ส่วนตัว ผมมักบอกเสมอจนขี้เกียจบอกแล้วว่าปัญหาเกินครึ่งของcgm คือทีมงาน รองลงมาคืออฟช.(iam)
ไม่ได้หมายความว่าทีมงาน สต๊าฟ ไม่เก่งหรือไม่มีคุณภาพ แต่คือทีมงานไม่มีศักยภาพพอที่จะพาวงไปได้ไกลกว่านี้ บอกแค่นี้อาจจะไม่เห็นภาพ สมมติ ถ้าbnk มันคือเชนร้านอาหารไทย วันดีคืนดีมาเปิดเชียงใหม่ ทำร้านอาหารเหนือ คุณมีกุ๊กฝีมือดี แม้จะเป็นคนเหนือแต่ไม่มีใครทำอาหารเหนือเป็น แล้วไม่มีเชฟอีกต่างหาก ซึ่งเชฟก็ให้กุ๊กนั่นแหละช่วยกัน ผลออกมาคือร้านนี้มันอยู่ได้เพราะชื่อเสียงจากร้านอาหารไทยในกทม. ลูกค้าก็คือคนชื่นชอบอาหารกทม.อยู่แล้ว แล้วมีลูกค้าจากกทม.บินมาอุดหนุนบ้าง แต่มันเป็นรสชาติที่คนพื้นที่มันไม่กินเพราะรสชาติมันไม่เมือง ทางกทม.ก็หาทางแก้ รับวมัครเชฟที่ทำอาหารเหนือเป็น ก็ได้เชฟที่ทำอาหารเนือได้ แต่เชฟดันไม่เข้าใจว่าพื้นฐานรสชาติของอาหารเหนือจริงๆมันคือแบบไหน แล้วร้านที่กทม.ก็ไม่รู้ด้วยว่ารสชาติแบบเหนือที่อร่อยๆมันเป็นยังไง สุดท้าย ลูกค้าเดิมเท่านั้นที่ยังกิน และยังมีทยอยหายไปบ้างจากโปรโมชั่น การบริการที่แย่ คนท้องถิ่นก็ไม่มากินเหมือนเดิม แล้วหาว่าคนพื้นที่ไม่มีกำลังซื้อ(ทั้งๆที่ร้านไม่เคยทำรสชาติออกมาเพื่อคนพื้นที่เลย) แล้วร้านใหญ่ยังให้ร้านเชียงใหม่มาออกบูธกทม.บ่อยๆเพราะขายได้ดีกว่า แล้วคนกทม.มันจะบินไปกินถึงเชียงใหม่เพื่ออะไร
กลับเข้าเรื่องคำถามคือ event ที่เชียงใหม่ ถ้าไม่นับที่มันติดมากับวง อย่างเปิดตัว จับมือ เธียเตอร์ ตู้ปลา cgm มีevent อะไรที่เชียงใหม่บ้าง สรุปง่ายๆย้อนไปปี2ปี event ที่เชียงใหม่ มีแต่roadshow hi touch อัพเกรด ทั้ง ฮาร์ททัชบ้าง มะลิทัชบ้าง ผูกข้อมือบ้าง (ทานาบาตะก็เข้าข่ายนี้) คำถามคือคุณภาพevent ของ cgm ที่เชียงใหม่มันได้แค่นี้(จริงๆหรือ) หรือว่าเพราะทีมงานมือไม่ถึงที่จะproduce event ที่มันว้าวและทำเงินมากกว่านี้ออกมา
ย้อนไปevent ใหญ่ของcgm ที่เชียงใหม่ ที่ถือว่าใหม่(ณ ตอนนั้น) คือ 1st fanmeet และ ลอยกระทงครั้งแรก(ที่เปิดตัวรุ่น2) 1st fanmeet คืองานที่ คอนเซปดีแต่การจัดการห่วยแตก ทั้งบัตรกิจกรรมไม่พอ บัตรคอนขายไม่หมดแล้วคุณภาพก็ออกมาราวกับงานเปิดตัว mae อัพเกรด ส่วนงานลอยกระทงครั้งแรก ก็เป็นครั้งแรกที่ทำแนวบูธเกมส์คล้ายๆงานกีฬาสี แต่การจัดการไม่ค่อยดี ขายของเลท และบัตรหมดเร็ว ก็ถือว่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ (ส่วนงานที่ว่าดี อย่างสงกรานต์ mv sansei ดันไม่ใช่event หาเงินโดยตรง) ซึ่งหลังงาน1st fanmeet แล้ว cgm ก็ไม่เคยมีงานคอนเก็บเงินที่เชียงใหม่อีกเลย ส่วนลิยกระทง จัด2ครั้งก็เลิก
และสิ่งที่ผมบอกว่าปัญหาevent มาจากศักยภาพทีมงานคือ สมัยรินะยังอยู่ ผมเคยไปจับมือรอบพิเศษ เพราะขอให้cgm เอากิจกรรมmatsuri มาลงที่เชียงใหม่ ซึ่งรินะก็หัวเราะแล้วบอกว่าทำไม่ได้ เพราะมันเหนื่อยไปสำหรับทีมงาน หรือพูดง่ายๆคือทีมงานเชียงใหม่รันสเกลงานระดับmatsuri ไม่ได้ แม้จะมีแค่วงcgm48 ก็ตาม(matsuri ที่เชียงใหม่อาจจะไม่ได้ขายแพงแบบกทม. แต่ปรับราคาเริ่มต้นลงเพื่อแฟนตลับพื้นที่เข้าถึงได้ ส่วนราคา1000+ ก็สำหรับแฟนคลับที่มีกำลังซื้อ) ซึ่งจากที่ผมคิดเองเออเอง อาจจะอคติ แต่ด้วยสาเหตุด้านศักยภาพทีมงาน ทำให้event หลังๆของcgm แทบไม่มีกิจกรรมอะไรที่มีมากกว่า roadshow hi touch อัพเกรด(เพราะแผนงานมันเหมือนเดิม ลอกๆมาปรับนั่นนี่ก็ใช้ได้)
แล้วล่าสุด เดือนหน้า งานtanabata ก็ไม่รู้ว่าcgm จะจัดอีกมั้ย(เหมือนว่าตั้งแต่จัดครั้งแรกก็จัดมาทุกปี) แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าสำหรับcgm ซึ่งต่อให้จัดก็ไม่มีอะไรต่างจากเดิม ส่วนคอนแกรดรุ่น1 ดูสภาพทีมงานแล้ว ผมไม่กล้าหวังว่าวงจะจัดที่เชียงใหม่ได้ คงไปจัดกทม.พ่วงกับคอนฝั่งbnkในอีกวันเหมือนเดิม
สรุปก็คือ event ที่เชียงใหม่ มันจะมีหรือไม่มีมันก็ไม่ต่างกัน ถ้ายังไม่มีการคิดevent ดีๆ ที่ไม่ใช่ roadshow hitouch อัพเกรดเหมือนเดิม ซึ่งนับวันคนก็จะเบื่อและคนมาน้อยลง จากฟีดแบ็คหน้างานสุดแย่ในทุกevent และตราบใดที่ยังไม่มีทีมงานที่รู้จักตลาดในพื้นที่จริง มาคุมคอนเท้นต์ อีเว้นต์และแนวธุรกิจวงจริงๆ cgm ก็คงมีสภาพเป็นอะไหล่bnk แบบนี้ไปอีกยาวๆ
ปัญหาCGM48 ไม่มีงานไม่มีEvent ที่เชียงใหม่เลย ปัญหาอยู่ตรงไหน
ไม่ได้หมายความว่าทีมงาน สต๊าฟ ไม่เก่งหรือไม่มีคุณภาพ แต่คือทีมงานไม่มีศักยภาพพอที่จะพาวงไปได้ไกลกว่านี้ บอกแค่นี้อาจจะไม่เห็นภาพ สมมติ ถ้าbnk มันคือเชนร้านอาหารไทย วันดีคืนดีมาเปิดเชียงใหม่ ทำร้านอาหารเหนือ คุณมีกุ๊กฝีมือดี แม้จะเป็นคนเหนือแต่ไม่มีใครทำอาหารเหนือเป็น แล้วไม่มีเชฟอีกต่างหาก ซึ่งเชฟก็ให้กุ๊กนั่นแหละช่วยกัน ผลออกมาคือร้านนี้มันอยู่ได้เพราะชื่อเสียงจากร้านอาหารไทยในกทม. ลูกค้าก็คือคนชื่นชอบอาหารกทม.อยู่แล้ว แล้วมีลูกค้าจากกทม.บินมาอุดหนุนบ้าง แต่มันเป็นรสชาติที่คนพื้นที่มันไม่กินเพราะรสชาติมันไม่เมือง ทางกทม.ก็หาทางแก้ รับวมัครเชฟที่ทำอาหารเหนือเป็น ก็ได้เชฟที่ทำอาหารเนือได้ แต่เชฟดันไม่เข้าใจว่าพื้นฐานรสชาติของอาหารเหนือจริงๆมันคือแบบไหน แล้วร้านที่กทม.ก็ไม่รู้ด้วยว่ารสชาติแบบเหนือที่อร่อยๆมันเป็นยังไง สุดท้าย ลูกค้าเดิมเท่านั้นที่ยังกิน และยังมีทยอยหายไปบ้างจากโปรโมชั่น การบริการที่แย่ คนท้องถิ่นก็ไม่มากินเหมือนเดิม แล้วหาว่าคนพื้นที่ไม่มีกำลังซื้อ(ทั้งๆที่ร้านไม่เคยทำรสชาติออกมาเพื่อคนพื้นที่เลย) แล้วร้านใหญ่ยังให้ร้านเชียงใหม่มาออกบูธกทม.บ่อยๆเพราะขายได้ดีกว่า แล้วคนกทม.มันจะบินไปกินถึงเชียงใหม่เพื่ออะไร
กลับเข้าเรื่องคำถามคือ event ที่เชียงใหม่ ถ้าไม่นับที่มันติดมากับวง อย่างเปิดตัว จับมือ เธียเตอร์ ตู้ปลา cgm มีevent อะไรที่เชียงใหม่บ้าง สรุปง่ายๆย้อนไปปี2ปี event ที่เชียงใหม่ มีแต่roadshow hi touch อัพเกรด ทั้ง ฮาร์ททัชบ้าง มะลิทัชบ้าง ผูกข้อมือบ้าง (ทานาบาตะก็เข้าข่ายนี้) คำถามคือคุณภาพevent ของ cgm ที่เชียงใหม่มันได้แค่นี้(จริงๆหรือ) หรือว่าเพราะทีมงานมือไม่ถึงที่จะproduce event ที่มันว้าวและทำเงินมากกว่านี้ออกมา
ย้อนไปevent ใหญ่ของcgm ที่เชียงใหม่ ที่ถือว่าใหม่(ณ ตอนนั้น) คือ 1st fanmeet และ ลอยกระทงครั้งแรก(ที่เปิดตัวรุ่น2) 1st fanmeet คืองานที่ คอนเซปดีแต่การจัดการห่วยแตก ทั้งบัตรกิจกรรมไม่พอ บัตรคอนขายไม่หมดแล้วคุณภาพก็ออกมาราวกับงานเปิดตัว mae อัพเกรด ส่วนงานลอยกระทงครั้งแรก ก็เป็นครั้งแรกที่ทำแนวบูธเกมส์คล้ายๆงานกีฬาสี แต่การจัดการไม่ค่อยดี ขายของเลท และบัตรหมดเร็ว ก็ถือว่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ (ส่วนงานที่ว่าดี อย่างสงกรานต์ mv sansei ดันไม่ใช่event หาเงินโดยตรง) ซึ่งหลังงาน1st fanmeet แล้ว cgm ก็ไม่เคยมีงานคอนเก็บเงินที่เชียงใหม่อีกเลย ส่วนลิยกระทง จัด2ครั้งก็เลิก
และสิ่งที่ผมบอกว่าปัญหาevent มาจากศักยภาพทีมงานคือ สมัยรินะยังอยู่ ผมเคยไปจับมือรอบพิเศษ เพราะขอให้cgm เอากิจกรรมmatsuri มาลงที่เชียงใหม่ ซึ่งรินะก็หัวเราะแล้วบอกว่าทำไม่ได้ เพราะมันเหนื่อยไปสำหรับทีมงาน หรือพูดง่ายๆคือทีมงานเชียงใหม่รันสเกลงานระดับmatsuri ไม่ได้ แม้จะมีแค่วงcgm48 ก็ตาม(matsuri ที่เชียงใหม่อาจจะไม่ได้ขายแพงแบบกทม. แต่ปรับราคาเริ่มต้นลงเพื่อแฟนตลับพื้นที่เข้าถึงได้ ส่วนราคา1000+ ก็สำหรับแฟนคลับที่มีกำลังซื้อ) ซึ่งจากที่ผมคิดเองเออเอง อาจจะอคติ แต่ด้วยสาเหตุด้านศักยภาพทีมงาน ทำให้event หลังๆของcgm แทบไม่มีกิจกรรมอะไรที่มีมากกว่า roadshow hi touch อัพเกรด(เพราะแผนงานมันเหมือนเดิม ลอกๆมาปรับนั่นนี่ก็ใช้ได้)
แล้วล่าสุด เดือนหน้า งานtanabata ก็ไม่รู้ว่าcgm จะจัดอีกมั้ย(เหมือนว่าตั้งแต่จัดครั้งแรกก็จัดมาทุกปี) แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าสำหรับcgm ซึ่งต่อให้จัดก็ไม่มีอะไรต่างจากเดิม ส่วนคอนแกรดรุ่น1 ดูสภาพทีมงานแล้ว ผมไม่กล้าหวังว่าวงจะจัดที่เชียงใหม่ได้ คงไปจัดกทม.พ่วงกับคอนฝั่งbnkในอีกวันเหมือนเดิม
สรุปก็คือ event ที่เชียงใหม่ มันจะมีหรือไม่มีมันก็ไม่ต่างกัน ถ้ายังไม่มีการคิดevent ดีๆ ที่ไม่ใช่ roadshow hitouch อัพเกรดเหมือนเดิม ซึ่งนับวันคนก็จะเบื่อและคนมาน้อยลง จากฟีดแบ็คหน้างานสุดแย่ในทุกevent และตราบใดที่ยังไม่มีทีมงานที่รู้จักตลาดในพื้นที่จริง มาคุมคอนเท้นต์ อีเว้นต์และแนวธุรกิจวงจริงๆ cgm ก็คงมีสภาพเป็นอะไหล่bnk แบบนี้ไปอีกยาวๆ