้ำมะม่วงปั่นค่ะ (รูปไม่ชัด อดลงเลย)
จุดจบของความอร่อยก็มีสภาพเป็นเช่นนี้แล (ทานกันสองคน ฮี่ๆ มีพุงตามมาหน่อยๆ)
อย่าลืมไก่เขย่านะคะ เราชอบบบบบ
เมื่อทานอาหารกันจนพุงกางแล้ว เราก็มาทำความรู้จักน้องๆในร้านกันค่ะ
ตรงมุมสุดของโซนโต๊ะ จะมีตู้กุ้ง กับกบอาร์เจนติน่าค่ะ
กบอาร์เจนติน่าค่ะ ชื่อน้องซูโม่ จุ๊บแล้วจะกลายเป็นเจ้าชายไหมนะ
ไม่รู้ว่าเรียกกุ้งอะไร แต่จะเป็นกุ้งสีล้วนค่ะ มีสีขาว น้ำเงิน แล้วก็แดง
แต่น้องกุ้ง ออกมาอวดโชว์โฉมแค่ตัวสีขาว และสีน้ำเงินเท่านั้นค่ะ
ส่วนทางเข้าประตูมา จะเป็นตู้น้องปูค่ะ
ส้มอะไร มีกระดอง?? เฉลยยย ส้มตำปู คือเห็นปูแล้วอยากทานส้มตำกันเลยทีเดียว
เป็นตาแซ่บแทะ
ตัวชินชิล่าค่ะ สัตว์ชนิดนี้จะไม่มีหมัด เห็บเลยนะคะ เพราะเป็นสัตว์ที่ขนละเอียดที่สุดในโลก
เขาจะนอนตอนกลางวัน และตื่นมาเล่นในเวลากลางคืนค่ะ
อีกมุมของโซนสนามหญ้าเทียม จะมีอีก 1 ตู้ค่ะ
เป็นตู้ของตัวซาลาแมนเดอร์ หรือหมาน้ำค่ะ มี2 ตัว
แต่เราเจอแค่ตัวเดียว อีกตัวนางขี้อาย ไม่ยอมออกมาคุยกันเลย
มีปูเสฉวนด้วยนะคะ เห็นแล้วก็คิดถึงทะเล
เดินชมสัตว์เพลิน ฟังพี่เจ้าของร้านอธิบายสัตว์แต่ละชนิดให้ฟัง ก็สนุกดีค่ะ
ได้ความรู้ใหม่ๆ ด้วย (ถ้าโชคดี ก็จะเจอพี่เจ้าของ เขาใจดีค่ะ ค่อยอธิบายให้ฟัง)
เราเดินดู และถ่ายรูปสักพัก ก็คิดขึ้นมาได้ ยังไม่ได้ทานของหวานเลยยยย ได้ไงๆ
อย่ารอช้าค่ะ ขอเมนูอีกที อะไรดีนะ สุดท้ายเราก็สั่งเค้กส้มค่ะ
เค้กส้มอร่อยค่ะ มีกลิ่นและรสของส้ม ไม่หวานเกินไป แต่มีข้อเสียตรงที่เล็กเกินไปหน่อย ฮ่าๆ
ทานเค้กส้มเสร็จ ก็มาล้างมือ เตรียมเข้าไปเล่นกับแมวปีศาจ หน้าตาประหลาด
ห้องของแมวคาราคัลค่ะ ก่อนเข้าต้องล้างมือ และแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนนะคะ
ห้ามเปิดเองเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยของสัตว์ และตัวเราเอง เจ้าหน้าที่จะเป็นคนพาเข้าไปค่ะ
แมวคาราคัล มี2 ตัวค่ะ ชื่อหัวหอม กับผักกาด สามารถอุ้มได้นะคะ
แต่น้องตัวค่อนข้างใหญ่และหนัก คนที่จะอุ้ม น่าจะต้องแรงเยอะหน่อย
พี่เจ้าของร้านบอกว่า เราต้องอุ้มแล้วน้องแมวเชื่อมั่นได้ว่า เราจะไม่ทำเข้าหล่น
ไม่งั้นเขาจะดีดตัวออกจากอ้อมกอดเราค่ะ
เป็นแมว จำเป็นต้องหล่อขนาดนี้ไหมคะ ลูก จะเท่ไปไหนเนี่ย
ดูแมวเท่ๆ ไปแล้ว เราก็มาเล่นกับแมวหน้าตากวนบาทากันบ้าง
น้องแมวซอมบี้ หน้าตาน่าโดนกัดมาก อยากกัดแมววว
เฮ้ย เจ้าเหมียวซอมบี้ ช่วยให้ความร่วมมือกับเราหน่อยได้เปล่า มองกล้องหน่อยจิ
ถ้าซอมบี้พูดได้ ซอมบี้คงบอกเราว่า นางทาสฉันรำคาญแก หยุดถ่ายรูปฉันใกล้ๆได้แล้ว หน้าฉันจะบานนนน
ลงมาชั้นล่างกันค่ะ มีนกฮูกอยู่ 2 ตัว มีชุดคลุมให้ใส่ด้วยนะเธอ
ให้อารมณ์เหมือนกำลังท่องอยู่ในโลกเวทมนตร์
นอกจากผ้าคลุม ยังมีเสื้อกั๊ก แว่นตา ไม้กายสิทธิ์ด้วยนะคะ เอ็กซ์เปกโต พาโตรนุมมมม
เจ้าเฮ็ดวิก
ที่ร้าน เขามีนกฮูก 2 ตัวนะคะ ตัวเล็กกับตัวใหญ่ เจ้าตัวเล็กชื่อแฮร์รี่
แฮร์รี่ นอนแทบจะตลอดเวลา ก็นกฮูกเป็นสัตว์กลางคืนนี่เนอะ
ถ้าเขาหลับก็อย่าไปปลุกเขาเชียวนะคะ อารมณ์คงเหมือนตอนเราหลับน่ะแหละ
มาถึงสัตว์ตัวสุดท้าย เจ้าเมาคลี
เมาคลีเป็นเฟนเน็คฟ็อกซ์ค่ะ สุนัขจิ้งจอกที่เล็กที่สุดในโลก
เจ้าเมาคลีเนี่ย ซนสุดๆเลยค่ะ ถ้าเขาออกมานอกกรง เขาจะวิ่งๆ
กระโดดๆ วิ่งๆ กระโดดๆ ทำทีเข้ามาหยอก แล้วก็วิ่งหนี น่าหมั่นเขี้ยวสุดๆเลย
กว่าจะได้รูปกับนาง ก็เล่นเอาวิ่งตามจนเหนื่อย พอหยุดตาม นางก็วิ่งเข้ามาหาเอง
ก็เลยได้รูปคู่มา เนี่ยแหละค่ะ
ใครสนใจ ก็แวะไปทานอาหาร ไปเล่นไปถ่ายรูปกับน้องๆได้นะคะ
แต่อย่าลืมเน้อ ธุรกิจเขาจะอยู่ได้ ถ้าเราช่วยกันอุดหนุน วันที่เราไปแอบเห็นคนกลุ่มหนึ่ง
มากัน 4-5 คน สั่งเครื่องดื่ม 2 แก้ว แต่เข้าไปถ่ายรูปกับสัตว์ทุกคน อุ้มทุกตัวที่อุ้มได้
ผิดไหม ก็คงไม่ผิดหรอกค่ะ แต่เราคิดว่าควรจะเห็นใจเจ้าของนิดนึง คนละแก้วก็ยังดี
ปล.เราตามเพจร้านอยู่รู้สึกว่าตอนนี้ มีน้องๆมาเยอะมากขึ้นนะ มีสัตว์เยอะกว่าตอนที่เราไป
https://www.facebook.com/theanimalcafethailand/
น้องแรคคูณ ชื่อน้องรักคุณ ฮ่าๆ เข้าใจตั้งชื่อเนอะ
นี่พี่เจ้าของร้าน ที่คอยแนะนำอธิบายเรื่องน้องๆในร้านค่ะ
(แอบขโมยรูปมาจากเพจ ขออนุญาตด้วยนะคะ ถ้าว่างจะไปหยอกน้องรักคุณ)
ร้านเปิด 11:00 - 22:00 น. นะคะ
ปล.สัตว์เหล่านี้ นำเข้าจากต่างประเทศ มีเอกสารนำเข้าทุกตัวนะคะ ไม่ผิดกฎหมาย