วันหนึ่ง.. คุณแม่ของผมชวนให้ผมมาบวชธรรมทายาท
ที่วัดพระธรรมกาย ผมรู้ว่าการบวชเป็นสิ่งที่ดี
แต่ต้องไม่ใช่วัดนี้อย่างแน่นอน เพราะข่าวที่กระพือให้ได้อ่านเกือบทุกวัน ทำให้ผมไม่ศรัทธาวัดนี้
**ชีวิตที่เพียบพร้อมของคุณหมอ**
พระมหาอภินัย ตนฺติวฑฺโฒ ป.ธ.4
ปริญญาตรีแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อบรมธรรมทายาท และอุปสมบทหมู่ ร่นที่ 28 พ.ศ. 2543
และรุ่นเข้าพรรษา พ.ศ.2552
ปัจจุบันพรรษา 7
ปฎิบัติศาสนกิจ วัดพระธรรมกายไทเป ประเทศไต้หวัน
จากชีวิตลูกชายคนเล็กของเจ้าของกิจการ คุณแม่ทำงานให้กับมูลนิธิแห่งหนึ่ง
จบการศึกษาในชั้นประถมที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน จบมัธยมที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาจบแพทยศาสตร์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เป็นcheer leader ของมหาวิทยาลัย(ปี1) มีครอบครัวอบอุ่นและสมบูรณ์
ชีวิตในวัยเด็กจนถึงวัยรุ่น ผมใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนๆ ดูหนังฟังเพลง เที่ยวเล่นไปตามวัย
และการเต้นรำก็เป็นสิ่งที่ผมชอบและถนัด บางวันถ้าไม่ได้ไปไหน ผมก็จะเล่นเกมคอมพิวเตอร์
ซึ่งมันก็เป็นเสมือนอาหารจานโปรดของผมอีกเหมือนกัน วันเวลาชีวิตของผมหมดไปกับสิ่งเหล่านี้
วันหนึ่ง.. คุณแม่ของผมชวนให้ผมมาบวชธรรมทายาท
ที่วัดพระธรรมกาย ผมรู้ว่าการบวชเป็นสิ่งที่ดี
แต่ต้องไม่ใช่วัดนี้อย่างแน่นอน เพราะข่าวที่กระพือให้ได้อ่านเกือบทุกวัน ทำให้ผมไม่ศรัทธาวัดนี้
ผมให้เหตุผลท่านว่าผมจะบวชตามโครงการที่
คณะแพทย์จัดไว้เป็นวิชาเลือก
ถึงกระนั้นท่านก็ยังไม่หมดความพยายาม ท่านได้ให้เหตุผลกับผม
ว่า “สิ่งใดที่ยังไม่ได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง ก็อย่าเพิ่งไปตัดสินใจเชื่อ”
ด้วยเหตุผลนี้ ผมจึงตัดสินใจบวชที่นี่ เพราะคิดว่าการบวชครั้งนี้ทำให้คุณแม่สบายใจ และจะได้รู้ว่าสิ่งที่เคยได้ยินได้ฟังจากสื่อต่างๆ นั้นมันใช่หรือไม่
..จุดเปลี่ยน.. ที่เปลี่ยนชีวิตของคุณหมอให้กลายเป็น
ผู้มีศรัทธาคืออะไร
ความสุขอยู่ในตัวเอง
ตลอดระยะเวลาของการอบรม มันทำให้ผมเริ่มเข้าใจความหมายของคำว่า “พระพุทธศาสนา” มากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการฝึกฝนอบรมตนเอง
ทั้งในด้านปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ
ใจผมมีความสุขมาก มันเป็นความสุขที่เต็มอิ่มที่ใช้ชีวิตของผมไม่เคยสัมผัสมาก่อน
ผมได้เรียนรู้ว่า แท้จริงแล้วความสุขมันอยู่ในตัวของผมเอง มันไม่ได้อยู่ไกลอย่างที่ผมเคยไขว่คว้ามาก่อน
วัดพระธรรมกายได้สอนให้ผมรู้จักความหมายของการให้ทาน รักษาศีล และเจริญสมาธิภาวนาอย่างสมบูรณ์แบบ ผมนำหลักคำสอนที่มีในพระพุทธศาสนา
ซึ่งมีพระอาจารย์ และพระพี่เลี้ยงเป็นผู้นำมาถ่ายทอด มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
มันทำให้ผมรู้คุณค่าของความเป็นมนุษย์มากยิ่งขึ้นบทฝึกของการอบรมเป็นพระธรรมทายาท เป็นบทฝึกที่ทำให้ผมยกระดับจิตใจตัวเองให้สูงขึ้น
ผมรับรู้ได้ด้วยใจของผมเองว่า มีบางสิ่งที่เปลี่ยนไป แม้จะมองไม่เห็นก็ตาม แต่มันมีคุณค่าต่อจิตใจของผมมาก ผมจึงอยากจะบอกว่า
“ครั้งหนึ่งในชีวิตของผม ผมภูมิใจมากกับการได้บวช
เป็นพระธรรมทายาท มันเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมได้พบ
และเห็นคุณค่าที่มีอยู่ในตัวของผมเอง”
คุณค่าที่ได้ทิ้งท้ายให้คิด
ผมอยากบอกทุกคนว่าลูกผู้ชายครั้งหนี่งในชีวิตก็ต้องบวชทดแทนคุณของคุณพ่อคุณแม่
เวลาที่เราอยู่ในช่วงการศึกษานี่แหละเป็นช่วงที่ปลอดกังวลมากที่สุดแล้ว หากรอให้เรียนจบหรือทำงานเสียก่อนยิ่งยากกว่านี้มาก
*** ระยะเวลา1พรรษา เหมือนจะมาก แต่ถ้าเทียบกับตลอดเวลาทั้งชีวิตที่เราหมดไปกับการเล่นสนุก เที่ยวตามที่ต่าง ๆ ดูหนัง ฟังเพลงแล้ว ผมคิดว่ามันน้อยกว่ามาก
และสิ่งที่คุณได้มาจะเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณทั้งชีวิต คือ คุณจะได้หลักการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องมากยิ่งขึ้น เพราะการศึกษาธรรมะจากการบวชในครั้งนี้
คุณก็จะมีเพื่อนที่ดีอีกกลุ่มหนึ่งที่จะชวนคุณมาเข้าวัดฟังธรรมในบางเวลา ที่คุณเผลอสติไป หากใครกลับไปแล้วตั้งใจว่า อย่างน้อยจะรักษาศีล 5 ให้ได้ทุกวัน
ก็เป็นหลักประกันอย่างหนึ่งว่า คุณคงจะไม่ต้องไปรับทุกข์จาก
การกระทำผิดศึลอีก
นั่นคือ เราจะองอาจกล้าหาญในทุกสถานการณ์ เราจะกล้าพูดได้เต็มปากว่า เราเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีคนหนึ่ง ***
หากเราตั้งใจปฏิบัติธรรมต่อเนื่อง เราก็จะมีกำลังใจในการเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
และการดำเนินชีวิตของเรายังสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนที่อยู่รอบข้างได้
เช่น ผมเองก็แนะนำคนไข้และเพื่อนร่วมงานให้เขานั่งสมาธิ เพื่อคลายความเครียดจากอาการเจ็บป่วยและจากหน้าที่การงาน
***ท่านมาบวชอีกครั้งเมื่อปีพ.ศ.2552***
ตอนสมัยเรียนอยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผมทำกิจกรรมชมรมพุทธฯและดำรงตำแหน่งเป็นประธานชมรมพุทธจุฬาฯครับ ตั้งแต่เรียนจบจากคณะแพทยศาสตร์
ก็สมัครเป็นแพทย์ใช้ทุนอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 3 ปี ระหว่างที่ทำงานใช้ทุนผมก็มาวัดทุกวันอาทิตย์ ชวนคนมาวัด
ทำหน้าที่กัลยาณมิตรแก่คนรอบข้าง ให้ทุกคนได้รู้จักเป้าหมายชีวิตของการเกิดมาเป็นมนุษย์
เมื่อทำงานใช้ทุนรัฐบาลหมดแล้ว ผมก็คิดว่า “เราจะทำอะไรต่อในชีวิตดี” ซึ่งเพื่อนๆ ที่เรียนจบมาด้วยกัน หลายคนก็จะเรียนต่อเป็นแพทย์เฉพาะทาง
บางคนก็ทำงานในโรงพยาบาลเอกชน จะได้มีรายได้มากๆ แต่ผมเองกลับคิดว่าที่ผ่านมานั้น เราไม่รู้เลยว่า จะเจ็บจะป่วยเมื่อไหร่และจะตายเมื่อไหร่ ก็ยังไม่รู้
แม้ว่าการเป็นแพทย์ของผมจะช่วยเหลือคนไข้คนเจ็บมามาก แต่คนเจ็บก็ไม่ได้มีจำนวนที่ลดลงเลย
คนป่วยที่มารักษาหลายๆคน ก็ไม่หาย เสียชีวิตไปก็มี หลายๆโรค เช่น มะเร็ง เอดส์ ตับแข็ง ใครเป็นแล้วก็ต้องทำใจ เตรียมพร้อมที่จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่า
แต่จากการที่ผมได้ศึกษา case study ที่หลวงพ่อเมตตาตอบลูกๆ มาตลอด
จึงได้ทราบว่าความเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ ล้วนเป็นผลมาจากการกระทำผิดศีล 5 ทั้งในอดีตและปัจจุบันชาติ
ดังนั้นหากคนในสังคมรักษาศีล 5 กันได้มาก ก็จะทำให้มีคนเจ็บป่วยน้อยลง อุบัติเหตุ การทำร้ายกันน้อยลง
คนเป็นหมอก็ทำงานน้อยลง เพราะไม่มีคนให้รักษา ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ด้วยการสร้างกรรมดี จะได้ไม่เกิดเป็นวิบากกรรม ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคภัยไข้เจ็บ
*** ผมเชื่อว่า ผู้ที่ฉลาดและเห็นภัยในวัฏสงสารควรจะให้โอกาสตนเองมาศึกษาปฏิบัติธรรม
ทำที่พึ่งให้กับตนเองก่อน หลังจากนั้นจึงจะทำประโยชน์ให้คนรอบข้างและสังคมได้
ซึ่งประโยชน์ที่ผมเลือกทำให้ตนเองนั้น ก็คือการสั่งสมบุญ และบุญใหญ่ที่ลูกผู้ชายสามารถทำได้ นั่นก็คือการบวชครับ ***
หลังจากผมได้เข้ามาในโครงการ ครั้งที่2นี้ ผมก็ได้พบเจอกับเพื่อนที่มาบวชจำนวนมาก จากหลายภูมิลำเนา และผู้บวชก็มีอายุแตกต่างกันมาก
บางคนเป็นปู่เป็นพ่อของเราได้เลย เมื่อคนจำนวนมากมาอยู่ด้วยกันก็ต้องมีระเบียบวินัยมากำกับ ไม่ว่าจะแปรงฟัน ล้างหน้า อาบน้ำ ทำวัตร ปฏิบัติธรรม
ก็ล้วนเป็นไปตามตารางกิจวัตรทั้งสิ้น จนผมคิดว่าอยู่เหมือนเป็นทหาร แต่เป็นทหารแห่งกองทัพธรรม ที่ไม่ได้ไปต่อสู้กับใคร แต่ต้องสู้กับกิเลสที่ฝังอยู่ในใจเรามาช้านาน
การมาอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้สะดวกสบายเหมือนอยู่ที่บ้าน ไม่สามารถทำตามใจอย่างที่เคยทำได้ แต่ผมก็มีคณะพระอาจารย์ พระพี่เลี้ยงคอยให้คำปรึกษาชี้แนะ
จนทำให้ปรับตัวปรับใจ เมื่อผมยอมรับสภาพแวดล้อมใหม่ๆได้ ผมก็มีความสุข บรรยากาศเหมือนพี่น้องก็บังเกิดขึ้น และเมื่อทุกรูปได้ฝึกสมาธิมากๆ ใจก็นุ่มนวล มีความอดทนกับการกระทบกระทั่งได้เป็นอย่างดี
วันหนึ่งขณะที่ผมอบรมอยู่ที่เขาแก้วเสด็จ ผมนั่งหลับตาปล่อยใจไปตามเสียงเทศน์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโวที่เมตตามาเทศน์สอนให้กับเหล่าธรรมทายาทที่เขาแก้วเสด็จ
ท่านได้เน้นเรื่องมรรคมีองค์ 8 ว่า เมื่อปฏิบัติได้ถูกส่วน ทำซ้ำแล้วซ้ำอีกก็จะเข้าถึงธรรมได้
แม้อากาศจะร้อน เหงื่อไคลไหลออกมา ผมก็หยุดใจนิ่งๆ ไว้ที่ศูนย์กลางกาย นึกภาพองค์พระ TOP VIEW ที่หลวงพ่อฉายใน DMC บ่อยๆ เป็นช่วงเวลาที่เคลิ้มๆสบายๆอย่างบอกไม่ถูกครับ
ทันใดนั้นที่ศูนย์กลางกายของผม ก็มีแสงสว่างโพลงขึ้นมา เป็นความสว่างที่จ้าแต่ไม่แสบตา สว่างมากกว่าดวงอาทิตย์ แสงที่เห็นทำให้ผมตื่นตัวและตื่นเต้นมากๆ
ผมไม่คิดเลยว่าจะเกิดขึ้นในเวลาที่เราหลับตาได้ ผมเห็นอยู่สักพักหนึ่งก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังไม่มีองค์พระผุดขึ้นมาสักทีแถมยังตื่นเต้นด้วย
แสงสว่างเลยจึงค่อยๆหายไป แต่ก็ทำให้ผมมั่นใจว่าเรามาถูกทางแล้ว ธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีจริง พิสูจน์ได้ด้วยตนเอง
หากใครตั้งใจมาบวช หลังจากที่ได้อ่านบทความนี้
ก็ขออนุโมทนากับทุก ๆ ท่านด้วย
แม้ใครที่ไม่เห็นด้วยหรือยังไม่สนใจที่จะบวชก็
ขอขอบคุณเช่นกันที่อ่านมาจนจบ
เรียนเชิญ ท่านชายแท้ สมัครบวชได้ที่02-831-1234 ** www.dmycenter.com
บทความจาก หนังสือ จุดเปลี่ยน โดย ร.ลิ่วเฉลิมวงศ์
#พระธัมมชโย
#ธรรมกายแฟชั่นวีค
#ธรรมกายที่รัก
#วัด #พระ #ธรรมกาย
#ธัมมชโย
#ธัมมี่ที่รัก
#คดีสหกรณ์จบแล้ว
#เรารักหลวงพ่อ
#มันเลยขั้นตอนนั้นมาแล้ว
#มีธง
#จับพระชรา
#ไร้เมตตาธรรม
“สิ่งใดที่ยังไม่ได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง ก็อย่าเพิ่งไปตัดสินใจเชื่อ” พระมหาอภินัย ตนฺติวฑโฒ
วันหนึ่ง.. คุณแม่ของผมชวนให้ผมมาบวชธรรมทายาท
ที่วัดพระธรรมกาย ผมรู้ว่าการบวชเป็นสิ่งที่ดี
แต่ต้องไม่ใช่วัดนี้อย่างแน่นอน เพราะข่าวที่กระพือให้ได้อ่านเกือบทุกวัน ทำให้ผมไม่ศรัทธาวัดนี้
**ชีวิตที่เพียบพร้อมของคุณหมอ**
พระมหาอภินัย ตนฺติวฑฺโฒ ป.ธ.4
ปริญญาตรีแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อบรมธรรมทายาท และอุปสมบทหมู่ ร่นที่ 28 พ.ศ. 2543
และรุ่นเข้าพรรษา พ.ศ.2552
ปัจจุบันพรรษา 7
ปฎิบัติศาสนกิจ วัดพระธรรมกายไทเป ประเทศไต้หวัน
จากชีวิตลูกชายคนเล็กของเจ้าของกิจการ คุณแม่ทำงานให้กับมูลนิธิแห่งหนึ่ง
จบการศึกษาในชั้นประถมที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน จบมัธยมที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาจบแพทยศาสตร์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เป็นcheer leader ของมหาวิทยาลัย(ปี1) มีครอบครัวอบอุ่นและสมบูรณ์
ชีวิตในวัยเด็กจนถึงวัยรุ่น ผมใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนๆ ดูหนังฟังเพลง เที่ยวเล่นไปตามวัย
และการเต้นรำก็เป็นสิ่งที่ผมชอบและถนัด บางวันถ้าไม่ได้ไปไหน ผมก็จะเล่นเกมคอมพิวเตอร์
ซึ่งมันก็เป็นเสมือนอาหารจานโปรดของผมอีกเหมือนกัน วันเวลาชีวิตของผมหมดไปกับสิ่งเหล่านี้
วันหนึ่ง.. คุณแม่ของผมชวนให้ผมมาบวชธรรมทายาท
ที่วัดพระธรรมกาย ผมรู้ว่าการบวชเป็นสิ่งที่ดี
แต่ต้องไม่ใช่วัดนี้อย่างแน่นอน เพราะข่าวที่กระพือให้ได้อ่านเกือบทุกวัน ทำให้ผมไม่ศรัทธาวัดนี้
ผมให้เหตุผลท่านว่าผมจะบวชตามโครงการที่
คณะแพทย์จัดไว้เป็นวิชาเลือก
ถึงกระนั้นท่านก็ยังไม่หมดความพยายาม ท่านได้ให้เหตุผลกับผม
ว่า “สิ่งใดที่ยังไม่ได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง ก็อย่าเพิ่งไปตัดสินใจเชื่อ”
ด้วยเหตุผลนี้ ผมจึงตัดสินใจบวชที่นี่ เพราะคิดว่าการบวชครั้งนี้ทำให้คุณแม่สบายใจ และจะได้รู้ว่าสิ่งที่เคยได้ยินได้ฟังจากสื่อต่างๆ นั้นมันใช่หรือไม่
..จุดเปลี่ยน.. ที่เปลี่ยนชีวิตของคุณหมอให้กลายเป็น
ผู้มีศรัทธาคืออะไร
ความสุขอยู่ในตัวเอง
ตลอดระยะเวลาของการอบรม มันทำให้ผมเริ่มเข้าใจความหมายของคำว่า “พระพุทธศาสนา” มากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการฝึกฝนอบรมตนเอง
ทั้งในด้านปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ
ใจผมมีความสุขมาก มันเป็นความสุขที่เต็มอิ่มที่ใช้ชีวิตของผมไม่เคยสัมผัสมาก่อน
ผมได้เรียนรู้ว่า แท้จริงแล้วความสุขมันอยู่ในตัวของผมเอง มันไม่ได้อยู่ไกลอย่างที่ผมเคยไขว่คว้ามาก่อน
วัดพระธรรมกายได้สอนให้ผมรู้จักความหมายของการให้ทาน รักษาศีล และเจริญสมาธิภาวนาอย่างสมบูรณ์แบบ ผมนำหลักคำสอนที่มีในพระพุทธศาสนา
ซึ่งมีพระอาจารย์ และพระพี่เลี้ยงเป็นผู้นำมาถ่ายทอด มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
มันทำให้ผมรู้คุณค่าของความเป็นมนุษย์มากยิ่งขึ้นบทฝึกของการอบรมเป็นพระธรรมทายาท เป็นบทฝึกที่ทำให้ผมยกระดับจิตใจตัวเองให้สูงขึ้น
ผมรับรู้ได้ด้วยใจของผมเองว่า มีบางสิ่งที่เปลี่ยนไป แม้จะมองไม่เห็นก็ตาม แต่มันมีคุณค่าต่อจิตใจของผมมาก ผมจึงอยากจะบอกว่า
“ครั้งหนึ่งในชีวิตของผม ผมภูมิใจมากกับการได้บวช
เป็นพระธรรมทายาท มันเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมได้พบ
และเห็นคุณค่าที่มีอยู่ในตัวของผมเอง”
คุณค่าที่ได้ทิ้งท้ายให้คิด
ผมอยากบอกทุกคนว่าลูกผู้ชายครั้งหนี่งในชีวิตก็ต้องบวชทดแทนคุณของคุณพ่อคุณแม่
เวลาที่เราอยู่ในช่วงการศึกษานี่แหละเป็นช่วงที่ปลอดกังวลมากที่สุดแล้ว หากรอให้เรียนจบหรือทำงานเสียก่อนยิ่งยากกว่านี้มาก
*** ระยะเวลา1พรรษา เหมือนจะมาก แต่ถ้าเทียบกับตลอดเวลาทั้งชีวิตที่เราหมดไปกับการเล่นสนุก เที่ยวตามที่ต่าง ๆ ดูหนัง ฟังเพลงแล้ว ผมคิดว่ามันน้อยกว่ามาก
และสิ่งที่คุณได้มาจะเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณทั้งชีวิต คือ คุณจะได้หลักการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องมากยิ่งขึ้น เพราะการศึกษาธรรมะจากการบวชในครั้งนี้
คุณก็จะมีเพื่อนที่ดีอีกกลุ่มหนึ่งที่จะชวนคุณมาเข้าวัดฟังธรรมในบางเวลา ที่คุณเผลอสติไป หากใครกลับไปแล้วตั้งใจว่า อย่างน้อยจะรักษาศีล 5 ให้ได้ทุกวัน
ก็เป็นหลักประกันอย่างหนึ่งว่า คุณคงจะไม่ต้องไปรับทุกข์จาก
การกระทำผิดศึลอีก
นั่นคือ เราจะองอาจกล้าหาญในทุกสถานการณ์ เราจะกล้าพูดได้เต็มปากว่า เราเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีคนหนึ่ง ***
หากเราตั้งใจปฏิบัติธรรมต่อเนื่อง เราก็จะมีกำลังใจในการเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
และการดำเนินชีวิตของเรายังสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนที่อยู่รอบข้างได้
เช่น ผมเองก็แนะนำคนไข้และเพื่อนร่วมงานให้เขานั่งสมาธิ เพื่อคลายความเครียดจากอาการเจ็บป่วยและจากหน้าที่การงาน
***ท่านมาบวชอีกครั้งเมื่อปีพ.ศ.2552***
ตอนสมัยเรียนอยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผมทำกิจกรรมชมรมพุทธฯและดำรงตำแหน่งเป็นประธานชมรมพุทธจุฬาฯครับ ตั้งแต่เรียนจบจากคณะแพทยศาสตร์
ก็สมัครเป็นแพทย์ใช้ทุนอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 3 ปี ระหว่างที่ทำงานใช้ทุนผมก็มาวัดทุกวันอาทิตย์ ชวนคนมาวัด
ทำหน้าที่กัลยาณมิตรแก่คนรอบข้าง ให้ทุกคนได้รู้จักเป้าหมายชีวิตของการเกิดมาเป็นมนุษย์
เมื่อทำงานใช้ทุนรัฐบาลหมดแล้ว ผมก็คิดว่า “เราจะทำอะไรต่อในชีวิตดี” ซึ่งเพื่อนๆ ที่เรียนจบมาด้วยกัน หลายคนก็จะเรียนต่อเป็นแพทย์เฉพาะทาง
บางคนก็ทำงานในโรงพยาบาลเอกชน จะได้มีรายได้มากๆ แต่ผมเองกลับคิดว่าที่ผ่านมานั้น เราไม่รู้เลยว่า จะเจ็บจะป่วยเมื่อไหร่และจะตายเมื่อไหร่ ก็ยังไม่รู้
แม้ว่าการเป็นแพทย์ของผมจะช่วยเหลือคนไข้คนเจ็บมามาก แต่คนเจ็บก็ไม่ได้มีจำนวนที่ลดลงเลย
คนป่วยที่มารักษาหลายๆคน ก็ไม่หาย เสียชีวิตไปก็มี หลายๆโรค เช่น มะเร็ง เอดส์ ตับแข็ง ใครเป็นแล้วก็ต้องทำใจ เตรียมพร้อมที่จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่า
แต่จากการที่ผมได้ศึกษา case study ที่หลวงพ่อเมตตาตอบลูกๆ มาตลอด
จึงได้ทราบว่าความเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ ล้วนเป็นผลมาจากการกระทำผิดศีล 5 ทั้งในอดีตและปัจจุบันชาติ
ดังนั้นหากคนในสังคมรักษาศีล 5 กันได้มาก ก็จะทำให้มีคนเจ็บป่วยน้อยลง อุบัติเหตุ การทำร้ายกันน้อยลง
คนเป็นหมอก็ทำงานน้อยลง เพราะไม่มีคนให้รักษา ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ด้วยการสร้างกรรมดี จะได้ไม่เกิดเป็นวิบากกรรม ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคภัยไข้เจ็บ
*** ผมเชื่อว่า ผู้ที่ฉลาดและเห็นภัยในวัฏสงสารควรจะให้โอกาสตนเองมาศึกษาปฏิบัติธรรม
ทำที่พึ่งให้กับตนเองก่อน หลังจากนั้นจึงจะทำประโยชน์ให้คนรอบข้างและสังคมได้
ซึ่งประโยชน์ที่ผมเลือกทำให้ตนเองนั้น ก็คือการสั่งสมบุญ และบุญใหญ่ที่ลูกผู้ชายสามารถทำได้ นั่นก็คือการบวชครับ ***
หลังจากผมได้เข้ามาในโครงการ ครั้งที่2นี้ ผมก็ได้พบเจอกับเพื่อนที่มาบวชจำนวนมาก จากหลายภูมิลำเนา และผู้บวชก็มีอายุแตกต่างกันมาก
บางคนเป็นปู่เป็นพ่อของเราได้เลย เมื่อคนจำนวนมากมาอยู่ด้วยกันก็ต้องมีระเบียบวินัยมากำกับ ไม่ว่าจะแปรงฟัน ล้างหน้า อาบน้ำ ทำวัตร ปฏิบัติธรรม
ก็ล้วนเป็นไปตามตารางกิจวัตรทั้งสิ้น จนผมคิดว่าอยู่เหมือนเป็นทหาร แต่เป็นทหารแห่งกองทัพธรรม ที่ไม่ได้ไปต่อสู้กับใคร แต่ต้องสู้กับกิเลสที่ฝังอยู่ในใจเรามาช้านาน
การมาอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้สะดวกสบายเหมือนอยู่ที่บ้าน ไม่สามารถทำตามใจอย่างที่เคยทำได้ แต่ผมก็มีคณะพระอาจารย์ พระพี่เลี้ยงคอยให้คำปรึกษาชี้แนะ
จนทำให้ปรับตัวปรับใจ เมื่อผมยอมรับสภาพแวดล้อมใหม่ๆได้ ผมก็มีความสุข บรรยากาศเหมือนพี่น้องก็บังเกิดขึ้น และเมื่อทุกรูปได้ฝึกสมาธิมากๆ ใจก็นุ่มนวล มีความอดทนกับการกระทบกระทั่งได้เป็นอย่างดี
วันหนึ่งขณะที่ผมอบรมอยู่ที่เขาแก้วเสด็จ ผมนั่งหลับตาปล่อยใจไปตามเสียงเทศน์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโวที่เมตตามาเทศน์สอนให้กับเหล่าธรรมทายาทที่เขาแก้วเสด็จ
ท่านได้เน้นเรื่องมรรคมีองค์ 8 ว่า เมื่อปฏิบัติได้ถูกส่วน ทำซ้ำแล้วซ้ำอีกก็จะเข้าถึงธรรมได้
แม้อากาศจะร้อน เหงื่อไคลไหลออกมา ผมก็หยุดใจนิ่งๆ ไว้ที่ศูนย์กลางกาย นึกภาพองค์พระ TOP VIEW ที่หลวงพ่อฉายใน DMC บ่อยๆ เป็นช่วงเวลาที่เคลิ้มๆสบายๆอย่างบอกไม่ถูกครับ
ทันใดนั้นที่ศูนย์กลางกายของผม ก็มีแสงสว่างโพลงขึ้นมา เป็นความสว่างที่จ้าแต่ไม่แสบตา สว่างมากกว่าดวงอาทิตย์ แสงที่เห็นทำให้ผมตื่นตัวและตื่นเต้นมากๆ
ผมไม่คิดเลยว่าจะเกิดขึ้นในเวลาที่เราหลับตาได้ ผมเห็นอยู่สักพักหนึ่งก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังไม่มีองค์พระผุดขึ้นมาสักทีแถมยังตื่นเต้นด้วย
แสงสว่างเลยจึงค่อยๆหายไป แต่ก็ทำให้ผมมั่นใจว่าเรามาถูกทางแล้ว ธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีจริง พิสูจน์ได้ด้วยตนเอง
หากใครตั้งใจมาบวช หลังจากที่ได้อ่านบทความนี้
ก็ขออนุโมทนากับทุก ๆ ท่านด้วย
แม้ใครที่ไม่เห็นด้วยหรือยังไม่สนใจที่จะบวชก็
ขอขอบคุณเช่นกันที่อ่านมาจนจบ
เรียนเชิญ ท่านชายแท้ สมัครบวชได้ที่02-831-1234 ** www.dmycenter.com
บทความจาก หนังสือ จุดเปลี่ยน โดย ร.ลิ่วเฉลิมวงศ์
#พระธัมมชโย
#ธรรมกายแฟชั่นวีค
#ธรรมกายที่รัก
#วัด #พระ #ธรรมกาย
#ธัมมชโย
#ธัมมี่ที่รัก
#คดีสหกรณ์จบแล้ว
#เรารักหลวงพ่อ
#มันเลยขั้นตอนนั้นมาแล้ว
#มีธง
#จับพระชรา
#ไร้เมตตาธรรม