[Movie Review] Warcraft - สงครามที่ชอบธรรม by ตั๋วหนังมันแพง


[หนังโรงเรื่องที่ 138] Warcraft - สงครามที่ชอบธรรม ; (Duncan Jones,2016) by ตั๋วหนังมันแพง

คะแนนความชอบ : B

*กำลังอยู่ในช่วงทดลองเกณฑ์การให้คะแนนแบบใหม่
**ไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่องสำคัญ

เรื่องย่อ : กล่าวถึงสงครามชิงดินแดนระหว่างสองอาณาจักร ระหว่าง 'มนุษย์' หนึ่งในอารยชนแห่งอาณาจักรอาซีรอธ กับมหาชนเผ่า 'ออร์ค' ผู้ซึ่งจำต้องอพยพมาจากทวีปแดนเกิดที่กำลังเสื่อมโทรมและแห้งแล้ง โดยมีออร์คชาแมนอย่าง 'กูลดาน' เป็นผู้นำทัพมาชิงแผ่นดินจากมนุษย์ สงครามระหว่างสองเผ่าพันธุ์จึงปะทุขึ้นเป็นปฐมบทแห่งตำนานสุดยิ่งใหญ่ของวอร์คราฟ

สิ่งแรกที่ชอบก็คือความชัดของ 'ธีมหนัง' ที่ออกแบบมาได้ดีจนเราสัมผัสได้ ไม่ว่าจะเป็นการขายฉากวิวสวยๆแสดงความอลังการงานสร้างของกราฟิกที่ใส่เข้ามาเรื่อยๆแบบไม่มีอั้น หรือแม้แต่ซาวน์ประกอบของหนังเองที่แน่นสะใจมาก เรียกได้ว่าแค่เรื่ององค์ประกอบฉากทั้งหลายก็สามารถทำให้บรรดาคอแฟนตาซีอย่างเราๆฟินกันไปเป็นแถบๆแล้ว

ในแง่ของเนื้อเรื่องก็มีความเข้มข้นและสมเหตุสมผลกว่าที่คาดไว้ สิ่งที่ชอบคือการที่นำเสนอผู้รุกรานอย่างเผ่าออร์คออกมาในลักษณะเป็น'สีเทาๆ' คือการที่เหล่าออร์คมารุกรานเข่นฆ่ามนุษย์นั้นก็ด้วยเหตุผลเรียบง่ายที่มีชื่อว่า 'การอยู่รอด' ของเผ่าพันธุ์ตนเอง ซึ่งมันช่วยให้เราเห็นอกเห็นใจได้มากกว่าการที่มีตัวร้ายแบบแบนราบในลักษณะ 'จอมมาร' ออกมาด้วยเหตุผลซื่อบื้อๆอย่างจะครองโลกอะไรงี้

และในการที่หนังเน้นย้ำในการยึดมั่น 'วิถีโบราณ' ของชนเผ่าออร์คแล้วก็ยิ่งทำให้หนังมันดูหนักแน่นเข้าไปอีก คือในขณะที่ภาพลักษณ์ของผู้รุกรานคืออสูรร้ายที่มีร่างกายกำยำสีเขียวน่าหวาดกลัว แต่ลึกๆแล้วแก่นแท้ของพวกเขาเหล่านั้นก็คือ 'ศักดิ์ศรีของนักรบ' ที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์ ทำให้สงครามของทั้งสองฝ่ายมันถูกวาดภาพออกมาในลักษณะ 'สงครามที่ชอบธรรม' ของทั้งสองฝ่ายได้เป็นอย่างดี

ในด้านฉากต่อสู้-สงครามที่ทุกคนคาดหวังไว้ก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดีโดยที่หนังสอดแทรกเข้ามาเป็นระยะๆทำให้สามารถดึงดูดคนดูอย่างพวกเราไว้ได้อยู่หมัด ทั้งฉากตะลุมบอนกันของทั้งสองกองทัพก็ทำออกมาได้ดีในการสำเสนอความดุดันของนักรบออร์คผ่านมุมกล้องและซาวน์ประกอบที่แน่นตึ้บ แต่ก็น่าเสียดายนิดหน่อยที่หนังมันถูกจำกัดความรุนแรงในฉากต่อสู้ไว้ด้วยเรตติ้งเยาวชน โดยส่วนตัวว่าหนังจะเพอร์เฟ็กต์กว่านี้ถ้ามีความรุนแรงที่สมจริงสอดคล้องกับสงครามสเกลระดับนี้

สิ่งที่ควรปรับปรุงในภาคถัดไปก็คงเป็นช่วงแรกของเรื่องที่หนังปูเรื่องเร็วไปหน่อย เรียกได้ว่าออกแนวกระโชกโฮกฮากไม่เกรงใจคนดูที่ไม่มีพื้นฐานเอาซะเลย ดีว่าหนังเริ่มมาอยู่ตัวในช่วงกลางๆเรื่องจนสมูธได้ในที่สุด และอีกเรื่องหนึ่งก็คือมิติของตัวละครที่ยังดีไซน์ออกมาไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ โดยเฉพาะฝั่งมนุษย์นี่เรามีความรู้สึกว่ามันฉาบฉวยเกินกว่าที่เราจะอินไปด้วยได้ ที่พอจะเข้าท่าหน่อยก็คือคอนฟลิคต์ของตัวละครลูกครึ่งออร์คอย่าง 'กาโรน่า' (Paula Patton) นี่แหละ

สรุปแล้ว Warcraft ก็เป็นหนังออกได้ดีกว่าที่คาดไว้มากกกกกกกกกกกก (กอไก่ซักสิบสองตัว) ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเป็นหนังเรื่องแรกที่สามารถทำลายอาถรรพ์ 'หนังสร้างจากเกม' ไปได้แบบสวยงามแถมยังประกาศกร้าวพร้อมสร้างภาคต่ออย่างอาจหาญมาก และด้วยซาวน์ประกอบและภาพสวยๆทั้งหลายแล้วก็สมควรอย่างยิ่งที่จะไปเลือกชมในโรงแบบไม่ต้องคิดได้เลย น่าจะถูกคอคนส่วนมากได้ไม่ยาก

หากชื่นชอบรีวิวสามารถติดตามเพจได้ที่ https://www.facebook.com/expensivemovie หรือค้นหาคำว่า "ตั๋วหนังมันแพง" ได้ที่หน้า Facebook ครับ ..
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่