แชร์ประสบการณ์.. ทารกในครรภ์ผิดปกติ "Turner Syndrome" และ "Cystic Hygroma"

สวัสดีค่ะ สมาชิกทุกท่าน..

ก่อนหน้านี้เราเคยมีการตั้งกระทู้นึง เกี่ยวกับเรื่อง ตรวจเจอเนื้องอกในมดลูก

ตามลิงค์ข้างล่างนี้ไปเลยจ้า..
http://pantip.com/topic/35200605

ใช่ค่ะ.. มันเป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เรามีภาวะมีบุตรยาก เพราะที่ตรวจพบคือไม่ใช่เนื้องอกอย่างเดียว แต่เป็นผังพืด และถุงน้ำด้านหลังรังไข่ แถมด้วยช็อกโกแลตซีส อีกนิดหน่อย ร่วมด้วย.. (ปัญหาค่อนข้างเยอะเลย) เราไม่ได้จะโทษหมอคนแรกๆๆ ที่ตรวจให้เราไม่ละเอียดนะคะ ว่าเรามีปัญหาเยอะขนาดนี้.. แต่ก็อยากให้เป็นอุทาหรณ์ สำหรับใครหลายๆ คนด้วย เรื่องการเลือกหมอ.. เพราะมันเสียเวลาชีวิตมากๆๆ เลยค่ะ เสียเงินด้วย.. เราอาจจะโชคดีในตอนสุดท้าย ที่เจอคุณหมอดี และไม่เอาเปรียบ.. เห้อออออ.. นี่แหละน๊าา.. ที่เค้าบอกว่า ฟ้าหลังฝนมักจะใสเสมอ

แต่ฟ้าของเรา ก็ไม่ได้ใส จนสุดทางจริงๆๆ เศร้า

หลังจากที่เราเข้ารับการผ่าตัดแบบส่องกล้อง เพื่อเครียร์ทุกปัญหาในมดลูกออกให้หมด เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับรอรับเด็กน้อย เด็กน้อยที่เรารอคอยมาตลอดเวลา.. และสุดท้ายเราก็ได้รับข่าวดีทันทีหลังจากนั้นเลยค่ะ... "เราท้องงงงงงงงง ละน๊าา"
คุณหมอที่ทำการผ่าตัดให้เรา ทิ้งท้ายด้วยคำพูดเก๋ๆๆ ว่า.. "แก้ไขให้ตรงจุด ปัญหาก็จบ" ซึ่งเราชอบบ มากก ประโยคนี้ ^^

-------------------------------------------------------------------->>

เข้าเรื่องที่เป็นประเด็นหลักของกระทู้นี้กันเลยนะคะ..

หลังจากที่ทราบว่าท้องแล้ว เราก็ได้ทำการฝากครรภ์กับคุณหมอในทันที (อายุครรภ์ตอนนั้น 6สัปดาห์)
ณ ตอนนั้น ก่อนหน้าที่จะท้อง.. คือ เราก็ไม่คิดเลยค่ะ ว่าจะท้องได้ทันที และรวดเร็วดั่งปาฎิหารขนาดนี้..
มันจะมีอาการ ดีใจมากกกกกกกกก ผสมกับความอึ้ง ที่เรารู้สึกว่า เรายังไม่ทันได้เตรียมตัวอะไรเป็นอย่างดีเลย
ที่เราหมายถึงคือ ดูแลสุขภาพ ดูแลเรื่องอาหารการกิน กินวิตามินบำรุงก่อน พวกโฟลิค หรืออะไร..
นึกย้อนไปก่อนหน้านั้น เราก็มีการรักษาสิว โดยใช้ยา ทั้งกินและทา ทำเลเซอร์หน้า ทำสีผม ทาเล็บ (เล็บไม่เคยขาดสีสันเลย เข้าร้านตลอด)
คือ เราคิดว่า ร่างกายเราได้รับสารเคมีมากมายเหลือเกินก่อนท้อง แอบกังวลและเป็นห่วงอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่เป็นมามันจะมีผลกับลูกมั้ย
ลูกจะแข็งแรงสมบูรณ์มั้ย ช่วงนั้นตอนรู้ว่าท้องแรกๆๆ ก็หยุดพฤติกรรมเหล่านี้ทั้งหมดเลยทันทีนะคะ..

มีนัดกับคุณหมอทุกเดือน สัปดาห์ที่ 8 (1ครั้ง), สัปดาห์ที่ 12 (1ครั้ง) ทุกครั้งที่พบคุณหมอ ก็จะได้วิตามินบำรุงมาทานด้วย
ทานตลอด ไม่เคยขาด.. จำได้ว่าจะมีพวก โฟลิค (ตัวนี้กินตลอดอายุครรภ์) มีวิตามินผสมธาตุเหล็กและวิตามินซีแบบฟองฟู่ละลายน้ำ
ทั้ง 2 ครั้งที่ไปตรวจแบบอัลตราซาวด์ เด็กปกติ และสมบูรณ์ดีค่ะ..

และก็มาถึงสัปดาห์ที่ 16 >>
ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์ทุกท่าน จะสามารถตรวจหาความผิดปกติของทารก เริ่มตั้งแต่อายุครรภ์ 16สัปดาห์นี้
เริ่มจากอัลตราซาวด์หน้าท้องปกติ ดูอวัยวะเด็ก ดูเสียงหัวใจ ดูเลือดที่ไหลเวียนในเด็ก ว่าทุกอย่างดูโอเคมั้ย..
อันนี้สำหรับคุณแม่ปกติ ที่ไม่มีภาวะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ และอายุไม่เกิน 35 ปีค่ะ.. แต่ถ้าคุณแม่เกิน 35ปีแล้ว คุณหมออาจจะขอตรวจน้ำคร่ำร่วมด้วย
เพราะดูความผิดปกติของโครโมโซม
ซึ่งของเราเป็นคุณแม่ปกติ เบื้องต้นคุณหมอมีการตรวจเลือดอย่างละเอียดแล้ว ผลเลือดเรากับสามีปกติดีค่ะ

ในระหว่างการอัลตราซาวด์ เราก็จะดูเด็กในจอไปพร้อมๆๆ กับคุณหมอ..
เราสังเกตุเห็นสีหน้ากังวลของคุณหมอ เราเริ่มรู้สึกไม่ดีละ และคุณหมอก็ชี้ให้เราดูในจอและพูดว่า...
"หมอพบถุงน้ำที่ต้นคอของทารก ยาวลงมาตามแนวกระดูกสันหลัง, ผิวหนังของทารกแบ่งเป็น 2 ชั้น และมีอาการบวมน้ำทั้งตัว"
เราไม่เข้าใจที่คุณหมอพูด หูอื้อ ตาลายไปหมด.. และคุณหมอแจ้งว่า มีความจำเป็นต้องขอตรวจน้ำคร่ำ เพื่อหาสาเหตุของสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนที่จะมีเด็กคนต่อไป.. เรา งง หนักไปอีก... คือ ยังไงค่ะคุณหมอ?????? เราจะรักษาเค้าได้มั้ย??

คุณหมอบอกเราว่า.. "ทางการแพทย์ ไม่มีการรักษาเด็กทารกในครรภ์"
แต่ยังไง ก็ต้องขอเจาะน้ำคร่ำ เพื่อหาสาเหตุ..

เราปล่อยโฮ เลยค่ะ... ดวงใจทั้งดวงสลายไปแล้ว อึ้ง และไม่มีคำพูดอื่นๆ นอกจากคำว่า เสียใจ มากๆ เศร้า

** คุณหมอบอกว่า.. ถุงน้ำที่ต้นคอของเด็ก ที่หมอตรวจเจอ มันคือ "Cystic Hygroma" **
และสาเหตุของ Cystic Hygroma มันเป็นความผิดปกติมาจากโครโมโซมที่อยู่ในตัวเด็ก

เราแปะลิงค์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมไว้ให้นะคะ
http://www.med.cmu.ac.th/dept/obgyn/2011/index.php?option=com_content&view=article&id=63:cystic-hygroma&catid=43&Itemid=401

เพราะฉะนั้น การเจาะเพื่อตรวจน้ำคร่ำ จะให้คำตอบได้ดีที่สุด ว่าโครโมโซมชนิดไหน ที่เกิดความผิดปกติ

คุณหมอนัดเราในวันถัดไป เพื่อที่จะเข้ามาเจาะน้ำคร่ำ.. (คุณหมอเป็นคนเจาะให้เองด้วย)
การเจาะน้ำคร่ำผ่านไปด้วยดี คุณหมอเจาะน้ำคร่ำเราออกไป 20cc. และส่งตรวจห้องแลปอีกที..
เราอยู่ต่างจังหวัด ไม่ได้อยู่ในกรุงเทพ.. จังหวัดที่เราอยู่จะมีแลปที่เดียว ที่สามารถจะตรวจโครโมโซมจากน้ำคร่ำได้..
คุณหมอแจ้งเราไว้ว่า ต้องรอผลตรวจประมาณ 1 เดือน.. แต่สัก 2 สัปดาห์ก็สามารถโทรมาเช็คที่โรงพยาบาลก่อนได้
เผื่อว่าผลตรวจจะเสร็จทัน.. เพราะยังไงก็ต้องรอตามคิวของห้องแลปที่เค้าตรวจให้..

ซึ่ง 1 เดือน มันนานนนน มากกกก สำหรับเรา
#คิดๆๆ ไป ถ้ารอผลตรวจ 1 เดือน อายุครรภ์ของเราตอนนั้นก็น่าจะ 20 สัปดาห์ พอดี... เราร้อนใจมากก แต่ก็ต้องทำใจ รอ เศร้า

เรื่องร้ายๆๆ มักจะแฝงไปเรื่องดีๆๆ อยู่เล็กๆๆ
สามีเรามีพี่ที่รู้จักกัน เค้าทำงานอยู่ห้องแลปที่นี่พอดี ก็เลยรบกวนขอให้เค้าช่วยติดตามเรื่องให้อีกที

หลังจากนั้น 16วัน เราได้รับการติดต่อกลับมาจากพี่ที่รู้จักของสามี.. เค้าแจ้งมาว่า ผลตรวจออกแล้ว ให้เราไปติดตามที่โรงพยาบาลได้เลย
เรารีบโทรไปทันที.. เค้าบอกว่า ให้เราเข้าไปพบคุณหมอที่คลินิค เราก็รีบไปในเย็นวันนั้นเลย..

ผลตรวจโครโมโซมออกมาว่า..  มีความผิดปกติของโครโมโซม คือ มีโครโมโซมในเซลล์ร่างกายเพียง 45 แท่ง
ซึ่งความผิดปกตินี้เรียกว่า "Turner Syndrome" ซึ่งจะพบเฉพาะในทารกเพศหญิงเท่านั้น.. (ใช่ค่ะ.. เราได้ลูกสาว)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ช่วงเวลา 16วัน ที่เรารอผลตรวจน้ำคร่ำ เราไม่เคยสบายใจ กินอิ่ม นอนหลับเลย เป็นช่วงเวลาที่ทรมานมาก..
เราสงสารลูก เพราะตอนนั้นหัวใจของลูกก็ยังเต้นเป็นปกติอยู่นะ.. ลูบท้อง จับท้อง กอดไว้ น้ำตาไหลตลอด ไม่รู้จะเป็นยังไง
แต่รู้ลึกๆๆ อยู่ในใจอยู่แล้วว่า ผลการตรวจต้องออกมาไม่ดีแน่ๆๆ

คุณหมออธิบายให้เราฟังถึงผลกระทบมากมายหลายอย่าง.. เด็กจะไม่สมบูรณ์แข็งแรง และถ้าเติบโตไปได้ก็อาจจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
ผลเสียมันมีมากกว่าผลดีแน่นอน รวมไปถึงในอนาคตของเด็กด้วย.. ให้เราชั่งใจ และคิดดูดีๆๆ ณ วันนี้ เด็กอาจจะยังสามารถไปต่อได้ในครรภ์
แต่ต่อไปคุณหมอก็ไม่แน่ใจว่าจะอยู่ครบกำหนดที่คลอดได้รึเปล่าด้วย มันเป็นอะไรที่ไม่แน่นอนทั้งหมดเลย สำหรับเด็กที่มีสภาวะแบบนี้..
เพราะถ้าอายุครรภ์คุณแม่ยิ่งมาก และถ้าเด็กเสียชีวิตในครรภ์ มันจะส่งผลเสียถึงคุณแม่ด้วย.. มันค่อนข้างเสี่ยงเยอะ..

ุคุณหมอเลยแนะนำให้เรา "ยุติการตั้งครรภ์" (การยุติการตั้งครรภ์ ควรจะทำก่อนอายุครรภ์ 24สัปดาห์ ในกรณีที่ตรวจพบความผิดปกติ)
เรายังไม่ได้ตัดสินใจอะไร ณ ตอนนั้น.. คือ มีความสับสนและสงสารลูกมากๆๆๆ เลยบอกคุณหมอว่าขอเวลากลับไปคุยกับคนที่บ้าน
แล้วจะโทรมานัดคุณหมออีกที.. แต่สุดท้ายแล้วหลังจากที่กลับไปพูดคุย ก็ได้ตัดสินใจว่าจะ ยุติการตั้งครรภ์ ตามที่คุณหมอแนะนำ..
ณ ตอนนั้นอายุครรภ์ของเรา 19สัปดาห์ กับอีก 5 วัน..

อยากจะให้ประสบการณ์ของเราในครั้งนี้เป็นความรู้ให้กับคุณแม่มือใหม่ทุกท่าน..
อายุครรค์ 3 เดือนแรก เป็นช่วงที่สำคัญ "มากที่สุด" นะคะ.. เพราะเป็นช่วงที่ตัวอ่อนสร้างทุกอย่าง การเจริญเติบโตของตัวอ่อนจึงสำคัญมากๆ ในช่วงนี้
เพราะฉะนั้นอย่านิ่งนอนใจ ถ้ารู้ว่ามีท้องแล้ว ต้องรีบไปฝากครรภ์ ให้คุณหมอดูแลอย่างใกล้ชิดนะคะ
การดูแลตัวเองก่อนตั้งครรภ์ก็สำคัญเช่นกัน.. เรายังคิดโทดตัวเองอยู่เลย ว่าก่อนหน้าที่จะรู้ตัวว่าท้อง เราเสพติดสารเคมีมากเหลือเกิน
มันอาจจะตกค้างในร่างกายอยู่บ้างแหละ และเป็นผลที่ทำให้ตัวอ่อนเจริญเติบโตไม่สมบูรณ์ เจริญเติบโตไม่ดี ไม่เต็มที.. เศร้า
** คุณหมอบอกว่า การที่โครโมโซมจะผิดปกติได้ มันเกิดตั้งแต่ขั้นตอนการแบ่งเซลล์เลย ตั้งแต่ตัวเสปิร์มเข้าผสมกับไข่ **

ขอให้คุณแม่ทุกท่านดูแลสุขภาพตัวเองดีๆๆ นะคะ.. ขอให้แข็งแรง ขอให้ปลอดภัยทั้งคุณแม่และลูกน้อย..
ขอบคุณมากๆ ค่ะ ที่เข้ามาอ่าน.. ท่านใดมีคำถามเพิ่มเติม inbox กันได้นะคะ ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่