ควันหลงมาตรการเยียวยาคลื่น "1800-900" ได้เวลาหาคนจ่าย

กระทู้ข่าว

บทความพิเศษ: ควันหลงมาตรการเยียวยา
คม ชัด ลึก ฉบับวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2559
โดย : น้ำเชี่ยว บูรพา

          แม้การประมูลคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) จะรูดม่านลงไปแล้วแบบ "ม้วนเดียวจบ" โดยบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ที่เคยเสนอตัวขอรับ "เซ็งลี้" คลื่นความถี่ย่านดังกล่าวมาตั้งแต่แรกคว้าใบอนุญาตไปตามคาดหมายแบบไร้คู่แข่ง ทำเอา กสทช. ยิ้มแก้มปริ

          ไม่เพียงจะช่วยรักษาหน้าให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จากการเคาะราคาประมูลไปเท่ากับราคาที่บริษัท "แจส โมบาย" ผู้ชนะการประมูลครั้งก่อนเสนอเอาไว้ที่ 75,654 ล้านบาท

          ก็ถือเป็นการ "ปลดล็อก" ให้แก่ตัวเองไม่ต้องเสียลูกค้า 2 จี ให้แก่คู่แข่ง  เพราะเมื่อค่ายเอไอเอสประมูลคลื่นความถี่ 900 ได้ไปก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องโอนย้ายผู้ใช้บริการในระบบเดิมไปยังเครือข่ายผู้ใช้บริการรายอื่น

          แต่กระนั้นควันหลงจากประกาศ กสทช. ว่าด้วยมาตรการเยียวยาผู้ใช้บริการ 2 จี 900 เดิม ก็ทำให้ประชาชนคนไทยได้เห็นปมปัญหาของมาตรการเยียวยา

          ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าแค่เรื่องของการเรียก เก็บค่าใช้คลื่นและโครงข่ายในช่วงมาตรการเยียวยาผู้ใช้บริการ แต่ไม่รู้ กสทช.ไปกำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณค่าใช้จ่ายกันอีท่าไหน จึงทำให้จนป่านนี้ก็ยังไม่สามารถให้ผู้ใช้คลื่นความถี่และโครงข่ายคำนวณอัตราค่าบริการและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นและส่วนต่างที่จะต้องนำส่ง กสทช.เพื่อเข้ารัฐได้

          ล่าสุด นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เพิ่งจะออกมาเปิดเผยว่าภายในเดือนมิถุนายนนี้ สำนักงาน กสทช.จะสรุปตัวเลขการคำนวณค่าใช้จ่ายการใช้คลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ และ 900 เมกะเฮิรตซ์ ในช่วงมาตรการเยียวยา ตามประกาศ กสทช.เพื่อนำเสนอบอร์ด กทค.และกสทช.

          โดยยอมรับว่าจนถึงขณะนี้ ยังไม่สามารถสรุปตัวเลขค่าใช้จ่ายการใช้คลื่นความถี่และโครงข่ายในช่วงเยียวยาผู้ใช้บริการได้ โดยเฉพาะในส่วนของคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ สัญญาสัมปทานระหว่างบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กับบริษัท ทรูมูฟ จำกัด และบริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด หรือ ดีพีซี ที่สิ้นสัญญาสัมปทานไปตั้งแต่ 16 กันยายน 2556 หรือกว่า 3 ปีมาแล้ว และก็มีการประมูลคลื่นนี้ไปแล้วตั้งแต่ปลายปี 2558 แต่จนป่านนี้กลับยังไม่สามารถเช็กบิลค่าใช้จ่ายในช่วงเยียวยาได้

          กสทช.ได้เรียกเก็บเงินจากทรูมูฟไปนับพันล้านบาท แต่ทรูมูฟได้ยื่นอุทธรณ์และฟ้องศาลปกครองยืนยันว่าค่าใช้จ่ายในช่วงมาตรการเยียวยานั้นสูงมากกว่ารายรับอยู่กว่า 16,000 ล้านบาท ซึ่งต้องให้รัฐรับผิดชอบชดใช้ให้คืน ขณะที่บริษัท กสท โทรคมนาคม หรือแคท ก็ได้ยื่นฟ้องศาลปกครองว่า กสทช.คิดค่าใช้โครงข่ายและอุปกรณ์โทรคมนาคมในอัตราที่ต่ำมากจนรัฐเสียหายไปนับหมื่นล้านบาทเช่นกัน

          เกิดอะไรขึ้นกับตัวเลขรายได้-รายจ่ายและส่วนแบ่งผลประโยชน์จากการให้บริการในช่วงเยียวยากว่า 3 ปี  ที่ไม่เพียงจะปิดบัญชีไม่ลง เผลอๆ บริษัทสื่อสารเอกชนจะมาฟ้องเรียกค่าใช้จ่ายเข้าให้อีก

          เช่นเดียวกับคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ สัญญาสัมปทานระหว่างบริษัท ทีโอทีจำกัด (มหาชน) กับเอไอเอส ที่สิ้นสุดลงไปเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2558 ก็จ่อจะเจริญรอยตาม หลัง กสทช.เรียกเก็บเงินค่าใช้คลื่นความถี่ 900 ในช่วงเยียวยาจากเอไอเอส วงเงิน 125 ล้านบาท แต่บริษัททีโอทีกลับทำหนังสือถึง กสทช. เพื่อเรียกเก็บเงินชดเชยจากการใช้โครงข่ายโทรคมนาคมในช่วงเยียวยาที่ว่าแค่ 3 เดือนนี้ถึง 5,000 ล้านบาท ซึ่งก็ไม่รู้คนทีโอทีไปเอาตัวเลขที่ว่ามาจากไหน เพราะหากเทียบกับข้อตกลงในการใช้โครงข่ายที่ทีโอทีทำกับบริษัทในภายหลังตามข้อตกลงเป็นพันธมิตรธุรกิจนั้นแตกต่างกันลิบลับ

          และหากยึดตัวเลขค่าใช้จ่ายที่สูงลิบลิ่วขนาดนี้ ก็มีหวังคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ ของแคท-ทรูมูฟ ที่มีการใช้มาตรการเยียวยามาร่วม 3 ปีก่อน ที่ กสทช.จะจัดประมูลคลื่นดังกล่าวออกไป ก็คงทะลักไปเกินระดับหมื่นล้านหรือแสนล้านเป็นแน่

          แต่ก็เป็นกรณีดราม่าที่ชี้ให้เห็นถึงประสิทธิภาพการทำงานขององค์กร กสทช.โดยแท้ ซึ่งหากยังเคลียร์ค่าใช้จ่ายในช่วงมาตรการเยียวยาที่ว่าไม่ลงตัวก็มีหวัง กสทช.งานเข้าแน่ๆ


แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก ฉบับวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2559 (หน้า 4)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่