เรื่องจะแต่งงานกับแฟนดีไหม เพราะครอบครัว คิดว่าแฟนเราไม่ดีที่สุดสำหรับเรา

กระทู้คำถาม
เรื่องมีอยู่ว่า คบกับแฟนมาเกือบ 2 ปีแล้วค่ะ แฟนเป็นคนเยอรมันนี อายุมากกว่าเราเยอะมาก เรา 26 ปี แฟนเราอายุ 51 ปี มีธุระกิจเป็นของตัวเองค่อนข้างมีฐานะดีเลยทีเดียว แต่ไม่ค่อยสนิทกับครอบครัวของเราเท่าไหร่ นานๆเจอครอบครัวเราทีหนึ่ง เขาขอเราหมั่นไว้เรียบร้อย แต่ไม่ได้ไปทำพิธีกัน แค่ให้แหวนเราเฉยๆ และตอนนี้มีวางแผนว่าจะแต่งงานกันหลังจากเราเรียนจบ (จะจบเดือน พฤศจิกายน ปีนี้) คิดไว้ว่าจะแต่งงานการ ประมาณ มีนาคม ปีหน้า แล้วก็จะย้ายไปอยู่เยอรมันด้วยการเลย  แต่มีประเด็นระหว่างทางขึ้นมาว่า คนในครอบครัว พูดขึ้นมาว่า เรียนจบแล้วจะไม่ลองทำงาน อยู่กรุงเทพ สักหน่อยเพื่อเจอคนที่ดีกว่านี้ อย่าเพิ่งรีบแต่งเลย เราคิดว่าเหตุผลเพราะ แฟนเราเขาไม่เคยมาซื้ออะไรที่ยิ่งใหญ่ให้กับเรา เช่น บ้าน รถยนต์ ที่ดิน ต่างๆ เป็นต้น เขามีคอนโดที่กรุงเทพ และมี รถยนต์ ฮ้อนด้า แจ๊ส 1 คัน แล้วล่าสุด เขาซื้อ พลูวิลล่า ราคา 16 ล้านบาท แต่ทุกสิ่งทุกอย่างเขาซื้อเป็นชื่อของเขาหมด เราไม่มีชื่อเกี่ยวข้องเลย ซึ่งตลอดเวลาเขาก็พูดว่า หลังจากแต่งงาน จดทะเบียนสมรสถูกต้อง ถ้าฉันตายเธอก็จะได้ทุกอย่างเองแหละ แต่ตอนนี้เราไม่มีชื่อในนั้นเลยแม้แต่อย่างเดียว ตอนคบการแรกๆ แม่เราขอให้เขาช่วยซื้อบ้านหลังเก่าราคา ล้านห้า แล้วโอนเป็นชื่อเรา เขาก็เฉยๆ ตอนนั้นเราก็เข้าใจว่าเพิ่งรู้จักกัน มันอาจจะดูมากไปที่ไปขออะไรแบบนั้น แถมตอนหลังเราเคยถามเขาว่าทำไมไม่ช่วยเรา เขาบอกว่า เป็นความผิดของเราที่ไม่ยอมจริงจังพาเขาไปดูบ้านเอง แค่พูดลอยๆแล้วก็หายเงียบไป เพราะตอนนั้นเขาเหมือนไม่สนใจ เราก็เลยไม่กล้าเซ้าซี้เขา พอเมื่อเดือนที่ผ่านมา แม่เราอยากได้ที่ดิน ที่โคราชราคา หนึ่งแสนบาท เราก็คุยกับเขาแต่เขาก็บอกว่าไม่มีเงินเพราะเพิ่งซื้อวิลลาไปและต้องจ่ายภาษีเดือนนี้แพงมากๆ แต่ถ้าเราจำเป็นจริงๆจะให้เรายืม โดยหักจากเงินเดือนที่เขาให้เราทุกๆเดือน (เขาให้เราเดือนละ สี่หมื่นบาท แต่เราต้องให้เงินเดือนแม่ หนึ่งหมื่นบาท ก็จะเหลือแค่ สามหมื่นบาท)  จะหักเดือนละหนึ่งหมื่นบาท โดยทำสัญญายืมด้วย แต่พอไปคุยกับแม่ที่ดินกลายเป็น สองแสนบาท เราก็เลยมาขอเพิ่มเขาก็โมโหใหญ่ ทะเลาะการสักพัก เขาก็บอกว่าถ้าจะซื้อจริงๆ เขาขอไปดูที่ดิน แล้วถ้าซื้อต้องเป็นชื่อเราคนเดียวเพราะในอนาคตก็ต้องปลูกบ้าน ค่าใช้จ่ายทั้งหมดแฟนเราก็ต้องเป็นคนออกอย่างแน่นอน  แต่แม่เราอยากให้ซื้อให้แม่ และเป็นชื่อแม่ กลัวว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเรา แล้วแฟนเราจะไม่ให้แม่อยู่ที่นั้นอีก  กลายเป็นประเด็นอีก เราก็เลยตัดสินใจไม่ซื้อที่ดินตรงนั้นแหละ ไม่ยืมไม่อะไรทั้งนั้น จบๆไป เขาแค่เป็นคนที่ไม่เอาครอบครัวเราเพราะวัฒนธรรมของเขา พ่อแม่เขาดูแลตัวเองได้ไม่เคยมาเรียกร้องเลี้ยงดูอะไรจากแฟนเลย แต่ถึงกระนั้นเราเอาเงินเดือนที่เขาให้เราแบ่งให้แม่ทุกๆเดือน เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเลย  แถมกับเราเขาดูแลดีมาก ส่งเสียให้เรียนทุกอย่าง ทั้งมหาลัย ภาษาอังกฤษ เยอรมัน เขาพยายามสนับสนุนเรา ถ้าอยากทำธุระกิจอะไรเขาก็จะลงทุนให้ แต่ถ้าเราไม่ทำมาหากินอะไร เขาก็ไม่เคยว่าเลย เงินทองให้ใช้ไม่ลำบาก ค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติมเราก็ขอเพิ่มได้ตลอด ไม่เคยซักไซ้จู้จี้ เราอยากทำอะไรไปเที่ยวไหนกับใครก็ไม่เคยบ่นเลยมีแต่บอกว่า เที่ยวให้สนุกนะ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยการตลอดเวลา เพราะเขาต้องทำงานที่เยอรมันเดือนหนึ่ง มาอยู่กับเราสองอาทิตย์ แบบนี้ตลอดปี (ปีหนึ่งมา 8 ครั้ง) เวลาอยู่ด้วยการก็ชอบพาไปเที่ยว กินข้าวหรูหราไฮโซ คือให้เราใช้ชีวิตแบบดีมากๆ เทียบกับคนหลายคนชีวิตเราดีมากๆ ได้ไปเที่ยวต่างประเทศตลอดๆ เวลาอยู่ไทยก็ได้ใช้ชีวิตหรูหราฟู้ฟ่า ช็อปปิ้งตลอด เขาก็ไม่เคยว่าเลย ว่าช็อปทำไมนักหนา คือตามใจตลอดเวลา มีของขวัญพิเศษทุกเทศกาล ไม่ขาดตกบบกพร่อง เขาให้เกียรติเราตลอด ไม่เคยพูดจาทวงบุญคุณ ว่าเป็นคนเลี้ยงดูเราแล้วจะมาทำตัวเป็นเจ้าชีวิต ไม่เคยทำเลย เวลาทะเลาะกันเขาเป็นฝ่ายง้อเราตลอดแม้กระทั่งบางครั้งเขาไม่ผิดแต่เขาก็ง้อเราได้ และเพื่อนเขาทุกคนก็ชอบเรามากๆ แต่แค่เขากลัวมากที่จะต้องมาทุ่มเทอะไรให้กับครอบครัวเรา แต่ถ้ากับตัวเราเองเขาเต็มที เขาให้เราอยู่คอนโดที่กรุงเทพ ให้รถยนต์เราใช้ ถึงแม้ว่าจะมิใช่ชื่อเราแต่เราก็ใช้มากกว่าเขาสะอีก แถมเวลาเขาไม่อยู่เราก็คอยไปรับไปส่งครอบครัวอยากไปไหนทำอะไรก็ใช้รถแฟน บางครั้งเราไม่ว่างเราก็ให้ครอบครัวเรายืมรถแฟนเราไปขับด้วยซ้ำ (แอบให้เพราะแฟนไม่โอเคที่จะให้คนอื่นใช้รถนอกจากเราเท่านั้น)  พอมาถึงจุดนี้ เราเครียดมาก เราอยากเลือกที่จะแต่งกับแฟนมากๆแต่ก็กลัวมีปัญหากับครอบครัวเพราะ ครอบครัวคิดว่าแฟนเราไม่ดีสำหรับเรา เราน่าจะหาได้ดีกว่านี้ แต่สำหรับเราแค่นี้เราก็ว่าดีแล้วนะ และอีกเรื่องก็หนี้ไม่พ้นเรื่องสินสอดทองหมั่นอีก ถ้าขอให้เขามาให้ค่าสินสอดแม่เรา สักแสนสองแสน เราก็กลัวว่าเขาก็จะไม่โอเคอีกหรือถ้าให้ก็กลัวแม่เราคิดว่าน้อยไปเพราะแม่เราก็ไม่ได้เรียกร้องว่าจะต้องเท่าไหร่  แต่เขายินดีมากๆที่จะจัดงานแต่งงานระหว่างเรากับเขาแบบดีๆ คือตอนนี้เครียดมาก เพราะเราเป็นคนตรงกลาง ชีวิตเรามีความสุขดี แต่ลำบากใจก็เพราะ คนสองคนที่เรารัก เขาเข้ากันไม่ได้เนี่ยละค่ะ อยากได้ไอเดีย จากทุกๆท่าน เพื่อหาทางออกและไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตนะค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่