อ้างอิง
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9590000060812
----
ศาลปกครอง เตรียมส่งกลับ บันทึกข้อความร้องเรียน ขอให้ดีเอสไอระงับการใช้กฎหมายโดยมิชอบกล่าวหาพระสงฆ์ หลังตรวจสอบแล้วไม่เข้าข่ายเป็นคำฟ้องตามรูปแบบศาล
จากกรณีที่มีการส่งต่อข้อความ “ด่วนมาก ศาลปกครองรับเรื่อง วันพุธที่ 16 มิถุนายน 2559 เวลา 16.10 น. ยื่นฉุกเฉินต่อศาลปกครอง ขอความคุ้มครอง ขอโปรดระงับการใช้กฎหมายโดยทุจริตของ ทีม DSI และหน่วยงานของภาครัฐ ที่ทำงานร่วมกับ DSI รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวเนื่องที่ได้ร่วมกระทำการอ้างกฎหมายใช้กฎหมายสร้างข้อกล่าวหาให้กับพระสงฆ์ และสถาบันพระพุทธศาสนา ด้วยวิธีการอันผิดจริยธรรมที่ดีงาม....” และได้มีการลงหมายเลขโทรศัพท์ 02-141-0220 - 1 ให้ติดตามเรื่องร่วมขอความเป็นธรรมที่ฝ่ายความเคลื่อนไหวคดี สำนักงานศาลปกครองกลางนั้น
ล่าสุด วันที่ 17 มิ.ย. จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงของศาลปกครอง ปรากฏว่า มีการยื่นบันทึกข้อความลักษณะดังกล่าวต่อศาลจริง เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา แต่เมื่อฝ่ายรับฟ้องได้ตรวจสอบถ้อยคำ และรูปแบบการยื่นแล้ว พบว่า ไม่เป็นไปตามรูปแบบคำฟ้องที่จะยื่นในศาลปกครอง ที่ต้องมีเนื้อหาพอให้เข้าใจถึงพฤติการณ์การกระทำที่ให้เกิดความเสียหาย ตัวผู้ฟ้องและผู้ถูกฟ้อง คือใคร รวมทั้งคำขอท้ายฟ้อง
ศาลจึงจะส่งบันทึกข้อความของบุคคลดังกล่าวกลับไป พร้อมชี้แจงว่า ไม่อาจรับบันทึกนั้นไว้ได้ เพราะยังไม่เป็นคำฟ้อง หากประสงค์จะฟ้องเป็นคดี ให้ดำเนินการตามรูปแบบคำฟ้องของศาลปกครองใหม่
###ศาล ปค.ตีกลับคำร้องห้าม DSI กล่าวหาพระ เหตุไม่เข้าข่ายเป็นคำฟ้อง###
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9590000060812
----
ศาลปกครอง เตรียมส่งกลับ บันทึกข้อความร้องเรียน ขอให้ดีเอสไอระงับการใช้กฎหมายโดยมิชอบกล่าวหาพระสงฆ์ หลังตรวจสอบแล้วไม่เข้าข่ายเป็นคำฟ้องตามรูปแบบศาล
จากกรณีที่มีการส่งต่อข้อความ “ด่วนมาก ศาลปกครองรับเรื่อง วันพุธที่ 16 มิถุนายน 2559 เวลา 16.10 น. ยื่นฉุกเฉินต่อศาลปกครอง ขอความคุ้มครอง ขอโปรดระงับการใช้กฎหมายโดยทุจริตของ ทีม DSI และหน่วยงานของภาครัฐ ที่ทำงานร่วมกับ DSI รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวเนื่องที่ได้ร่วมกระทำการอ้างกฎหมายใช้กฎหมายสร้างข้อกล่าวหาให้กับพระสงฆ์ และสถาบันพระพุทธศาสนา ด้วยวิธีการอันผิดจริยธรรมที่ดีงาม....” และได้มีการลงหมายเลขโทรศัพท์ 02-141-0220 - 1 ให้ติดตามเรื่องร่วมขอความเป็นธรรมที่ฝ่ายความเคลื่อนไหวคดี สำนักงานศาลปกครองกลางนั้น
ล่าสุด วันที่ 17 มิ.ย. จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงของศาลปกครอง ปรากฏว่า มีการยื่นบันทึกข้อความลักษณะดังกล่าวต่อศาลจริง เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา แต่เมื่อฝ่ายรับฟ้องได้ตรวจสอบถ้อยคำ และรูปแบบการยื่นแล้ว พบว่า ไม่เป็นไปตามรูปแบบคำฟ้องที่จะยื่นในศาลปกครอง ที่ต้องมีเนื้อหาพอให้เข้าใจถึงพฤติการณ์การกระทำที่ให้เกิดความเสียหาย ตัวผู้ฟ้องและผู้ถูกฟ้อง คือใคร รวมทั้งคำขอท้ายฟ้อง
ศาลจึงจะส่งบันทึกข้อความของบุคคลดังกล่าวกลับไป พร้อมชี้แจงว่า ไม่อาจรับบันทึกนั้นไว้ได้ เพราะยังไม่เป็นคำฟ้อง หากประสงค์จะฟ้องเป็นคดี ให้ดำเนินการตามรูปแบบคำฟ้องของศาลปกครองใหม่