เรือเฟอร์รี่ที่เดินทางระหว่างสงขลา-ชลบุรี ชลบุรี-สงขลา เคยเปิดบริการเมื่อช่วงปี 65 แต่จนถึงตอนนี้ก็ปิดตัวไปแล้ว เข้าใจว่าผลตอบรับไม่ดีเท่าที่ควร ผู้โดยสารไม่มากพอ ทำไปไม่คุ้มทุน
จริงๆแล้ว มีหลายคนต้องการเดินทางจากระยองไปหาดใหญ่ สงขลา ซึ่งคนที่เดินทางก็นิยมเดินทางด้วยรถบัส ตั๋วรถบัสระยอง-หาดใหญ่ ขายได้เรื่อย แต่เรือที่เดินทางระหว่างภาคตะวันออกไปภาคใต้เส้นนี้กลับไม่เป็นที่นิยมและต้องปิดตัวลงไป ทั้งที่ค่าโดยสารก็คุ้มค่า ราคาไม่แพง
รถกับเรือมีจุดขายคนละอย่างกัน ถ้าวางแผนการตลาดมาดี มีวิธีการนำเสนอสินค้าดี การขายของก็สามารถบรรลุเป้าหมายได้
นึกถึงรถบัสกับรถไฟที่วิ่งจากกรุงเทพ-หาดใหญ่ รถบัสมีค่าตั๋วถูกกว่ารถไฟ ตั๋วรถบัสอยู่ที่ 785 บาท ใช้เวลาเดินทางน้อยกว่า ประมาณ 11 ชั่วโมง ตั๋วรถไฟอยู่ราวๆ 1,003 บาท ใช้เวลาเดินทางมากกว่า ประมาณ 14:15 ชั่วโมง ช้ากว่ารถบัส 3 ชั่วโมงกว่า แต่คนก็ยังเลือกขึ้นรถไฟไปหาดใหญ่อยู่มาก ธุรกิจอยู่ตัวได้ ไปต่อได้เรื่อยๆ
จุดขายของรถไฟคือ สามารถนอนพักผ่อนร่างกายได้สบายๆระหว่างการเดินทาง รถบัสไม่สามารถนอนพักผ่อนได้สบายเท่ากับรถไฟ นั่งเอนตัวนานๆยังไงก็สู้การนอนเต็มๆไม่ได้แน่ นอนทั้งตัวดีกว่าเยอะ จุดนี้ก็ทำให้เราเลือกรถไฟนอนไปภาคใต้มากกว่ารถบัส
จุดต่างของรถกับเรือก็ไม่ได้ต่างจากรถกับรถไฟ การเดินทางด้วยเรือสามารถพักผ่อนอย่างสุขสบายใกล้เคียงกับรถไฟ แถมบนเรือก็มีของขายเหมือนรถไฟด้วย ซึ่งรถบัสไม่มี
เรือควรบริหารจัดการพื้นที่บนเรือให้ได้เหมือนรถไฟ บนรถไฟ 1 ล็อค จะมี 2 ที่นั่ง สามารถเป็นเตียงนอนได้ 2 เตียง เตียงบน เตียงล่าง ให้คนนอนได้ ของเรือก็ต้องดูว่าจะจัดการพื้นที่บนเรือยังไง ให้มีจำนวนที่นั่งกับที่นอนเท่ากัน เรือมี 536 ที่นั่ง ก็ควรจะมี 536 เตียง จะจ่ายค่าโดยสารราคาเท่าไร ก็ต้องสามารถนอนเตียงได้เหมือนรถไฟ
เทียบค่าโดยสารของเรือกับรถบัส เรือถูกกว่ารถบัส เรือราคา 1,000 บาท รถบัสมีราคา 1,100 กับ 1,500 เรือถูกกว่าอีก แถมมีจุดขายบางอย่างที่ดีกว่า ถ้าวางแผนการตลาดให้ดี เรือบูมได้แน่
ถ้าเราเป็นผู้ดำเนินธุรกิจเรือสงขลา-ชลบุรี เดินทาง 20 ชั่วโมงระหว่างท่าเรือจุกเสม็ด สัตหีบ-ท่าเรือน้ำลึกสงขลา เราก็จะมีรถบัสรับส่งคนในช่วงต้นทางกับปลายทางด้วย คือจะมีรถ feeder ที่รับส่งคนมายังท่าเรือจุกเสม็ด วิ่งรับผู้โดยสารตั้งแต่อ.เมืองชลบุรีถึงจุกเสม็ดสายนึง วิ่งรับผู้โดยสารตั้งแต่ตราด-จันทบุรี-ระยอง-จุกเสม็ดอีกสายนึง หรือจะเพิ่มรถ feeder คอยรับคนจากทางสระแก้ว ปราจีน ก็สามารถทำได้ พิจารณาตามความเหมาะสม
การมีรถ feeder คอยมารับส่งคนที่ท่าเรือ จะทำให้การเดินทางง่ายและสะดวกสบายขึ้นมาก เพิ่มผู้โดยสารเรือได้เยอะ
พอเรือเดินทางถึงท่าเรือน้ำลึกสงขลา ก็มีรถ feeder ที่คอยรับส่งผู้โดยสารรออยู่ที่ท่าเรือด้วย เพื่อนำผู้โดยสารไปส่งยังจุดหมายปลายทาง เช่น พัทลุง อ.เมือง สงขลา หาดใหญ่ สตูล ปัตตานี ประมาณนี้
รถ feeder ที่วิ่งรับส่งคนที่ท่าเรือ 2 ฝั่ง อาจจะเก็บตังค์ด้วยก็ได้ เพราะถ้าวิ่งมาจากตราด-จันบุรี มันก็ไกล มีต้นทุนอยู่ เพียงแต่เก็บแบบถูกๆ เพราะเป็นรถที่คอยป้อนคนมาขึ้นเรือโดยสาร
รถ feeder นี้ อาจจะให้มีแค่ท่าเรือฝั่งเดียวก็ได้ ไม่ต้องมี 2 ฝั่ง เช่นว่า รถ feeder ที่วิ่งมาจากตราด-จันทบุรี พอถึงที่เรือจุกเสม็ด รถก็วิ่งขึ้นไปอยู่บนเรือโดยสารด้วย ช่วงอยู่บนเรือ ผู้โดยสารก็ลงจากรถขึ้นไปโดยสารบนเรือ พอเรือถึงท่าเรือปลายทาง รถ feeder ก็วิ่งลงจากเรือ ให้ผู้โดยสารไปนั่งบนรถ feeder อีกรอบ เพื่อให้รถ feeder ไปส่งยังจุดหมายปลายทางต่างในภาคใต้ตามที่กำหนดไว้
ไม่แน่ใจว่า เรือมี wifi มั้ย ถ้ามีก็ดี ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีโปร wifi ราคาถูกๆบนเรือก็ดี เผื่อผู้โดยสารบางคนที่ต้องการใช้เน็ต แต่สำหรับเราแล้ว ไม่มีก็ไม่เป็นไร ช่วงอยู่บนเรือโดยสาร เน้นนอนพักผ่อนมากกว่า ไม่ต้องมีเน็ตก็ได้ แต่ถ้ามีก็จะทำให้บริการบนเรือสมบูรณ์
แบบขึ้น
ถ้าอนาคตได้เรือที่วิ่งเร็วขึ้น จากที่วิ่ง 20 ชั่วโมง เหลือซัก 14-16 ชั่วโมง ก็ยิ่งดี
ช่วยให้ผู้โดยสารถึงที่หมายปลายทางได้เร็วขึ้น
รอซัก 3-5 ปี ต่างประเทศเขามีเป้าหมายจะเอาเรือสำราญไฟฟ้ามาให้บริการเป็นกิจลักษณะ ถึงเวลานั้นเราค่อยหาเรือไฟฟ้าหรือเรือไฮบริดมาให้บริการประชาชน ถ้าต้นทุนพลังงานถูกลง ก็จะได้ค่าโดยสารที่ถูกลง ทำให้คนขึ้นเรือโดยสารง่ายขึ้น
วิธีทำให้เรือสงขลา-ชลบุรีกลับมาบูม มีผู้โดยสารมาก จากที่เคยปิดตัวไปแล้ว
จริงๆแล้ว มีหลายคนต้องการเดินทางจากระยองไปหาดใหญ่ สงขลา ซึ่งคนที่เดินทางก็นิยมเดินทางด้วยรถบัส ตั๋วรถบัสระยอง-หาดใหญ่ ขายได้เรื่อย แต่เรือที่เดินทางระหว่างภาคตะวันออกไปภาคใต้เส้นนี้กลับไม่เป็นที่นิยมและต้องปิดตัวลงไป ทั้งที่ค่าโดยสารก็คุ้มค่า ราคาไม่แพง
รถกับเรือมีจุดขายคนละอย่างกัน ถ้าวางแผนการตลาดมาดี มีวิธีการนำเสนอสินค้าดี การขายของก็สามารถบรรลุเป้าหมายได้
นึกถึงรถบัสกับรถไฟที่วิ่งจากกรุงเทพ-หาดใหญ่ รถบัสมีค่าตั๋วถูกกว่ารถไฟ ตั๋วรถบัสอยู่ที่ 785 บาท ใช้เวลาเดินทางน้อยกว่า ประมาณ 11 ชั่วโมง ตั๋วรถไฟอยู่ราวๆ 1,003 บาท ใช้เวลาเดินทางมากกว่า ประมาณ 14:15 ชั่วโมง ช้ากว่ารถบัส 3 ชั่วโมงกว่า แต่คนก็ยังเลือกขึ้นรถไฟไปหาดใหญ่อยู่มาก ธุรกิจอยู่ตัวได้ ไปต่อได้เรื่อยๆ
จุดขายของรถไฟคือ สามารถนอนพักผ่อนร่างกายได้สบายๆระหว่างการเดินทาง รถบัสไม่สามารถนอนพักผ่อนได้สบายเท่ากับรถไฟ นั่งเอนตัวนานๆยังไงก็สู้การนอนเต็มๆไม่ได้แน่ นอนทั้งตัวดีกว่าเยอะ จุดนี้ก็ทำให้เราเลือกรถไฟนอนไปภาคใต้มากกว่ารถบัส
จุดต่างของรถกับเรือก็ไม่ได้ต่างจากรถกับรถไฟ การเดินทางด้วยเรือสามารถพักผ่อนอย่างสุขสบายใกล้เคียงกับรถไฟ แถมบนเรือก็มีของขายเหมือนรถไฟด้วย ซึ่งรถบัสไม่มี
เรือควรบริหารจัดการพื้นที่บนเรือให้ได้เหมือนรถไฟ บนรถไฟ 1 ล็อค จะมี 2 ที่นั่ง สามารถเป็นเตียงนอนได้ 2 เตียง เตียงบน เตียงล่าง ให้คนนอนได้ ของเรือก็ต้องดูว่าจะจัดการพื้นที่บนเรือยังไง ให้มีจำนวนที่นั่งกับที่นอนเท่ากัน เรือมี 536 ที่นั่ง ก็ควรจะมี 536 เตียง จะจ่ายค่าโดยสารราคาเท่าไร ก็ต้องสามารถนอนเตียงได้เหมือนรถไฟ
เทียบค่าโดยสารของเรือกับรถบัส เรือถูกกว่ารถบัส เรือราคา 1,000 บาท รถบัสมีราคา 1,100 กับ 1,500 เรือถูกกว่าอีก แถมมีจุดขายบางอย่างที่ดีกว่า ถ้าวางแผนการตลาดให้ดี เรือบูมได้แน่
ถ้าเราเป็นผู้ดำเนินธุรกิจเรือสงขลา-ชลบุรี เดินทาง 20 ชั่วโมงระหว่างท่าเรือจุกเสม็ด สัตหีบ-ท่าเรือน้ำลึกสงขลา เราก็จะมีรถบัสรับส่งคนในช่วงต้นทางกับปลายทางด้วย คือจะมีรถ feeder ที่รับส่งคนมายังท่าเรือจุกเสม็ด วิ่งรับผู้โดยสารตั้งแต่อ.เมืองชลบุรีถึงจุกเสม็ดสายนึง วิ่งรับผู้โดยสารตั้งแต่ตราด-จันทบุรี-ระยอง-จุกเสม็ดอีกสายนึง หรือจะเพิ่มรถ feeder คอยรับคนจากทางสระแก้ว ปราจีน ก็สามารถทำได้ พิจารณาตามความเหมาะสม
การมีรถ feeder คอยมารับส่งคนที่ท่าเรือ จะทำให้การเดินทางง่ายและสะดวกสบายขึ้นมาก เพิ่มผู้โดยสารเรือได้เยอะ
พอเรือเดินทางถึงท่าเรือน้ำลึกสงขลา ก็มีรถ feeder ที่คอยรับส่งผู้โดยสารรออยู่ที่ท่าเรือด้วย เพื่อนำผู้โดยสารไปส่งยังจุดหมายปลายทาง เช่น พัทลุง อ.เมือง สงขลา หาดใหญ่ สตูล ปัตตานี ประมาณนี้
รถ feeder ที่วิ่งรับส่งคนที่ท่าเรือ 2 ฝั่ง อาจจะเก็บตังค์ด้วยก็ได้ เพราะถ้าวิ่งมาจากตราด-จันบุรี มันก็ไกล มีต้นทุนอยู่ เพียงแต่เก็บแบบถูกๆ เพราะเป็นรถที่คอยป้อนคนมาขึ้นเรือโดยสาร
รถ feeder นี้ อาจจะให้มีแค่ท่าเรือฝั่งเดียวก็ได้ ไม่ต้องมี 2 ฝั่ง เช่นว่า รถ feeder ที่วิ่งมาจากตราด-จันทบุรี พอถึงที่เรือจุกเสม็ด รถก็วิ่งขึ้นไปอยู่บนเรือโดยสารด้วย ช่วงอยู่บนเรือ ผู้โดยสารก็ลงจากรถขึ้นไปโดยสารบนเรือ พอเรือถึงท่าเรือปลายทาง รถ feeder ก็วิ่งลงจากเรือ ให้ผู้โดยสารไปนั่งบนรถ feeder อีกรอบ เพื่อให้รถ feeder ไปส่งยังจุดหมายปลายทางต่างในภาคใต้ตามที่กำหนดไว้
ไม่แน่ใจว่า เรือมี wifi มั้ย ถ้ามีก็ดี ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีโปร wifi ราคาถูกๆบนเรือก็ดี เผื่อผู้โดยสารบางคนที่ต้องการใช้เน็ต แต่สำหรับเราแล้ว ไม่มีก็ไม่เป็นไร ช่วงอยู่บนเรือโดยสาร เน้นนอนพักผ่อนมากกว่า ไม่ต้องมีเน็ตก็ได้ แต่ถ้ามีก็จะทำให้บริการบนเรือสมบูรณ์แบบขึ้น
ถ้าอนาคตได้เรือที่วิ่งเร็วขึ้น จากที่วิ่ง 20 ชั่วโมง เหลือซัก 14-16 ชั่วโมง ก็ยิ่งดี ช่วยให้ผู้โดยสารถึงที่หมายปลายทางได้เร็วขึ้น
รอซัก 3-5 ปี ต่างประเทศเขามีเป้าหมายจะเอาเรือสำราญไฟฟ้ามาให้บริการเป็นกิจลักษณะ ถึงเวลานั้นเราค่อยหาเรือไฟฟ้าหรือเรือไฮบริดมาให้บริการประชาชน ถ้าต้นทุนพลังงานถูกลง ก็จะได้ค่าโดยสารที่ถูกลง ทำให้คนขึ้นเรือโดยสารง่ายขึ้น