JJNY : เศรษฐกิจดี๊ดีอีกแล้ว..เกษตรกรหนองคาย "กระเป๋าแฟบ-ไม่มีน้ำทำนา" ถอดใจไถ่คืนเครื่องยนต์เกษตร

กระทู้คำถาม
ชาวนาหนองคาย-สารคามอ่วมพิษแล้ง ไม่มีน้ำทำนา เงินหมดกระเป๋า ไถ่ถอนเครื่องยนต์เกษตรที่จำนำไว้น้อย ด้านโรงรับจำนำเมืองคอนระบุชาวสวนยางพาราเดือดร้อนค่าครองชีพหนัก

แม้โรงเรียนทั่วประเทศจะเปิดเทอมแล้วตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บรรดาผู้ปกครองได้มีการจับจ่ายซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนให้แก่บุตรหลานแล้ว ซึ่งสถานธนานุบาลหรือโรงรับจำนำในหลายจังหวัดได้เตรียมเงินสำรองเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเกือบเท่าตัว ส่วนใหญ่นิยมนำทองรูปพรรณมาจำนำมากที่สุด ขณะที่ประชาชนในภาคเกษตรซึ่งประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนักและยาวนาน ก็ได้นำเครื่องยนต์การเกษตรมาจำนำไว้เป็นจำนวนมากเช่นกัน และสถานการณ์ล่าสุดพบว่าเกษตรกรไม่มีเงินที่จะมาไถ่ของคืน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดหนองคายว่า ขณะนี้โรงรับจำนำเทศบาลเมืองหนองคาย ยังคงมีเครื่องยนต์การเกษตรที่เกษตรกรนำมาจำนำตั้งแต่หลังฤดูทำนาที่ผ่านมา ยังอยู่ในโรงรับจำนำเป็นจำนวนมาก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ปัจจุบันพื้นที่จังหวัดหนองคาย มีปริมาณฝนตกน้อย ทำให้พื้นที่ที่อยู่นอกโครงการสูบน้ำด้วยไฟฟ้าและนอกโครงการชลประทาน ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพแห้งแล้ง เกษตรกรไม่สามารถทำนาได้

เจ้าหน้าที่โรงรับจำนำเทศบาลเมืองหนองคาย กล่าวว่า ในแต่ละปีหลังจากที่เกษตรกรทำนาปีเสร็จแล้ว ก็จะนำเครื่องยนต์การเกษตรมาจำนำไว้ที่โรงรับจำนำ เพราะนอกจากจะได้เงินทุนไปใช้จ่ายแล้ว ยังเป็นการฝากเครื่องยนต์การเกษตรให้กับโรงรับจำนำได้เก็บรักษาไว้ให้อย่างปลอดภัยมากกว่าที่จะเก็บไว้ในบ้านซึ่งอาจจะถูกขโมยได้ซึ่งปี2559นี้ยังมีเกษตรกรยังมาไถ่ถอนน้อยหากเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมาเนื่องจากปีนี้ฝนตกในพื้นที่จังหวัดหนองคายน้อยและช้ากว่าปีที่ผ่านมา

นายวีระชัยโชค มงคลภูมิรัตน์ รองนายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย กล่าวว่า ปีนี้เตรียมเงินทุนหมุนเวียนสำหรับบริการประชาชนถึง 130 ล้านบาท มากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 53 ล้านบาท ขณะนี้ใช้รับจำนำไปแล้วกว่า 40 ล้านบาท ทรัพย์สินที่ประชาชนนำมาจำนำส่วนใหญ่เป็นทองคำมากกว่า 90% รองลงมาคือ เครื่องมือช่าง-เครื่องใช้ไฟฟ้า และนาฬิกา

สอดคล้องกับนายบูรพา บรรจง ผู้จัดการสถานธนานุบาล เทศบาลเมืองมหาสารคาม เปิดเผยว่า ปีนี้มีประชาชนเดินทางมาจำนำและไถ่ถอนวงเงินไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาทต่อวัน ทองรูปพรรณจำนำมากที่สุดถึง 95% รองลงมาเป็นเครื่องมือการเกษตร เช่น เครื่องรถไถนา เครื่องปั่นไฟ เป็นต้น โดยเตรียมเงินหมุนเวียนให้กับประชาชนไว้แล้วเกือบ 40 ล้านบาท หากไม่พอยังเตรียมเงินสำรองไว้อีกไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท แต่มั่นใจว่าเงินที่สำรองไว้จะเพียงพอแน่นอน แม้ว่ายอดลูกค้าที่มาใช้บริการจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% เพราะเกษตรกรไม่มีรายได้

นางจิราภรณ์ แก้วปาน ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ยอดรับจำนำในช่วงเปิดเทอมคึกคักเหมือนทุกปี แต่ปีนี้เพิ่มขึ้น โดยจัดเตรียมทุนหมุนเวียนไว้ 100 ล้านบาท ในแต่ละวันมีวงเงินที่หมุนเวียนในการรับจำนำไม่ต่ำกว่าวันละ 10 ล้านบาท โดยมียอดรับจำนำสูงเป็นอันดับ 2 ของภาคใต้ รองจากจังหวัดภูเก็ต ซึ่งขณะนี้ทางเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เตรียมขยายสถานที่รับจำนำ 2 แห่ง ได้แก่ สี่แยกหัวถนน และหัวอิฐ

"เนื่องจากปีนี้ราคาผลผลิตทางการเกษตร ยางพาราราคาตกต่ำ บวกกับช่วงหน้าแล้งไม่สามารถกรีดยางได้ กระทั่งเปิดภาคเรียนก็ไม่มีเงินที่จะซื้ออุปกรณ์การเรียน จึงได้นำสิ่งของเข้าไปจำนำที่สถานธนานุบาลเป็นจำนวนมาก แต่น่าสนใจที่สุดคือ มีการนำหม้อทองเหลืองและแท่นทำขนมพิมพ์ทองเหลืองโบราณมาจำนำด้วย"
นางจิราภรณ์กล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่