บทความโดย : คุณเกตุวดี www.marumura.com
(คำเตือน: เนื้อหาบางส่วนอาจมีการ spoil)
“ถ้าโลกนี้ไม่มีแมว…”
Genki Kawamura โปรดิวเซอร์หนังของบริษัทโทเอ ที่ลองมาเขียนนิยายแฟนตาซี แล้วเผอิญขายได้กว่า 1.2 ล้านเล่มแล้วในญี่ปุ่น
คำพูดหนึ่งที่ได้ยินจากปากตัวละครหลายคนในหนังคือ “ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า” และหนังเรื่องนี้ก็ทำให้เราคิดอย่างนั้นได้จริง ๆ
Kawamura นึกถึงสมัยเด็กที่ จู่ๆ แมวที่เลี้ยงไว้ก็หายไปจากบ้าน นั่นเป็นครั้งแรกที่ทำให้เขารู้สึกว่าจู่ ๆ สิ่งธรรมดาๆ ที่เราเห็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันก็สามารถหายวับไปได้
เมื่อโตขึ้นมาสิ่งที่ทำให้เขาตกใจยิ่งขึ้นไปอีก คือ ตอนที่เขาทำโทรศัพท์มือถือหาย ตอนนั้นเขาไม่สามารถติดต่อใครได้เลยเพราะจำเบอร์ใครไม่ได้ แม้แต่เบอร์ของพ่อแม่ Kawamura ตกใจที่สิ่งของที่ถูกพัฒนาขึ้นมาในช่วง 10 ปี กลับทำให้ความสามารถในการจดจำเรื่องต่าง ๆ ของเขาลดลงไปอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเขามองไปรอบ ๆ เขาเห็นคนในรถไฟต่างก้มลงมองที่มือถือในมือ เขาจินตนาการว่าถ้าโลกนี้ไม่มีโทรศัพท์มือถือจะเกิดอะไรขึ้น เราคงจะไม่มีที่บันทึกข้อมูลสำคัญ วันเกิดหรือความประทับใจต่างๆ อย่างที่เคยทำได้กับโทรศัพท์มือถืออีกแล้ว แต่คงจะต้องพยายามจดจำเรื่องราวต่าง ๆ นั้นในสมองของเราเอง ถ้าโลกนี้ไม่มีโทรศัพท์มือถือ เราอาจจะมีเวลาให้กับสิ่งที่เรารัก เช่น หนังหรือหนังสือมากขึ้นก็ได้
“การสูญเสียอะไรบางอย่างกับการได้รับอะไรบางอย่าง จริง ๆ แล้วเป็นเหรียญสองด้าน สิ่งที่เราได้จากการสูญเสียอะไรบางอย่างไป คือ การได้มองเห็นโลกใหม่”
นิยายและหนังเรื่องนี้ จึงนำพาผู้ชมไปเห็นโลกใหม่ ๆ ของพระเอก หลังจากที่ของสำคัญต่าง ๆ ในชีวิตของเขาได้หายวับไป ของธรรมดา ๆ ที่พระเอกหรือพวกเราอาจไม่เคยรู้สึกว่าพิเศษในชีวิต อย่างเช่น โทรศัพท์ นาฬิกา หรือแม้แต่ แมว … กลับเป็นกุญแจหลักสำคัญในการเชื่อมพระเอกเข้ากับคนสำคัญต่าง ๆ ในชีวิตเขาหรือพาเขาไปหาความทรงจำดี ๆ ที่ตัวเขาเองลืมเลือนไป อย่างความทรงจำระหว่างเขากับพ่อ… พ่อผู้บ้างาน แม้กระทั่งภรรยาคลอดก็ไม่ได้ไปหาที่โรงพยาบาล แต่พอเห็นหน้าลูกผู้ชายปากแข็งที่ดูเหมือนจะไม่สนใจอะไรเลยในชีวิตกลับบอกกับลูกน้อยอย่างอ่อนโยนว่า “ขอบคุณนะ ขอบคุณที่ลูกเกิดมา”
Kawamura กล่าวว่า “ผมคิดว่าผมจะใช้ชีวิตยังไงดี จากการจินตนการถึงงานศพตัวเองครับ ใครจะมางานศพผมบ้าง ใครจะร้องไห้เสียใจกับการจากไปของผมบ้าง พอคิดแบบนี้ ผมก็ตัดสินใจได้ว่าผมควรจะต้องทำอะไร ต้องคบหาคนแบบไหน จัดลำดับความสำคัญของงานยังไง”
ในโรงหนังขณะที่หนังกำลังพาไปถึงตอนที่เศร้าแต่ประทับใจ เสียงฮึก ๆ ดังเป็นระยะๆ จากในโรง ดิฉันนั่งมองคู่รักที่นั่งข้างหน้า
ฝ่ายชายค่อย ๆ หยิบผ้าเช็ดหน้ายื่นให้ฝ่ายหญิงซับน้ำตา ในอดีตผ้าเช็ดหน้าสีขาวผืนนั้นอาจเป็นแค่ผ้าธรรมดา ๆ ผืนหนึ่งที่ถูกหยิบออกจากกระเป๋าเสื้อฝ่ายชาย และถูกส่งไปซับน้ำตาไหลรินจากดวงตาของฝ่ายหญิง แต่ดิฉันเชื่อว่าหลังจากพวกเขาได้ดูหนังเรื่องนี้แล้ว พวกเขาคงจะเห็นผ้าเช็ดหน้าในโลกที่แตกต่างไป เพียงแค่พวกเขาให้ความสำคัญกับมัน
ผ้าเช็ดหน้าเล็ก ๆ ผืนนี้ช่วยทำให้ฝ่ายหญิงรับรู้ว่าฝ่ายชายใส่ใจและคอยดูแลเธอ ขณะเดียวกันผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ ก็ทำให้ฝ่ายชายสามารถแสดงความรักแก่หญิงสาวได้ ผ้าเช็ดหน้าที่เป็นตัวผูกใจพวกเขาสองคนให้ใกล้ชิดมากขึ้นอย่างอบอุ่น
และพวกเขาก็คงจะโชคดีเหลือเกินที่มองมาเห็นความสำคัญของผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ ก่อนที่มันอาจจะหายไป …
หนังดีควรดูเพื่อให้ละเมียดกับทุกรายละเอียดของชีวิตและกับคนที่เรารัก หนังที่จะทำให้เราได้เห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ และกลับมาถามตัวเองว่า “เราใช้ชีวิตได้คุ้มค่าแล้วหรือยัง”
(หนังยังมีฉายที่ลิโด้นะคะ)
ขอบคุณบทความโดย : คุณเกตุวดี www.marumura.com
http://www.marumura.com/if-cats-disappeared-from-the-world-spoiled/
ถ้าโลกนี้ไม่มีแมว… โลกใหม่หลังจากบางสิ่งสูญหายไป [Spoil]
บทความโดย : คุณเกตุวดี www.marumura.com
(คำเตือน: เนื้อหาบางส่วนอาจมีการ spoil)
“ถ้าโลกนี้ไม่มีแมว…”
Genki Kawamura โปรดิวเซอร์หนังของบริษัทโทเอ ที่ลองมาเขียนนิยายแฟนตาซี แล้วเผอิญขายได้กว่า 1.2 ล้านเล่มแล้วในญี่ปุ่น
คำพูดหนึ่งที่ได้ยินจากปากตัวละครหลายคนในหนังคือ “ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า” และหนังเรื่องนี้ก็ทำให้เราคิดอย่างนั้นได้จริง ๆ
Kawamura นึกถึงสมัยเด็กที่ จู่ๆ แมวที่เลี้ยงไว้ก็หายไปจากบ้าน นั่นเป็นครั้งแรกที่ทำให้เขารู้สึกว่าจู่ ๆ สิ่งธรรมดาๆ ที่เราเห็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันก็สามารถหายวับไปได้
เมื่อโตขึ้นมาสิ่งที่ทำให้เขาตกใจยิ่งขึ้นไปอีก คือ ตอนที่เขาทำโทรศัพท์มือถือหาย ตอนนั้นเขาไม่สามารถติดต่อใครได้เลยเพราะจำเบอร์ใครไม่ได้ แม้แต่เบอร์ของพ่อแม่ Kawamura ตกใจที่สิ่งของที่ถูกพัฒนาขึ้นมาในช่วง 10 ปี กลับทำให้ความสามารถในการจดจำเรื่องต่าง ๆ ของเขาลดลงไปอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเขามองไปรอบ ๆ เขาเห็นคนในรถไฟต่างก้มลงมองที่มือถือในมือ เขาจินตนาการว่าถ้าโลกนี้ไม่มีโทรศัพท์มือถือจะเกิดอะไรขึ้น เราคงจะไม่มีที่บันทึกข้อมูลสำคัญ วันเกิดหรือความประทับใจต่างๆ อย่างที่เคยทำได้กับโทรศัพท์มือถืออีกแล้ว แต่คงจะต้องพยายามจดจำเรื่องราวต่าง ๆ นั้นในสมองของเราเอง ถ้าโลกนี้ไม่มีโทรศัพท์มือถือ เราอาจจะมีเวลาให้กับสิ่งที่เรารัก เช่น หนังหรือหนังสือมากขึ้นก็ได้
“การสูญเสียอะไรบางอย่างกับการได้รับอะไรบางอย่าง จริง ๆ แล้วเป็นเหรียญสองด้าน สิ่งที่เราได้จากการสูญเสียอะไรบางอย่างไป คือ การได้มองเห็นโลกใหม่”
นิยายและหนังเรื่องนี้ จึงนำพาผู้ชมไปเห็นโลกใหม่ ๆ ของพระเอก หลังจากที่ของสำคัญต่าง ๆ ในชีวิตของเขาได้หายวับไป ของธรรมดา ๆ ที่พระเอกหรือพวกเราอาจไม่เคยรู้สึกว่าพิเศษในชีวิต อย่างเช่น โทรศัพท์ นาฬิกา หรือแม้แต่ แมว … กลับเป็นกุญแจหลักสำคัญในการเชื่อมพระเอกเข้ากับคนสำคัญต่าง ๆ ในชีวิตเขาหรือพาเขาไปหาความทรงจำดี ๆ ที่ตัวเขาเองลืมเลือนไป อย่างความทรงจำระหว่างเขากับพ่อ… พ่อผู้บ้างาน แม้กระทั่งภรรยาคลอดก็ไม่ได้ไปหาที่โรงพยาบาล แต่พอเห็นหน้าลูกผู้ชายปากแข็งที่ดูเหมือนจะไม่สนใจอะไรเลยในชีวิตกลับบอกกับลูกน้อยอย่างอ่อนโยนว่า “ขอบคุณนะ ขอบคุณที่ลูกเกิดมา”
http://www.hakobura.jp/deep/2016/05/post-292.html
Kawamura กล่าวว่า “ผมคิดว่าผมจะใช้ชีวิตยังไงดี จากการจินตนการถึงงานศพตัวเองครับ ใครจะมางานศพผมบ้าง ใครจะร้องไห้เสียใจกับการจากไปของผมบ้าง พอคิดแบบนี้ ผมก็ตัดสินใจได้ว่าผมควรจะต้องทำอะไร ต้องคบหาคนแบบไหน จัดลำดับความสำคัญของงานยังไง”
ในโรงหนังขณะที่หนังกำลังพาไปถึงตอนที่เศร้าแต่ประทับใจ เสียงฮึก ๆ ดังเป็นระยะๆ จากในโรง ดิฉันนั่งมองคู่รักที่นั่งข้างหน้า
ฝ่ายชายค่อย ๆ หยิบผ้าเช็ดหน้ายื่นให้ฝ่ายหญิงซับน้ำตา ในอดีตผ้าเช็ดหน้าสีขาวผืนนั้นอาจเป็นแค่ผ้าธรรมดา ๆ ผืนหนึ่งที่ถูกหยิบออกจากกระเป๋าเสื้อฝ่ายชาย และถูกส่งไปซับน้ำตาไหลรินจากดวงตาของฝ่ายหญิง แต่ดิฉันเชื่อว่าหลังจากพวกเขาได้ดูหนังเรื่องนี้แล้ว พวกเขาคงจะเห็นผ้าเช็ดหน้าในโลกที่แตกต่างไป เพียงแค่พวกเขาให้ความสำคัญกับมัน
ผ้าเช็ดหน้าเล็ก ๆ ผืนนี้ช่วยทำให้ฝ่ายหญิงรับรู้ว่าฝ่ายชายใส่ใจและคอยดูแลเธอ ขณะเดียวกันผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ ก็ทำให้ฝ่ายชายสามารถแสดงความรักแก่หญิงสาวได้ ผ้าเช็ดหน้าที่เป็นตัวผูกใจพวกเขาสองคนให้ใกล้ชิดมากขึ้นอย่างอบอุ่น
และพวกเขาก็คงจะโชคดีเหลือเกินที่มองมาเห็นความสำคัญของผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ ก่อนที่มันอาจจะหายไป …
หนังดีควรดูเพื่อให้ละเมียดกับทุกรายละเอียดของชีวิตและกับคนที่เรารัก หนังที่จะทำให้เราได้เห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ และกลับมาถามตัวเองว่า “เราใช้ชีวิตได้คุ้มค่าแล้วหรือยัง”
(หนังยังมีฉายที่ลิโด้นะคะ)
ขอบคุณบทความโดย : คุณเกตุวดี www.marumura.com
http://www.marumura.com/if-cats-disappeared-from-the-world-spoiled/