[CR] เดิน กิน เที่ยว ในบรูไน

เราเพิ่งเดินทางกลับจากบรูไน จึงอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ให้คนอื่น ๆ ได้รับทราบ จะได้เป็นข้อมูลสำหรับเพื่อน ๆ ที่มีโอกาสได้ไป เพราะก่อนไปเราก็ค้นข้อมูลจากประสบการณ์ของคนอื่น ๆ เหมือนกัน และพบว่าข้อมูลการเดินทางหรือการท่องเที่ยวประเทศบรูไนนี้ยังมีน้อยมากเลยค่ะ

     การเดินทางจากประเทศไทยไปยังบรูไนมีหลายเส้นทางนะคะ เท่าที่เราค้นมาได้ก็มีดังนี้
1.    บินตรงจากกรุงเทพฯ ไปบรูไน ด้วยสายการบิน Royal Brunei
2.    บินจากประเทศไทยไปต่อเครื่องบินที่กัวลาลัมเปอร์ (ต่อไปนี้ขอเรียก KL นะคะ) ประเทศมาเลเซีย ด้วยสายการบิน Air Asia
3.    หรือบินไปต่อเครื่องบินที่ประเทศอื่น ๆ เช่น สิงคโปร์ ซึ่งเครื่องบินจากสิงคโปร์ไปยังบรูไน มีทั้งของสายการบิน Royal Brunei และสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์

     เนื่องจากเราอยู่ที่หาดใหญ่ จึงเลือกทางเลือกที่ 2  เพราะการบินจากหาดใหญ่ไปกรุงเทพฯ หรือไป KL ก็ใช้เวลาเท่า ๆ กัน  แต่ประเด็นของการต่อเครื่องบินที่ KL ก็ต้องค้างคืน 1 คืน เพราะเวลาของเที่ยวบินไม่พอดีกันไม่สามารถเดินทางต่อได้ทันในวันเดียวกัน

     หลังจากจองตั๋วเครื่องบินเสร็จแล้ว เราก็จองที่พักค่ะ ทริปนี้เราต้องจองที่พัก 3 แห่งด้วยกัน คือ ที่ KL ขาไป ที่บรูไน และที่ KL ขากลับ ซึ่งเรื่องที่พักที่บรูไนนั้น เราไม่ต้องค้นหาอะไรเลย เพราะเราไปเรื่องงาน เค้าระบุมาแล้วว่าให้พักที่โรงแรม The Centerpoint เพียงแต่ต้องจองเองเท่านั้น เราเลยจองง่าย ๆ คือจองผ่าน Agoda  ราคาคืนละประมาณ 3,100 บาท แต่ที่ KL นั้นเราต้องหาโรงแรมเองค่ะ ถึงเราจะอยู่หาดใหญ่ และเคยไป KL มาแล้วบ้าง แต่ก็ใช่จะคุ้นเคยขนาดนึกภาพออกว่าโรงแรมไหนอยู่ตรงไหนนะคะ เอาล่ะทีนี้มาดูกันว่าแต่ละเที่ยวเราจองที่ไหนกันบ้าง เริ่มจากขาไป เราไปถึงKL ประมาณเกือบ ๆ  1 ทุ่ม และจะออกเดินทางไปบรูไนเช้ามาก ๆ คือประมาณ 6 โมงกว่า เราก็เริ่มหาโรงแรมที่อยู่ใกล้สนามบิน เราเลยจองโรงแรม TUNE ซึ่งเป็นโรงแรมของAir Asia เราคิดง่าย ๆ แค่ว่าการเดินทางระหว่างสนามบินกับโรงแรมนี้ คงมีช่องทางพิเศษเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่าพิเศษกว่าที่คิดขนาดไหนนะคะ ส่วนขากลับนั้นคิดว่าบินกลับมาถึงประมาณ 6 โมง และเดินทางกลับหาดใหญ่ประมาณ 11 โมง ขอนอนในเมือง KL หน่อยนะ เลยจองโรงแรม Le Apple Boutique ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ KLCC ตอนจองก็ไม่ทราบว่าใกล้กันขนาดไหนเหมือนกันค่ะ

     มาถึงวันเดินทาง Boarding time ของเราคือ 15.15 น. แล้วการเดินทางไปต่างประเทศนี้เค้าให้ไปเช็คอินก่อนประมาณ 2-3 ชม. ดังนั้นแม้ว่าเราจะเช็คอินออนไลน์ไปแล้ว แต่ยังต้องดรอปกระเป๋าที่เคาน์เตอร์อยู่ดี ซึ่งจนกระทั่งตอนนี้เรายังงงอยู่ เลยว่าถ้าต้องดรอปกระเป๋าที่เคาน์เตอร์ แล้วมีช่องทางเดียวกันกับคนที่ยังไม่เช็คอิน คือต้องรอคิวเหมือนกัน แล้วให้เราเช็คอินออนไลน์ทำไม แต่เอาล่ะนะได้แต่สงสัยเพราะเราเช็คอินออนไลน์ไปแล้วทุกไฟล์ท กลับไปที่เรื่องการเดินทางนะคะประมาณเกือบบ่ายโมงเราเดินทางไปถึงสนามบินหาดใหญ่ หลังจากผ่านกระบวนการต่าง ๆ ของสายการบินไปแล้วเราก็จะเข้าไปนั่งรอหน้าgate รู้ว่าต้องผ่านกระบวนการของ Immigration อีกเลยจะทำให้เสร็จ ๆ เสีย แต่พอจะเข้าไปจนท.สนามบินไม่ให้เข้าไปเพราะบอกว่ายังไม่ถึงเวลาสำหรับเที่ยวบินนี้ เอาล่ะซี ไปเร็วเกินไปก็ไม่ได้นะคะ 2 สาวเลยต้องหาที่นั่งรอจนถึงเวลาก็เข้าไปใหม่ก็ได้เดินทางปลอดภัยไปจนถึง KL ที่เมืองนี้เราเจออะไรกันบ้างเดี๋ยวกลับมาเล่าต่อนะคะ

     ไปถึงเมือง KL ซึ่งตอนนี้สนามบินนานาชาติของ KL อาคารใหม่ เรียกกันว่า KLIA2 เสร็จแล้วนะคะ ใหญ่โตเลยเชียว เราก็ไปสอบถามที่เคาน์เตอร์ Malaysia Tourism ว่าจะไปโรงแรม TUNE จะเดินทางยังไงได้บ้าง ได้รับคำตอบที่สุดแสนจะดีใจคือเดินไปได้ค่ะ ก็เดิน ๆ กันไปแบบงง ๆ นะคะ อืม..เดินไปได้คือยังไงหว่า...ก็เดิน ๆ กันไปถามทางกันไปนะคะ แต่พอเดินไปผ่านพวกร้านค้าต่าง ๆ จนสุดทางของอาคารสนามบิน โอ๊ะ โอ โรงแรมTUNE เหมือนเป็นระเบียงบ้านของสนามบินเลยค่ะ ถัดจากอาคารสนามบินเดินข้ามถนนก็ถึงโรงแรมแล้ว แบบนี้ก็สบายเราน่ะซี เพราะรุ่งเช้าไปบรูไนเช้ามาก เราจะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะหารถแท็กซี่มาสนามบินยังไงตอนตี 3 กว่า ๆ

     เวลาประมาณตี 4 ครึ่ง เราออกจากโรงแรม TUNE มายังสนามบินแค่เดินข้ามถนน เดินมาระหว่างทางเดินผ่านร้านรวงต่าง ๆ มายังชั้น 3 ซึ่งเป็นชั้นสำหรับผู้เดินทางออกนอกประเทศ ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที เราก็มาถึงแล้ว แต่... OMG! ประชากรล้านเจ็ดเลยค่ะ คนเยอะมากกกกกกกก แบบกอไก่ล้านตัว เข้าคิวรอกันยาวเหยียดเลย


     แต่เราก็ไปเข้าคิวรอกันนะคะ ผ่านไป 10 นาที แถวเรายังไม่ขยับเลยค่ะ เอาล่ะซี! เริ่มยืนไม่เป็นสุขแล้ว ขอเข้าไปถาม ground hostess หน่อยดีกว่าว่าเราจะทำยังไงได้บ้างกลัวตกเครื่องค่ะ นางตอบกลับมาว่าใครใช้ให้เธอมาสายล่ะ ให้รอประกาศเรียกของสายการบิน เราก็เลยกลับมาในแถวแบบลุ้นกันสุดโต่งเหมือนเดิม แต่อยากบอกเพื่อน ๆ นะ ที่สนามบิน KLIA 2 มีผู้โดยสารเยอะมากกกกก คิวก็ย้าววววว ยาว โดยเฉพาะผู้เดินทางช่วงเช้า ๆ ต้องเผื่อเวลาหน่อยนะคะ แม้ว่าเราจะเช็คอินออนไลน์มาแล้วก็ต้องเข้าแถวยาวมาก ๆ เหมือนกันค่ะ แต่อยากบอกว่าไปล่วงหน้าเกือบ 2 ชม.นี้มันช้าด้วยเหรอ  หลังจากได้ดรอปกระเป๋าแล้วเราก็ต้องรีบเข้าไปข้างใน และก้อต้องเดินอีกไกลนะคะถึงจะไปถึงหน้าเกท เรียกได้ว่าการมาล่วงหน้าแบบเกือบ 2 ชม.ของเรานั้นเกือบไม่ทันน่ะค่ะ เพราะเราต้องรีบทุกอย่าง เดินบ้าง วิ่งบ้าง เล่นเอาหอบเลยค่ะ

     ตอนนี้เราก็บินมาถึงบรูไนแล้วนะคะ สนามบินเค้าเงียบ ๆ ค่ะ ไม่ได้มีผู้โดยสารมากนัก การเดินทางจากสนามบินไปยังตัวเมือง สามารถใช้บริการแท็กซี่ หรือรถบัสได้ แต่รถสาธารณะเหล่านี้ก็มีไม่มากนัก เพราะคนที่นี่ส่วนใหญ่เค้ามีรถยนต์ส่วนตัวกัน ส่วนเราก็มีคนมารับรอบนี้เลยไม่ได้ใช้บริการรถสาธารณะกัน

     อย่างที่บอกตอนแรกว่าที่บรูไนนี้เราพักที่โรงแรม The Centerpoint ซึ่งอยู่ในย่านธุรกิจของเมืองเช่นกัน

     
    ใกล้ ๆ โรงแรมจะมีศูนย์การค้าชื่อ The Mall Gadong หลังจากเช็คอินโรงแรมเรียบร้อยแล้ว เราก็เริ่มตะลุยเมืองบันดาร์เสรีเบกาวันกันโดยเป้าหมายแรกของเราอยู่ที่หมู่บ้านกัมปงอะเยอร์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านกลางน้ำ การเดินทางจากโรงแรมไปยังหมู่บ้านกัมปงอะเยอร์นี้เรานั่งรถเมล์จากหน้าโรงแรม ขึ้นรถเมล์สาย 01 circle line ไปยังสถานีขนส่ง ค่ารถเมล์ที่นี่ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ธรรมดา หรือรถเมล์ปรับอากาศก็ราคาเท่ากันคือคนละ BND 1 อ้อ! ลืมบอกไปว่าค่าเงินดอลล่าร์บรูไน กับดอลล่าร์สิงคโปร์จะเท่ากัน และหากเราไม่ได้แลกเงินบรูไนมา ก็ใช้เงินสิงคโปร์แทนกันได้เลยค่ะแต่เค้าจะทอนกลับมาเป็นเงินบรูไนนะ


     ตอนนี้เรามาถึงสถานีขนส่งแล้ว


      เดินออกมาข้างนอกจะเป็นท่าขึ้นเรือไปเยี่ยมชมหมู่บ้าน Kampong Ayer ซึ่งเป็นหมู่บ้านกลางน้ำ ไปชมวิถีชีวิตของชาวชุมชนที่อยู่กลางน้ำแต่สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนกับคนบนบก ในการเดินทางไปชมหมู่บ้านนี้เราก็ต้องเหมาเรือค่าเรือประมาณ BND 10 แต่เนื่องจากพี่คนขับเรือหลายคน หลายลำ พยายามชักชวนให้เราลงเรือเค้าเหมือน ๆ กับแย่งกันน่ะ สรุปเราเลยกลัวไม่กล้าไป (555) ขอชมจากชายฝั่งล่ะกัน



     แต่บริเวณรอบ ๆ แถวชายฝั่งมีอะไรให้เราเก็บกันพอสมควรเลยนะ เริ่มจากอนุสาวรีย์ Mercu Dirgahayu 60  อนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองพระชนมายุ 60 พรรษา ของสมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์



      จากนั้นเราก็ลัดเลาะบริเวณรอบ ๆ ไปเรื่อย ๆ บนถนน Jalan Mcarthur เราก็เจอ ศูนย์การค้าYayasan สภาพภายในก็เหมือน ๆ กับศูนย์การค้าที่ไม่ใหญ่มากนักของบ้านเรา เดินทะลุห้างไป เราเจอมัสยิด Omar Ali Saifuddin สวย เด่น สง่างาม อยู่ตรงหน้า



     เรา 2 คนรีบตรงไปยังเป้าหมายทันทีเลยค่ะ สวยงามสมคำร่ำลือจริง ๆ



     มัสยิดที่ประเทศบรูไนนี้เค้าอนุญาตให้นักท่องเที่ยวอย่างเราเข้าไปชมความงามภายในอาคารได้นะคะ แต่ไม่ให้ถ่ายรูป และมีเสื้อตัวยาวสีดำ และฮิญาบ หรือผ้าคลุมผมให้เราใส่ก่อนเข้าไปภายในตัวอาคารด้วย ด้านหลังของมัสยิดติดกับแม่น้ำบรูไน แต่เราไม่ได้แวะไปเยี่ยมชมหรอกค่ะ เราต้องรีบกลับโรงแรม เพราะรถเมล์จะมีบริการถึง 6 โมงเย็นเท่านั้น 2 สาวไม่กล้าเสี่ยงค่ะ อ้อ! แต่ผู้คนเมืองนี้เค้ามีน้ำใจกันนะคะ เห็น 2 สาวถ่ายรูปกัน ก็อาสาจะถ่ายรูปให้โดยไม่ต้องไปร้องขอ น่ารักจริง ๆ ค่ะ

     อย่างที่บอกมาตั้งแต่ต้นว่าเราพักที่โรงแรม The Centerpoint ย่านนั้นเค้าเรียกว่าย่าน Gadong เป็นย่านการค้าที่มีร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ให้เราได้เดินกัน ดังนั้นเราจึงมากินมื้อเย็นแถว ๆ โรงแรม ซึ่งมีทั้งร้าน McDonald ร้านขายอาหารสไตล์ western ร้าน Jolibee ซึ่งเป็นร้านขายไก่ทอดสัญชาติฟิลิปปินส์ เราตัดสินใจกินอาหารเย็นกันที่ร้านที่เราเคยรู้จักมาบ้างร้านนี้



     แล้วเราก็สั่งอาหารพื้นเมืองของบรูไนชื่อ LAKSI LEMAK เป็นข้าวหุงด้วยกะทิ กินกับแกงไก่ ถั่ว และปลาแห้งตัวเล็ก ๆ อร่อยดี อาหารเช้าในโรงแรมก็มีเมนูนี้ ซึ่งเราก็กินทุกวันเลยเพราะปกติถ้าไปต่างถิ่น เรามักจะนิยมกินอาหารของท้องถิ่นนั้น ๆ ค่ะ



     ใกล้ ๆ โรงแรมที่เราพักนั้นมีตลาดขายของสดกลางคืน ให้เดินกัน ตลาดแห่งนี้เค้าขายผัก ผลไม้ อาหาร ซึ่งเท่าที่ดู ๆ พวกผัก ผลไม้ เหมือน ๆ บ้านเราเลย





     ส่วนอาหารก็อาจจะมีแตกต่างบ้างนิดหน่อย อ้อ! เป็นเพราะเราอยู่ที่หาดใหญ่ ซึ่งคุ้นเคยกับอาหารมุสลิมเลยไม่รู้สึกแตกต่างก็ได้นะ แต่เราเห็นมีหลายร้านเค้าขายปอเปี๊ยะด้วยล่ะ เค้าเขียนป้ายว่า “PoPia” ว้าว! เรียกเหมือนกันกับเราเลย



     อันนี้เหมือนขนมฝักบัวบ้านเรานะ แต่สีขนมฝักบัวของบรูไนจะดำไปหน่อยนะ อิอิ รูปไม่ชัด ขออภัย แต่อยากนำเหนอ



     วันที่ 2 เราต้องทำงานทั้งวัน แต่พอตอนเย็น ๆ ค่ำ ๆ เรามีเป้าหมายกันว่าเราจะเดินไปชมความงามของมัสยิดทองคำ หรือ Jame ‘ asr Hassanil Bokiah Mosque ในเวลากลางคืนกัน เนื่องจากเมื่อวานตอนนั่งรถบัสกลับใกล้ ๆ โรงแรม เราเห็นแล้วว่ามัสยิดทองคำอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก ประมาณ 1 กิโลเมตร พอเดินไหว แต่เราต้องเดินข้ามถนนผ่านวงเวียนใหญ่ของเมืองซึ่งใหญ่ประมาณอนุสาวรีย์ชัยบ้านเรา หรือใหญ่กว่าอีกนะ และแล้วความงดงามก็มาปรากฏตรงหน้า




     ซูมยอดโดมทองคำให้เห็นกันชัด ๆ





     คืนนี้กลับไปนอนหลับสบาย เพราะเดินกันหลายกิโลทีเดียว
ชื่อสินค้า:   เที่ยวบรูไน เที่ยวประเทศอาเซียน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่