มีหนังอยู่ไม่กี่เรื่องจริงๆที่ประทับใจ Trailer แล้ว ยังรู้สึกประทับใจในตัวหนังด้วย
นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่ผมรู้สึกเช่นนั้น...
...Me before you...
วลีภาษาอังกฤษที่อธิบายเป็นภาษาไทยยากที่สุดวลีหนึ่ง...แต่สะเทือนความรู้สึกได้มากมายอย่างน่าตกใจ
เรื่องราวบอกเล่าถึงสาวน้อยผู้หนึ่งที่ทางบ้านกำลังมีปัญหาด้านการเงินเข้าขั้นวิกฤติ แล้วโชคก็ดันไม่เข้าข้างเพราะเธอเองก็ถูกให้ออกด้วยปัญหาเดียวกันกับครอบครัวของเธอ แต่โชคยังดีที่ให้เธอได้มาเจองานเงินดีงานหนึ่ง คือให้ดูแลลูกชายเศรษฐีพิการที่ประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายเป็นอัมพาตเกือบทั้งตัว!
และเหมือนทุกอย่างจะไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อเธอต้องเจอกับคนที่เคยมีพร้อมทุกอย่าง แต่กลับต้องกลับมาเจอจุดต่ำสุดของชีวิตอย่างไม่มีวันหวนกลับ
ดังนั้นหน้าที่ของเธอไม่ใช่แค่ดูแลสารทุกข์สุขดิบของคนแปลกหน้า แต่กลับเป็นภารกิจเพื่อเปลี่ยนความคิดคนที่เธอไม่รู้จักและไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตเธอมาก่อน!
ผมประทับใจกับหลายๆฉากของหนังเรื่องนี้ซึ่งเรียกน้ำตาได้ดีทีเดียว มันทำให้เกิดความรู้สึกอบอุ่น และความรู้สึกเสียใจในเวลาเดียวกันได้อย่างน่าประหลาด
ความรักที่อาจไม่เกิดขึ้นจริงบนโลกใบนี้ แต่เป็นรักที่คนทั้งโลกต้องการที่สุด คือความรักที่เกิดจากใจที่แท้จริงจนมองข้ามความประหลาดและความบกพร่องของอีกฝ่ายได้อย่างไม่มีเงื่อนไข
หญิงสาวที่รู้ตัวเองดีว่าสิ่งที่เธอเป็นอาจทำให้หนุ่มพิการเกิดความรู้สึกไม่พอใจ บวกกับความเปราะบางทางความรู้สึก “ไม่สมบูรณ์” ในตัวของชายหนุ่ม
แต่เธอกลับพยายามทำหลายๆสิ่งที่เธอไม่เคยทำและมอบความน่ารักแบบที่ตัวเธอเป็นให้กับชายพิการ จนกระทั่งความรู้สึกดีๆที่เธอมีให้ และความตั้งใจจริงที่ต้องการเยียวยาจิตใจของเขาก็ทำให้หนุ่มคนนั้นเกิดรอยยิ้มดีๆขึ้นมาได้
สุดท้าย หนังจบให้เราคิดว่าตัวตนของใครๆไม่เคยทำร้ายเรา เราเองที่ปิดใจไม่ยอมรับในตัวตนของคนอื่น
หนังแสดงให้เห็นว่า ความไม่พอดีนั้นมีในตัวทุกๆคน เหมือนหญิงสาวที่ทำหลายสิ่งหลายอย่างผิดพลาดเพราะความเปิ่นเฉิ่มของเธอ
แต่สุดท้าย เมื่อเขาได้ลองเปิดใจมองผู้หญิงคนนั้นด้วยหัวใจ กลับทำให้เขาเห็นความบกพร่องในใจของเขาแทน และหันมายอมรับสาวคนนั้นได้อย่างเต็มร้อย
หนังสอนเราว่าเมื่อเราเลือกที่จะรักใครแล้ว เราพร้อมจะสละบางสิ่งเพื่อเขาหรือเธอได้หรือไม่ ไม่ใช่เฉพาะกับคนรัก แต่กับพ่อแม่เช่นกัน โดยจะเห็นว่าพ่อแม่ของชายพิการต้องกลั้นใจรับการตัดสินใจของชายคนนั้นแม้จะเป็นทางเลือกที่ไม่เป็นไปตามที่พวกเขาต้องการก็ตาม
โดยรวมแล้ว หนังเรื่องนี้ให้ข้อคิดดีๆเพื่อนำไปใช้กับคนใกล้ตัวเราได้จริงและทันเวลาครับ
หลายคนอาจบอกว่าความรักแบบนี้คงเป็นได้แค่ในหนัง แต่หากให้ลองถามเข้าไปในใจดูดีๆ
ต่อให้รวยล้นฟ้าแค่ไหน มีใครไม่ต้องการได้รับความรักกันบ้าง?
[CR] ...Me before you... กับความประทับใจส่วนตัว
นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่ผมรู้สึกเช่นนั้น...
...Me before you...
วลีภาษาอังกฤษที่อธิบายเป็นภาษาไทยยากที่สุดวลีหนึ่ง...แต่สะเทือนความรู้สึกได้มากมายอย่างน่าตกใจ
เรื่องราวบอกเล่าถึงสาวน้อยผู้หนึ่งที่ทางบ้านกำลังมีปัญหาด้านการเงินเข้าขั้นวิกฤติ แล้วโชคก็ดันไม่เข้าข้างเพราะเธอเองก็ถูกให้ออกด้วยปัญหาเดียวกันกับครอบครัวของเธอ แต่โชคยังดีที่ให้เธอได้มาเจองานเงินดีงานหนึ่ง คือให้ดูแลลูกชายเศรษฐีพิการที่ประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายเป็นอัมพาตเกือบทั้งตัว!
และเหมือนทุกอย่างจะไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อเธอต้องเจอกับคนที่เคยมีพร้อมทุกอย่าง แต่กลับต้องกลับมาเจอจุดต่ำสุดของชีวิตอย่างไม่มีวันหวนกลับ
ดังนั้นหน้าที่ของเธอไม่ใช่แค่ดูแลสารทุกข์สุขดิบของคนแปลกหน้า แต่กลับเป็นภารกิจเพื่อเปลี่ยนความคิดคนที่เธอไม่รู้จักและไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตเธอมาก่อน!
ผมประทับใจกับหลายๆฉากของหนังเรื่องนี้ซึ่งเรียกน้ำตาได้ดีทีเดียว มันทำให้เกิดความรู้สึกอบอุ่น และความรู้สึกเสียใจในเวลาเดียวกันได้อย่างน่าประหลาด
ความรักที่อาจไม่เกิดขึ้นจริงบนโลกใบนี้ แต่เป็นรักที่คนทั้งโลกต้องการที่สุด คือความรักที่เกิดจากใจที่แท้จริงจนมองข้ามความประหลาดและความบกพร่องของอีกฝ่ายได้อย่างไม่มีเงื่อนไข
หญิงสาวที่รู้ตัวเองดีว่าสิ่งที่เธอเป็นอาจทำให้หนุ่มพิการเกิดความรู้สึกไม่พอใจ บวกกับความเปราะบางทางความรู้สึก “ไม่สมบูรณ์” ในตัวของชายหนุ่ม
แต่เธอกลับพยายามทำหลายๆสิ่งที่เธอไม่เคยทำและมอบความน่ารักแบบที่ตัวเธอเป็นให้กับชายพิการ จนกระทั่งความรู้สึกดีๆที่เธอมีให้ และความตั้งใจจริงที่ต้องการเยียวยาจิตใจของเขาก็ทำให้หนุ่มคนนั้นเกิดรอยยิ้มดีๆขึ้นมาได้
สุดท้าย หนังจบให้เราคิดว่าตัวตนของใครๆไม่เคยทำร้ายเรา เราเองที่ปิดใจไม่ยอมรับในตัวตนของคนอื่น
หนังแสดงให้เห็นว่า ความไม่พอดีนั้นมีในตัวทุกๆคน เหมือนหญิงสาวที่ทำหลายสิ่งหลายอย่างผิดพลาดเพราะความเปิ่นเฉิ่มของเธอ
แต่สุดท้าย เมื่อเขาได้ลองเปิดใจมองผู้หญิงคนนั้นด้วยหัวใจ กลับทำให้เขาเห็นความบกพร่องในใจของเขาแทน และหันมายอมรับสาวคนนั้นได้อย่างเต็มร้อย
หนังสอนเราว่าเมื่อเราเลือกที่จะรักใครแล้ว เราพร้อมจะสละบางสิ่งเพื่อเขาหรือเธอได้หรือไม่ ไม่ใช่เฉพาะกับคนรัก แต่กับพ่อแม่เช่นกัน โดยจะเห็นว่าพ่อแม่ของชายพิการต้องกลั้นใจรับการตัดสินใจของชายคนนั้นแม้จะเป็นทางเลือกที่ไม่เป็นไปตามที่พวกเขาต้องการก็ตาม
โดยรวมแล้ว หนังเรื่องนี้ให้ข้อคิดดีๆเพื่อนำไปใช้กับคนใกล้ตัวเราได้จริงและทันเวลาครับ
หลายคนอาจบอกว่าความรักแบบนี้คงเป็นได้แค่ในหนัง แต่หากให้ลองถามเข้าไปในใจดูดีๆ
ต่อให้รวยล้นฟ้าแค่ไหน มีใครไม่ต้องการได้รับความรักกันบ้าง?