ติดตามบทความได้ที่
www.kidsroplok.com
www.facebook.com/kidsroplok
เมื่อคิดที่จะวางแผนท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวๆ การท่องเที่ยวโดยเฉพาะยิ่งตอนมีลูกยิ่งคิดเยอะกว่าตอนไปเที่ยงเองหรือไปกับแฟนหรือเพื่อน อาจมีหลายเรื่องที่ทำให้กังวล เช่น พาไปจะลำบากไหม จะกินยังไงนอนที่ไหน เตรียมตัวยังไง ค่าใช้จ่ายเท่าไร ลูกจะสนุกไหม คุ้มไหม ฯลฯ จนบางทีอาจคิดเยอะเกินไปจนสรุปว่ารอให้ลูกโตแล้วค่อยไปละกัน
ด้วยความชอบเที่ยวตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ จนเริ่มทำงาน จนมีลูก ทุกวันนี้ก็ยังหาโอกาสท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ อยู่เสมอ และด้วยที่เชื่อในเรื่องการเลี้ยงลูกให้โตนอกบ้าน เปิดโอกาสให้ลูกได้เห็นสิ่งต่างๆกับตาจับต้องได้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทาง วันนี้จึงขอแนะนำ 6 สถานที่ท่องเที่ยวในต่างประเทศ แบบใกล้ๆ ไม่ต้องขอวีซ่า และที่สำคัญคือลูกสนุกเว่อร์ มาดูกันเลย
1.SEOUL CHILDREN‘s MUSEUM (KOREA)

ตั้งอยู่ใน Seoul Children’s Grand Park ของกรุงโซล เป็นอาคารสูง 3 ชั้นและชั้นใต้ดินอีก 3 ชั้น เน้นให้เด็กๆได้เรียนรู้ผ่านการเล่น(Edutainment) โดยแบ่งออกเป็น Science Program ที่สอนให้เด็กเรียนเรื่องแสงสีต่างๆ การเรียนรู้เรื่องแรงดันน้ำ การทำงานของระบบกลไก การใช้พลังงานลม เป็นต้น ส่วน Art Program จะมีงานศิลปะ 3 มิติ แบบ Imagination Art ให้เด็กๆเล่น รวมถึงการแต่งตัวเดิน Fashion Walk ให้เลือกแต่งตัวได้ตามใจ นอกจากนี้ยังมีส่วนที่พัฒนาทักษะอื่นๆ เช่น การทำอาหาร โซนอีเวนท์กิจกรรมใหม่ๆ ในแต่ละเดือน และ Toddler Zone เป็นห้องเด็กเล่นขนาดใหญ่ มาที่เดียวคุ้มอยู่ได้กทั้งวันเลย เหมาะสำหรับเด็กตั้งแต่ 18 เดือนขึ้นไปจนถึง 6 ขวบ
ค่าตั๋ว : ผู้ใหญ่และเด็กราคา 4,000 Won อายุต่ำกว่า 3 ขวบ เข้าฟรี
เวลาทำการ : 10.00-18.00 น. ปิดทุกวันจันทร์ และหยุดปีใหม่
2. TOKYO DISNEYLAND & TOKYO DISNEYSEA (JAPAN)

โตเกียวดีสนีย์แลนด์ดินแดนในฝันของเหล่าการ์ตูนดีสนีย์ ถือเป็นสวนสนุกดีสนีย์แห่งแรกที่ตั้งขึ้นนอกอเมริกา และมีคนเข้าชมต่อปีมากเป็นอันดับที่ 3 ส่วนโตเกียวดีสนีย์ซีก็ครองสถิติเป็นสวนสนุกที่คนมาเยี่ยมชมถึง 10 ล้านคนเร็วที่สุด โดยใช้เวลาเพียง 307 วัน ทั้งสองแห่งนี้สามารถพาคุณลูกอยู่ได้ทั้งวัน ไม่เฉพาะแต่เด็กเท่านั้นที่จะสนุกสนาน คุณพ่อคุณแม่ก็จะได้เล่นไปกับคุณลูกด้วย แต่ต้องใช้ความอดทนในการรอคิวนานหน่อยเพราะว่า คนญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องการต่อแถว บางเครื่องเล่นอาจต้องรอเป็นชั่วโมงแต่ถ้าไม่ชอบไปวันคนเยอะสามารถเข้าไปเช็คได้ที่เว็ปไซต์ด้านล่างนี้ www.tdrnavi.jp/forecast/disneyland?lang=en
ค่าตั๋ว : ผู้ใหญ่ 7400 เยน ช่วง อายุ 12-17 ปี ราคา 6,400 เยน เด็ก 4-11 ปี ราคา 4,800 เยน อายุต่ำกว่า 4 ขวบ เข้าฟรี
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน
3.HONGKONG DISNEYLAND (HONG KONG)

สำหรับฮ่องกงดีสนีย์แลนด์เป็นสวนสนุกในตระกูลดีสนีย์ที่คนเข้าน้อยที่สุด ซึ่งถือเป็นข้อดีในการรอคิว โดยแบ่งออกเป็น 7 โซน เครื่องเล่นอาจไม่หลากหลาย เท่าโตเกียวดีสนีย์แลนด์แต่ก็อยู่ระหว่างการเพิ่มอุปกรณ์เครื่องเล่น ซึ่งปี 2016 นี้ครบรอบ 10 ปีพอดี หลายๆโชว์ เช่น Festival of Lion King ,โชว์จุดพลุ Disney in the star และ Disney Paint the Night ก็ให้ความบันเทิงได้เป็นอย่างดี สนุกสนานทั้งเด็กและผู้ใหญ่
ค่าตั๋ว : อายุ 12-64 ปี ราคา HK$ 539 เด็ก 3-11 ปี HK$ 385 เด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ เข้าฟรี
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน
4. SEA AQUARIUM/MARINE LIFE PARK (SINGAPORE)

เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากของจีนที่เพิ่งเปิดใหม่ ที่ SEA เปิดให้เข้าชมเป็นครั้งแรกในช่วงพย. ปี 2012 มีสัตว์น้ำมากกว่า 100,000 ชีวิต หรือมากกว่า 800 สายพันธุ์ มีทั้งหมด 10 โซน โดยไฮไลท์ของที่นี่คือ ตู้กระจกขนาดใหญ่ยักษ์ ที่ให้สามารถนั่งพักผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญปลาดูอิสระ ไม่เครียด ถือเป็นอีกสถานที่ที่แนะนำสำหรับเด็ก เพราะเด็กแทบจะทุกคนชอบดู กว่าจะเดินดูครบทุกตู้ก็ใช้เวลากว่า 2-3 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ค่าตั๋ว: ผู้ใหญ่ $32 ตั๋วเด็ก $22 อายุต่ำกว่าขวบ เข้าฟรี
เวลาทำการ : 10.00-20.00 น.
5. PORORO PARK (KOREA)

Pororo Park เป็นสวนสนุกที่ตั้งอยู่ภายใน Lotte World Jamsil เหมาะสำหรับเด็ก ตั้งแต่ 1-5 ขวบ Pororo เป็นชื่อของตัวการ์ตูนเพนกวินน้อยซึ่งเป็นตัวเอก ของเรื่อง เรียกได้ว่าเป็นเทพเจ้าการ์ตูนของเกาหลีที่เด็กทุกคนรู้จัก นอกจากนี้แล้วยังมีเพื่อนๆอตัว คือ Crong จระเข้น้อย, Eddy, Poby, Loopy, Petty, Harry และ Rody ถ้าจะพามาเที่ยวที่นี่แนะนำว่า ควรจะดูการ์ตูนเรื่องนี้มาก่อนสักหน่อยจะทำให้สนุกขึ้น โดยเนื้อการ์ตูนเหมาะสำหรับเด็ก เป็นการ์ตูนอีกเรื่องที่แนะนำ
กิจกรรมหลักภายในสวนสนุก ได้แก่ การแสดงเต้นของโปโรโระ ลานของเล่นหรรษา ตักทราย ฯลฯ อีกทั้งยังมี Kids Café ให้บริการยามหิวอีกด้วย ตอนนี้ได้ข่าวว่าไปเปิดใหม่ที่สิงค์โปร์ด้วย หากได้ไปเที่ยวแล้วจะมารีวิวให้อ่านอีกครั้งครับ
ค่าตั๋ว : ผู้ใหญ่ 10,000 Won เด็ก 20,000 W ส่วนอายุ 12-18 เดือนคิดครึ่งราคา อายุต่ำกว่า 12 เดือน เข้าฟรี
เวลาทำการ : 10.00-20.00 น. ทุกวัน
6. ANPANMAN CHILDERN’S MUSUEM YOKOHAMA (JAPAN)

แรกเริ่มเดิมที ยอมรับเลยว่าไม่ค่อยรู้จักตัวการ์ตูน ANPANMAN สักเท่าไร แต่ได้มาเที่ยวที่นี่เพราะแฟนอยากให้พามาดู การเดินทางจากโตเกียวสามารถโดยสารรถไฟใช้เวลาประมาณ 40 นาที เมื่อได้พาลูกมาลองสัมผัสบรรยากาศ เห็นได้ชัดว่าคุณลูกชอบมาก ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของที่นี้คือ ครอบครัวที่มีเด็กเล็กอายุ 18 เดือน ถึง 4 ขวบ (ถ้าโตกว่านั้นอาจไม่สนุก) โดยมีเกมฝึกทักษะต่างๆ เช่น การจำลองย่อส่วนอุปกรณ์ต่างๆภายในบ้าน เกม ของเล่น กลิ้งลูกบอล เล่นสไลด์ มุมเล่านิทาน ฯลฯ นอกจากนี้มีกิจกรรมเต้นเข้าจังหวะกับพี่อันปังแมน
ไฮไลท์อย่างหนึ่งของที่นี้ คือ การหม่ำขนมปังที่เป็นลายการ์ตูนน่ารัก อันปังแมนและพ้องเพื่อน ใครชอบของกินคิคุอาโนเนะ ไม่ควรพลาด
ค่าตั๋ว: 1,500 เยน ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก(ตั้งแต่ 1 ขวบขึ้น)
เวลาทำการ: ตั้งแต่ 10.00-18.00 น. ปิดช่วงปีใหม่
[CR] พาลูกเที่ยว ไปไหนดี ? เที่ยวต่างประเทศใกล้ๆ ไม่เหนื่อย
www.kidsroplok.com
www.facebook.com/kidsroplok
เมื่อคิดที่จะวางแผนท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวๆ การท่องเที่ยวโดยเฉพาะยิ่งตอนมีลูกยิ่งคิดเยอะกว่าตอนไปเที่ยงเองหรือไปกับแฟนหรือเพื่อน อาจมีหลายเรื่องที่ทำให้กังวล เช่น พาไปจะลำบากไหม จะกินยังไงนอนที่ไหน เตรียมตัวยังไง ค่าใช้จ่ายเท่าไร ลูกจะสนุกไหม คุ้มไหม ฯลฯ จนบางทีอาจคิดเยอะเกินไปจนสรุปว่ารอให้ลูกโตแล้วค่อยไปละกัน
ด้วยความชอบเที่ยวตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ จนเริ่มทำงาน จนมีลูก ทุกวันนี้ก็ยังหาโอกาสท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ อยู่เสมอ และด้วยที่เชื่อในเรื่องการเลี้ยงลูกให้โตนอกบ้าน เปิดโอกาสให้ลูกได้เห็นสิ่งต่างๆกับตาจับต้องได้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทาง วันนี้จึงขอแนะนำ 6 สถานที่ท่องเที่ยวในต่างประเทศ แบบใกล้ๆ ไม่ต้องขอวีซ่า และที่สำคัญคือลูกสนุกเว่อร์ มาดูกันเลย
1.SEOUL CHILDREN‘s MUSEUM (KOREA)
ตั้งอยู่ใน Seoul Children’s Grand Park ของกรุงโซล เป็นอาคารสูง 3 ชั้นและชั้นใต้ดินอีก 3 ชั้น เน้นให้เด็กๆได้เรียนรู้ผ่านการเล่น(Edutainment) โดยแบ่งออกเป็น Science Program ที่สอนให้เด็กเรียนเรื่องแสงสีต่างๆ การเรียนรู้เรื่องแรงดันน้ำ การทำงานของระบบกลไก การใช้พลังงานลม เป็นต้น ส่วน Art Program จะมีงานศิลปะ 3 มิติ แบบ Imagination Art ให้เด็กๆเล่น รวมถึงการแต่งตัวเดิน Fashion Walk ให้เลือกแต่งตัวได้ตามใจ นอกจากนี้ยังมีส่วนที่พัฒนาทักษะอื่นๆ เช่น การทำอาหาร โซนอีเวนท์กิจกรรมใหม่ๆ ในแต่ละเดือน และ Toddler Zone เป็นห้องเด็กเล่นขนาดใหญ่ มาที่เดียวคุ้มอยู่ได้กทั้งวันเลย เหมาะสำหรับเด็กตั้งแต่ 18 เดือนขึ้นไปจนถึง 6 ขวบ
ค่าตั๋ว : ผู้ใหญ่และเด็กราคา 4,000 Won อายุต่ำกว่า 3 ขวบ เข้าฟรี
เวลาทำการ : 10.00-18.00 น. ปิดทุกวันจันทร์ และหยุดปีใหม่
2. TOKYO DISNEYLAND & TOKYO DISNEYSEA (JAPAN)
โตเกียวดีสนีย์แลนด์ดินแดนในฝันของเหล่าการ์ตูนดีสนีย์ ถือเป็นสวนสนุกดีสนีย์แห่งแรกที่ตั้งขึ้นนอกอเมริกา และมีคนเข้าชมต่อปีมากเป็นอันดับที่ 3 ส่วนโตเกียวดีสนีย์ซีก็ครองสถิติเป็นสวนสนุกที่คนมาเยี่ยมชมถึง 10 ล้านคนเร็วที่สุด โดยใช้เวลาเพียง 307 วัน ทั้งสองแห่งนี้สามารถพาคุณลูกอยู่ได้ทั้งวัน ไม่เฉพาะแต่เด็กเท่านั้นที่จะสนุกสนาน คุณพ่อคุณแม่ก็จะได้เล่นไปกับคุณลูกด้วย แต่ต้องใช้ความอดทนในการรอคิวนานหน่อยเพราะว่า คนญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องการต่อแถว บางเครื่องเล่นอาจต้องรอเป็นชั่วโมงแต่ถ้าไม่ชอบไปวันคนเยอะสามารถเข้าไปเช็คได้ที่เว็ปไซต์ด้านล่างนี้ www.tdrnavi.jp/forecast/disneyland?lang=en
ค่าตั๋ว : ผู้ใหญ่ 7400 เยน ช่วง อายุ 12-17 ปี ราคา 6,400 เยน เด็ก 4-11 ปี ราคา 4,800 เยน อายุต่ำกว่า 4 ขวบ เข้าฟรี
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน
3.HONGKONG DISNEYLAND (HONG KONG)
สำหรับฮ่องกงดีสนีย์แลนด์เป็นสวนสนุกในตระกูลดีสนีย์ที่คนเข้าน้อยที่สุด ซึ่งถือเป็นข้อดีในการรอคิว โดยแบ่งออกเป็น 7 โซน เครื่องเล่นอาจไม่หลากหลาย เท่าโตเกียวดีสนีย์แลนด์แต่ก็อยู่ระหว่างการเพิ่มอุปกรณ์เครื่องเล่น ซึ่งปี 2016 นี้ครบรอบ 10 ปีพอดี หลายๆโชว์ เช่น Festival of Lion King ,โชว์จุดพลุ Disney in the star และ Disney Paint the Night ก็ให้ความบันเทิงได้เป็นอย่างดี สนุกสนานทั้งเด็กและผู้ใหญ่
ค่าตั๋ว : อายุ 12-64 ปี ราคา HK$ 539 เด็ก 3-11 ปี HK$ 385 เด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ เข้าฟรี
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน
4. SEA AQUARIUM/MARINE LIFE PARK (SINGAPORE)
เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากของจีนที่เพิ่งเปิดใหม่ ที่ SEA เปิดให้เข้าชมเป็นครั้งแรกในช่วงพย. ปี 2012 มีสัตว์น้ำมากกว่า 100,000 ชีวิต หรือมากกว่า 800 สายพันธุ์ มีทั้งหมด 10 โซน โดยไฮไลท์ของที่นี่คือ ตู้กระจกขนาดใหญ่ยักษ์ ที่ให้สามารถนั่งพักผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญปลาดูอิสระ ไม่เครียด ถือเป็นอีกสถานที่ที่แนะนำสำหรับเด็ก เพราะเด็กแทบจะทุกคนชอบดู กว่าจะเดินดูครบทุกตู้ก็ใช้เวลากว่า 2-3 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ค่าตั๋ว: ผู้ใหญ่ $32 ตั๋วเด็ก $22 อายุต่ำกว่าขวบ เข้าฟรี
เวลาทำการ : 10.00-20.00 น.
5. PORORO PARK (KOREA)
Pororo Park เป็นสวนสนุกที่ตั้งอยู่ภายใน Lotte World Jamsil เหมาะสำหรับเด็ก ตั้งแต่ 1-5 ขวบ Pororo เป็นชื่อของตัวการ์ตูนเพนกวินน้อยซึ่งเป็นตัวเอก ของเรื่อง เรียกได้ว่าเป็นเทพเจ้าการ์ตูนของเกาหลีที่เด็กทุกคนรู้จัก นอกจากนี้แล้วยังมีเพื่อนๆอตัว คือ Crong จระเข้น้อย, Eddy, Poby, Loopy, Petty, Harry และ Rody ถ้าจะพามาเที่ยวที่นี่แนะนำว่า ควรจะดูการ์ตูนเรื่องนี้มาก่อนสักหน่อยจะทำให้สนุกขึ้น โดยเนื้อการ์ตูนเหมาะสำหรับเด็ก เป็นการ์ตูนอีกเรื่องที่แนะนำ
กิจกรรมหลักภายในสวนสนุก ได้แก่ การแสดงเต้นของโปโรโระ ลานของเล่นหรรษา ตักทราย ฯลฯ อีกทั้งยังมี Kids Café ให้บริการยามหิวอีกด้วย ตอนนี้ได้ข่าวว่าไปเปิดใหม่ที่สิงค์โปร์ด้วย หากได้ไปเที่ยวแล้วจะมารีวิวให้อ่านอีกครั้งครับ
ค่าตั๋ว : ผู้ใหญ่ 10,000 Won เด็ก 20,000 W ส่วนอายุ 12-18 เดือนคิดครึ่งราคา อายุต่ำกว่า 12 เดือน เข้าฟรี
เวลาทำการ : 10.00-20.00 น. ทุกวัน
6. ANPANMAN CHILDERN’S MUSUEM YOKOHAMA (JAPAN)
แรกเริ่มเดิมที ยอมรับเลยว่าไม่ค่อยรู้จักตัวการ์ตูน ANPANMAN สักเท่าไร แต่ได้มาเที่ยวที่นี่เพราะแฟนอยากให้พามาดู การเดินทางจากโตเกียวสามารถโดยสารรถไฟใช้เวลาประมาณ 40 นาที เมื่อได้พาลูกมาลองสัมผัสบรรยากาศ เห็นได้ชัดว่าคุณลูกชอบมาก ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของที่นี้คือ ครอบครัวที่มีเด็กเล็กอายุ 18 เดือน ถึง 4 ขวบ (ถ้าโตกว่านั้นอาจไม่สนุก) โดยมีเกมฝึกทักษะต่างๆ เช่น การจำลองย่อส่วนอุปกรณ์ต่างๆภายในบ้าน เกม ของเล่น กลิ้งลูกบอล เล่นสไลด์ มุมเล่านิทาน ฯลฯ นอกจากนี้มีกิจกรรมเต้นเข้าจังหวะกับพี่อันปังแมน
ไฮไลท์อย่างหนึ่งของที่นี้ คือ การหม่ำขนมปังที่เป็นลายการ์ตูนน่ารัก อันปังแมนและพ้องเพื่อน ใครชอบของกินคิคุอาโนเนะ ไม่ควรพลาด
ค่าตั๋ว: 1,500 เยน ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก(ตั้งแต่ 1 ขวบขึ้น)
เวลาทำการ: ตั้งแต่ 10.00-18.00 น. ปิดช่วงปีใหม่