สวัสดีค่ะ พอดีช่วงนี้ จขกท ต้องไปตามยึดทรัพย์ลูกหนี้คดีแพ่งที่ยืดเยื้อมากว่า 20 ปี พึ่งตัดสินคดีสิ้นสุดเมื่อเร็วๆ นี้ โดยตัว จขกท เองอยู่ กทม ได้รับมอบอำนาจจากคุณแม่ให้ติดตามคดีแทน ซึ่งคดีอยู่ที่จังหวัดๆ หนึ่ง ไกลจาก กทม มากโข เลยต้องออกแรงกันนิดนึง และที่สำคัญ ตัว จขกท และคุณแม่ ก็ไม่เคยพบและรู้จักลูกหนี้คนนี้มาก่อน ความยากอยู่ตรงนี้ล่ะ
ดังนั้น เพื่อสืบทรัพย์ว่าลูกหนี้มีกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ไหนบ้าง จขกท ก็เลยนำหมายศาลที่ตัดสินคดีที่สิ้นสุดแล้ว พร้อมกับใบมอบอำนาจ และหมายบังคับคดีของกรมบังคับคดี ไปที่สำนักงานที่ดินจังหวัดที่คดีตั้งอยู่ โดยต้องไปเอง และนำเอกสารไปด้วย ค่าใช้จ่ายแต่ละที่จะมีค่าขอตรวจสอบกรรมสิทธิ์ประมาณ 160 บาท และถ้ามีการมอบอำนาจแบบกรณีของ จขกท ก็ต้องเพิ่มค่าอากรแสตมป์อีก 30 บาท แล้วก็นั่งรอข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ อะ นั่นไง ง่ายๆ เสร็จแล้ว .. ใช่ที่ไหนล่ะ จขกท ก็พึ่งทราบนี่แหละ ว่าสำนักงานที่ดินไม่มีระบบออนไลน์ ถ้าอยากทราบว่าลูกหนี้มีกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ไหนบ้างทั่วประเทศไทย ต้องทำตามนี้นะคะ
1. แบบประหยัดที่สุด ให้ติดต่อสำนักงานที่ดิน 77 จังหวัด และสำนักงานที่ดินเขตต่างๆ ของ กทม อีก 17 เขต รวมเป็น 94 แห่งเอ๊งงง จขกท ลองไปทำมาแล้ว พบว่า 1 วัน ได้มากที่สุด 1 แห่งค่ะ - -" (ไปรอตั้งแต่สำนักงานที่ดินเปิด จนเสร็จประมาณบ่ายสามกว่าๆ) ดังนั้น ถ้าจะตรวจสอบทั้งหมดใช้เวลา 94 วันทำการ ถ้าคิดว่าเดือนนึงมี 20 วันทำการ ใช้เวลาเกือบๆ 5 เดือน พร้อมกับเงินค่าขอตรวจสอบกรรมสิทธิ์ราวๆ 15,040 บาท เป็นอย่างน้อย (ไม่รวมค่าเดินทาง กินอยู่ ฯลฯ นะจ๊ะ)
2. แบบทุนนิยม มอบอำนาจให้คน 94 คน ไปดำเนินการแทน วิธีนี้จะเสร็จได้เร็วสุดก็ 1 วันค่า เจ๋งมั้ย ส่วนค่าใช้จ่ายก็เงินค่าตรวจสอบกรรมสิทธิ์เหมือนกับข้อ 1, เงินค่าอากรแสตมป์ 2,820 บาท รวมเป็น 17,860 บาท (ไม่รวมค่าจ้างคน 94 คน ฯลฯ นะ)
ปล. ของสำนักงานเขตกรุงเทพที่ต้องไปติดต่อสอบถามทั้ง 17 เขต เนื่องจากเมื่อก่อนเคยทำระบบรวมทุกเขตของกรุงเทพไว้ที่สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร แต่
ขอบคุณวิธีการจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ของกรมที่ดิน ทั้ง สำนักเลขา, ศูนย์ดำรงธรรม, สำนักงานกฎหมาย, สำนักงานผู้ตรวจการ, สำนักมาตรฐานและงานทะเบียน และหน้าห้องของท่านอธิบดีกรมที่ดิน ที่แนะนำวิธีที่ดีที่สุดมาให้ค่ะ
สุดท้าย ทางกรมที่ดินแจ้งว่าตอนนี้มีโครงการทำระบบออนไลน์อยู่นะคะ ตอนนี้อยู่ระยะที่ 2 ซึ่งทั้งหมดมีกี่ระยะก็ไม่ทราบได้ และโครงการสิ้นสุดเมื่อไหร่ก็ไม่มีใครทราบได้แม้กระทั่งท่านอธิบดีกรมที่ดิน เพราะได้รับงบประมาณจากรัฐไม่เพียงพอนะคะ เป็นกำลังใจให้กรมที่ดินด้วยค่า
ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบนะคะ ใครสงสัยตรงไหนถามได้เลยนะคะ
แชร์ประสบการณ์ตรวจสอบว่าลูกหนี้เรามีที่ดินอยู่ที่ไหนบ้างด้วยตัวเอง
ดังนั้น เพื่อสืบทรัพย์ว่าลูกหนี้มีกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ไหนบ้าง จขกท ก็เลยนำหมายศาลที่ตัดสินคดีที่สิ้นสุดแล้ว พร้อมกับใบมอบอำนาจ และหมายบังคับคดีของกรมบังคับคดี ไปที่สำนักงานที่ดินจังหวัดที่คดีตั้งอยู่ โดยต้องไปเอง และนำเอกสารไปด้วย ค่าใช้จ่ายแต่ละที่จะมีค่าขอตรวจสอบกรรมสิทธิ์ประมาณ 160 บาท และถ้ามีการมอบอำนาจแบบกรณีของ จขกท ก็ต้องเพิ่มค่าอากรแสตมป์อีก 30 บาท แล้วก็นั่งรอข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ อะ นั่นไง ง่ายๆ เสร็จแล้ว .. ใช่ที่ไหนล่ะ จขกท ก็พึ่งทราบนี่แหละ ว่าสำนักงานที่ดินไม่มีระบบออนไลน์ ถ้าอยากทราบว่าลูกหนี้มีกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ไหนบ้างทั่วประเทศไทย ต้องทำตามนี้นะคะ
1. แบบประหยัดที่สุด ให้ติดต่อสำนักงานที่ดิน 77 จังหวัด และสำนักงานที่ดินเขตต่างๆ ของ กทม อีก 17 เขต รวมเป็น 94 แห่งเอ๊งงง จขกท ลองไปทำมาแล้ว พบว่า 1 วัน ได้มากที่สุด 1 แห่งค่ะ - -" (ไปรอตั้งแต่สำนักงานที่ดินเปิด จนเสร็จประมาณบ่ายสามกว่าๆ) ดังนั้น ถ้าจะตรวจสอบทั้งหมดใช้เวลา 94 วันทำการ ถ้าคิดว่าเดือนนึงมี 20 วันทำการ ใช้เวลาเกือบๆ 5 เดือน พร้อมกับเงินค่าขอตรวจสอบกรรมสิทธิ์ราวๆ 15,040 บาท เป็นอย่างน้อย (ไม่รวมค่าเดินทาง กินอยู่ ฯลฯ นะจ๊ะ)
2. แบบทุนนิยม มอบอำนาจให้คน 94 คน ไปดำเนินการแทน วิธีนี้จะเสร็จได้เร็วสุดก็ 1 วันค่า เจ๋งมั้ย ส่วนค่าใช้จ่ายก็เงินค่าตรวจสอบกรรมสิทธิ์เหมือนกับข้อ 1, เงินค่าอากรแสตมป์ 2,820 บาท รวมเป็น 17,860 บาท (ไม่รวมค่าจ้างคน 94 คน ฯลฯ นะ)
ปล. ของสำนักงานเขตกรุงเทพที่ต้องไปติดต่อสอบถามทั้ง 17 เขต เนื่องจากเมื่อก่อนเคยทำระบบรวมทุกเขตของกรุงเทพไว้ที่สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร แต่
ขอบคุณวิธีการจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ของกรมที่ดิน ทั้ง สำนักเลขา, ศูนย์ดำรงธรรม, สำนักงานกฎหมาย, สำนักงานผู้ตรวจการ, สำนักมาตรฐานและงานทะเบียน และหน้าห้องของท่านอธิบดีกรมที่ดิน ที่แนะนำวิธีที่ดีที่สุดมาให้ค่ะ
สุดท้าย ทางกรมที่ดินแจ้งว่าตอนนี้มีโครงการทำระบบออนไลน์อยู่นะคะ ตอนนี้อยู่ระยะที่ 2 ซึ่งทั้งหมดมีกี่ระยะก็ไม่ทราบได้ และโครงการสิ้นสุดเมื่อไหร่ก็ไม่มีใครทราบได้แม้กระทั่งท่านอธิบดีกรมที่ดิน เพราะได้รับงบประมาณจากรัฐไม่เพียงพอนะคะ เป็นกำลังใจให้กรมที่ดินด้วยค่า
ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบนะคะ ใครสงสัยตรงไหนถามได้เลยนะคะ