### กระทู้ชวนสนทนา เพราะเหตุนี้หรือเปล่า อังกฤษถึงไปได้ไม่ไกล ###
พอดีลองค้นๆดูเกี่ยวกับ home grown แล้วเจอที่นี่ครับ
http://pantip.com/topic/31033432
เครดิต คุณ Box to box
ค่าตัวนักเตะอังกฤษ แพง ทำให้ไปหานักเตะต่างชาติมาปั้น ดาวรุ่งอังกฤษแท้ๆ จะขึ้นมาทีมใหญ่ผมเห็นน้อยมากเลยครับ
มาดูของทางเยอรมันบ้าง
เครดิตจากลิ้งค์นี้ครับ
http://www.manager.co.th/Mwebboard/listComment.aspx?Mbrowse=4&QNumber=389479
เครดิตคุณ สมโชค ครับ
ขอตัดมาบางส่วน
"ความล้มเหลวในฟุตบอล Euro 2000 ที่ฮอลแลนด์และเบลเยี่ยมเป็นเจ้าภาพร่วม ผลคือเยอรมันได้อันดับสุดท้ายของกลุ่มเก็บ
ได้เพียงแต้มเดียวจากการเสมอโรมาเนีย และนอกนั้นแพ้ให้ต่ออังกฤษและโปรตุเกส ทำให้เยอรมันจอดป้ายแค่รอบแรก
ซึ่งในทีมชุดนั้นของเยอรมันเต็มไปด้วยดาวโรยของวงการเยอรมัน เรียกได้ว่าค่าเฉลี่ยของอายุนักเตะอยู่ที่ 29 ปี ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Lothar Matthäus
ณ ตอนนั้นเขาอายุได้ 39 ปีและยังมีนักเตะอายุ 30 ปีอัพ อยู่ในทีมชุดนั้นถึง 10 คนด้วยกัน
จากเหตุผลดังกล่าวทำให้ DFB หันกลับมาคิดทบทวนรูปแบบการพัฒนาวงการฟุตบอลของประเทศเยอรมันโดยละเอียดใหม่อีกครั้ง
ที่ภาษาอังกฤษใช้คำว่า overhaul นั้นเอง จากความล้มเหลวครั้งนั้นทำให้ DFB ขอความร่วมมือจาก 36 สโมสรของ 2 Division
สูงสุดของประเทศมาร่วมกันหาแนวทางการปฏิวัติวงการฟุตบอลเยอรมันใหม่ จากประชุมครั้งนี้ได้กำหนดแนวทางหลักที่ DFB
วางไว้คือ Homegrown player ซึ่งในแนวทางของ DFB จะต่างไปจากรูปแบบที่ Homegrown ที่ FIFA พยายามออกกฎ fifa's 6+5 rules
มาใช้ในการแข่งระดับสโมสรคือ ใน line-up 11 ตัวจริง fifa พยายามจะผลักดันให้ต้องมีอย่างน้อย 6 คนจะต้องมาจากชาติของลีกของตัวเอง
แต่เป็นที่ทราบๆกันว่า fifa’s 6+5 rules ถูกปฏิเสธจาก EU ในภายหลังเนื่องจากพิจารณาแล้วผิดกฎหมายแรงงานของยุโรป
กฎนี้ทาง AFC ของทางเอเชียได้นำมาประยุกต์เป็น 3+1 ในการแข่งขัน ACL ในปัจจุบัน
ย้อนกลับมาที่ Homegrown player ที่ทาง DFB กำหนดไว้เป็นแนวทางคือใน สโมสรแต่ละสโมสรจะต้องมีนักเตะเยอรมันในทีม
อย่างน้อย 12 คน (ถามว่ามันคือกฎหรือไหม ตอบเลยว่าไม่ใช่ มันคือแนวทางที่ DFB ให้กับทีมสมาชิกร่วมกันปฏิบัติ) จากแนวทาง
ดังกล่าวทำให้ในฤดูกาล 2003-2004 มีอัตราส่วนนักเตะเยอรมันในลีกอยู่ที่ 44 % (ในปัจจุบันอยู่ที่ 62%)
แผนดังกล่าวนี้เป็นขั้นแรกของการปฏิวัติวงการฟุตบอลเยอรมัน โดยเริ่มจากแผนพัฒนาเยาวชนและยึดเอาสโมสรแต่ละแห่งเป็น
ศูนย์กลางในการพัฒนานักเตะเยาวชนป้อนสู่สโมสร จากสโมสรป้อนสู่ทีมชาติต่อไปหรือจะเรียกอีกอย่างคือ สร้างตัวเลือกของนักเตะ
ให้เพิ่มมากขึ้นอัตราการประสบความสำเร็จก้อจะมากขึ้นตามไปด้วย
โดยแผนการพัฒนาระบบเยาวชนได้เริ่มใช้ทันทีในปี 2000 หลังจากนั้น 2 ปี ฟุตบอลโลก 2002 เยอรมันฟอร์มทีมใหม่โดยเสี่ยง
ด้วยการนำสายเลือดใหม่ลงแข่งขัน โดยครั้งนั้นเยอรมันส่งทีมที่มีค่าอายุเฉลี่ยน้อยสุดตั้งแต่เคยมีมาคือ 24.7 ปี
และในครั้งฟุตบอลโลกครั้งนั้น เป็นจุดเริ่มต้นของนักเตะระดับดาวซัลโวฟุตบอลโลกอย่าง Miloslav Klose นั้นเอง ผลงานของเยอรมัน
เป็นที่น่าพอใจคือได้รองแชมป์ในครั้งนั้น แต่สิ่งที่ได้มากกว่าคือ
ผลลัพธ์ของสมการที่เยอรมันกำลังมาได้ถูกทางแล้ว"
เครดิตคุณสมโชคครับ
======================
จขกท : ผมคิดว่า ลีกอังกฤษ รวมหลากหลายผู้เล่น แต่ตัวดีๆเก่ง มักจะเป็นต่างชาติเสียมาก และประสบการณ์มากด้วย
แมนซิตี้ : อเกวโร่ กุน ; อาร์เจนติน่า
อาร์เซน่อล : ชิรูด์ ; ฝรั่งเศส โอซิล ; เยอรมัน
เชลซี : คอสต้า ;สเปน อาร์ซา; เบลเยี่ยม
แมนยู : รูนี่ ; อังกฤษ มาเที่ยว; ฝรั่งเศส แรชฟอร์ด ;อังกฤษ
เด็กอคาเดมี่ อังกฤษแท้ๆ มาขึ้นชุดใหญ่ ค่อนข้างน้อย เพราะเหตุนี้หรือเปล่า เวลามาแข่งในนามทีมชาติอังกฤษถึงผลงานไม่ค่อยดี


### กระทู้ชวนสนทนา เพราะเหตุนี้หรือเปล่า อังกฤษถึงไปได้ไม่ไกล ###
พอดีลองค้นๆดูเกี่ยวกับ home grown แล้วเจอที่นี่ครับ
http://pantip.com/topic/31033432
เครดิต คุณ Box to box
ค่าตัวนักเตะอังกฤษ แพง ทำให้ไปหานักเตะต่างชาติมาปั้น ดาวรุ่งอังกฤษแท้ๆ จะขึ้นมาทีมใหญ่ผมเห็นน้อยมากเลยครับ
มาดูของทางเยอรมันบ้าง
เครดิตจากลิ้งค์นี้ครับ http://www.manager.co.th/Mwebboard/listComment.aspx?Mbrowse=4&QNumber=389479
เครดิตคุณ สมโชค ครับ
ขอตัดมาบางส่วน
"ความล้มเหลวในฟุตบอล Euro 2000 ที่ฮอลแลนด์และเบลเยี่ยมเป็นเจ้าภาพร่วม ผลคือเยอรมันได้อันดับสุดท้ายของกลุ่มเก็บ
ได้เพียงแต้มเดียวจากการเสมอโรมาเนีย และนอกนั้นแพ้ให้ต่ออังกฤษและโปรตุเกส ทำให้เยอรมันจอดป้ายแค่รอบแรก
ซึ่งในทีมชุดนั้นของเยอรมันเต็มไปด้วยดาวโรยของวงการเยอรมัน เรียกได้ว่าค่าเฉลี่ยของอายุนักเตะอยู่ที่ 29 ปี ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Lothar Matthäus
ณ ตอนนั้นเขาอายุได้ 39 ปีและยังมีนักเตะอายุ 30 ปีอัพ อยู่ในทีมชุดนั้นถึง 10 คนด้วยกัน
จากเหตุผลดังกล่าวทำให้ DFB หันกลับมาคิดทบทวนรูปแบบการพัฒนาวงการฟุตบอลของประเทศเยอรมันโดยละเอียดใหม่อีกครั้ง
ที่ภาษาอังกฤษใช้คำว่า overhaul นั้นเอง จากความล้มเหลวครั้งนั้นทำให้ DFB ขอความร่วมมือจาก 36 สโมสรของ 2 Division
สูงสุดของประเทศมาร่วมกันหาแนวทางการปฏิวัติวงการฟุตบอลเยอรมันใหม่ จากประชุมครั้งนี้ได้กำหนดแนวทางหลักที่ DFB
วางไว้คือ Homegrown player ซึ่งในแนวทางของ DFB จะต่างไปจากรูปแบบที่ Homegrown ที่ FIFA พยายามออกกฎ fifa's 6+5 rules
มาใช้ในการแข่งระดับสโมสรคือ ใน line-up 11 ตัวจริง fifa พยายามจะผลักดันให้ต้องมีอย่างน้อย 6 คนจะต้องมาจากชาติของลีกของตัวเอง
แต่เป็นที่ทราบๆกันว่า fifa’s 6+5 rules ถูกปฏิเสธจาก EU ในภายหลังเนื่องจากพิจารณาแล้วผิดกฎหมายแรงงานของยุโรป
กฎนี้ทาง AFC ของทางเอเชียได้นำมาประยุกต์เป็น 3+1 ในการแข่งขัน ACL ในปัจจุบัน
ย้อนกลับมาที่ Homegrown player ที่ทาง DFB กำหนดไว้เป็นแนวทางคือใน สโมสรแต่ละสโมสรจะต้องมีนักเตะเยอรมันในทีม
อย่างน้อย 12 คน (ถามว่ามันคือกฎหรือไหม ตอบเลยว่าไม่ใช่ มันคือแนวทางที่ DFB ให้กับทีมสมาชิกร่วมกันปฏิบัติ) จากแนวทาง
ดังกล่าวทำให้ในฤดูกาล 2003-2004 มีอัตราส่วนนักเตะเยอรมันในลีกอยู่ที่ 44 % (ในปัจจุบันอยู่ที่ 62%)
แผนดังกล่าวนี้เป็นขั้นแรกของการปฏิวัติวงการฟุตบอลเยอรมัน โดยเริ่มจากแผนพัฒนาเยาวชนและยึดเอาสโมสรแต่ละแห่งเป็น
ศูนย์กลางในการพัฒนานักเตะเยาวชนป้อนสู่สโมสร จากสโมสรป้อนสู่ทีมชาติต่อไปหรือจะเรียกอีกอย่างคือ สร้างตัวเลือกของนักเตะ
ให้เพิ่มมากขึ้นอัตราการประสบความสำเร็จก้อจะมากขึ้นตามไปด้วย
โดยแผนการพัฒนาระบบเยาวชนได้เริ่มใช้ทันทีในปี 2000 หลังจากนั้น 2 ปี ฟุตบอลโลก 2002 เยอรมันฟอร์มทีมใหม่โดยเสี่ยง
ด้วยการนำสายเลือดใหม่ลงแข่งขัน โดยครั้งนั้นเยอรมันส่งทีมที่มีค่าอายุเฉลี่ยน้อยสุดตั้งแต่เคยมีมาคือ 24.7 ปี
และในครั้งฟุตบอลโลกครั้งนั้น เป็นจุดเริ่มต้นของนักเตะระดับดาวซัลโวฟุตบอลโลกอย่าง Miloslav Klose นั้นเอง ผลงานของเยอรมัน
เป็นที่น่าพอใจคือได้รองแชมป์ในครั้งนั้น แต่สิ่งที่ได้มากกว่าคือ
ผลลัพธ์ของสมการที่เยอรมันกำลังมาได้ถูกทางแล้ว"
เครดิตคุณสมโชคครับ
======================
จขกท : ผมคิดว่า ลีกอังกฤษ รวมหลากหลายผู้เล่น แต่ตัวดีๆเก่ง มักจะเป็นต่างชาติเสียมาก และประสบการณ์มากด้วย
แมนซิตี้ : อเกวโร่ กุน ; อาร์เจนติน่า
อาร์เซน่อล : ชิรูด์ ; ฝรั่งเศส โอซิล ; เยอรมัน
เชลซี : คอสต้า ;สเปน อาร์ซา; เบลเยี่ยม
แมนยู : รูนี่ ; อังกฤษ มาเที่ยว; ฝรั่งเศส แรชฟอร์ด ;อังกฤษ
เด็กอคาเดมี่ อังกฤษแท้ๆ มาขึ้นชุดใหญ่ ค่อนข้างน้อย เพราะเหตุนี้หรือเปล่า เวลามาแข่งในนามทีมชาติอังกฤษถึงผลงานไม่ค่อยดี