ผมไปรับซอมบี้มาเมื่อมิถุนาย 2553 ที่เจเจ ซอมบี้นอนหมอบอยู่ในกะบะขายเม่นแคระเงียบๆ ขณะที่ตัวอื่นวิ่งเล่นกันสนุกสนาน แต่ผมกลับถูกชะตายัยนู๋ตัวนี้จริงๆ
บ้านหลังแรกยัยนู๋ซอมบี้
ตอนอายุ 3 เดือน
ซอมบี้เป็นสมาชิกตัวแรกในบ้านผม ตอนเอามาวันแรกเขาเดินขาเป๋ๆ ผมก็งง เกิดอะไรขึ้น นึกว่าเขาพิการ แต่อยู่ไปสักระยะ เขาเริ่มวิ่งปรู๊ดปร๊าด ในห้อง( ผมเลี้ยงแบบปล่อย มีบ้านให้เขาเอาไว้นอน กลางคืนก็ปล่อยวิ่งเล่น) แต่ก็มาเข้าใจว่าตอนเอาซอมบี้ใส่กล่องมาจากร้าน แล้วผมขับมอไซค์ อาจจะกระเทือนจนทำให้เท้าเขาแพลง
ซอมบี้อยู่ไปสักระยะผมก็ไปรับเจ้าซูโม่มาเป็นแฟน เขาก็อยู่ด้วยกันตลอด จนมีเด็กๆหลายครอกมาก จนหลังๆผมจับแยก เพราะกลัวซอมบี้จะโทรมซะก่อน
ครอบครัวยัยซอมบี้ (หมวยน้อยก็ตายไปเพราะมะเร็งที่ปาก น้องๆก็แยกย้ายไปบ้านอื่นหมดแล้ว ตอนนี้เหลือแค่เจ้าซูโม่)
แต่วันนึงเมื่อปลายปีที่แล้วเจ้าซูโม่ปีนข้ามที่กั้นมาผสมกับซอมบี้อีกครั้ง แล้วซอมบี้ก็ท้องคลอดลูกออกมาตัวนึง แต่อวัยวะเพศซอมบี้บวมมาก แถมยังค่อยๆมีเนื้องอกที่ท้องออกมาอีก มีเลือดไหลเป็นระยะ จะพาไปหาหมอก็ไม่ได้เพราะซอมบี้ต้องให้นมลูก ถ้าเอายามากินลูกก็อาจจะมีปัญหาได้
กับสนามหญ้าส่วนตัวที่คอนโด
เลยต้องให้ซอมบี้ทนไปเป็นเดือน ผมก็ค่อยใส่ยา เช็ดแผลเขาตลอด จนคืนนึงเลือดซอมบี้ไหลเยอะมากจนผมทนดูไม่ไหวแล้ว ก็ตัดสินใจพาไปหาหมอ หมอบอกแค่อัวยะเพศอักสบให้ยามากิน (เป็นการเดาที่มักง่ายสุดๆ) ผมตัดสินใจป้อนยาซอมบี้ เพราะเขาเริ่มแย่แล้ว กินอะไรไม่ได้ นอนซมอย่างเดียว ประกอบกับลูกสาวเขาเริ่มหย่านมพอดี
พอลูกสาวซอมบี้โตมีคนมารับไปดูแลแล้วผมก็พาซอมบี้ไปหาหมอใหม่ เพราะแผลใหญ่ขึ้นมาก หมอท่านนี้ดูแล้วจับผ่าตัดเนื้องอกทันที หลังจากผ่าตัดซอมบี้เริ่มดีขึ้นกินอาหารได้ วิ่งเล่นได้
จนผ่านไปเดือนกว่าๆ ซอมบี้ฉี่ออกมาปนเลือดตลอด ผมก็งงทำไมเป็นอย่างนี้ไปได้ เลยตัดสินใจพาไปหาหมออีกรอบ หมอเอาไปเอ็กซ์เรย์และบอกว่าอาจจะมีเนื้องอกในมดลูก จึงนัดวันผ่าตัดอีกครั้ง
แต่ผมติดงานไม่สามารถพาซอมบี้ไปผ่าตัดได้ และในขณะเดียวกัน ซอมบี้เริ่มมีเลือดไหลออกมามากขึ้นเรื่อยๆ บางครั้งเป็นเลือดสดๆเลย เขาก็หมดแรงจนเดินแทบไม่ไหว บางทีก็นอนกับเลือดที่ไหลออกมาจนเปื้อนตัวไปหมด...
ผมพาซอมบี้ไปหาหมออีกครั้ง หมอนัดผ่าตัดและบอกว่าอาจจะไม่รอดเพราะเขาอ่อนแอมาก ผมก็ตัดสินในให้ผ่าเพราะอยู่ไปอย่างนี้เขาก็คงไม่รอดแน่ๆ
ผมนั่งรอหน้าห้องผ่าตัดด้วยน้ำตานองหน้า เพราะรักเขามาก เขาทนสุดๆ เจ็บป่วยแค่ไหนก็ผ่านมาได้ตลอด....ผ่าตัดเสร็จหมอบอกว่าปลอดภัยแล้ว ไปรับเขาได้แล้ว ผมดีใจมากที่ซอมบี้ผ่านมาได้
ผมพาซอมบี้กลับมาบ้าน ป้อนหนอนแว๊กซ์ หนอนนกทุกอย่างที่เขาชอบ แรกก็ๆกินแต่สามสี่วันหลังผ่าตัดเริ่มเดินเป๋ไปเป๋มา อาหารก็กินน้อยลงเรื่อยๆ จนสองวันที่ผ่านมาซอมบี้เดินไม่ได้แล้ว ขาหลังไม่มีแรง จะกินอะไรก็ลำบากเพราะควบคุมขาไม่ได้ ผมก็ได้แต่เอาน้ำ เอาอาหารมาป้อนให้ ก็กินบ้างไม่กินบ้าง
จนเมื่อคืนผมกลับจากทำงานก็เห็นเขานอนลืมตาแป๋วอยู่ในที่นอนเขา อาหารก็เหมือนเดิมไม่กิน เหมือนไม่มีแรงเคี้ยว น้ำก็ไม่กินแล้ว ผมก็เลยเอามาอุ้ม แล้วก็นวดขาให้เขาเผื่อจะมีแรง เขาไม่ดิ้นไม่ขัดขืนอะไรนอนนิ่งให้ผมอุ้มแล้วก็นวดขาเขา
สักพักซอมบี้เริ่มสะบัดหัว แล้วอ้าปากเหมือนจะคายอะไรออกมา ผมสังเกตเห็นปากเขาเขียวไปหมด หายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ และบางทีก็ขอดตัวจนขนตั้ง ร้องเสียงอี๊ดๆ ตลอดๆ ผมก็ได้แต่ลูบหน้าลูบตาเขา พูดว่าทนไว้นะลูกพรุ่งนี้จะไปหาหมอกัน เขาก็เลิกดิ้น พูดไปน้ำตาไหลพรากๆ เพราะรู้สึกเขาเหมือนจะไปแล้ว
จนในที่สุดผมก็บอกว่าถ้าหนูทนไม่ไหวก็หลับไปนะ .... ซอมบี้เริ่มสะบัดหัวไปมาอีกครั้ง แล้วตะกายไปมา จากนั้นก็ขดตัวแล้วนิ่งไป
ผมก็กอดเขาไว้ให้อ้อมแขนตลอด ซอมบี้จากไปตาก็ยังไม่ปิด เขาเหมือนเจ็บปวดจนช๊อคไป ซึ่งผมก็ไม่รู้สาเหตุเลยว่าเขาจากไปเพราะอะไร แต่คิดว่าร่างกายเขาคงทนไม่ไหวแล้ว หลังจากผ่าตัดมา
เมื่อเช้าผมฝังซอมบี้ในสวนที่ทำงานผม ซึ่งก็เป็นที่ฝังลูกสาวเขา และลูกชายเขาที่จากไปก่อนหน้านี้ ถ้าเขารับรู้ได้
ผมอยากจะบอกว่า “ตอนซอมบี้อยู่ ผมมีความสุขที่สุด ที่ได้ดูแล ได้แกล้ง ได้พาเขาไปโน่นไปนี่….หลับให้สบายนะยัยนู๋”
ภาพสุดท้ายเมื่อคืนที่จากไปในอ้อมแขนผม
หลับให้สบายนะยัยนู๋ซอมบี้ ลูกสาวตัวโปรด....
บ้านหลังแรกยัยนู๋ซอมบี้
ตอนอายุ 3 เดือน
ซอมบี้เป็นสมาชิกตัวแรกในบ้านผม ตอนเอามาวันแรกเขาเดินขาเป๋ๆ ผมก็งง เกิดอะไรขึ้น นึกว่าเขาพิการ แต่อยู่ไปสักระยะ เขาเริ่มวิ่งปรู๊ดปร๊าด ในห้อง( ผมเลี้ยงแบบปล่อย มีบ้านให้เขาเอาไว้นอน กลางคืนก็ปล่อยวิ่งเล่น) แต่ก็มาเข้าใจว่าตอนเอาซอมบี้ใส่กล่องมาจากร้าน แล้วผมขับมอไซค์ อาจจะกระเทือนจนทำให้เท้าเขาแพลง
ซอมบี้อยู่ไปสักระยะผมก็ไปรับเจ้าซูโม่มาเป็นแฟน เขาก็อยู่ด้วยกันตลอด จนมีเด็กๆหลายครอกมาก จนหลังๆผมจับแยก เพราะกลัวซอมบี้จะโทรมซะก่อน
ครอบครัวยัยซอมบี้ (หมวยน้อยก็ตายไปเพราะมะเร็งที่ปาก น้องๆก็แยกย้ายไปบ้านอื่นหมดแล้ว ตอนนี้เหลือแค่เจ้าซูโม่)
แต่วันนึงเมื่อปลายปีที่แล้วเจ้าซูโม่ปีนข้ามที่กั้นมาผสมกับซอมบี้อีกครั้ง แล้วซอมบี้ก็ท้องคลอดลูกออกมาตัวนึง แต่อวัยวะเพศซอมบี้บวมมาก แถมยังค่อยๆมีเนื้องอกที่ท้องออกมาอีก มีเลือดไหลเป็นระยะ จะพาไปหาหมอก็ไม่ได้เพราะซอมบี้ต้องให้นมลูก ถ้าเอายามากินลูกก็อาจจะมีปัญหาได้
กับสนามหญ้าส่วนตัวที่คอนโด
เลยต้องให้ซอมบี้ทนไปเป็นเดือน ผมก็ค่อยใส่ยา เช็ดแผลเขาตลอด จนคืนนึงเลือดซอมบี้ไหลเยอะมากจนผมทนดูไม่ไหวแล้ว ก็ตัดสินใจพาไปหาหมอ หมอบอกแค่อัวยะเพศอักสบให้ยามากิน (เป็นการเดาที่มักง่ายสุดๆ) ผมตัดสินใจป้อนยาซอมบี้ เพราะเขาเริ่มแย่แล้ว กินอะไรไม่ได้ นอนซมอย่างเดียว ประกอบกับลูกสาวเขาเริ่มหย่านมพอดี
พอลูกสาวซอมบี้โตมีคนมารับไปดูแลแล้วผมก็พาซอมบี้ไปหาหมอใหม่ เพราะแผลใหญ่ขึ้นมาก หมอท่านนี้ดูแล้วจับผ่าตัดเนื้องอกทันที หลังจากผ่าตัดซอมบี้เริ่มดีขึ้นกินอาหารได้ วิ่งเล่นได้
จนผ่านไปเดือนกว่าๆ ซอมบี้ฉี่ออกมาปนเลือดตลอด ผมก็งงทำไมเป็นอย่างนี้ไปได้ เลยตัดสินใจพาไปหาหมออีกรอบ หมอเอาไปเอ็กซ์เรย์และบอกว่าอาจจะมีเนื้องอกในมดลูก จึงนัดวันผ่าตัดอีกครั้ง
แต่ผมติดงานไม่สามารถพาซอมบี้ไปผ่าตัดได้ และในขณะเดียวกัน ซอมบี้เริ่มมีเลือดไหลออกมามากขึ้นเรื่อยๆ บางครั้งเป็นเลือดสดๆเลย เขาก็หมดแรงจนเดินแทบไม่ไหว บางทีก็นอนกับเลือดที่ไหลออกมาจนเปื้อนตัวไปหมด...
ผมพาซอมบี้ไปหาหมออีกครั้ง หมอนัดผ่าตัดและบอกว่าอาจจะไม่รอดเพราะเขาอ่อนแอมาก ผมก็ตัดสินในให้ผ่าเพราะอยู่ไปอย่างนี้เขาก็คงไม่รอดแน่ๆ
ผมนั่งรอหน้าห้องผ่าตัดด้วยน้ำตานองหน้า เพราะรักเขามาก เขาทนสุดๆ เจ็บป่วยแค่ไหนก็ผ่านมาได้ตลอด....ผ่าตัดเสร็จหมอบอกว่าปลอดภัยแล้ว ไปรับเขาได้แล้ว ผมดีใจมากที่ซอมบี้ผ่านมาได้
ผมพาซอมบี้กลับมาบ้าน ป้อนหนอนแว๊กซ์ หนอนนกทุกอย่างที่เขาชอบ แรกก็ๆกินแต่สามสี่วันหลังผ่าตัดเริ่มเดินเป๋ไปเป๋มา อาหารก็กินน้อยลงเรื่อยๆ จนสองวันที่ผ่านมาซอมบี้เดินไม่ได้แล้ว ขาหลังไม่มีแรง จะกินอะไรก็ลำบากเพราะควบคุมขาไม่ได้ ผมก็ได้แต่เอาน้ำ เอาอาหารมาป้อนให้ ก็กินบ้างไม่กินบ้าง
จนเมื่อคืนผมกลับจากทำงานก็เห็นเขานอนลืมตาแป๋วอยู่ในที่นอนเขา อาหารก็เหมือนเดิมไม่กิน เหมือนไม่มีแรงเคี้ยว น้ำก็ไม่กินแล้ว ผมก็เลยเอามาอุ้ม แล้วก็นวดขาให้เขาเผื่อจะมีแรง เขาไม่ดิ้นไม่ขัดขืนอะไรนอนนิ่งให้ผมอุ้มแล้วก็นวดขาเขา
สักพักซอมบี้เริ่มสะบัดหัว แล้วอ้าปากเหมือนจะคายอะไรออกมา ผมสังเกตเห็นปากเขาเขียวไปหมด หายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ และบางทีก็ขอดตัวจนขนตั้ง ร้องเสียงอี๊ดๆ ตลอดๆ ผมก็ได้แต่ลูบหน้าลูบตาเขา พูดว่าทนไว้นะลูกพรุ่งนี้จะไปหาหมอกัน เขาก็เลิกดิ้น พูดไปน้ำตาไหลพรากๆ เพราะรู้สึกเขาเหมือนจะไปแล้ว
จนในที่สุดผมก็บอกว่าถ้าหนูทนไม่ไหวก็หลับไปนะ .... ซอมบี้เริ่มสะบัดหัวไปมาอีกครั้ง แล้วตะกายไปมา จากนั้นก็ขดตัวแล้วนิ่งไป
ผมก็กอดเขาไว้ให้อ้อมแขนตลอด ซอมบี้จากไปตาก็ยังไม่ปิด เขาเหมือนเจ็บปวดจนช๊อคไป ซึ่งผมก็ไม่รู้สาเหตุเลยว่าเขาจากไปเพราะอะไร แต่คิดว่าร่างกายเขาคงทนไม่ไหวแล้ว หลังจากผ่าตัดมา
เมื่อเช้าผมฝังซอมบี้ในสวนที่ทำงานผม ซึ่งก็เป็นที่ฝังลูกสาวเขา และลูกชายเขาที่จากไปก่อนหน้านี้ ถ้าเขารับรู้ได้
ผมอยากจะบอกว่า “ตอนซอมบี้อยู่ ผมมีความสุขที่สุด ที่ได้ดูแล ได้แกล้ง ได้พาเขาไปโน่นไปนี่….หลับให้สบายนะยัยนู๋”
ภาพสุดท้ายเมื่อคืนที่จากไปในอ้อมแขนผม