รีวิว ทริปเที่ยว ณ สุราษฎร์ธานี กับ 4 หนุ่ม
ในราคา คนละ 4000-4500 บาท รวมค่าเครื่อบิน (ไม่ร่วมค่าซื้อของของจิปาถะ)
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ต่อไปจะรีวิวและคำบรรยายต่างๆอยู่ในรูปที่พวกเราได้นำเสนอให้ดู กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของพวกเรา
อาจจะมีคำหยาบบ้าง พวกผมก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วย พวกเราสายบรรเทิง
หากชอบถูกใจฝาก #แชร์ กันด้วยนะครับผม
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
กล้องที่ใช้ Canon 70 D Led 18-135 m & gopro silver 4
#กูไปมาแล้ว
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
"กูไปมาแล้ว ตอน กุ้ยหลิน" ณ เขื่อนเชี่ยวหลาน หรือ เขื่อนรัชประภา หรือที่เรารู้จักกันดีว่า กุ้ยหลิน เมืองไทย

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ทริปนี้เกิดได้ไง?
ทริปนี้เกิดได้จากการที่พูดการเล่นๆ ว่าอยากไปเที่ยวไหนสักที่ แล้วก็ได้เจอรีวิวต่างๆในเว็๋ป Pantip เกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ เลยได้ชวนกันไปเล่นๆ สรุปไปกันจริงเฉย เอาแล้วเมื่อคนพร้อมตังพร้อมพวกเราจะรออะไร รีบหาตั๋วเครื่องบิน ตอนแรกเราจะไปช่วงสงกรานต์ แต่คนเยอะแน่ๆ
เลยมองหาตั๋วเครื่องบินที่ราคาน่ารัก ไม่ฉีกกระเป๋าพวกเรา ก็ได้เจอตั๋ว ไป-กลับ 1800 บาท ในวันที่ 18-20 พฤษภาคม
ขาไปจะไปกับสายการบิน Airasia เวลา 16:00 น. (ดอนเมือง)
ขากลับจะเป็นของ Thai lion air เวลา 21:00 น.
(คือกูกะอยู่ให้คุ้มแม้งเลย)
และเป็นวันที่พี่ๆลางานได้ แต่มีพี่คนนึงติดสอบพอดี ก็ลุ้นเอาละกันว่าจะสอบเสร็จทันไหม
พวกเราใช้ App Traveloka ในการหาตั๋ว (โปรโมทฟรีๆให้เลยละกัน ฮ่าๆ)
และได้โทรจอง แพนางไพร คืนละ 800 บาท อาหาร 3 มื้อ
ถ้าเราไม่เอาอาหารสักมื้อจะเหลือค่า 300 บาท ถูกมากกกก
แต่เนื่องจากเราจองได้แค่คืนเดียวก็คือวันที่ 19-20 งั้นวันที่ 18 เลยว่าจะเข้าเมืองหาที่พักในตัวเมืองสะก่อน
แจกเบอร์แพ สามารถโทรไปสอบถามได้ 081-365-7423 (แพนางไพร)

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
วันแรก เรามาที่สนามบินดอนเมืองเพื่อที่จะไป สุราษฎร์ธานีคนเยอะมากเป็นครั่งแรกที่พวกเรา 4 คนจะได้นั่งเครื่องครั้งแรก gate เปิด 15:40 น. พวกเรามานั่งรอตั้งแต่ บ่ายโมง

พวกเราได้เข้าgateแล้ว รอเพื่อจะขึ้นเครื่อง
พวกเรา อยากจะ learn to fly

กูบินได้ !! เป็นคำพูดแรกของพวกเรา 4 คน ที่พูดมาในใจ ตอนขึ้นนึกว่า ฟาส เร็วชิบ ขี้หักใน
ใช้เวลาในการนั่ง 1 ชั่วโมง 15 นาที แต่รุ้สึกว่าเร็วกว่านั้น หรือ คิดไปเอง 555

แล้วเราก็ หาจุดหมาย ในใจ คืนนี้ กูจะนอนไหนเนี่ย แล้วเราก็เจอ พี่ยามใจดี บอกทางรายละเอียดที่เราจะไปพัก ไอ้รถทัวที่เห็นในรูปนั้นแหละ ที่เป็นตัวตัดสิน ค่ำคืนนี้ของพวกเรา

นั้นแหละครับไม่ได้ไป เพราะ

ออก 1 ทุ่ม นี่

5 โมงกว่าเองง
555 ไม่เป็นไร กูไม่ง้อหรอก และหาต่อไป

พวกเราพบกับ รีมูลซีน คนนี้นี่เอง จะพาพวกเราเข้าเมือง ระยะทางเข้าเมืองน่าจะประมาน 30 กิโล จากสนามบิน กูรอกแล้ว แต่ยังไม่มีที่พัก เวรละ

เราเข้ามาถึงตัวเมืองแล้ว แถวซอย เกษตร 1 และ 2 เรายังเดินหาที่พัก (ถ้าไม่มีกุจะนอนข้างถนน ฮ่าๆ)

แล้วพวกเราก็มาพบ ที่พัก ในใจกุรอดของจริงละที่นี้ ทางเข้าก็สพึงกลึว คิดในใจ เจอลิฟ กูช็อกกว่า อยากรุ้ว่าเป็นไง มาลองเอง (แต่พนักงานตอนรับบริการดีเป็นกันเอง ชอบมาก)

นี่ละ ที่บอกไป นอกจากลิฟยังเจอ บรรยากาศ บุบผาราตรี

แล้วเราก็ออกมาตลาด หาของกิน ด้วยความหิว เราจะซัดกันยับเลยที่เดียว เงินในกระเป๋า เริ่มหรอยหลอฮ่าๆ

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
วันที่ 2 ที่เราจะหารถออกเดินทาง ไปเขื่อน
เราตามหารถที่ไป ด้วยความที่อินดี้ ไม่เตรียมการหาข้อมูล

ก่อนจะซื้อตั๋วเพื่อไปเขื่อน { ยับแม่!! กูโดนตุ๋น } (เสียงของตากล้องบ่น) ค่าวิน 80 บาท เพื่อไปกดตัง ไม่ถึงโล คิดแพงจังว่ะ (ไม่รุ้ว่า ATM อยู่ตรงไหน)

ถึงเขื่อนแล้ว ใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงกว่าๆจากตัวเมือง เพื่อมายังเขื่อน
ที่นี้มีค่าเข้า 40 บาท ผู้ใหญ่ 40 เด็ก 20 บาท
พอเสร็จพวกเราก็รอให้เรือมารับ ระหว่างรอแนะนำให้ซื้อชองเตรียมไว้ก่อนเลย เพราะที่แพ ราคาจะขึ้นเป็น 2 เท่า (สงสัยค่าน้ำมันเรือ ฮ่าๆ)

เรือจะพาเราไปที่พักเลย ระหว่างทางเป็นบรรยากาศที่สวยมาก

แน่นอนพวกเราไม่รอช้า ลืมร้อน ลืมแดด ถ่ายรูปกันแทบเป็นแทบตาย (เหมือยจะไม่ได้ถ่ายอีกแล้ว) วิวมันสวยมาก

ตากล้องหล่อ

ระหว่างทาง น้าคนขับเรือ จะหยุดเรือแล้วจะให้สาระความรู้เกี่ยวกับที่แห่งนี้ แนะนำให้ฟังเพราะได้ความรู้มากเลย

ภาพนี้จะเกิดไม่ได้ถ้าไม่ดื่มเบียร์บนเรือและเจอแดดร้อนๆ (พูดง่ายๆคือเริ่มเมา)

พอถึงที่พักพวกเราก็เช็คอินจ่ายตัง

คนนำทริปบอกอยากได้หลังสีเขียว โชคดีบังเอิญได้หลังสีเขียวพอดี (กะดูวิวตอนพระอาทิตย์ตก)

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
อาหารเที่ยงของเรา ได้ลิ้มรสปักใต้ของแท้ (สามารถของเพิ่มได้)

สำหรับคนที่ไม่ได้เอากีต้าร์มา ที่พักนี้มีกีต้าร์ให้เราเอามาเล่นได้ ต่อไปเราก็กระโดดน้ำเล่นกัน

มื้อเย็น มีปลา ไข่เจียว แกงเหลือง และผัดผัก และแตงโม (กินข้าวเสร็จเค้าจะเปิดไฟให้เราใช้ตั้งแต่ 6 โมงเย็นยัน เที่ยงคืน)

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
วันที่ 3 ตื่นมาเมฆเยอะมากเพราะเมื่อคืนฝนตก

เนื่องจากเป็นหน้าร้อน พอนอนข้างในแม้งร้อนตับแตก คืนนั้นพวกเราเลยพาออกมานอนกันข้างนอก ที่นี้ไม่มีพัดลม ไม่มีแอร์ให้ แต่ยังดีที่นี้ไม่มียุง เลยสามารถออกมานอนข้างนอกได้

ตื่นมาก็เตรียมตัวไปดูวิว เวลา 6:30 น.
การดูวิวครั้งนี้เราไปกันแค่ 3 คน มีคนตายอยู่ที่พักหนึ่งคน (ไออ้วนไม่ตื่น)

ไฮไลท์ของที่นี้ คือมาต้องมาดูให้ได้

ใช้เวลาชมวิวประมาณ 1 ชม แล้วก็กลับมากินข้าว

ที่นี้เค้าให้เช็คเอ้าจากแพรตอน 9 โมง นักท่องเที่ยวที่พักที่นี้ก็ค่อยๆออกกันไป

ลาก่อนนนน

เนื่องจากเราต้องรอเครื่องบิน ยัน 3 ทุ่ม เลยไม่รู้จะไปไหนถ้าให้นั่งรอคงตายกันพอดี แต่น้าที่ขับเรือมาส่ง แนะนำให้เหมารถตู้ 1500 จะตกคนละ 375 บาท จะพาไปชมตัวเขื่อน ถ้ำ คลองน้ำใส เนื่องจากพวกเราไม่รู้จะไปไหนเลยเหมารถตู้ไปเที่ยวรอบเขื่อนสักหน่อย โชคดีที่มีคนขอมาร่วมทริป คนขับรถตู้เลยลดให้เหลือแค่ 300 (รถตู้จะอยู่บริเวณแถวๆท่าเรือ)

รถตู้ได้พามาสะพานเเขวนเขาพัง สวยมาก (ด้านขวามีภูเขารูปหัวใจด้วยนะ)

และเดินต่อมาจะมีที่ยิงธนูให้เราเล่นกัน (ชุดละ 20 บาท 7 ดอก )

สถานที่ต่อไป คลองน้ำใส น้าคนขับรถตู้บอกว่า ถ้าฝนไม่ตกน้ำจะใสกว่านี้ (แอบเสียดายนิดๆ)

แฮร่ !!!

เนื่องจากฝนตก เราเลยอดไป ถ้ำ น้าคนขับรถเลยมาส่งพวกเราที่สนามบินเลย
เช็คอิน และรอขึ้นเครื่อง

หมดไปเท่าไร ?
อย่างที่พูดไปข้างบน งบ 4000-4500 นี้ไม่รวมค่าซื้อของกินเล่น
ค่ารถไป เมือง 500 หาร 4 เหลือคนละ 125
ค่าที่พักคืนแรก 570 หาร 4 เหลือคนละ 147 (ถูกมากกกก)
ค่าที่พักแพ 800 บาท ต่อคน /1คืน
ค่าเรือไปกลับ 2000 บาท (หาร4 เหลือคนละ 500) (ไปเยอะยิ่งหารเยอะ)
ค่าเข้าเขื่อน 40 บาท
ค่ารถตู้ไปเขื่อน 200 บาท
ค่าโง่วิน (เป็นค่าโง่ตากล้องโดนเอง 80 บาท) "ไม่ต้องนับอันนี้ก็ได้ ฮ่าๆ"
รวมทั้งหมด 1812 บาท
ตั๋วเครื่อง 1800 บาท (มีตั๋วถูกกว่านี้ลองหาเวลาดีๆวันที่ดีๆ)
รวมกันเป็น 3612 บาท ที่เหลือไว้หาของกินเล่นสบาย "พิเศษ"
ค่ารถตู้พาชมรอบๆเขื่อน เหมา 1500 บาท แต่โชคดีมีคนของร่วมทริปกับพวกเรา เลยตกเหลือคนละ 300 บาท
สุดท้ายฝากภาพบรรยากาศตัวเมืองกรุงเทพ
จบทริป !!! ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านจนจบหวังว่าจะชอบกันนะครับ ฝากแชร์ กันด้วยเด้อ


[CR] กูไปมาแล้ว ตอน กุ้ยหลิน
ในราคา คนละ 4000-4500 บาท รวมค่าเครื่อบิน (ไม่ร่วมค่าซื้อของของจิปาถะ)
อาจจะมีคำหยาบบ้าง พวกผมก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วย พวกเราสายบรรเทิง
หากชอบถูกใจฝาก #แชร์ กันด้วยนะครับผม
#กูไปมาแล้ว
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
"กูไปมาแล้ว ตอน กุ้ยหลิน" ณ เขื่อนเชี่ยวหลาน หรือ เขื่อนรัชประภา หรือที่เรารู้จักกันดีว่า กุ้ยหลิน เมืองไทย
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ทริปนี้เกิดได้ไง?
ทริปนี้เกิดได้จากการที่พูดการเล่นๆ ว่าอยากไปเที่ยวไหนสักที่ แล้วก็ได้เจอรีวิวต่างๆในเว็๋ป Pantip เกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ เลยได้ชวนกันไปเล่นๆ สรุปไปกันจริงเฉย เอาแล้วเมื่อคนพร้อมตังพร้อมพวกเราจะรออะไร รีบหาตั๋วเครื่องบิน ตอนแรกเราจะไปช่วงสงกรานต์ แต่คนเยอะแน่ๆ
เลยมองหาตั๋วเครื่องบินที่ราคาน่ารัก ไม่ฉีกกระเป๋าพวกเรา ก็ได้เจอตั๋ว ไป-กลับ 1800 บาท ในวันที่ 18-20 พฤษภาคม
ขาไปจะไปกับสายการบิน Airasia เวลา 16:00 น. (ดอนเมือง)
ขากลับจะเป็นของ Thai lion air เวลา 21:00 น.
(คือกูกะอยู่ให้คุ้มแม้งเลย)
และเป็นวันที่พี่ๆลางานได้ แต่มีพี่คนนึงติดสอบพอดี ก็ลุ้นเอาละกันว่าจะสอบเสร็จทันไหม
พวกเราใช้ App Traveloka ในการหาตั๋ว (โปรโมทฟรีๆให้เลยละกัน ฮ่าๆ)
และได้โทรจอง แพนางไพร คืนละ 800 บาท อาหาร 3 มื้อ
ถ้าเราไม่เอาอาหารสักมื้อจะเหลือค่า 300 บาท ถูกมากกกก
แต่เนื่องจากเราจองได้แค่คืนเดียวก็คือวันที่ 19-20 งั้นวันที่ 18 เลยว่าจะเข้าเมืองหาที่พักในตัวเมืองสะก่อน
แจกเบอร์แพ สามารถโทรไปสอบถามได้ 081-365-7423 (แพนางไพร)
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
วันแรก เรามาที่สนามบินดอนเมืองเพื่อที่จะไป สุราษฎร์ธานีคนเยอะมากเป็นครั่งแรกที่พวกเรา 4 คนจะได้นั่งเครื่องครั้งแรก gate เปิด 15:40 น. พวกเรามานั่งรอตั้งแต่ บ่ายโมง
พวกเราได้เข้าgateแล้ว รอเพื่อจะขึ้นเครื่อง
พวกเรา อยากจะ learn to fly
กูบินได้ !! เป็นคำพูดแรกของพวกเรา 4 คน ที่พูดมาในใจ ตอนขึ้นนึกว่า ฟาส เร็วชิบ ขี้หักใน
ใช้เวลาในการนั่ง 1 ชั่วโมง 15 นาที แต่รุ้สึกว่าเร็วกว่านั้น หรือ คิดไปเอง 555
แล้วเราก็ หาจุดหมาย ในใจ คืนนี้ กูจะนอนไหนเนี่ย แล้วเราก็เจอ พี่ยามใจดี บอกทางรายละเอียดที่เราจะไปพัก ไอ้รถทัวที่เห็นในรูปนั้นแหละ ที่เป็นตัวตัดสิน ค่ำคืนนี้ของพวกเรา
นั้นแหละครับไม่ได้ไป เพราะ
555 ไม่เป็นไร กูไม่ง้อหรอก และหาต่อไป
พวกเราพบกับ รีมูลซีน คนนี้นี่เอง จะพาพวกเราเข้าเมือง ระยะทางเข้าเมืองน่าจะประมาน 30 กิโล จากสนามบิน กูรอกแล้ว แต่ยังไม่มีที่พัก เวรละ
เราเข้ามาถึงตัวเมืองแล้ว แถวซอย เกษตร 1 และ 2 เรายังเดินหาที่พัก (ถ้าไม่มีกุจะนอนข้างถนน ฮ่าๆ)
แล้วพวกเราก็มาพบ ที่พัก ในใจกุรอดของจริงละที่นี้ ทางเข้าก็สพึงกลึว คิดในใจ เจอลิฟ กูช็อกกว่า อยากรุ้ว่าเป็นไง มาลองเอง (แต่พนักงานตอนรับบริการดีเป็นกันเอง ชอบมาก)
นี่ละ ที่บอกไป นอกจากลิฟยังเจอ บรรยากาศ บุบผาราตรี
แล้วเราก็ออกมาตลาด หาของกิน ด้วยความหิว เราจะซัดกันยับเลยที่เดียว เงินในกระเป๋า เริ่มหรอยหลอฮ่าๆ
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
วันที่ 2 ที่เราจะหารถออกเดินทาง ไปเขื่อน
เราตามหารถที่ไป ด้วยความที่อินดี้ ไม่เตรียมการหาข้อมูล
ก่อนจะซื้อตั๋วเพื่อไปเขื่อน { ยับแม่!! กูโดนตุ๋น } (เสียงของตากล้องบ่น) ค่าวิน 80 บาท เพื่อไปกดตัง ไม่ถึงโล คิดแพงจังว่ะ (ไม่รุ้ว่า ATM อยู่ตรงไหน)
ถึงเขื่อนแล้ว ใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงกว่าๆจากตัวเมือง เพื่อมายังเขื่อน
ที่นี้มีค่าเข้า 40 บาท ผู้ใหญ่ 40 เด็ก 20 บาท
พอเสร็จพวกเราก็รอให้เรือมารับ ระหว่างรอแนะนำให้ซื้อชองเตรียมไว้ก่อนเลย เพราะที่แพ ราคาจะขึ้นเป็น 2 เท่า (สงสัยค่าน้ำมันเรือ ฮ่าๆ)
เรือจะพาเราไปที่พักเลย ระหว่างทางเป็นบรรยากาศที่สวยมาก
แน่นอนพวกเราไม่รอช้า ลืมร้อน ลืมแดด ถ่ายรูปกันแทบเป็นแทบตาย (เหมือยจะไม่ได้ถ่ายอีกแล้ว) วิวมันสวยมาก
ตากล้องหล่อ
ระหว่างทาง น้าคนขับเรือ จะหยุดเรือแล้วจะให้สาระความรู้เกี่ยวกับที่แห่งนี้ แนะนำให้ฟังเพราะได้ความรู้มากเลย
ภาพนี้จะเกิดไม่ได้ถ้าไม่ดื่มเบียร์บนเรือและเจอแดดร้อนๆ (พูดง่ายๆคือเริ่มเมา)
พอถึงที่พักพวกเราก็เช็คอินจ่ายตัง
คนนำทริปบอกอยากได้หลังสีเขียว โชคดีบังเอิญได้หลังสีเขียวพอดี (กะดูวิวตอนพระอาทิตย์ตก)
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
อาหารเที่ยงของเรา ได้ลิ้มรสปักใต้ของแท้ (สามารถของเพิ่มได้)
สำหรับคนที่ไม่ได้เอากีต้าร์มา ที่พักนี้มีกีต้าร์ให้เราเอามาเล่นได้ ต่อไปเราก็กระโดดน้ำเล่นกัน
มื้อเย็น มีปลา ไข่เจียว แกงเหลือง และผัดผัก และแตงโม (กินข้าวเสร็จเค้าจะเปิดไฟให้เราใช้ตั้งแต่ 6 โมงเย็นยัน เที่ยงคืน)
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
วันที่ 3 ตื่นมาเมฆเยอะมากเพราะเมื่อคืนฝนตก
เนื่องจากเป็นหน้าร้อน พอนอนข้างในแม้งร้อนตับแตก คืนนั้นพวกเราเลยพาออกมานอนกันข้างนอก ที่นี้ไม่มีพัดลม ไม่มีแอร์ให้ แต่ยังดีที่นี้ไม่มียุง เลยสามารถออกมานอนข้างนอกได้
ตื่นมาก็เตรียมตัวไปดูวิว เวลา 6:30 น.
การดูวิวครั้งนี้เราไปกันแค่ 3 คน มีคนตายอยู่ที่พักหนึ่งคน (ไออ้วนไม่ตื่น)
ไฮไลท์ของที่นี้ คือมาต้องมาดูให้ได้
ใช้เวลาชมวิวประมาณ 1 ชม แล้วก็กลับมากินข้าว
ที่นี้เค้าให้เช็คเอ้าจากแพรตอน 9 โมง นักท่องเที่ยวที่พักที่นี้ก็ค่อยๆออกกันไป
ลาก่อนนนน
เนื่องจากเราต้องรอเครื่องบิน ยัน 3 ทุ่ม เลยไม่รู้จะไปไหนถ้าให้นั่งรอคงตายกันพอดี แต่น้าที่ขับเรือมาส่ง แนะนำให้เหมารถตู้ 1500 จะตกคนละ 375 บาท จะพาไปชมตัวเขื่อน ถ้ำ คลองน้ำใส เนื่องจากพวกเราไม่รู้จะไปไหนเลยเหมารถตู้ไปเที่ยวรอบเขื่อนสักหน่อย โชคดีที่มีคนขอมาร่วมทริป คนขับรถตู้เลยลดให้เหลือแค่ 300 (รถตู้จะอยู่บริเวณแถวๆท่าเรือ)
รถตู้ได้พามาสะพานเเขวนเขาพัง สวยมาก (ด้านขวามีภูเขารูปหัวใจด้วยนะ)
และเดินต่อมาจะมีที่ยิงธนูให้เราเล่นกัน (ชุดละ 20 บาท 7 ดอก )
สถานที่ต่อไป คลองน้ำใส น้าคนขับรถตู้บอกว่า ถ้าฝนไม่ตกน้ำจะใสกว่านี้ (แอบเสียดายนิดๆ)
แฮร่ !!!
เนื่องจากฝนตก เราเลยอดไป ถ้ำ น้าคนขับรถเลยมาส่งพวกเราที่สนามบินเลย
เช็คอิน และรอขึ้นเครื่อง
หมดไปเท่าไร ?
อย่างที่พูดไปข้างบน งบ 4000-4500 นี้ไม่รวมค่าซื้อของกินเล่น
ค่ารถไป เมือง 500 หาร 4 เหลือคนละ 125
ค่าที่พักคืนแรก 570 หาร 4 เหลือคนละ 147 (ถูกมากกกก)
ค่าที่พักแพ 800 บาท ต่อคน /1คืน
ค่าเรือไปกลับ 2000 บาท (หาร4 เหลือคนละ 500) (ไปเยอะยิ่งหารเยอะ)
ค่าเข้าเขื่อน 40 บาท
ค่ารถตู้ไปเขื่อน 200 บาท
ค่าโง่วิน (เป็นค่าโง่ตากล้องโดนเอง 80 บาท) "ไม่ต้องนับอันนี้ก็ได้ ฮ่าๆ"
รวมทั้งหมด 1812 บาท
ตั๋วเครื่อง 1800 บาท (มีตั๋วถูกกว่านี้ลองหาเวลาดีๆวันที่ดีๆ)
รวมกันเป็น 3612 บาท ที่เหลือไว้หาของกินเล่นสบาย "พิเศษ"
ค่ารถตู้พาชมรอบๆเขื่อน เหมา 1500 บาท แต่โชคดีมีคนของร่วมทริปกับพวกเรา เลยตกเหลือคนละ 300 บาท
สุดท้ายฝากภาพบรรยากาศตัวเมืองกรุงเทพ
จบทริป !!! ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านจนจบหวังว่าจะชอบกันนะครับ ฝากแชร์ กันด้วยเด้อ