เรื่องเล่าของป๋องมีอยู่ว่าป๋องเริ่มต้นจากที่ป๋องได้รู้จักผู้หญิงคนหนึ่งเธอชื่อ เอ เธอไม่ใช่คนสวยเธอไม่ใช่คนเก่งแต่เธอเป็นคนรักพ่อแม่พี่และรักน้องในครอบครัวเธอมีกันสามคนพี่น้อง เธอเป็นคนกลาง เธอมีพี่สาวคนโต(โอ)และน้องชายคนเล็ก (นก) ป๋องได้รู้จักเอ ตอนนั้นเอพึ่งเรียนจบเข้ามาทำงานที่เดียวกับป๋องขณะนั้นเอเป็นน้องใหม่ป๋องเป็นรุ่นพี่ ทั้งสองก็ทำงานความรู้จักกันเรื่อยมา เริ่มสนิทกันมากขึ้น ต่อจากนั้นป๋องก็ไปส่งเธอที่บ้านครั้งแรกเจอพ่อของเอกำลังล้างรถหน้าบ้าน ก็ไม่กล้าลงไปเลยสวัสดีพ่อของเออยู่บนรถ ห้าๆๆก็เป็นครั้งแรก ต่อจากกันก็ไปบ่อยขึ้นเริ่มรู้จักแม่ ป๋องก็ชอบเอาหนังสือธรรมะไปฝากแม่ตามประสา เริ่มได้รู้จักกะพี่โอซึ่งเป็นพี่สาวของเอ มีหลายครั้งทะเลาะกับน้องชายและพี่สาวที่บ้านของเอก็จะมาเล่าให้ฟัง ป๋องก็ปลอบตามประสา การปลอบของป๋องอาจจะไม่เข้าข้างเธอสักทีเดียว ป๋องมักจะเจอคำถามจากเอตลอดว่าทำไมไม่เคยเข้าเอเลย แต่จริงๆจากใจทุกครั้งป๋องอยู่ข้างเธอตลอดมาจนทุกวันนี้ การกระทำของป๋องเพียงต้องการอยากให้เอเข้าใจความคิดอารมณ์ของน้องชายและพี่สาวในอีกด้านหนึ่งก็เท่านั้น
อยู่มาวันหนึ่งป๋องได้ทำความรู้จักน้องชายเอคนเล็กชื่อนก แต่ตัวไม่เล็กห้าๆๆชอบเตะบอลเป็นคนคุยสนุก ชอบสุ่มหัวอยู่กะเพื่อนได้ทั้งวัน เวลาเรียนก็ไปเรียนพอไม่ผ่านก็ไปซ่อมไปจนถึงวันทำโปรเจค เอกับป๋องก็เข้าไปช่วยหลายๆอย่างจนสอบโปรเจคผ่านและเรียนจบรับปริญญา พอถึงวันรับปริญญาป๋องก็อาสาถ่ายรูปให้นก จากนั้นก็งานบวชของนกป๋องก็อาสาถ่ายรูปจนญาติๆทางเอแซวว่าเป็นช่างกล้องประจำบ้านไปทำให้ป๋องสนิทกับนกและครอบครัวนี้มากขึ้น
จากนั้นนกก็หางานทำได้ไปทำบริษัทให้บริการอินเตอร์เน็ท(3BB) ออกไปเดินสายอินเตอร์เน็ทตามบ้านตัวดำปี้ เอก็เลยคุยกับป๋องมว่าเอานกมาทำงานที่เดียวกับเราทั้งคู่ด้วยไหม ป๋องก็เลยลองคุยกะหัวหน้าให้ แต่ในตอนนั้นวุฒิ ป.ตรียังไม่เปิดรับ มีแต่ ปวส. ตอนก็ตกลงกันว่าเข้ามาก่อนค่อยปรับที่หลัง ได้เข้ามาทำงานด้วยกันในตำแหน่งช่างอย่างน้อยไม่ต้องไปตากแดดตากลมไม่อันตรายด้วย ป๋องและเอก็ดู นกอยู่ห่างๆ นกก็เริ่มมีเพื่อนสนุกสนานตามประสา ช่วงนั้นนกก็เริ่มจีบสาวเธอคนนั้นชื่อ เดีร์ย พึ่งมาทำงานพร้อมกัน จบที่เดียวกันคณะเดียวกัน คนละสาขาสมัยเรียนทั้งคู่ไม่เคยรู้จักกันไม่เคยเห็นกันมาก่อนพึ่งมาเจอกันมาเจอกันรู้จักกันที่ทำงาน ป๋องกับเอก็ดูๆนกกะเดีร์ยคบกันปีแรกๆก็ทะเลาะคบๆเลิกๆ จนตอนนั้น ป๋อง เริ่มไม่ชอบเดีร์ยเลยสงสัยว่ามาหลอกนกแน่ๆเพราะนกเคยเล่าให้ฟังว่าเดีร์ยอารมณ์เวี่ยงนางแรงมาก ป๋องก็คุยกับเอว่าเดียวมันก็เลิกกัน แต่ก็ผ่านมาได้ระยะหนึ่ง นกก็พาเดีร์ยมาแนะนำให้ป๋องและเอได้รู้จัก ขณะนั้นใจจริงลึกตอนนั้นยังคิดเลยว่าเดีร์ยมันจะรักนกน้องเราจริงๆหรอ..ตอนนั้นป๋องคุยกะเอ และเอก็บอกว่าดูๆกันไป เพราะตอนนั้นก็สังเกตุสองคนแตกต่างกัน เดีร์ยกิจกรรมเยอะเพื่อนเลยเยอะ สังสรรค์บ่อย แต่นกติดดินบ้านๆชอบเตะบอล แต่ก็คอยไปรับไปส่งจนต้องทะเลาะกะทางบ้านบ่อย
จากนั้นป๋องก็เริ่มสืบเดีร์ยว่าเป็นคนยังงั้ยแบบไหน จนได้รู้ว่าเดีร์ยเป็นลูกสาวคนเดียวอยู่กับพ่อแม่ พ่อก็นานๆกลับบ้านทีไปขับรถส่งของ เดือนหนึ่งจะกลับสักสองสามครั้ง ป๋องก็เริ่มสืบไปทางเฟสบุค ก็คุยกันถามตั้งแต่เรียนมีแฟนกี่คนทำไมเลิกกัน และสุดท้ายทำไมมารักนก เดีร์ยบอกว่านกอยู่ข้างๆเขามาตลอดตอนที่เขาทุกข์ที่สุด นกเป็นคนคุยสนุก ทำให้ยิ้มได้เวลาได้คุยกับนกคุยได้ทั้งวันไม่เบื่อ เดีร์ยทำให้ ป๋องรู้และเชื่อว่าเดีร์ยรักนกจริงๆ แต่ทั้งสองก็เริ่มทะเลาะกันบ้าง ดีกันบ้างเวลาทะเลาะป๋องกับเอก็จะเป็นตัวประสาน ผมก็เริ่มคุยกะเดีร์ยมากขึ้นพยามอธิบายทุกอย่างให้เดีร์ยเข้าใจในตัวนก พยายามเข้าใจกันและกันก็แนะนำไปหลายอย่างจนอยตัวอย่างระหว่างป๋องกับเอ แรกคบกันก็ทะเลาะกันแต่ก็ผ่านมันมาได้ ก็เป็นบทเรียนคำสอนทำให้เดีร์ยก็ยังรักนกและคบกันเรื่อยมา ช่วงนั้นป๋องกับเอก็พยายามหากิจกรรมให้สองคน(นก,เดีร์ย)ให้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นได้เรียนรู้กันมากขึ้นก็ไปเที่ยว, ไปตีแบต ไปวิ่ง ป๋องกับเอก็หาชุดแบต หูฟังสำหรับวิ่ง support สุดๆต่อมาช่วงเวลาทะเลาะกันผมก็จะไปว่านกจนนกก็ไปลงที่เดีร์ยว่าทะเลาะกันทำไมทะเลาะกันต้องมาเล่าให้ป๋องฟังและป๋องก็จะเป็นคนที่ไปคุยกับนก แต่จริงแล้วเดีร์ยไม่ค่อยเอยอะไรเกี่ยวกะนกให้ป๋องฟังเลย เวลาคุยป๋องจะถามซ่อกแซกจนเดีร์ยเล่าให้ฟังหมด การที่ผมคุยกับเดีร์ยมากขึ้นก็เริ่มสร้างไม่พอใจให้นกประมาณว่าทำไมมีอะไรทำไมไม่คุยกับเขา ป๋องก็คุยกับเอ ลองปรับเปลี่ยนวิธีกันเอก็จะเป็นคนคุยกับนก นกก็จะเล่าให้เอฟังแทบทุกเรื่องเวลามีปัญหาเพราะเขาสองคนพี่โตมาด้วยกันสนิทกันมาก เอก็จะมาให้เล่าให้ผมฟังผมก็ไปบอกแนะนำเดีร์ยต่อว่าเดีร์ยควรใจเย็นๆ อย่าหวีนบ่อย อย่าใช้อารมณ์และทุอย่างก็ดีขึ้น
การที่ป๋องทำแบบนั้นก็ดาบสองคมกลายเป็นว่าป๋องให้ความสำคัญ กับเดีร์ยและนก จนลืมคิดถึงความรู้สึกของเอ ป๋องเลยกลับมาคิดทบทวน จริงๆแล้วก็ไม่ต่างอะไรกับนกที่ทำให้เดีร์ยคนที่รักเสียใจไม่ต่างกันเลยป๋องเลยตัดสินใจไม่ยุ้งเรื่องของนกกับเดีร์ยแต่ก็คุยกันบ้างช่วงเช้ากินข้าวด้วยกันสี่คนบ้างเพื่อนนกมากินด้วยบางที บางครั้งที่ได้เห็นหรือได้ข่าวว่าไปเทียวหรือไปไหนมาไหนด้วยกัน ป๋องก็ดีใจกับทั้งสองคนอย่างบอกไม่ถูกแต่ผมก็จะถามเดีร์ยว่าเป็นงั้ยบ้างก็สนุกดีพี่ แต่ไปก็โพสรูปไม่ได้เดียวที่ทำงานรู้ เดียวพี่โอเห็น ความลับอะไรเยอะ เดีร์ยก็บอกอยากเห็นความเอาใจใส่จากนกบ้าง โพสรูปคู่บ้าง นกก็มาปรึกษาเอ เอก็ทำให้ บอกให้พี่เอทำโน้นทำนี้ให้หาของขวัญวันเกิดให้ สิ่งหนึ่งที่ ป๋องเห็นนกไปเลือกของขวัญวันเกิดให้เดีร์ย ก็ถามคนโน้นคนนี้ว่า เดีร์ยจะชอบไหมเห็นแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ดีใจ แต่สิ่งหนึ่งที่นกไม่เคยขาดของขวัญวันสำคัญต่างๆของเดีร์ย พาเดีร์ยไปกินข้าว อาจจะไม่บ่อยอาจจะไม่หรู่หร่าเหมือนคนอื่น จนบางครั้งเดีร์ยก็น้อยใจทำไมคู่เราไม่หวานเหมือนคนอื่นๆเขา แต่เดีร์ยบอกผมว่าได้แค่นี้ก็ดีใจแต่สิ่งที่นกมีอีกอย่างสุภาพบุรุษจะไม่ยอมให้เดีร์ยออกตังเขาเลี้ยงได้ จนบางครั้งนกไม่มีเงินหมุ่นเงินไม่ทันก็ไม่ได้ไปรับไปส่งบ่อยเหมือนแต่ก่อนแต่ทั้งสองก็ไปปรับตัวเข้าหากันดีเรื่อยมา เดีร์ยมาเล่าให้ป๋องฟัง
จากนั้นป๋องตัดสินใจแต่งงานกับเอ ช่วงนั้นป๋องก็ดีใจมากที่น้องที่ป๋องรักทั้งสองยังรักกันและมาร่วมงานแต่งของป๋องกับเอ ทั้งๆที่เป็นวันแต่งงานวันเดียวกันกับเพื่อนรักของเดีร์ยแต่เดีร์ยก็มาช่วยงานแต่งของป๋องกับเอ จากนั้นหลังจากแต่งงานป๋องก็ไม่ค่อยได้คุยได้ถามเดีร์ยเหมือนแต่ก่อนก็เลยคิดว่าถ้าเราไม่ยุ้งเรื่องของเขาเลยก็อาจจะดี เวลาคุยกันผมก็ไม่ถามนำหรือถามซอกแซกเหมือนแต่ก่อน แต่ก็แปลกป๋องก็จะถูกนกว่าตลอดว่าผมจะเข้าข้างเดีร์ยตลอดชอบแอบคุยกัน จนป๋องตัดสินไม่คุยกับทั้งสองคนอีกเลย ต่อจากนั้นสักพัก ทั้งสองก็บอกเลิกกันอีกรอบแต่ป๋องไม่อยากจะยุ้งแล้วแต่ก็อดห่วงไม่ได้ ว่าอาจเป็นเพราะเราที่เดินออกมาหรือเปล่า ป๋องก็สอบถามไปทางเดีร์ย ก็ทะเลาะกันเพราะนกไม่รับโทรศัพท์ทะเลาะกันที่ไรก็ด่าว่าเหมือนคนไม่รักกันไม่แคร์กันเลย ป๋องก็ได้แต่บอกว่าอย่าตัดสินใจเลิกกันเลยอุส่าคบกันมาตั้งหลายปี ป๋องเลยบอกไปว่า ใจเย็นๆแต่ถ้าไม่ไหวก็ถือเสียว่าเป็นเวรกรรมต่อกันทำบุญมาด้วยกันแค่นี้ ป๋องก็หวังว่าสิ่งเกิดขึ้นอยากให้เป็นแค่ฝัน ผมไม่อยากเห็นน้องทั้งสองเลิกกันเลย แต่ก็แล้วแต่ว่าหากทั้งสองคนนี้จะยังรักและให้อภัยกันก็จะกลับมาเข้าใจกันเหมือนเดิมได้อีกแต่ถ้าทั้งคิดไม่ยอมอ่อนแข็งทั้งคู่ก็ยากที่จะกลับมาเข้าใจกัน
สุดท้ายเรื่องราวของเราทั้งสี่คนผ่านอะไรมามากป๋องก็อยากเก็บเรื่องราวที่ผ่านมานี้ไว้ว่าครั้งๆหนึ่งพวกเราได้รู้จักกันและให้หลายคนที่สนใจได้อ่านและเห็นน้องนก น้องเดีร์ยเติบโตในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของเขาสองคน ป๋องกับเอก็หวังแค่ทั้งสองจะกลับมารักกันและเดินไปด้วยกันด้วยลำเข็งของเขาทั้งสองคน สิ่งหนึ่งที่ป๋องกับเอเราทั้งสองไม่สามารถจู่หรือพาน้องทั้งสองเดินไปด้วยกันได้ตลอด เขาต้องเดินด้วยตัวของเขาเอง จากที่ป๋องได้เห็นน้องทั้งสองคนทะเลาะกันเลิกลาจากกันอาจเป็นเพราะการไม่ยอมกันซึ่งแรกๆคนเราคบหากันต่างฝ่ายต่างยอมกันไปรับไปส่งไปกินข้าวไปดูหนัง พอคบกันไปสักพักคนสองสนิทกันมากขึ้นความเป็นตัวตนเพิ่มมากขึ้นก็จะเกิดความถามว่าทำไมเหมือนเดิมด้วยปัญหาหลายอย่าง เช่นเงิน ครอบครัวเริ่มเรียกร้อง ก็เกิดเป็นกฎเกณฑ์ข้อตกลงระหว่างสองคนเช่น ไปโน้นไปนี้ได้เฉพาะวันนี้ ต่อมาเกิดความอึดอัดช่วนไปโน้นก็ไม่ไป วันหยุดก็อยากพัก แต่อีกฝ่ายก็คิดไปต่างๆนานา รูปถ่ายก็ไม่กล้าขึ้นโปรไฟล์ ชวนไปไหนก็ไม่ไป แถมยังมีคนมาบอกว่าเห็นเดินจำมือกันข้ามถนนกับคนโน้นคนนี้ และมีคนเห็นส่งข้าวส่งน้ำกันอีก พอถามก็ทะเลาะหาว่างี้เง้า กลายเป็นความเบื่อความไม่เชื่อใจ หากทั้งสองคนหยุดคิดมองอดีตที่ผ่านคิดว่า นกก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรเขาได้ทำและปฏิบัติกับเดีร์ยและให้เกียรติเดีร์ยเสมอมา พาไปบ้านรู้จักพ่อแม่รู้จักญาติ จนญาติๆชื่นชอบเดีร์ย แต่เหตุการณ์เลิกคบกันนี้เกิดขึ้นเพราะคำพูดน้ำเสียงอารมณ์ของนก ไม่อาลัยอาวรณ์ เดีร์ยเลยคำพูดกลับทิ่มแทงตอกย้ำเหมือนคนไม่ใช่คนที่เป็นรักกัน เดีร์ยเลยต้องตัดสินใจแบบนั้นไป ช่วงนี้น้องทั้งสองเริ่มห่างกันก็อยากให้ใช้เวลานี้ในการทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา ก็อยากให้กลับมาคบกันอีก........
เรื่องเล่าของเราสี่คน
อยู่มาวันหนึ่งป๋องได้ทำความรู้จักน้องชายเอคนเล็กชื่อนก แต่ตัวไม่เล็กห้าๆๆชอบเตะบอลเป็นคนคุยสนุก ชอบสุ่มหัวอยู่กะเพื่อนได้ทั้งวัน เวลาเรียนก็ไปเรียนพอไม่ผ่านก็ไปซ่อมไปจนถึงวันทำโปรเจค เอกับป๋องก็เข้าไปช่วยหลายๆอย่างจนสอบโปรเจคผ่านและเรียนจบรับปริญญา พอถึงวันรับปริญญาป๋องก็อาสาถ่ายรูปให้นก จากนั้นก็งานบวชของนกป๋องก็อาสาถ่ายรูปจนญาติๆทางเอแซวว่าเป็นช่างกล้องประจำบ้านไปทำให้ป๋องสนิทกับนกและครอบครัวนี้มากขึ้น
จากนั้นนกก็หางานทำได้ไปทำบริษัทให้บริการอินเตอร์เน็ท(3BB) ออกไปเดินสายอินเตอร์เน็ทตามบ้านตัวดำปี้ เอก็เลยคุยกับป๋องมว่าเอานกมาทำงานที่เดียวกับเราทั้งคู่ด้วยไหม ป๋องก็เลยลองคุยกะหัวหน้าให้ แต่ในตอนนั้นวุฒิ ป.ตรียังไม่เปิดรับ มีแต่ ปวส. ตอนก็ตกลงกันว่าเข้ามาก่อนค่อยปรับที่หลัง ได้เข้ามาทำงานด้วยกันในตำแหน่งช่างอย่างน้อยไม่ต้องไปตากแดดตากลมไม่อันตรายด้วย ป๋องและเอก็ดู นกอยู่ห่างๆ นกก็เริ่มมีเพื่อนสนุกสนานตามประสา ช่วงนั้นนกก็เริ่มจีบสาวเธอคนนั้นชื่อ เดีร์ย พึ่งมาทำงานพร้อมกัน จบที่เดียวกันคณะเดียวกัน คนละสาขาสมัยเรียนทั้งคู่ไม่เคยรู้จักกันไม่เคยเห็นกันมาก่อนพึ่งมาเจอกันมาเจอกันรู้จักกันที่ทำงาน ป๋องกับเอก็ดูๆนกกะเดีร์ยคบกันปีแรกๆก็ทะเลาะคบๆเลิกๆ จนตอนนั้น ป๋อง เริ่มไม่ชอบเดีร์ยเลยสงสัยว่ามาหลอกนกแน่ๆเพราะนกเคยเล่าให้ฟังว่าเดีร์ยอารมณ์เวี่ยงนางแรงมาก ป๋องก็คุยกับเอว่าเดียวมันก็เลิกกัน แต่ก็ผ่านมาได้ระยะหนึ่ง นกก็พาเดีร์ยมาแนะนำให้ป๋องและเอได้รู้จัก ขณะนั้นใจจริงลึกตอนนั้นยังคิดเลยว่าเดีร์ยมันจะรักนกน้องเราจริงๆหรอ..ตอนนั้นป๋องคุยกะเอ และเอก็บอกว่าดูๆกันไป เพราะตอนนั้นก็สังเกตุสองคนแตกต่างกัน เดีร์ยกิจกรรมเยอะเพื่อนเลยเยอะ สังสรรค์บ่อย แต่นกติดดินบ้านๆชอบเตะบอล แต่ก็คอยไปรับไปส่งจนต้องทะเลาะกะทางบ้านบ่อย
จากนั้นป๋องก็เริ่มสืบเดีร์ยว่าเป็นคนยังงั้ยแบบไหน จนได้รู้ว่าเดีร์ยเป็นลูกสาวคนเดียวอยู่กับพ่อแม่ พ่อก็นานๆกลับบ้านทีไปขับรถส่งของ เดือนหนึ่งจะกลับสักสองสามครั้ง ป๋องก็เริ่มสืบไปทางเฟสบุค ก็คุยกันถามตั้งแต่เรียนมีแฟนกี่คนทำไมเลิกกัน และสุดท้ายทำไมมารักนก เดีร์ยบอกว่านกอยู่ข้างๆเขามาตลอดตอนที่เขาทุกข์ที่สุด นกเป็นคนคุยสนุก ทำให้ยิ้มได้เวลาได้คุยกับนกคุยได้ทั้งวันไม่เบื่อ เดีร์ยทำให้ ป๋องรู้และเชื่อว่าเดีร์ยรักนกจริงๆ แต่ทั้งสองก็เริ่มทะเลาะกันบ้าง ดีกันบ้างเวลาทะเลาะป๋องกับเอก็จะเป็นตัวประสาน ผมก็เริ่มคุยกะเดีร์ยมากขึ้นพยามอธิบายทุกอย่างให้เดีร์ยเข้าใจในตัวนก พยายามเข้าใจกันและกันก็แนะนำไปหลายอย่างจนอยตัวอย่างระหว่างป๋องกับเอ แรกคบกันก็ทะเลาะกันแต่ก็ผ่านมันมาได้ ก็เป็นบทเรียนคำสอนทำให้เดีร์ยก็ยังรักนกและคบกันเรื่อยมา ช่วงนั้นป๋องกับเอก็พยายามหากิจกรรมให้สองคน(นก,เดีร์ย)ให้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นได้เรียนรู้กันมากขึ้นก็ไปเที่ยว, ไปตีแบต ไปวิ่ง ป๋องกับเอก็หาชุดแบต หูฟังสำหรับวิ่ง support สุดๆต่อมาช่วงเวลาทะเลาะกันผมก็จะไปว่านกจนนกก็ไปลงที่เดีร์ยว่าทะเลาะกันทำไมทะเลาะกันต้องมาเล่าให้ป๋องฟังและป๋องก็จะเป็นคนที่ไปคุยกับนก แต่จริงแล้วเดีร์ยไม่ค่อยเอยอะไรเกี่ยวกะนกให้ป๋องฟังเลย เวลาคุยป๋องจะถามซ่อกแซกจนเดีร์ยเล่าให้ฟังหมด การที่ผมคุยกับเดีร์ยมากขึ้นก็เริ่มสร้างไม่พอใจให้นกประมาณว่าทำไมมีอะไรทำไมไม่คุยกับเขา ป๋องก็คุยกับเอ ลองปรับเปลี่ยนวิธีกันเอก็จะเป็นคนคุยกับนก นกก็จะเล่าให้เอฟังแทบทุกเรื่องเวลามีปัญหาเพราะเขาสองคนพี่โตมาด้วยกันสนิทกันมาก เอก็จะมาให้เล่าให้ผมฟังผมก็ไปบอกแนะนำเดีร์ยต่อว่าเดีร์ยควรใจเย็นๆ อย่าหวีนบ่อย อย่าใช้อารมณ์และทุอย่างก็ดีขึ้น
การที่ป๋องทำแบบนั้นก็ดาบสองคมกลายเป็นว่าป๋องให้ความสำคัญ กับเดีร์ยและนก จนลืมคิดถึงความรู้สึกของเอ ป๋องเลยกลับมาคิดทบทวน จริงๆแล้วก็ไม่ต่างอะไรกับนกที่ทำให้เดีร์ยคนที่รักเสียใจไม่ต่างกันเลยป๋องเลยตัดสินใจไม่ยุ้งเรื่องของนกกับเดีร์ยแต่ก็คุยกันบ้างช่วงเช้ากินข้าวด้วยกันสี่คนบ้างเพื่อนนกมากินด้วยบางที บางครั้งที่ได้เห็นหรือได้ข่าวว่าไปเทียวหรือไปไหนมาไหนด้วยกัน ป๋องก็ดีใจกับทั้งสองคนอย่างบอกไม่ถูกแต่ผมก็จะถามเดีร์ยว่าเป็นงั้ยบ้างก็สนุกดีพี่ แต่ไปก็โพสรูปไม่ได้เดียวที่ทำงานรู้ เดียวพี่โอเห็น ความลับอะไรเยอะ เดีร์ยก็บอกอยากเห็นความเอาใจใส่จากนกบ้าง โพสรูปคู่บ้าง นกก็มาปรึกษาเอ เอก็ทำให้ บอกให้พี่เอทำโน้นทำนี้ให้หาของขวัญวันเกิดให้ สิ่งหนึ่งที่ ป๋องเห็นนกไปเลือกของขวัญวันเกิดให้เดีร์ย ก็ถามคนโน้นคนนี้ว่า เดีร์ยจะชอบไหมเห็นแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ดีใจ แต่สิ่งหนึ่งที่นกไม่เคยขาดของขวัญวันสำคัญต่างๆของเดีร์ย พาเดีร์ยไปกินข้าว อาจจะไม่บ่อยอาจจะไม่หรู่หร่าเหมือนคนอื่น จนบางครั้งเดีร์ยก็น้อยใจทำไมคู่เราไม่หวานเหมือนคนอื่นๆเขา แต่เดีร์ยบอกผมว่าได้แค่นี้ก็ดีใจแต่สิ่งที่นกมีอีกอย่างสุภาพบุรุษจะไม่ยอมให้เดีร์ยออกตังเขาเลี้ยงได้ จนบางครั้งนกไม่มีเงินหมุ่นเงินไม่ทันก็ไม่ได้ไปรับไปส่งบ่อยเหมือนแต่ก่อนแต่ทั้งสองก็ไปปรับตัวเข้าหากันดีเรื่อยมา เดีร์ยมาเล่าให้ป๋องฟัง
จากนั้นป๋องตัดสินใจแต่งงานกับเอ ช่วงนั้นป๋องก็ดีใจมากที่น้องที่ป๋องรักทั้งสองยังรักกันและมาร่วมงานแต่งของป๋องกับเอ ทั้งๆที่เป็นวันแต่งงานวันเดียวกันกับเพื่อนรักของเดีร์ยแต่เดีร์ยก็มาช่วยงานแต่งของป๋องกับเอ จากนั้นหลังจากแต่งงานป๋องก็ไม่ค่อยได้คุยได้ถามเดีร์ยเหมือนแต่ก่อนก็เลยคิดว่าถ้าเราไม่ยุ้งเรื่องของเขาเลยก็อาจจะดี เวลาคุยกันผมก็ไม่ถามนำหรือถามซอกแซกเหมือนแต่ก่อน แต่ก็แปลกป๋องก็จะถูกนกว่าตลอดว่าผมจะเข้าข้างเดีร์ยตลอดชอบแอบคุยกัน จนป๋องตัดสินไม่คุยกับทั้งสองคนอีกเลย ต่อจากนั้นสักพัก ทั้งสองก็บอกเลิกกันอีกรอบแต่ป๋องไม่อยากจะยุ้งแล้วแต่ก็อดห่วงไม่ได้ ว่าอาจเป็นเพราะเราที่เดินออกมาหรือเปล่า ป๋องก็สอบถามไปทางเดีร์ย ก็ทะเลาะกันเพราะนกไม่รับโทรศัพท์ทะเลาะกันที่ไรก็ด่าว่าเหมือนคนไม่รักกันไม่แคร์กันเลย ป๋องก็ได้แต่บอกว่าอย่าตัดสินใจเลิกกันเลยอุส่าคบกันมาตั้งหลายปี ป๋องเลยบอกไปว่า ใจเย็นๆแต่ถ้าไม่ไหวก็ถือเสียว่าเป็นเวรกรรมต่อกันทำบุญมาด้วยกันแค่นี้ ป๋องก็หวังว่าสิ่งเกิดขึ้นอยากให้เป็นแค่ฝัน ผมไม่อยากเห็นน้องทั้งสองเลิกกันเลย แต่ก็แล้วแต่ว่าหากทั้งสองคนนี้จะยังรักและให้อภัยกันก็จะกลับมาเข้าใจกันเหมือนเดิมได้อีกแต่ถ้าทั้งคิดไม่ยอมอ่อนแข็งทั้งคู่ก็ยากที่จะกลับมาเข้าใจกัน
สุดท้ายเรื่องราวของเราทั้งสี่คนผ่านอะไรมามากป๋องก็อยากเก็บเรื่องราวที่ผ่านมานี้ไว้ว่าครั้งๆหนึ่งพวกเราได้รู้จักกันและให้หลายคนที่สนใจได้อ่านและเห็นน้องนก น้องเดีร์ยเติบโตในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของเขาสองคน ป๋องกับเอก็หวังแค่ทั้งสองจะกลับมารักกันและเดินไปด้วยกันด้วยลำเข็งของเขาทั้งสองคน สิ่งหนึ่งที่ป๋องกับเอเราทั้งสองไม่สามารถจู่หรือพาน้องทั้งสองเดินไปด้วยกันได้ตลอด เขาต้องเดินด้วยตัวของเขาเอง จากที่ป๋องได้เห็นน้องทั้งสองคนทะเลาะกันเลิกลาจากกันอาจเป็นเพราะการไม่ยอมกันซึ่งแรกๆคนเราคบหากันต่างฝ่ายต่างยอมกันไปรับไปส่งไปกินข้าวไปดูหนัง พอคบกันไปสักพักคนสองสนิทกันมากขึ้นความเป็นตัวตนเพิ่มมากขึ้นก็จะเกิดความถามว่าทำไมเหมือนเดิมด้วยปัญหาหลายอย่าง เช่นเงิน ครอบครัวเริ่มเรียกร้อง ก็เกิดเป็นกฎเกณฑ์ข้อตกลงระหว่างสองคนเช่น ไปโน้นไปนี้ได้เฉพาะวันนี้ ต่อมาเกิดความอึดอัดช่วนไปโน้นก็ไม่ไป วันหยุดก็อยากพัก แต่อีกฝ่ายก็คิดไปต่างๆนานา รูปถ่ายก็ไม่กล้าขึ้นโปรไฟล์ ชวนไปไหนก็ไม่ไป แถมยังมีคนมาบอกว่าเห็นเดินจำมือกันข้ามถนนกับคนโน้นคนนี้ และมีคนเห็นส่งข้าวส่งน้ำกันอีก พอถามก็ทะเลาะหาว่างี้เง้า กลายเป็นความเบื่อความไม่เชื่อใจ หากทั้งสองคนหยุดคิดมองอดีตที่ผ่านคิดว่า นกก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรเขาได้ทำและปฏิบัติกับเดีร์ยและให้เกียรติเดีร์ยเสมอมา พาไปบ้านรู้จักพ่อแม่รู้จักญาติ จนญาติๆชื่นชอบเดีร์ย แต่เหตุการณ์เลิกคบกันนี้เกิดขึ้นเพราะคำพูดน้ำเสียงอารมณ์ของนก ไม่อาลัยอาวรณ์ เดีร์ยเลยคำพูดกลับทิ่มแทงตอกย้ำเหมือนคนไม่ใช่คนที่เป็นรักกัน เดีร์ยเลยต้องตัดสินใจแบบนั้นไป ช่วงนี้น้องทั้งสองเริ่มห่างกันก็อยากให้ใช้เวลานี้ในการทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา ก็อยากให้กลับมาคบกันอีก........