หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
ไปเที่ยว Malta กับผมไหมครับ (รูปแน่นเชียะ)
กระทู้สนทนา
บันทึกนักเดินทาง
ภาพถ่ายทิวทัศน์
เที่ยวยุโรป
Olympus OM-D E-M10
คือผมเพิ่งไปเที่ยวมาครับ แล้วก็มีไอเดียก่อนจะไปว่า เห้ย !! ฉันอยากรีวิวอะไรเกร๋ๆลงพันทิปอะแกร สภาพอากาศก็ช่างเป็นใจซะเหลือเกิน แล้วพอดีผมเพิ่งได้กล้องมาใหม่อีก ก็เลยถือโอกาสตรงนี้เอากล้อง Olympus OM-D E-M10 ไปลองครับ นี่คือกล้องตัวแรกของผมครับ ก่อนหน้านี้ก็ใช้ไอโฟนถ่ายรูปเล่นมาตลอด
มาเข้าเรื่องว่าทำไมต้องไป มอลต้า กันดีกว่าเนอะ ... คือมันเป็นการพักร้อนที่ไม่ได้วางแผนเท่าไหร่ ช่วงนั้นผมเองกำลังหาที่เที่ยวพอดี แต่ดูไว้หลายที่ เช่น Mallorca(Spain), Porto(Portugal) และ Gran Canaria(Spain) แต่สุดท้ายก็ไป Malta เพราะตั๋วถูกและดูใหม่ดีสำหรับผมและแฟน
ปล.รูปที่ถ่าย 99% มาจากกล้องใหญ่นะครับ จะมีแค่รูปเดียวที่มาจากไฮโฟน เดี๋ยวผมจะเขียนบอกไว้(สีมันจะแปลกๆเพราะผมปรับ) ส่วนรูปที่มาจากกล้อง ผมขออนุญาตไม่ปรับสีนะครับ ดูกันไปสดๆแบบนั้นแหละ รูปที่เอามาลงผ่านก็ย่อขนาดมานะครับ ฉะนั้นคุณภาพก็ตามที่เห็นเลย
มาครับมา ไปเที่ยว Malta กับผมกันได้ละ . . . (ผมอยู่เยอรมนี ฉะนั้นถ้าใครอยู่ประเทศอื่นๆในโลก ก็ปรับวิธีการเดินทางเอานะครับ)
ผมออกเดินทางจากสนามบิน Karlsruhe - Baden Airpark ตั้งแต่เช้าครับ ไปกับสายการบิน low cost "Ryan Air"
ด้วยความทีเป็น low cost จะดื่มจะกินอะไรก็ต้องจ่ายเพิ่มครับ ถามว่าแพงไหม แพงมั้งครับ ผมโดนไป 7 euro
ระหว่างผมก็ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆครับ มันนอนไม่หลับเลยเพราะตื่นเต้นงะ ไม่ได้นั่งเครื่องมาเกือบๆ 3 ปีเลยอะครับ
พอประมาน 2 ชั่วโมง 15 นาที เราก็จะถึง มอลต้า กันละครับ เร็วดีเนอะ ^^
ตอนผมเห็น มอลต้า จากบนท้องฟ้า อุทานในใจเบาๆในใจว่า "ต้นไม้เค้าหายไปไหนหมด เพราะเค้าเป็นเกาะแน่ๆเลย"
พอเท้าแตะพื้น ก็เดินเข้าสนามบินมาครับ รอกระเป๋า แล้วก็เดินไปซื้อตั๋วรถ เคาเตอร์ซื้อตั๋วพอเดินออกมาจากด่านตรวจก็จะเจอครับ
ผมเลือกซื้อตั๋ว 7 วัน ขึ้นไม่จำกัดเที่ยว ราคาอยู่ที่ 21 euro ครับ (ราคานี้ไม่รวมพวกเรือข้ามฝากนะครับ)
จากนั้นก็ไปรอรถบัสเพื่อที่จะไปที่พักอะครับ ซึ่งผมจะบอกว่าจริงๆแล้ว โรงแรมเค้าส่งเมลล์มาถามตั้งแต่ที่เราจองที่พักกับเค้าอะครับว่าต้องให้เค้าส่งรถมารับไหม ราคา 20 euro สำหรับไม่เกิน 4 ท่าน แต่ตอนนั้นเราไปกัน 2 คนไงครับ แล้วก็แอบดูในแผนที่ไปแล้วว่า เอ้ออออ มันก็ไม่ไกลนะ เรานั่งบัสเอาก็ได้ ที่ไหนได้คุณพระช่วย รถมันอ้อมมมมมมมมมมมม อ้อมมมากกก อะครับ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ผมทั้งยืนและนั่งบนรถบัส คนก็แน่นมาก อารมณ์เหมือนตอนที่ผมนั่งบัสในกรุงเทพฯเลยครับ แถมคนขับยังเล่นมือถือแล้วขับรถไปด้วย ถนนเค้าดีครับ แต่มันคดเคี้ยวซะเหลือเกิน นึกแล้วก็ขำหนะครับ พอเข้าชั่วโมงที่ 2 ผมเลยถามคุณแฟนว่า โรงแรมห่างจากเราตอนนี้เยอะไหม เราลงแล้วเดินเอาได้ไหม ไม่ไหวแล้วเพราะเวียนหัวและร้อนครับ พอเค้าตอบกลับมาว่า ไม่เกิน 500 เมตรจากป้ายรถที่เรากำลังจะลง ผมกดกริ่งเลยแล้วลากกระเป๋าลง แล้วก็เป็นอย่างที่เค้าพูดครับโรงแรมเราไม่ไกลจากป้ายรถจริงๆ
โรงแรมที่ผมพักอยู่เมือง Sliema นะครับ เดินทางสะดวก อาหารการกินมากมาย นั่งเรือออกไปเที่ยวก็สะดวกดีด้วยครับ
นี่คือภาพถ่ายจากที่พักครับ
พอเอาของเก็บเรียบร้อยก็ออกมาหาขนมกินกันครับ รูปบนนี้ถ่ายจากไอโฟนนะครับ อันล่างก็จากกล้องใหญ่ปกติ
เห็นเค้านั่งกันริมน้ำผมก็อยากจะนั่งบ้างงะ
จากนั้นก็เข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าครับ เพราะว่าตอนนั่งรถผ่านแอบเหลือบเห็นว่ามันมีที่เห็นเราได้เล่นน้ำกัน แล้วระหว่างก็ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อย คือเห็นอะไรก็ถ่ายอะครับ มันแปลกตาไปหมด มันสวย น้ำมันใสมาก ถนนหนทางเค้าก็สะอาดดีนะครับ
เดินมาซักพักก็ถึงที่เล่นน้ำได้อะครับ
เล่นน้ำเสร็จก็เดินกลับที่พักครับเพื่อที่จะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมหาข้าวเย็นกินกัน พอเราอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเสร็จก็นั่งบัสครับเพื่อที่จะไปหาข้าวกิน เราเลือกใช้บัสเส้นทางที่จะไป St.Julian ครับเพราะแถวนั้นร้านอาหารเยอะดี ระหว่างพอผมเห็นว่ามันสวยดีก็จะกดกริ่งลงรถแล้วก็ถ่ายรูปเล่นหนะครับ
เย็นนี้ผม 2 คน ขอฝากท้องกันที่ร้านนี้ครับ อาหารดีครับ ราคาน่าคบหาด้วย วิวดี อากาศดี (ขอปิดท้ายวันแรกด้วนรูปนี้นะครับ)
เช้าวันที่ 2 เราไม่มีแผนการเลยครับว่าจะไปไหนดี คิดแค่ว่าลองเดินเล่นหาร้านโปสการ์ด, ร้านขายของที่ระลึก, ไปรษณีย์แล้วก็หาของกินกันละกัน ซึ่งแน่นอนครับว่า เราเลือกนั่งบัสมุ่งหน้าไปทาง St.Julian เพราะมันเป็นดงกิน ดงเที่ยว ดงขายของ และแถวนี้ก็มีร้านนวดไทยด้วยนะครับ
เดินมาแปปนึงผมก็มาสั่ง Cola Beer ดื่มครับ สีมันเหมือน Hot Chocolate ดีนะอะ ขนาดผสม Cola แล้วนะ ผมก็ยังเมา คือบับ . .
จากนั้นก็มีไอเดียว่า เห้ยยยย ลองนั่งเรือข้ามไปเมืองหลวงของ มองต้า กันดีไหม เราก็เลยนั่งบัสกลับมาที่พักครับ เพื่อมาต่อแถวซื้อตั๋วข้ามไป Valetta กัน ตั๋วรถบัสที่เราซื้อจากสนามบิน ไม่สามารถใช้กับเรือข้ามฝากได้นะครับ ตามที่กล่าวไปแล้วเมื่อตอนต้น ราคา 1,50 euro/คน ครับ
เมืองด้านหน้าที่เห็นคือ Valetta นั้นเองครับ
ถึงฝั่งเมืองหลวงละครับ ที่นี่เราจะเห็นคนนั่งตกกันทั่วไปริ่มทะเลอะครับ แต่รูปนี้ผมได้เจ้าแมวเข้ามาร่วมเฟรมด้วย นางคงรอกินปลาครับ
ผมก็เดินเล่นอยู่ใน Valetta ประมาน 2-3 ชั่วโมงครับวันนี้ เพราะตั้งใจว่าตอนเย็นจะกลับฝั่งที่พักแล้วจะหาซื้อตั๋วเรือเพื่อไปเที่ยวที่ Blue Lagoon กันในวันถัดไป ก็ชิวๆเรื่อยๆเห็นอะไรก็ถ่ายมา คือเมืองเค้ามันเก่าแล้วมันก็ผสมความทันสมัยลงไปด้วยการมีร้านค้าแบรนเนมอยู่ในตึกรามบ้านช่องที่มันเก่าๆหนะครับ
เดินเสร็จก็นั่งเรือกลับฝั่งที่พักครับ
โชคดีมากครับมาทันซื้อตั๋วเรือเพื่อที่จะไปเที่ยวกันในวันถัดไป ผม 2 คนโดนค่าตั๋วไปคนละ 10 euro เราตัดสินใจไปแค่ Blue Lagoon ครับ เพราะอยากเล่นน้ำกันนานๆ คนขายตั๋วบอกว่าถ้าแค่ Blue Lagoon เค้าจะปล่อยให้เราเล่นน้ำประมาน 4 ชั่วโมงครับ พอได้ตั๋วแล้วเราก็กลับเข้าที่พักเพื่อเตรียมตัวออกไปกินข้าวเย็นกันครับ
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวกันเสร็จ เราก็นั่งบัสโดยใช้เส้นทางที่จะมุ่งหน้าไป St.Julian ครับ เพื่อมาหาข้าวเย็นกินกัน ร้านอาหารในระแวงนี้เยอะแยะมากมายนะครับ เลือกเอาเลยว่าเราชอบร้านไหนก็พุ่งเข้าไปร้านนั้นๆได้เลย ส่วนราคาก็แพงนั้นแหละครับ ผมว่าแพง เพราะผมอยู่เยอรมนีก็ไม่กินข้าวกันราคาแบบนี้ แต่นี่เรามาเที่ยวก็จัดซะหน่อยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
ภาพถ่ายทิวทัศน์
เที่ยวยุโรป
Olympus OM-D E-M10
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 36
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
ไปเที่ยว Malta กับผมไหมครับ (รูปแน่นเชียะ)
มาเข้าเรื่องว่าทำไมต้องไป มอลต้า กันดีกว่าเนอะ ... คือมันเป็นการพักร้อนที่ไม่ได้วางแผนเท่าไหร่ ช่วงนั้นผมเองกำลังหาที่เที่ยวพอดี แต่ดูไว้หลายที่ เช่น Mallorca(Spain), Porto(Portugal) และ Gran Canaria(Spain) แต่สุดท้ายก็ไป Malta เพราะตั๋วถูกและดูใหม่ดีสำหรับผมและแฟน
ปล.รูปที่ถ่าย 99% มาจากกล้องใหญ่นะครับ จะมีแค่รูปเดียวที่มาจากไฮโฟน เดี๋ยวผมจะเขียนบอกไว้(สีมันจะแปลกๆเพราะผมปรับ) ส่วนรูปที่มาจากกล้อง ผมขออนุญาตไม่ปรับสีนะครับ ดูกันไปสดๆแบบนั้นแหละ รูปที่เอามาลงผ่านก็ย่อขนาดมานะครับ ฉะนั้นคุณภาพก็ตามที่เห็นเลย
มาครับมา ไปเที่ยว Malta กับผมกันได้ละ . . . (ผมอยู่เยอรมนี ฉะนั้นถ้าใครอยู่ประเทศอื่นๆในโลก ก็ปรับวิธีการเดินทางเอานะครับ)
ผมออกเดินทางจากสนามบิน Karlsruhe - Baden Airpark ตั้งแต่เช้าครับ ไปกับสายการบิน low cost "Ryan Air"
ด้วยความทีเป็น low cost จะดื่มจะกินอะไรก็ต้องจ่ายเพิ่มครับ ถามว่าแพงไหม แพงมั้งครับ ผมโดนไป 7 euro
ระหว่างผมก็ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆครับ มันนอนไม่หลับเลยเพราะตื่นเต้นงะ ไม่ได้นั่งเครื่องมาเกือบๆ 3 ปีเลยอะครับ
พอประมาน 2 ชั่วโมง 15 นาที เราก็จะถึง มอลต้า กันละครับ เร็วดีเนอะ ^^
ตอนผมเห็น มอลต้า จากบนท้องฟ้า อุทานในใจเบาๆในใจว่า "ต้นไม้เค้าหายไปไหนหมด เพราะเค้าเป็นเกาะแน่ๆเลย"
พอเท้าแตะพื้น ก็เดินเข้าสนามบินมาครับ รอกระเป๋า แล้วก็เดินไปซื้อตั๋วรถ เคาเตอร์ซื้อตั๋วพอเดินออกมาจากด่านตรวจก็จะเจอครับ
ผมเลือกซื้อตั๋ว 7 วัน ขึ้นไม่จำกัดเที่ยว ราคาอยู่ที่ 21 euro ครับ (ราคานี้ไม่รวมพวกเรือข้ามฝากนะครับ)
จากนั้นก็ไปรอรถบัสเพื่อที่จะไปที่พักอะครับ ซึ่งผมจะบอกว่าจริงๆแล้ว โรงแรมเค้าส่งเมลล์มาถามตั้งแต่ที่เราจองที่พักกับเค้าอะครับว่าต้องให้เค้าส่งรถมารับไหม ราคา 20 euro สำหรับไม่เกิน 4 ท่าน แต่ตอนนั้นเราไปกัน 2 คนไงครับ แล้วก็แอบดูในแผนที่ไปแล้วว่า เอ้ออออ มันก็ไม่ไกลนะ เรานั่งบัสเอาก็ได้ ที่ไหนได้คุณพระช่วย รถมันอ้อมมมมมมมมมมมม อ้อมมมากกก อะครับ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ผมทั้งยืนและนั่งบนรถบัส คนก็แน่นมาก อารมณ์เหมือนตอนที่ผมนั่งบัสในกรุงเทพฯเลยครับ แถมคนขับยังเล่นมือถือแล้วขับรถไปด้วย ถนนเค้าดีครับ แต่มันคดเคี้ยวซะเหลือเกิน นึกแล้วก็ขำหนะครับ พอเข้าชั่วโมงที่ 2 ผมเลยถามคุณแฟนว่า โรงแรมห่างจากเราตอนนี้เยอะไหม เราลงแล้วเดินเอาได้ไหม ไม่ไหวแล้วเพราะเวียนหัวและร้อนครับ พอเค้าตอบกลับมาว่า ไม่เกิน 500 เมตรจากป้ายรถที่เรากำลังจะลง ผมกดกริ่งเลยแล้วลากกระเป๋าลง แล้วก็เป็นอย่างที่เค้าพูดครับโรงแรมเราไม่ไกลจากป้ายรถจริงๆ
โรงแรมที่ผมพักอยู่เมือง Sliema นะครับ เดินทางสะดวก อาหารการกินมากมาย นั่งเรือออกไปเที่ยวก็สะดวกดีด้วยครับ
นี่คือภาพถ่ายจากที่พักครับ
พอเอาของเก็บเรียบร้อยก็ออกมาหาขนมกินกันครับ รูปบนนี้ถ่ายจากไอโฟนนะครับ อันล่างก็จากกล้องใหญ่ปกติ
เห็นเค้านั่งกันริมน้ำผมก็อยากจะนั่งบ้างงะ
จากนั้นก็เข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าครับ เพราะว่าตอนนั่งรถผ่านแอบเหลือบเห็นว่ามันมีที่เห็นเราได้เล่นน้ำกัน แล้วระหว่างก็ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อย คือเห็นอะไรก็ถ่ายอะครับ มันแปลกตาไปหมด มันสวย น้ำมันใสมาก ถนนหนทางเค้าก็สะอาดดีนะครับ
เดินมาซักพักก็ถึงที่เล่นน้ำได้อะครับ
เล่นน้ำเสร็จก็เดินกลับที่พักครับเพื่อที่จะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมหาข้าวเย็นกินกัน พอเราอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเสร็จก็นั่งบัสครับเพื่อที่จะไปหาข้าวกิน เราเลือกใช้บัสเส้นทางที่จะไป St.Julian ครับเพราะแถวนั้นร้านอาหารเยอะดี ระหว่างพอผมเห็นว่ามันสวยดีก็จะกดกริ่งลงรถแล้วก็ถ่ายรูปเล่นหนะครับ
เย็นนี้ผม 2 คน ขอฝากท้องกันที่ร้านนี้ครับ อาหารดีครับ ราคาน่าคบหาด้วย วิวดี อากาศดี (ขอปิดท้ายวันแรกด้วนรูปนี้นะครับ)
เช้าวันที่ 2 เราไม่มีแผนการเลยครับว่าจะไปไหนดี คิดแค่ว่าลองเดินเล่นหาร้านโปสการ์ด, ร้านขายของที่ระลึก, ไปรษณีย์แล้วก็หาของกินกันละกัน ซึ่งแน่นอนครับว่า เราเลือกนั่งบัสมุ่งหน้าไปทาง St.Julian เพราะมันเป็นดงกิน ดงเที่ยว ดงขายของ และแถวนี้ก็มีร้านนวดไทยด้วยนะครับ
เดินมาแปปนึงผมก็มาสั่ง Cola Beer ดื่มครับ สีมันเหมือน Hot Chocolate ดีนะอะ ขนาดผสม Cola แล้วนะ ผมก็ยังเมา คือบับ . .
จากนั้นก็มีไอเดียว่า เห้ยยยย ลองนั่งเรือข้ามไปเมืองหลวงของ มองต้า กันดีไหม เราก็เลยนั่งบัสกลับมาที่พักครับ เพื่อมาต่อแถวซื้อตั๋วข้ามไป Valetta กัน ตั๋วรถบัสที่เราซื้อจากสนามบิน ไม่สามารถใช้กับเรือข้ามฝากได้นะครับ ตามที่กล่าวไปแล้วเมื่อตอนต้น ราคา 1,50 euro/คน ครับ
เมืองด้านหน้าที่เห็นคือ Valetta นั้นเองครับ
ถึงฝั่งเมืองหลวงละครับ ที่นี่เราจะเห็นคนนั่งตกกันทั่วไปริ่มทะเลอะครับ แต่รูปนี้ผมได้เจ้าแมวเข้ามาร่วมเฟรมด้วย นางคงรอกินปลาครับ
ผมก็เดินเล่นอยู่ใน Valetta ประมาน 2-3 ชั่วโมงครับวันนี้ เพราะตั้งใจว่าตอนเย็นจะกลับฝั่งที่พักแล้วจะหาซื้อตั๋วเรือเพื่อไปเที่ยวที่ Blue Lagoon กันในวันถัดไป ก็ชิวๆเรื่อยๆเห็นอะไรก็ถ่ายมา คือเมืองเค้ามันเก่าแล้วมันก็ผสมความทันสมัยลงไปด้วยการมีร้านค้าแบรนเนมอยู่ในตึกรามบ้านช่องที่มันเก่าๆหนะครับ
เดินเสร็จก็นั่งเรือกลับฝั่งที่พักครับ
โชคดีมากครับมาทันซื้อตั๋วเรือเพื่อที่จะไปเที่ยวกันในวันถัดไป ผม 2 คนโดนค่าตั๋วไปคนละ 10 euro เราตัดสินใจไปแค่ Blue Lagoon ครับ เพราะอยากเล่นน้ำกันนานๆ คนขายตั๋วบอกว่าถ้าแค่ Blue Lagoon เค้าจะปล่อยให้เราเล่นน้ำประมาน 4 ชั่วโมงครับ พอได้ตั๋วแล้วเราก็กลับเข้าที่พักเพื่อเตรียมตัวออกไปกินข้าวเย็นกันครับ
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวกันเสร็จ เราก็นั่งบัสโดยใช้เส้นทางที่จะมุ่งหน้าไป St.Julian ครับ เพื่อมาหาข้าวเย็นกินกัน ร้านอาหารในระแวงนี้เยอะแยะมากมายนะครับ เลือกเอาเลยว่าเราชอบร้านไหนก็พุ่งเข้าไปร้านนั้นๆได้เลย ส่วนราคาก็แพงนั้นแหละครับ ผมว่าแพง เพราะผมอยู่เยอรมนีก็ไม่กินข้าวกันราคาแบบนี้ แต่นี่เรามาเที่ยวก็จัดซะหน่อยครับ