คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 35
แปลกไหม คนจีนเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ ของการท่องเที่ยวของทุกประเทศบนโลกแล้วตอนนี้
แต่ปัญหาแบบนี้ คนจีนมากินรวบธุรกิจท่องเที่ยว ทำไมถึงเกิดขึ้นแต่ที่ประเทศไทยที่เดียว
หรือว่า นักท่องเที่ยวจีน ที่ไปประเทศอื่น นิสัยดีกว่าที่มาประเทศไทย หรือก็คงไม่ใช่
สัดส่วนนักท่องเที่ยวที่ไปญี่ปุ่น คือคนจีน 1 ใน 3 หรือ 1 ใน 4 แล้วตอนนี้
และที่สำคัญ กลุ่มนักท่องเที่ยวจีน คือ กลุ่มกระเป๋าหนักกว่าชาติอื่นๆ พวกนี้คือตัวเลขจาก หน่วยงานรัฐของญี่ปุ่นเลย
ถ้ามันมีช่องทาง ใครก็อยากหารายได้ทั้งนั้นแหละ
ที่เราจะด่าไม่ใช่คนจีน ที่เข้ามาเปิดธุรกิจ หาเงินจากคนของเค้า
ที่เราจะด่า ไม่ใช่คนจีน ที่เข้ามาเที่ยว เพราะมันมีตัวเลขว่า เค้าใช้จ่ายเยอะๆ ไม่ใช่พวกทัวร์ 0 เหรียญ
ที่ว่า 0 เหรียญ ไม่ใช่นักท่องเที่ยวจีนจ่าย 0 เหรียญ จริงๆ เค้าใช้จ่ายเยอะมาก
แต่ 0 เหรียญ คือ คนไทย ได้ 0 เหรียญ
ปัญหานี้ที่เกิด ไม่ใช่เพราะคนจีนเลย
เราเคยเกิดปัญหานี้มาแล้ว คือ รัสเซีย ที่พัทยา นั่นไม่ได้กินรวบเหรอ
มองเห็นอะไรมั้ยครับ
ทำไมประเทศที่มาท่องเที่ยวประเทศเราเยอะๆ ประเทศไหน เราก็ว่าเค้า ว่าเค้าเข้ามากินรวบหมด
ปัญหามันก็เพราะประเทศไทย คนไทย หน่วยงานรัฐของไทย นี่แหละครับ
ทุกประเทศบนโลกใบนี้ ไม่มีใครไม่ต้อนรับคนจีน ไม่มีใครมาพูดว่า เป็นทัวร์ 0 เหรียญ
ประเทศในยุโรปหลายๆ ประเทศ พยายามทำเรื่อง free visa ให้นักท่องเที่ยวจีน ประเทศที่เจริญๆ แล้วทั้งนั้น
ตราบใดที่โทษแต่คนอื่น โทษแต่ปัจจัยภายนอก แต่ไม่โทษการบริหารจัดการภายในของเราเลย มันก็จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ
แต่ปัญหาแบบนี้ คนจีนมากินรวบธุรกิจท่องเที่ยว ทำไมถึงเกิดขึ้นแต่ที่ประเทศไทยที่เดียว
หรือว่า นักท่องเที่ยวจีน ที่ไปประเทศอื่น นิสัยดีกว่าที่มาประเทศไทย หรือก็คงไม่ใช่
สัดส่วนนักท่องเที่ยวที่ไปญี่ปุ่น คือคนจีน 1 ใน 3 หรือ 1 ใน 4 แล้วตอนนี้
และที่สำคัญ กลุ่มนักท่องเที่ยวจีน คือ กลุ่มกระเป๋าหนักกว่าชาติอื่นๆ พวกนี้คือตัวเลขจาก หน่วยงานรัฐของญี่ปุ่นเลย
ถ้ามันมีช่องทาง ใครก็อยากหารายได้ทั้งนั้นแหละ
ที่เราจะด่าไม่ใช่คนจีน ที่เข้ามาเปิดธุรกิจ หาเงินจากคนของเค้า
ที่เราจะด่า ไม่ใช่คนจีน ที่เข้ามาเที่ยว เพราะมันมีตัวเลขว่า เค้าใช้จ่ายเยอะๆ ไม่ใช่พวกทัวร์ 0 เหรียญ
ที่ว่า 0 เหรียญ ไม่ใช่นักท่องเที่ยวจีนจ่าย 0 เหรียญ จริงๆ เค้าใช้จ่ายเยอะมาก
แต่ 0 เหรียญ คือ คนไทย ได้ 0 เหรียญ
ปัญหานี้ที่เกิด ไม่ใช่เพราะคนจีนเลย
เราเคยเกิดปัญหานี้มาแล้ว คือ รัสเซีย ที่พัทยา นั่นไม่ได้กินรวบเหรอ
มองเห็นอะไรมั้ยครับ
ทำไมประเทศที่มาท่องเที่ยวประเทศเราเยอะๆ ประเทศไหน เราก็ว่าเค้า ว่าเค้าเข้ามากินรวบหมด
ปัญหามันก็เพราะประเทศไทย คนไทย หน่วยงานรัฐของไทย นี่แหละครับ
ทุกประเทศบนโลกใบนี้ ไม่มีใครไม่ต้อนรับคนจีน ไม่มีใครมาพูดว่า เป็นทัวร์ 0 เหรียญ
ประเทศในยุโรปหลายๆ ประเทศ พยายามทำเรื่อง free visa ให้นักท่องเที่ยวจีน ประเทศที่เจริญๆ แล้วทั้งนั้น
ตราบใดที่โทษแต่คนอื่น โทษแต่ปัจจัยภายนอก แต่ไม่โทษการบริหารจัดการภายในของเราเลย มันก็จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 26
ถ้าคุณมีผลิตภัณฑ์ที่กล่าวมาข้างต้น แล้วคุณต้องการจะเอาสินค้าไปลงขายในสถานประกอบการที่มีผลประโยช์กับกรุ๊ปทัวร์ เช่นร้านอาหาร หรือสถานบันเทิง(โชว์)ที่ทัวร์จีนลง แน่นอนเลยว่าคุณจะต้องถูกปฏิเสธอย่างที่เจอมานั่นหละครับ เพราะผลประโยชน์มันเยอะ กำไรจากการขายสินค้าพวกนี้ บริษัททัวร์ที่เป็นเอเย่นต์ใหญ่ เค้าต้องการรีดจากนักท่องเที่ยวให้มากที่สุด เพราะอะไรรู้มั้ย... เพราะทัวร์พวกนี้มันขาดทุนมาตั้งแต่ต้นทางไงครับ
แต่ก่อนจะด่า ว่าทำไมคุณถึงขายสินค้าให้พวกทัวร์พวกนี้ไม่ได้ ผมมีอะไรจะยกตัวอย่างให้ฟัง
สมมุติคุณไปเที่ยวผับแห่งหนึ่ง สถานที่สวยงามโอ่โถง มีวงดนตรีวงดังมาเล่นให้คุณฟัง แต่ผับนี้มีกฏว่า ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มเข้ามาในสถานที่
เพราะในผับมีขายอาหาร แต่ราคาเริ่มต้นที่สูงเอาการ เครื่องดื่มเช่นน้ำแข็ง น้ำอัดลม โซดา ขายขวดละ 100 ขึ้นไป ทั้ง ๆ ที่เซเว่นข้างผับขายขวดละ 9 บาท แต่พวกคุณก็ยอมจ่ายในราคานั้น ถูกมั้ยครับ... ผมไม่เห็นมีใครบ่นใครด่าพวกเธคผับคลับบาร์เลย ขายของแพงขนาดนั้น ทำไมล่ะครับ
ส่วนผับนั่นก็ไม่ได้ไปว่าเซเว่นนะ ว่าทำไมขายโซดาถูก และก็ไม่ได้ห้ามขายด้วย เซเว่นจะขายก็ขายไป แค่อย่าเอาเข้าผับฉันก็พอ... ผมเล่าให้ฟังแบบนี้ พอจะเข้าใจมั้ยครับ
บริษัทใหญ่นี้ จ่ายค่าหัวนักท่องเที่ยวให้กับเอเย่นต์ที่เมืองจีน ราคาหัวละเท่าไรขึ้นอยู่ที่ว่าเป็นลูกทัวร์จากมณฑลอะไร เพราะทัวร์แต่ละที่ ยอดช๊อปปิ้งแตกต่างกัน บางที่ยอดดี ค่าหัวจะแพง บางที่ยอดห่วย ค่าหัวก็ถูกตามมา...
ลงทุนซื้อรถบัสมาเป็นพันคัน ลงทุนจ้างพนักงานขับรถ แล้วเอารถเหล่านี้มาให้เอเย่นต์เล็ก ๆ ในเมืองไทย ที่รับเอาลูกทัวร์เหล่านี้เข้ามาพาเที่ยว เช่าในราคาขาดทุน แทบจะคิดแต่ค่าน้ำมันเลยล่ะ แต่มีข้อแม้นะ ว่าต้องเอาแขกไปช๊อปปิ้งแต่ที่ของเค้าเท่านั้น... เอเย่นต์เล็กที่พาเที่ยว ก็แบ่งคอม ฯ ให้นิดหน่อยเท่านั้นเอง
ที่ผมเอามาอธิบายเนี่ย ไม่ได้หมายความว่าผมเห็นดีเห็นงามกับบริษัท หรือกับระบบแบบนี้นะ เพียงแต่ผมแค่อยากให้คุณมองความจริง กว้าง ๆ เท่านั้น และผมจะบอกอะไรคุณให้นะครับ...
บริษัททัวร์ที่เค้าห้ามคุณขายของ เค้าแค่ห้ามในสิ่งที่เค้าห้ามได้ครับ เช่นในเขตพื้นที่ของเค้า เช่นห้ามเอาขึ้นรถเค้า แต่มันห้ามไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์หรอกครับ มีมากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ที่หลุดรอดออกมา ซื้อหาสินค้าเองข้างนอก และมีแนวโน้มด้วยว่า จะหลุดออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ ตรงนี้ล่ะครับคุณต้องใช้ความสามมารถของคุณละ ว่าคุณจะเก็บจากพวกนี้ได้อย่างไร...
แต่ก่อนจะด่า ว่าทำไมคุณถึงขายสินค้าให้พวกทัวร์พวกนี้ไม่ได้ ผมมีอะไรจะยกตัวอย่างให้ฟัง
สมมุติคุณไปเที่ยวผับแห่งหนึ่ง สถานที่สวยงามโอ่โถง มีวงดนตรีวงดังมาเล่นให้คุณฟัง แต่ผับนี้มีกฏว่า ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มเข้ามาในสถานที่
เพราะในผับมีขายอาหาร แต่ราคาเริ่มต้นที่สูงเอาการ เครื่องดื่มเช่นน้ำแข็ง น้ำอัดลม โซดา ขายขวดละ 100 ขึ้นไป ทั้ง ๆ ที่เซเว่นข้างผับขายขวดละ 9 บาท แต่พวกคุณก็ยอมจ่ายในราคานั้น ถูกมั้ยครับ... ผมไม่เห็นมีใครบ่นใครด่าพวกเธคผับคลับบาร์เลย ขายของแพงขนาดนั้น ทำไมล่ะครับ
ส่วนผับนั่นก็ไม่ได้ไปว่าเซเว่นนะ ว่าทำไมขายโซดาถูก และก็ไม่ได้ห้ามขายด้วย เซเว่นจะขายก็ขายไป แค่อย่าเอาเข้าผับฉันก็พอ... ผมเล่าให้ฟังแบบนี้ พอจะเข้าใจมั้ยครับ
บริษัทใหญ่นี้ จ่ายค่าหัวนักท่องเที่ยวให้กับเอเย่นต์ที่เมืองจีน ราคาหัวละเท่าไรขึ้นอยู่ที่ว่าเป็นลูกทัวร์จากมณฑลอะไร เพราะทัวร์แต่ละที่ ยอดช๊อปปิ้งแตกต่างกัน บางที่ยอดดี ค่าหัวจะแพง บางที่ยอดห่วย ค่าหัวก็ถูกตามมา...
ลงทุนซื้อรถบัสมาเป็นพันคัน ลงทุนจ้างพนักงานขับรถ แล้วเอารถเหล่านี้มาให้เอเย่นต์เล็ก ๆ ในเมืองไทย ที่รับเอาลูกทัวร์เหล่านี้เข้ามาพาเที่ยว เช่าในราคาขาดทุน แทบจะคิดแต่ค่าน้ำมันเลยล่ะ แต่มีข้อแม้นะ ว่าต้องเอาแขกไปช๊อปปิ้งแต่ที่ของเค้าเท่านั้น... เอเย่นต์เล็กที่พาเที่ยว ก็แบ่งคอม ฯ ให้นิดหน่อยเท่านั้นเอง
ที่ผมเอามาอธิบายเนี่ย ไม่ได้หมายความว่าผมเห็นดีเห็นงามกับบริษัท หรือกับระบบแบบนี้นะ เพียงแต่ผมแค่อยากให้คุณมองความจริง กว้าง ๆ เท่านั้น และผมจะบอกอะไรคุณให้นะครับ...
บริษัททัวร์ที่เค้าห้ามคุณขายของ เค้าแค่ห้ามในสิ่งที่เค้าห้ามได้ครับ เช่นในเขตพื้นที่ของเค้า เช่นห้ามเอาขึ้นรถเค้า แต่มันห้ามไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์หรอกครับ มีมากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ที่หลุดรอดออกมา ซื้อหาสินค้าเองข้างนอก และมีแนวโน้มด้วยว่า จะหลุดออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ ตรงนี้ล่ะครับคุณต้องใช้ความสามมารถของคุณละ ว่าคุณจะเก็บจากพวกนี้ได้อย่างไร...
แสดงความคิดเห็น
คิดเห็นอย่างไร เมื่อนักท่องเที่ยวจีน มาเที่ยวประเทศไทยแต่กรุ๊ปทัวร์ >> ห้ามคนไทยขายของไทย
เรื่องมีอยู่ว่า เมย์กับเพื่อนทำธุรกิจผลไม้ยอดนิยมของคนจีนฟรีตดรายน์ (อบแห้ง) ไม่ทอด ลักษณะเป็นชิ้นๆๆ ซึ่งตอนนี้มีขายไม่กี่เจ้าในประเทศไทย เพื่อนหลายคนบอกให้ไปวางขายตามสถานที่ ที่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนไปเที่ยว เริ่มจาก
1 ร้านอาหาร >> กรุ๊ปทัวร์ลงทุกวัน ลงเยอะมาก เจ้าของร้านรู้จักกันในระดับนึง เตรียมเอาของไปฝากขายเต็มที่ ผลปรากฏว่า >> ห้ามขายเป็นกฎข้อบังคับ เพราะถ้าที่ร้านมีขายเกี่ยวกับผลไม้ชนิดนี้ จะไม่นำกรุ๊ปทัวร์มาทานอาหารที่นี่.... ตึ่งโป๊ะ เศร้านอย แต่มีแผน 2
2 ตลาดที่มีน้ำล้อมรอบ >> นักท่องเที่ยวเยอะมาก ยิ้มปลื้มปริ่ม ได้วางแล้วแน่ๆ เราคงได้ขายของละรอบนี้ เดินหาร้านฝากขายแขนขาลาก ผลปรากฏว่า >> ห้ามขาย ด้วยเหตุผลเดียวกัน และยังห้าม ยาดม ยาหม่อง นมอัดเม็ด เครื่องหนัง... อ้าวเห้ย!!! ในใจ what why บ้าหรานี่ประเทศฉันห้ามฉันขายของ เอาน่า แผน 3 ยังพอมี
3 เวทีโชว์สาวประเภท 2 >> มีคนรู้จัก ตำแหน่งโอเค เมื่อไปถึงนักท่องเที่ยวมากมาย นั่งคุยกับพี่ที่นั่นเรื่องผลิตภัณฑ์ ผลปรากฏว่า >> ห้ามขายด้วยเหตุผลเดียวกัน ความรู้สึกของเมย์ตอนนั้นบอกเลยว่า Fail สุดๆๆ นี่บ้านฉัน ประเทศฉัน มาห้ามฉันขายของทำไม แต่ไม่เป็นไร ลองดูอีกที่
4 ที่ผู้ชายมาโชว์ต่อยกัน >> รอบนี้เหมือนมีแวว คุยกับพี่ ผจก.ส่วนงานนึงเบื้องต้น เรื่องราคา เรื่องผลประโยชน์ จากนั้นพาขึ้นไปดูโลเกชั่นที่จะวางของขาย รู้สึกมีแวว รู้สึกดีใจ แต่สักพัก เมื่อผู้จัดการดูแลร้านมาคุยด้วย ผลปรากฏว่า >> ห้ามขาย ด้วยเหตุผลเดิม
ถึงตอนนี้เวลานี้ ตามที่อ่านและเรียนประวัติศาตร์ชาติไทยมา ประเทศไทย ยังไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของใคร แต่ตอนนี้ดูเหมือนเราจะตกเป็นเมืองขึ้นของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนไปแล้วหรือ??? เพราะจากที่คุยกับที่ท่องเที่ยวต่างๆ ข้อห้ามของพวกเค้าคือ
1. ห้ามขายของยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวของเค้าชอบซื้อ เช่น ทุเรียนแปรรูปทุกชนิด ทุเรียนสด ยาดมส้มโอมือ ยาหม่องน้ำ ผลิตภัณฑ์เครื่องหนังจากยางพารา
2. ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ราคาจะต้องไม่เกิน 500 บาท ถ้าเกินกว่านี้ จะไม่นำนักท่องเที่ยวมาลง เช่น หน้าบัตรขาย 1200 จะซื้อแค่ 500 เท่านั้น ส่วนคนไทยก็ 1200 ตามเดิม
3. โรงแรมที่พักต่างๆ ก็ถูกกดราคาให้ถูกลงเช่นกัน ด้วยเหตุผลเดิม ถ้าไม่ลดราคา ก็จะไม่พากรุ๊ปทัวร์มา
เมย์แค่แปลกใจทำไมเราต้องยอม ทำไมเราต้องทำตาม สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เมื่อลดราคาลง บางครั้งมาทำลาย มาทำพัง ทำให้เกิดความเสียหาย มันคุ้มแล้วหรือ เมย์อยากรู้ว่า สั้นๆๆ ง่ายๆๆ ตอนนี้เราเสียเอกราชแล้วหรือคะ ที่เราต้องยอมขนาดนั้น มีทางไหนที่จะช่วยให้เรา กอบกู้เอกราชได้บ้างคะ???