ฉันเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ที่ทำงานด้วยตัวเอง มีอาชีพที่มั่นคง แต่งงานกับผู้ชายคนนึง ซึ่งดูแล้วชีวิตไม่น่าจะมีอุปสรรคใดๆ แต่ด้วยหน้าที่การงานทำให้เราสองคนต้องแยกกันทำงานคนละจังหวัด แต่ก็ไปมาหาสู่กันตลอด ไม่ปล่อยให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรู้สึกว่าต้องอยู่คนเดียวเลย
แต่เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2558 มีผู้หญิงคนนึง Add Friend ใน Facebook ฉันและสามีพร้อมกัน ปัญหาก็เลยเกิดขึ้นจาก Facebook นี่แหละคะ
ฉันไม่รู้เลยว่า ในขณะที่ผู้หญิงคนนั้น Add friend มา เขาแอบ Inbox คุยกับสามีฉันตั้งแต่วันแรก และพยายาม Inbox คุยกับฉัน ทำความรู้จัก และพยายามถามตลอดว่าสามีฉันคนไหน พยายามตีสนิท ทำตัวเป็นเพื่อนมนโลกออนไลน์ที่ดี และฉันก็บอกคะ ว่าสามีฉันเขาก็เป็นเพื่อนกะเธอคนนั้นใน Facebook เช่นกัน ดังนั้น ผู้หญิงคนนี้รู้แต่แรกคะ ว่าฉันและสามีมีฐานะสามีภรรยากันถูกต้องตามกฏหมาย ฉันไม่เอะใจซักนิด จนเวลาผ่านไป เพราะผู้หญิงเราสมัยนี้ก็ต้องทำมาหากิน เพื่อปากท้องของตัวเองเช่นกัน จนเวลาผ่านไป ปะมาณ เดือน กรกฏาคม 2558 สามีฉันต้องไปอบรมที่จังหวัดประจวบฯ ผู้หญิงคนนั้น Inbox มาคุยกับฉันก่อน ถามว่าฉันทำอะไรอยู่ที่ไหน จนแน่ใจว่าฉันไม่ได้อยู่กับสามี จากนั้นก็เดินทางมาจากสงขลา (ลืมบอกคะ ว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่สงขลา อายุมากแล่วราว 40 กว่าๆ เห็นจะได้ ตัวเล็กๆ ดำๆ ชื่อเล่น ไม่บอกดีกว่านะคะ ใน Facebook ก็ใช้นามแฝงเป็นนามสกุลดังของจังหวัดนั้น แถมเป็นแม่หม้าย ขณะนั้นฉันอายุ 35 ไม่ว่าร่างหน้าตาการศึกษาฉันเหนือกว่าหมด)
ผู้หญิงคนนั้นถามฉันจนแน่ใจแล้ว ก็เดินทางมาหาสามีฉันที่ประจวบฯ แล้วเสนอตัวนอนด้วยกัน มีอะไรกันที่นั่น พากันไปเที่ยวแถบนั้น โดยผู้หญิงเป็นคนเสนอจ่ายค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้ สามีฉันก็นะ นิสัยผู้ชาย มาเสนอขนาดนี้ ไม่เอาก็คงแปลก มาเจอหน้ากันแค่วันเดียว ผู้หญิงคนนั้นก็ยอมมีอะไรกับสามีฉัน โลกทุกวันนี้มันเปลี่ยนไปมากจริงๆ ผู้หญิงคนนั้นมาแค่ 2 วันคะ ก็กลับ สามีฉันจบอบรมก็กลับเช่นกัน
จากนั้นให้หลังมาไม่นาน ผู้หญิงคนนั้นพยายามชวนสามีฉันไปกาญจนบุรี ไปเที่ยวสะพานมอญ โดยที่ผู้หญิงคนนั้นเสนอจ่ายทุกอย่างอีกเหมือนเดิม สามีฉันไม่มีเงินหรอกคะ เพราะทุกอย่างของสามีสามีให้ฉัยหมด แม้อยู่ไกลกันแต่เรื่องพวกนี้ฉันเป็นคนบริหารจัดการ
และฉันรู้เรื่องราวทั้งหมด ในเดือนพฤศิกายน 2558 ฉันมาหาสามี เห็นพิรุธจาก สามีไม่ห่างโทรศัพท์ แถมปิดเสียงไว้ เวลาวางโทรศัพท์จะคว่ำตลอด ซ่อนได้ก็จะซ่อน จนวันนั้น ฉันยื่นคำขาด ขอโทรศัพท์ไว้เพราะโทรศัพท์สามีชอบบ่นว่ามันรวน เลยบังคับเอาโทรศัพท์ไว้บอกว่าจะเอาไปซ่อมให้ ฉันก็เอาโทรศัพท์สามี แก้ไขรหัส Facebook ดึงข้อความสนทนากับผู้หญิงคนนั้นแล้วปริ้นออกมา ข้อความในไลน์ ฉันก็ลงทะเบียนอีเมล์ แล้วล็อคอินไลน์ PC ข้อมูลการสนทนาเก่าก็ยังอยู่ ปริ้นมานั่งอ่านไป น้ำตาก็ไหลไป
นี่เหรอคนที่ฉันไว้ใจ และนี่เหรอเพื่อนในสังคมออนไลน์ ที่ทำมาตีสนิท แต่กลับกลายเป็นการเช็คว่าฉันทำอะไรอยู่ที่ไหน เพื่อที่ตัวเองจะได้มานอนกับสามีฉันได้สะดวก
พอจับได้ ฉันก็จัดการกับสามีก่อนเลย เพราะถ้าสามีไม่มักง่ายเรื่องคงไม่เกิด ทั้งแม่สามี พี่ป้าน้าอา รุมประณาม ทั้งโดนเจ้านาย ทำโทษ สามีก็ยอมรับผิดทุกอย่าง บอบช้ำพอสมควร และบอกกับผู้หญิงคนนั้นว่า เค้ารักเมียของเค้าคนเดียว ที่ผ่านมาแค่เผลอ
ผู้หญิงคนนั้นไม่หยุดนะคะ ยังจะโทรมารบกวน Inbox มาขอสามีฉัน แถมบอกว่า ไม่รู้มาก่อนว่าสามีฉันมีภรรยาแล้ว (ตอนนี้ฉันโกรธมาก เพราะผู้หญิงคนนั้นรู้ตลอดว่าฉันเป็นใคร) มาพูดว่าไม่รู้ ก็เลยสมนาคุณ ในเมื่ออยากได้สามีฉันขนาดนี้ ก็เลยเช็ค Friend ใน Facebook ผู้หญิงคนนั้นบ้าง แล้ว Inbox คุยกับเพื่อนของนางในเฟสทีละคน การโพสมันผิดกฏหมายนี่คะ กล่าวหาลอยๆ ก็ไม่มีหลักฐาน เลยแคบสิ่งที่นางคุยส่งให้แต่ละคนพิจารณา คราวนี้ถึงกับปิด Facebook หนี เพราะอาย แต่ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้น ก็สมัครใหม่แล้วหละ ฉันเห็น เพราะเพื่อนบางคนใน Facebook ของฉัน ไลท์ให้นางบ้างเลยเห็นผ่านๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจ ไม่ได้อยากจะร้ายกับผู้หญิงคนนั้นหรอกนะคะ เพราะเขาแก่แล้ว แถมเป็นแม่หม้าย ที่พยายามจะมาหาสามีบนโลกออนไลน์ คิดผูกมัดใจคนโดยการแย่งชิง และเอาตัวเข้าแลกมันไม่สำเร็จหรอกคะ
แต่ฉันสิ ทุกวันนี้ ยังไม่ไว้ใจสามีตัวเองเลย พอมีอะไรมาสะกิดก็นึกถึงเรื่องนี้ แต่สามีฉันก็อดทนเหลือเกิน รอวันที่ฉันจะให้อภัยเขา ฉันควรทำยังไงดี พยายามปล่อยวาง ก็ได้ไม่นาน ก็จะมีปัญหากันอีก ความไว้ใจพอหมดไป มันเรียกกลับคืนมายากเหลือเกิน
สุดท้าย ขอให้เรื่องของฉัน เป็นอีกเรื่องนึงที่จะช่วยให้ภรรยาทุกคนควรระวัง เดี๋ยวนี้สังคมออนไลน์เข้ามามีบทบาทกับชีวิตมากเหลือเกิน มีทั้งประโยชน์และโทษ
ผู้หญิงประเภทนี้มีมากมายในสังคม และฉันก็เจอกับตัวเอง แม้ผู้หญิงคนนั้นจะแก่แล้ว ดำ เรียนจบตรี ไม่มีอะไรสู้ฉันได้เลย แต่การมาเสนอให้ถึงที่บางทีคุณผู้ชายก็ยากจะทำใจนะคะ เผลอไปบ้าง แต่ตอนนี้คงเข็ดแล้วหละคะเพราะทั้งสามีและผู้หญิงคนนั้นก็ได้รับบทเรียนอย่างสาสม จากสงขลามากาญจนบุรีไม่ธรรมดาเลย
จากใจภรรยาหลวงคนนึง
ปล.ฉันให้สามีไปตรวจเลือดแล้ว ถึงสามีจะบอกว่าเซฟดี แต่ก็ไม่ไว้ใจ
ถ้าสามีนอกใจแล้วห้อภัยและกลับมาคืนดีกัน แต่ความไว้ใจมันหมดไปควรทำไงดี
แต่เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2558 มีผู้หญิงคนนึง Add Friend ใน Facebook ฉันและสามีพร้อมกัน ปัญหาก็เลยเกิดขึ้นจาก Facebook นี่แหละคะ
ฉันไม่รู้เลยว่า ในขณะที่ผู้หญิงคนนั้น Add friend มา เขาแอบ Inbox คุยกับสามีฉันตั้งแต่วันแรก และพยายาม Inbox คุยกับฉัน ทำความรู้จัก และพยายามถามตลอดว่าสามีฉันคนไหน พยายามตีสนิท ทำตัวเป็นเพื่อนมนโลกออนไลน์ที่ดี และฉันก็บอกคะ ว่าสามีฉันเขาก็เป็นเพื่อนกะเธอคนนั้นใน Facebook เช่นกัน ดังนั้น ผู้หญิงคนนี้รู้แต่แรกคะ ว่าฉันและสามีมีฐานะสามีภรรยากันถูกต้องตามกฏหมาย ฉันไม่เอะใจซักนิด จนเวลาผ่านไป เพราะผู้หญิงเราสมัยนี้ก็ต้องทำมาหากิน เพื่อปากท้องของตัวเองเช่นกัน จนเวลาผ่านไป ปะมาณ เดือน กรกฏาคม 2558 สามีฉันต้องไปอบรมที่จังหวัดประจวบฯ ผู้หญิงคนนั้น Inbox มาคุยกับฉันก่อน ถามว่าฉันทำอะไรอยู่ที่ไหน จนแน่ใจว่าฉันไม่ได้อยู่กับสามี จากนั้นก็เดินทางมาจากสงขลา (ลืมบอกคะ ว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่สงขลา อายุมากแล่วราว 40 กว่าๆ เห็นจะได้ ตัวเล็กๆ ดำๆ ชื่อเล่น ไม่บอกดีกว่านะคะ ใน Facebook ก็ใช้นามแฝงเป็นนามสกุลดังของจังหวัดนั้น แถมเป็นแม่หม้าย ขณะนั้นฉันอายุ 35 ไม่ว่าร่างหน้าตาการศึกษาฉันเหนือกว่าหมด)
ผู้หญิงคนนั้นถามฉันจนแน่ใจแล้ว ก็เดินทางมาหาสามีฉันที่ประจวบฯ แล้วเสนอตัวนอนด้วยกัน มีอะไรกันที่นั่น พากันไปเที่ยวแถบนั้น โดยผู้หญิงเป็นคนเสนอจ่ายค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้ สามีฉันก็นะ นิสัยผู้ชาย มาเสนอขนาดนี้ ไม่เอาก็คงแปลก มาเจอหน้ากันแค่วันเดียว ผู้หญิงคนนั้นก็ยอมมีอะไรกับสามีฉัน โลกทุกวันนี้มันเปลี่ยนไปมากจริงๆ ผู้หญิงคนนั้นมาแค่ 2 วันคะ ก็กลับ สามีฉันจบอบรมก็กลับเช่นกัน
จากนั้นให้หลังมาไม่นาน ผู้หญิงคนนั้นพยายามชวนสามีฉันไปกาญจนบุรี ไปเที่ยวสะพานมอญ โดยที่ผู้หญิงคนนั้นเสนอจ่ายทุกอย่างอีกเหมือนเดิม สามีฉันไม่มีเงินหรอกคะ เพราะทุกอย่างของสามีสามีให้ฉัยหมด แม้อยู่ไกลกันแต่เรื่องพวกนี้ฉันเป็นคนบริหารจัดการ
และฉันรู้เรื่องราวทั้งหมด ในเดือนพฤศิกายน 2558 ฉันมาหาสามี เห็นพิรุธจาก สามีไม่ห่างโทรศัพท์ แถมปิดเสียงไว้ เวลาวางโทรศัพท์จะคว่ำตลอด ซ่อนได้ก็จะซ่อน จนวันนั้น ฉันยื่นคำขาด ขอโทรศัพท์ไว้เพราะโทรศัพท์สามีชอบบ่นว่ามันรวน เลยบังคับเอาโทรศัพท์ไว้บอกว่าจะเอาไปซ่อมให้ ฉันก็เอาโทรศัพท์สามี แก้ไขรหัส Facebook ดึงข้อความสนทนากับผู้หญิงคนนั้นแล้วปริ้นออกมา ข้อความในไลน์ ฉันก็ลงทะเบียนอีเมล์ แล้วล็อคอินไลน์ PC ข้อมูลการสนทนาเก่าก็ยังอยู่ ปริ้นมานั่งอ่านไป น้ำตาก็ไหลไป
นี่เหรอคนที่ฉันไว้ใจ และนี่เหรอเพื่อนในสังคมออนไลน์ ที่ทำมาตีสนิท แต่กลับกลายเป็นการเช็คว่าฉันทำอะไรอยู่ที่ไหน เพื่อที่ตัวเองจะได้มานอนกับสามีฉันได้สะดวก
พอจับได้ ฉันก็จัดการกับสามีก่อนเลย เพราะถ้าสามีไม่มักง่ายเรื่องคงไม่เกิด ทั้งแม่สามี พี่ป้าน้าอา รุมประณาม ทั้งโดนเจ้านาย ทำโทษ สามีก็ยอมรับผิดทุกอย่าง บอบช้ำพอสมควร และบอกกับผู้หญิงคนนั้นว่า เค้ารักเมียของเค้าคนเดียว ที่ผ่านมาแค่เผลอ
ผู้หญิงคนนั้นไม่หยุดนะคะ ยังจะโทรมารบกวน Inbox มาขอสามีฉัน แถมบอกว่า ไม่รู้มาก่อนว่าสามีฉันมีภรรยาแล้ว (ตอนนี้ฉันโกรธมาก เพราะผู้หญิงคนนั้นรู้ตลอดว่าฉันเป็นใคร) มาพูดว่าไม่รู้ ก็เลยสมนาคุณ ในเมื่ออยากได้สามีฉันขนาดนี้ ก็เลยเช็ค Friend ใน Facebook ผู้หญิงคนนั้นบ้าง แล้ว Inbox คุยกับเพื่อนของนางในเฟสทีละคน การโพสมันผิดกฏหมายนี่คะ กล่าวหาลอยๆ ก็ไม่มีหลักฐาน เลยแคบสิ่งที่นางคุยส่งให้แต่ละคนพิจารณา คราวนี้ถึงกับปิด Facebook หนี เพราะอาย แต่ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้น ก็สมัครใหม่แล้วหละ ฉันเห็น เพราะเพื่อนบางคนใน Facebook ของฉัน ไลท์ให้นางบ้างเลยเห็นผ่านๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจ ไม่ได้อยากจะร้ายกับผู้หญิงคนนั้นหรอกนะคะ เพราะเขาแก่แล้ว แถมเป็นแม่หม้าย ที่พยายามจะมาหาสามีบนโลกออนไลน์ คิดผูกมัดใจคนโดยการแย่งชิง และเอาตัวเข้าแลกมันไม่สำเร็จหรอกคะ
แต่ฉันสิ ทุกวันนี้ ยังไม่ไว้ใจสามีตัวเองเลย พอมีอะไรมาสะกิดก็นึกถึงเรื่องนี้ แต่สามีฉันก็อดทนเหลือเกิน รอวันที่ฉันจะให้อภัยเขา ฉันควรทำยังไงดี พยายามปล่อยวาง ก็ได้ไม่นาน ก็จะมีปัญหากันอีก ความไว้ใจพอหมดไป มันเรียกกลับคืนมายากเหลือเกิน
สุดท้าย ขอให้เรื่องของฉัน เป็นอีกเรื่องนึงที่จะช่วยให้ภรรยาทุกคนควรระวัง เดี๋ยวนี้สังคมออนไลน์เข้ามามีบทบาทกับชีวิตมากเหลือเกิน มีทั้งประโยชน์และโทษ
ผู้หญิงประเภทนี้มีมากมายในสังคม และฉันก็เจอกับตัวเอง แม้ผู้หญิงคนนั้นจะแก่แล้ว ดำ เรียนจบตรี ไม่มีอะไรสู้ฉันได้เลย แต่การมาเสนอให้ถึงที่บางทีคุณผู้ชายก็ยากจะทำใจนะคะ เผลอไปบ้าง แต่ตอนนี้คงเข็ดแล้วหละคะเพราะทั้งสามีและผู้หญิงคนนั้นก็ได้รับบทเรียนอย่างสาสม จากสงขลามากาญจนบุรีไม่ธรรมดาเลย
จากใจภรรยาหลวงคนนึง
ปล.ฉันให้สามีไปตรวจเลือดแล้ว ถึงสามีจะบอกว่าเซฟดี แต่ก็ไม่ไว้ใจ