ฝนตกพรำๆ ชุ่มช่ำทั่วประเทศไทย ..... ย่างเข้าช่วงฤดูฝนอย่างเต็มตัวกันแล้ว
ใครหลายๆคนก็คิดว่าหน้าฝนเปียกแฉะ เดินทางลำบาก รถติด บลา บลา บลา นอนฟังเพลงอยู่บ้านจะสะดวกกว่า
แต่ช่วงนี้โปรโมชั่นที่พัก โรงแรมรีสอร์ททางภาคใต้ก็ลดราคา ชวนให้ไปเก็บกระเป๋ายัดเสื้อผ้าออกไปแตะขอบฟ้า นอนแช่น้ำทะเลกัน
หลังจากได้โปรฯ สายการบิน + ที่พักในราคาพิเศษ จาก Expedia ก็ลุยกันเลย
จุดหมายปลายทางคือ "Santhiya Resort & Spas @Koh Yao Yai" จ.พังงา

** นั่งเรือข้ามเกาะ จากท่าเรือบางโรง จังหวัดภูเก็ต ไปยังท่าเรือคลองเหีย เกาะยาวใหญ่จังหวัดพังงา
อัตราค่าโดยสาร 200 บาท/คน

ตารางการเดินเรือ Speed Boat รวดเร็วและประหยัดดี

ถึงที่พัก ก็จะมีรถไม้ของรีสอร์ทมารอรับ เพื่อไปยังล็อบบี้เช็คอิน

ทางเข้าก็จะถูกตกแต่งด้วยไม้แกะสลัก ผสมกับพันธ์ไม้ต่างๆ ร่มรื่นสไตล์ล้านนาภาคเหนือของเรา

บริเวณลานการแสดง จะมีดนตรีไทย และนาฏศิลป์ไทยมาโชว์แขกที่มาเยือนอย่างอบอุ่น

นอกจากนี้ทางรีสอร์ทยังมี Welcome drink มาบริการแขก พร้อมมารับบริการ Check in ถึงที่

หลังจากนั้น พนักงานของโรงแรมก็จะพาไปที่พักที่เราได้จองไว้
บรรยากาศตกแต่งแบบไม้ๆ สไตล์ล้านนา ท่ามกลางภูเขา ต้นไม้ที่เขียวชะอุ่มในช่วงฤดูฝน

**รถไม้จะคอยรับส่งแขกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถ้าเราอยู่ในที่พัก สามารถโทรแจ้งให้รถไม้มารับตามจุดได้
เนื่องจากที่พักตั้งอยู่บนเขา ฉะนั้นจึงใช้รถไม้เป็นพาหนะไปยังจุดต่างๆ ของโรงแรม
ซึ่งถ้าใครอยากออกกำลังกายเดินเล่นขึ้นลงรีสอร์ทก็ไม่ว่ากัน

โรงแรมอยู่ติดกับหาดฝั่งอ่าวไทย สงบ นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน เหมาะแก่การพักผ่อนแบบ slow life มากๆ

บริเวณฝั่งห้องอาหารมองเห็นทะเล

ทางเดินไปยังที่พัก

ถึงห้องพักแล้ว ....
*ความพิเศษของที่พักที่นี่ก็คือ การใช้พัดไม้ในการแสดงสถานะของห้องพัก
ถ้าหันพัดไม้(สีแดง) แสดงว่าห้ามรบกวน , แต่ถ้าหันเป็นสีเขียว คือ ทำความสะอาดห้องพักได้

เข้าห้อง ล็อคประตู เสียบการ์ดและเปิดไฟ
แอ่น แอน แอ๊นนนนน ....
ห้องพักแบบ Sea View
ทางรีสอร์ทมีเตรียมน้ำดื่มและของว่างบริการให้เราด้วย

ใส่ชุดชาวดอย เก๋ไก๋ไปอีกแบบ
มาดูในส่วนของห้องน้ำ ก็ตกแต่งด้วยไม้ วัสดุต่างๆ ก็ทำมาจากไม้เช่นกัน

บริเวณส่วนของเตียงนอนและโซนนั่งเล่น

เตียงนอนมีมุ้งอยู่ 4 ด้าน ให้ความรู้สึกแบบอาศัยสไตล์ไทยๆ ท่ามกลางภูเขาและทะเล

บริเวณด้านนอกจะมีอ่างอาบน้ำ และเตียงตั่ง มองออกไปเห็นวิวทะเลที่สุดลูกหูลูกตา ฝนกำลังตกพรำๆ ทำให้อากาศเย็นสบายมากๆ

วิวทะเล ท่ามกลางป่าเขียวขจีในหน้าฝน

รถไม้ที่วิ่งให้บริการแขกที่มาพัก

ตู้วางทีวี แกะสลักไม้แบบไทยๆ

เพดานก็เป็นไม้โมเสสตกแต่ง และโคมไฟจากกะลา ดูแปลกตา และสวยงามไปอีกแบบ
เป็นรีสอร์ทที่ดู eco และ มีความเป็นไทยมากมาย
สำหรับเราคนไทยอาจจะเห็นชินตา แต่ในความชินตาก็มีความพิเศษที่แปลกตาซ่อนอยู่

ตกตอนเย็นมารับประทานอาหารค่ำที่กลางโถงห้องรีสอร์ท แบบ outdoor ฟังบรรเลงดนตรีไทย
การตกแต่งบุฟเฟ่ต์ในห้องอาหารก็เน้นความเป็นไทยและล้านนาผสม
บุฟเฟ่ต์ไลน์ ก็จะมีอาหารไทย อาหารฝรั่ง ของคาวของหวานให้เลือกรับประทานหลากหลาย
ในส่วนของรีสอร์ทมีท่าเรือเป็นของตัวเอง ถ้าให้ต้องการความสะดวกสบายก็ติดต่อเรือและรถรับส่งจากสนามบินได้
ราคาประมาณ 1,200 บาทต่อคนต่อเที่ยว (รายละเอียดติดต่อทางรีสอร์ทได้เลย)

สะพานจากท่าเรือมายังรีสอร์ท
ตอนเย็นก็ดูโรแมนติคอีกแบบ
เดินเล่นชายหาดอย่างสงบ เป็นส่วนตัวก็ได้ แต่น้ำทะเลอาจจะไม่สวยเท่าฝั่งอันดามัน

ในส่วนของสระว่ายน้ำของทางรีสอร์ทมีแบบสระใหญ่ ท่ามกลางน้ำตก
และอีกหนึ่งสระอยู่บนเขา ว่ายน้ำแบบ Sea view
สำหรับใครที่ต้องการพักผ่อนแบบ slow life บรรยากาศป่าเขาโอบล้อมด้วยทะเลอันกว้างใหญ่ เงียบสงบ เป็นส่วนตัว
ลองหลบหนีความวุ่นวาย มาใช้ชีวิตให้ช้าลงที่นี่ก็มีความสุขไปอีกแบบ
Get points :
ความสะอาดของห้องพัก 8.5/10
บริการและพนักงาน 9/10
ความสะดวกสบายของห้อง 9/10
สภาพของโรงแรม 8/10
แนะนำสำหรับคู่รักที่ต้องการมาดื่มด่ำน้ำผึ้งพระจันทร์ 10/10
แนะนำสำหรับครอบครัวที่มาพักผ่อน 9/10
แนะนำสำหรับกลุ่มเพื่อนที่มาแฮงค์เอ้าท์ 8/10
แนะนำสำหรับท่องเที่ยวคนเดียว 5/10
*ร่างกายพร้อม เวลาพร้อม บัดเจ็ทพร้อม ลองมาลุยดูนะครับ
[CR] วิถีล้านนา ณ เกาะยาวใหญ่
ใครหลายๆคนก็คิดว่าหน้าฝนเปียกแฉะ เดินทางลำบาก รถติด บลา บลา บลา นอนฟังเพลงอยู่บ้านจะสะดวกกว่า
แต่ช่วงนี้โปรโมชั่นที่พัก โรงแรมรีสอร์ททางภาคใต้ก็ลดราคา ชวนให้ไปเก็บกระเป๋ายัดเสื้อผ้าออกไปแตะขอบฟ้า นอนแช่น้ำทะเลกัน
หลังจากได้โปรฯ สายการบิน + ที่พักในราคาพิเศษ จาก Expedia ก็ลุยกันเลย
จุดหมายปลายทางคือ "Santhiya Resort & Spas @Koh Yao Yai" จ.พังงา
** นั่งเรือข้ามเกาะ จากท่าเรือบางโรง จังหวัดภูเก็ต ไปยังท่าเรือคลองเหีย เกาะยาวใหญ่จังหวัดพังงา
อัตราค่าโดยสาร 200 บาท/คน
ตารางการเดินเรือ Speed Boat รวดเร็วและประหยัดดี
ถึงที่พัก ก็จะมีรถไม้ของรีสอร์ทมารอรับ เพื่อไปยังล็อบบี้เช็คอิน
ทางเข้าก็จะถูกตกแต่งด้วยไม้แกะสลัก ผสมกับพันธ์ไม้ต่างๆ ร่มรื่นสไตล์ล้านนาภาคเหนือของเรา
บริเวณลานการแสดง จะมีดนตรีไทย และนาฏศิลป์ไทยมาโชว์แขกที่มาเยือนอย่างอบอุ่น
นอกจากนี้ทางรีสอร์ทยังมี Welcome drink มาบริการแขก พร้อมมารับบริการ Check in ถึงที่
หลังจากนั้น พนักงานของโรงแรมก็จะพาไปที่พักที่เราได้จองไว้
บรรยากาศตกแต่งแบบไม้ๆ สไตล์ล้านนา ท่ามกลางภูเขา ต้นไม้ที่เขียวชะอุ่มในช่วงฤดูฝน
**รถไม้จะคอยรับส่งแขกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถ้าเราอยู่ในที่พัก สามารถโทรแจ้งให้รถไม้มารับตามจุดได้
เนื่องจากที่พักตั้งอยู่บนเขา ฉะนั้นจึงใช้รถไม้เป็นพาหนะไปยังจุดต่างๆ ของโรงแรม
ซึ่งถ้าใครอยากออกกำลังกายเดินเล่นขึ้นลงรีสอร์ทก็ไม่ว่ากัน
โรงแรมอยู่ติดกับหาดฝั่งอ่าวไทย สงบ นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน เหมาะแก่การพักผ่อนแบบ slow life มากๆ
บริเวณฝั่งห้องอาหารมองเห็นทะเล
ทางเดินไปยังที่พัก
ถึงห้องพักแล้ว ....
*ความพิเศษของที่พักที่นี่ก็คือ การใช้พัดไม้ในการแสดงสถานะของห้องพัก
ถ้าหันพัดไม้(สีแดง) แสดงว่าห้ามรบกวน , แต่ถ้าหันเป็นสีเขียว คือ ทำความสะอาดห้องพักได้
เข้าห้อง ล็อคประตู เสียบการ์ดและเปิดไฟ
แอ่น แอน แอ๊นนนนน ....
ห้องพักแบบ Sea View
ทางรีสอร์ทมีเตรียมน้ำดื่มและของว่างบริการให้เราด้วย
ใส่ชุดชาวดอย เก๋ไก๋ไปอีกแบบ
มาดูในส่วนของห้องน้ำ ก็ตกแต่งด้วยไม้ วัสดุต่างๆ ก็ทำมาจากไม้เช่นกัน
บริเวณส่วนของเตียงนอนและโซนนั่งเล่น
เตียงนอนมีมุ้งอยู่ 4 ด้าน ให้ความรู้สึกแบบอาศัยสไตล์ไทยๆ ท่ามกลางภูเขาและทะเล
บริเวณด้านนอกจะมีอ่างอาบน้ำ และเตียงตั่ง มองออกไปเห็นวิวทะเลที่สุดลูกหูลูกตา ฝนกำลังตกพรำๆ ทำให้อากาศเย็นสบายมากๆ
วิวทะเล ท่ามกลางป่าเขียวขจีในหน้าฝน
รถไม้ที่วิ่งให้บริการแขกที่มาพัก
ตู้วางทีวี แกะสลักไม้แบบไทยๆ
เพดานก็เป็นไม้โมเสสตกแต่ง และโคมไฟจากกะลา ดูแปลกตา และสวยงามไปอีกแบบ
เป็นรีสอร์ทที่ดู eco และ มีความเป็นไทยมากมาย
สำหรับเราคนไทยอาจจะเห็นชินตา แต่ในความชินตาก็มีความพิเศษที่แปลกตาซ่อนอยู่
ตกตอนเย็นมารับประทานอาหารค่ำที่กลางโถงห้องรีสอร์ท แบบ outdoor ฟังบรรเลงดนตรีไทย
การตกแต่งบุฟเฟ่ต์ในห้องอาหารก็เน้นความเป็นไทยและล้านนาผสม
บุฟเฟ่ต์ไลน์ ก็จะมีอาหารไทย อาหารฝรั่ง ของคาวของหวานให้เลือกรับประทานหลากหลาย
ในส่วนของรีสอร์ทมีท่าเรือเป็นของตัวเอง ถ้าให้ต้องการความสะดวกสบายก็ติดต่อเรือและรถรับส่งจากสนามบินได้
ราคาประมาณ 1,200 บาทต่อคนต่อเที่ยว (รายละเอียดติดต่อทางรีสอร์ทได้เลย)
สะพานจากท่าเรือมายังรีสอร์ท
ตอนเย็นก็ดูโรแมนติคอีกแบบ
เดินเล่นชายหาดอย่างสงบ เป็นส่วนตัวก็ได้ แต่น้ำทะเลอาจจะไม่สวยเท่าฝั่งอันดามัน
ในส่วนของสระว่ายน้ำของทางรีสอร์ทมีแบบสระใหญ่ ท่ามกลางน้ำตก
และอีกหนึ่งสระอยู่บนเขา ว่ายน้ำแบบ Sea view
สำหรับใครที่ต้องการพักผ่อนแบบ slow life บรรยากาศป่าเขาโอบล้อมด้วยทะเลอันกว้างใหญ่ เงียบสงบ เป็นส่วนตัว
ลองหลบหนีความวุ่นวาย มาใช้ชีวิตให้ช้าลงที่นี่ก็มีความสุขไปอีกแบบ
Get points :
ความสะอาดของห้องพัก 8.5/10
บริการและพนักงาน 9/10
ความสะดวกสบายของห้อง 9/10
สภาพของโรงแรม 8/10
แนะนำสำหรับคู่รักที่ต้องการมาดื่มด่ำน้ำผึ้งพระจันทร์ 10/10
แนะนำสำหรับครอบครัวที่มาพักผ่อน 9/10
แนะนำสำหรับกลุ่มเพื่อนที่มาแฮงค์เอ้าท์ 8/10
แนะนำสำหรับท่องเที่ยวคนเดียว 5/10
*ร่างกายพร้อม เวลาพร้อม บัดเจ็ทพร้อม ลองมาลุยดูนะครับ