รักเขาไปแล้วนิ?

เมื่อตอนสงกรานต์ผมได้เดินทางไปเที่ยวเชียงใหม่ ไปโดยไม่มีเพื่อนแต่ก็ทำให้ผมไปเจอเพื่อนคนนึงที่เชียงใหม่ด้วยวิธีไหนไม่ขอบอกนะครับ แต่ช่วงก่อนสงกรานต์ซักปลายกุมภาพันธ์เป็นช่วงที่ผมกับเขาเริ่มคุยกัน เขาอาสาจะพาผมไปเที่ยวตลอดทริปสงกรานต์ เราก็คุยบ้างไม่ได้คุยกันบ้าง ต่างคนต่างมีหน้าที่ทำงานกันไป ผมเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าเราจะได้ไปเจอหรือไปให้เขาเป็นไกด์ เพราะเรื่องแบบนี้มันเอาแน่นอนไม่ได้ ผมก็เลยไม่ได้คาดหวังอะไรกับการที่เขาอาสาเป็นไกด์ให้ ขอถึงช่วงสงกรานต์ สุดท้ายเขาก็มาหาผมจริงๆ แล้วก็พาเที่ยว วันแรกที่เราเจอกันก่อนมันเกือบทำให้เฟลกันทั้งคู่ ไม่ดิเขาเฟลคนเดียว เพราะเรานัดกันตอนเย็น แต่แล้วผมหลับอาจจะเพลียจากการเดินทางผมเลยหลับไป มาสะดุ้งตื่นเพราะว่าไลน์เด้งรั่วๆๆ ว่าเขามาถึงแล้ว เขารออยู่ข้างล่าง โทรไลน์ก็รั่วๆๆ ผมนี้สะดุ้งตื่นตกใจเลย ดีที่อาบน้ำไว้แล้ว เลยแค่ล้างน้ำแล้วไปเจอเขา เขาพาผมไปกินมื้อเย็นโดยที่บอกว่าเป็นร้านส้มตำที่อร่อยที่สุดในเชียงใหม่ละ (แต่ผมว่างั้นๆ เฉยๆ แต่ไม่ถึงกับไม่อร่อย) พอไปกินส้มตำเสร็จเขาเลยขอตัวไปทำธุระของเขา โดยที่ให้ผมติดไปด้วย จนจำได้ว่าทำธุระเสร็จประมาณ 2 ทุ่ม พาผมมาส่งที่โรงแรมแล้วก็นัดกันว่าจะไปท่องราตรีกัน โดยนัดกันประมาณ 4 ทุ่ม เขาจะมารับที่โรงแรม พอถึงเวลาก้มารับผมเราท่องราตรีกันถึงตีสี่ได้ ไปพบปะเพื่อนฝูงของเขา เพื่อนเขาเฟรนลี่ แล้วก็นิสัยดีกันมาก ขนาดเราเป็นคนต่างถิ่นก็ยังต้อนรับขับสู้อย่างดี ส่วนของแต่ละวันที่ไปทริปสงกรานต์ทุกอย่างมันเป็นความประทับใจหมดเลยครับ ผมไปเชียงใหม่ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 เรารู้สึกดีกับเขา จนถึงวันกลับมันก็ใจหายนะเพราะไม่รู้ว่าเมื่อไรเราจะได้กลับมาเจอกันอีก กทม.กับเชียงใหม่ถึงจะนั่งเครื่องบินไปไม่นาน แต่มันก็ใช่จะไปได้ตลอด เขาขับรถมาส่งผมขึ้นรถทัวร์กลับกทม. ขอบอกว่าวันนั้นผมใจหายระดับนึง อาจจะเพราะเรายังไม่อยากกลับมาทำงานด้วย ยังอารมณ์ค้างอยากเที่ยวต่อ แต่มันก็ทำไม่ได้เนอะยังไงก็ต้องกลับ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ก่อนกลับเขาถามผมว่า “จะคิดถึงเขามั้ยพอกลับไปถึงกทม.แล้ว” ผมไม่ได้คิดไรกับคำถามแบบนี้ เลยตอบไปว่า “คิดถึงดิ ถ้าอยากมาเชียงใหม่จะคิดถึงคนแรกเลย” ฮาๆ เขาก็เงียบๆๆไปเลย จนพอกลับมากทม.ก็มีคุยกัน แต่มันคุยกันถี่กว่าเดิม คุยกันทุกวันเขาไม่สบายเป็นไข้หวัดใหญ่ ผมก็แนะนำตัวยาให้เขากิน ก็เป็นห่วงเขาเบาๆ เราคุยกันไปคุยกันมา อยู่ๆ วันนึงเขาสารภาพกับผมว่าเขาชอบผม ชอบผมตั้งแต่วันแรกที่เจอผมไม่คิดว่าจะมีใครที่เที่ยว ลุย กับเขาได้ถึงตีสี่ วันที่สองก็ตีห้า เขาไม่คิดว่าจะมีใครอยู่กับเขาได้ขนาดนี้ เขาก็บอกว่าที่เขาพาไปกินข้าวกับพี่ชายเขาเพราะเขาอยากให้พี่ชายเขาช่วยดูว่าผมเป็นยังไงบ้างถ้าจะคบกับคนนี้ ต้องบอกว่าผมไม่สงสัยอะไรเลยว่าการที่เขาพาผมไปกินข้าวกับพี่ชายหรือแม้แต่ไปเจอเพื่อนฝูงเขา ผมเองก็ไม่ได้คิดอะไรเลยเราคิดแต่ว่าเราไปเที่ยวเขาคงอยากให้เราได้เที่ยวเชียงใหม่หลายๆ มุม เขายังบอกผมอีกว่าเขาไม่เคยรู้สึกดีกับใครแบบนี้มานานมากนับตั้งแต่เลิกกับแฟนเก่า เขาเลยถามผมว่าชอบเขาบ้างมั้ย เอาตรงๆ ผมประทับใจแล้วก็รู้สึกดีกับเขาเหมือนกันนะครับ ไม่รู้เหมือนกันรู้สึกดีเพราะอะไร ผมบอกเขาไปว่าถ้านั้นเป็นตัวตนของเขา ไม่เฟคกับผม ผมก็รู้สึกดีด้วย หลังจากคืนนั้นเราเลยตกลงลองคบเป็นแฟนกัน เพียงแต่ต้องทำใจเรื่องระยะทางที่ไกลกัน จากวันนั้นเราเริ่มเอาใจใส่ซึ่งกันและกันมากขึ้น มากกว่าปกติที่เราเคยคุยกัน จนผมตัดสินใจขึ้นไปพักผ่อนที่เชียงใหม่อีกครั้ง ผมเหนื่อยกับงานด้วย กับเรื่องราวอะไรมากมายที่เข้ามา เลยตัดสินใจไปพักสมอง พักร่างกายที่เชียงใหม่ แต่ไปรอบนี้มันตื่นเต้นมากกว่าตอนสงกรานต์หลายเท่าเลย เพราะสถานะที่เราไปไม่ใช่เพือนแล้ว ก็นะเป็นแฟนละนิ ไปรอบนี้มีเวลาอยู่ด้วยกันน้อยกว่าเดิมเพราะเราไม่ได้ไปช่วงหยุดยาว เราอยู่ด้วยกันแบบเป็นแฟนกันแล้ว จะกอดจะหอมก็มีเขิลๆ นะสำหรับผม แต่สำหรับเขา เขาบอกไม่เขิล ไม่อาย แต่ผมดิเขิล ฮาๆ เราใช้เวลาที่อยู่ด้วยกันอย่างคุ้มค่าเพราะมีเวลาน้อยด้วย ไปกินข้าว ไปเที่ยวด้วยกัน มันแฮปปี้มาก อยากไม่ให้วันกลับต้องมาถึง จนสุดท้ายก็ต้องกลับงานเลี้ยงต้องมีวันเลิกลา แต่ผมไม่อยากกลับเลยมันใจหายอย่างหนัก หนักกว่ารอบที่สงกรานต์หลายเท่าเลย รอบนี้กลับเครื่องบินไม่อยากแม้จะเดินเข้าเกต เขามาส่งผมอยู่ยืนดูผมเขาเกต ตอนนั้นมันเศร้ามากนะ อารมณ์แบบต้องจากกันอีกแล้ว ผมนั่งคิดบนเครื่องตลอดว่าถ้าผมมาแล้วต้องจากกันแบบนี้ ผมก็เริ่มไม่อยากมาเหมือนกันเกลียดความรู้สึกที่ต้องจากลากับคนที่เราเริ่มจะรักเขา ใช่ครับ...ผมเริ่มรักเขาเข้าไปแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเขาเริ่มรักผมหรือยัง อาจจะแค่รู้สึกดีเหมือนเดิม แต่ผมมันไปไกลแล้ว สุดท้ายพอเรากลับมาถึงกทม. ก็ต้องไปทำงาน ใช้ชีวิตเหมือนเดิม จนวันนึงตอนกลางคืนผมถามเขาตรงๆ ว่า รักผมบ้างมั้ย? แต่เขาก็ไม่ตอบ เลี่ยงคำตอบตลอด ผมก็ยังรอคำตอบจนเขาบอกผมว่า เขาก็ยังรู้สึกดีกับผม ยังอยากอยู่ด้วยกัน อยู่ด้วยกันแล้วเขามีความสุข.....ผมกลับมานั่งคิดว่าผมไม่ควรไปถามเขาว่า รักผมบ้างมั้ย? เพราะมันต้องใข่เวลา แต่ ณ ตอนนี้เราก็ยังเป็นปกติ มีงอลกันบ้าง ส่วนใหญ่เขาจะงอลผมมากกว่า แต่ผมก็ยินดีง้อเขานะ เขางอลแล้วน่ารักดี......สำหรับผมอาจจะใช่คำว่ารักกับเขา แต่สำหรับเขาผมก็ไม่รู้ว่าจะยังใช้ได้หรือป่าว....LOVE U
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
อ่านจบแล้วว~~

ตกย้ำความนกของเรามาก

ร้องไห้ร้องไห้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่