ประสบการณ์ "แมวหาย" กับสิ่งที่ยากจะหาคำอธิบาย

กระทู้สนทนา


การเลี้ยงแมวนั้น โดยเฉพาะเลี้ยงระบบปิด ผมเชื่อว่าท่านที่เลี้ยงคงกังวลกับเหตุการณ์ที่น้องแมวของท่านหลุดออกไปไม่ว่าสาเหตุใดก็ตาม .. แมวที่เลี้ยงในระบบปิดมาโดยตลอด มักขาดประสบการณ์โลกภายนอก ทั้งการเอาชีวิตรอด หรือการจดจำทางกลับบ้าน ไม่เหมือนกับแมวในระบบเปิด หรือกึ่งเปิดปิด

ผมเลี้ยงแมวมาทั้งชีวิต .. รอบปัจจุบันมีทั้งสิ้น 10 ตัว เลี้ยงในระบบปิดทั้งหมด ทั้งกลัวแมวไปรบกวนเพื่อนบ้าน และอันตรายจะเกิดกับน้องแมว

วันหนึ่งเหตุการณ์ที่ผมกลัวก็เกิด .. น้องแมวในภาพชื่อ "คาปู" แมวเพศเมียสีกระดองเต่า อายุราว 3 ปี ได้เผลอลอดช่องว่างกำแพงออกไปข้างนอกบ้าน ... เมื่อผมทราบจึงออกตามหา แต่ก็หาไม่พบ

บ้านผมเป็นหมู่บ้านจัดสรร มีหลายร้อยหลังคาเรือน แม้เป็นหมู่บ้านปิด แต่ก็มีสุนัขจร มีรถราวิ่งไปมา เจ้าคาปูของผมผู้ไม่มีประสบการณ์ในการออกนอกบ้านนั้น ทำให้ผมกังวลว่าเค้าจะไปอยู่ที่ไหน

การหาได้เริ่มตั้งแต่จุดที่คาปู หลุดออก หาตามพุ่มไม้ และขยายขอบเขตกว้างออกไปเรื่อย ๆ รวมถึงประกาศตามเวปหมู่บ้าน เดินสอบถามในหมู่บ้าน แต่ก็ไร้ร่องรอย

เวลาล่วงไปประมาณ 5 วัน .. ทุกวันมีฝนตกตลอด ยิ่งทำให้เรากังวลว่าน้องเค้าจะไปหลบที่ใด จะได้ทานอะไรบ้างไหม - -

ผมจึงพึ่งพิงที่พึ่งสุดท้ายคือ "สิ่งศักดิ์สิทธิ์" คืนนั้นผมสวดมนตร์ก่อนนอนเช่นเคย และได้พนมมือกล่าวว่า
........

"ข้าแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ เทวดาอารักษ์ ผีบ้านผีเรือน เจ้าที่เจ้าทาง รวมไปถึงดวงวิญญาณไร้รูปต่าง ๆ ที่รับฟังอยู่ในที่นี้ ช่วยดลบันดาลให้ข้าพเจ้าพบแมว เจ้าคาปู ที่หายออกไป หรือดลให้เจ้าคาปูกลับมาพบข้าพเจ้าด้วยเทอญ ..

.. หากกลับมาพบกัน ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศล ด้วยการไม่ทานเนื้อสัตว์ 30 วัน ให้ทั้งสิ้นทั้งปวง"

..........

แล้วผมก็เข้านอน

ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ... ผมยังไม่ลุกจากที่นอน แม่ของผมวิ่งตะโกนมาปลุกแต่เช้าว่า "คาปูกลับมาแล้ว" ... ถามความจากแม่ทราบว่า ตอนเช้าแม่ลงมาเปิดบ้าน พบเจ้าคาปูนั่งตัวเปียกรอหน้าประตูบ้าน

ผมลงไปกอดเจ้าคาปู และรักษาคำสัตย์ที่ให้ไว้ทันที

แต่เรื่องไม่จบแค่นั้นครับ .. ผมได้หาเฟอร์นิเจอร์มาอุดช่องว่างนั้นเป็นการชั่วคราวไว้ก่อน หลังจากทานมังฯ มาได้ประมาณ 10 วัน

ผมได้มีโอกาสเดินทางไปยังแถบที่ทำงานเก่า ที่ได้ย้ายมานานแล้ว และไปเจอร้านชาบู เจ้าประจำ จึงอดไม่ได้ทานเนื้อสัตว์ไปมื้อนึง ..

โดยนึกในใจว่า เดี๋ยวชดใช้ไม่ทานเนื้อสัตว์ให้ครบตามเวลา ....

เช้าวันรุ่งขึ้น ... เจ้าคาปูได้หายตัวไปอีกครั้ง !

ผมเริ่มค้นหาเช่นเดิม ตามหาเช่นเดิม แต่กลับไม่พบ ... แว๊บนั้น ผมนึกถึงการผิดคำสัตย์ที่ให้ไว้ จึงสวดมนตร์อีกครั้งและขออภัยถึงความผิดพลาดของผม และตั้งมั่นจะทำให้ครบตามเวลา แม้จะไม่พบเจ้าคาปูในครั้งนี้ก็ตาม

หลังจากนั้นร่วม 10 วัน ผมก็ยังไม่พบเจ้าคาปู .. ซึ่งผมก็ไม่ทานเนื้อสัตว์อีก และเฝ้ารอเผื่อเจ้าคาปูจะกลับมา

ต่อมา ... เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวาน

ผมกลับจากออกทริปปั่นจักรยาน ... ด้วยอารมณ์หิว และเหนื่อยสะสม อยากทานเนื้อสัตว์ขึ้นมา ผมได้เอื้อมไปหยิบเหรียญบาท และนั่งอธิษฐานในรถว่า

....

"ข้าแต่สิ่งศักดิ์สิทธิทั้งหลาย ที่เคยโปรดช่วยดลบันดาลให้เจ้าคาปูกลับมาเมื่อคราวที่แล้ว และคำสัตย์ของข้าพเจ้าที่จะไม่ทานเนื้อสัตว์ เพื่อมอบกุศลให้นั้น .. ครานี้ผมจะขออนุญาตทานเนื้อสัตว์ โดยหลังจากนั้ข้าพเจ้าก็จะทานมังฯ ให้ครบตามเวลาที่ตกลง รวมถึงจะทานมังต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ถ้าโอกาสอำนวย แม้ครบคำสัตย์แล้วก็ตาม ถ้าท่านเห็นอนุญาตให้ทานเนื้อสัตว์ได้ ให้เหรียญออกหัว ถ้าไม่ขอให้ออกก้อย แล้วข้าพเจ้าก็จักรักษาคำสัตย์ต่อไป"

.....

แล้วผมก็โยนเหรียญ .. เหรียญออก "ก้อย" ครับ

คืนนั้นผมก็ ทานแจ่วฮ้อน ใส่ผักล้วนตามคำสัตย์ที่ให้ไว้

คืนนั้นผมคิดว่าเหมือนบททดสอบบางอย่างที่เราเคยเอ่ยวาจาไว้ ว่าเราต้องรักษาคำพูดที่ให้ไว้ ถ้าเรารักษาคำพูดได้ คนที่รับปากเราก็จักรักษาคำพูดเช่นกัน แล้วผมก็หลับไป

เช้าวันนี้ .... แม่ตะโกนปลุกผมอีกครั้ง

พร้อมกับบอกว่า "คาปูกลับมาแล้ว"

คาปูกลับมาอีกครั้ง ยืนรอหน้าบ้านทั้งที่ตัวเปียกปอนเช่นเดิม

....

ถึงตรงนี้คงไม่สงสัยใช่ไหมครับว่าตอนนี้ ผมทานมังสวิรัติ อยู่หรือเปล่า ?

นี่คือความจริงที่เกิดขึ้นครับ ... วันนี้วันที่เจ้าคาปูกลับมายังบ้าน ทางที่ดีท่านที่เลี้ยงแมวระบบปิดหมั่นตรวจสอบหนทางที่แมวอาจหลุดไปได้ และป้องกันไว้ก่อนดีกว่าครับ

=^^=
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่