ทะเลาะกับแม่แฟน แต่แฟนดีกับเรามากควรทำยังไงกับเรื่องนี้ดีคะ?

เรื่องมีอยู่ว่าเรากับแฟนคบกันมา 4 ปีแล้วค่ะ ก่อนหน้านี้ก็ใช้ชีวิตปกติค่ะไม่ได้ทะเลาะกับแม่แฟน ซึ่งเรากับแฟนก็วางแผนจะแต่งงานกันค่ะและก็มีการคุยเรื่องสินสอดกันคร่าวๆแล้ว และเรื่องสินสอดเราก็คุยกับแม่เราตลอดซึ่งแม่เราก็บอกว่าสินสอดหลังหักค่าใช้จ่ายในการจัดงานแล้วจะคืนให้ลูกทั้งหมด ซึ่งเรื่องนี้เราบอกแฟนและแม่แฟนตลอดค่ะไม่เก็บไว้เพราะเราเป็นลูกคนเดียว(แม่บอกว่าเก็บไว้ถ้าไม่ให้เราก็ต้องให้หลานเลยจะคืนให้เราไว้ทำทุนกับแฟนค่ะ) แฟนเรามีธุรกิจส่วนตัวนะคะ ก็ถือว่ามีฐานะในระดับนึง ส่วนบ้านเราแม่เราเปิดร้านขายของค่ะ พ่อเป็นพนักงานบริษัท ส่วนเราขายออนไลน์ค่ะ ฐานะบ้านเราค่อนข้างกลางๆค่ะ ไม่ได้ร่ำรวย แต่ไม่ได้มีหนี้สิน อยู่มาวันหนึ่งค่ะ แม่ของแฟนเราไปคุยกับแม่เราว่าจะเอาสินสอดเท่าไหร่ แม่เราเลยบอกว่าเอาเท่าไหร่ก็คืนให้ลุกอยู่ดี ไม่ได้อยากเก็บไว้ แค่อยากแต่งเอาตามประเพณี(บ้านเราประเพณีคนอีสาน) แม่เราเลยเรียกค่าสินสอดอยู่ที่ 5แสน กับทองอีก 5บาท แม่แฟนเลยบอหว่าถ้าอยากให้แต่งกันเร็วๆให้แม่เราจ่ายค่าสินสอดใส่2 แสน ส่วนแม่แฟนจะออกส่วนที่เหลือ ทีนี้แม่เราเลยมาถามเราว่าจะเอาไง ถ้าให้แม่ออก แม่ไม่ได้ติดอะไร ออกได้ ตอนนั้นยอมรับค่ะว่าน้อยใจมาก ทั้งๆที่เราบอกมาตลอดว่าแม่เราไม่เคยจะเอาค่าสินสอด แต่ทำไมเค้าถึงมาพูดแบบนี้ กลัวบ้านเราจะไม่คืนให้หรอ ลืมเล่าค่ะว่าก่อนหน้านี้เวลาแม่แฟนเรานั่งรถมากับแฟนเราจะไม่เคยเปิดกระจกหรือลงจากรถมาทักทายแม่เราเลยค่ะ โดยแฟนเราบอกว่าแม่ขี้อาย ซึ่งเราก็แก้ต่างกับแม่ตลอด จนเกิดเรื่องนี้ขึ้นค่ะ เราเลยคิดว่าเค้าอาจจะไม่อยากได้เรารึป่าว เราเลยเลือกที่ถอยออกมาจากแฟนค่ะ และบอกแฟนว่าเหตุผลเพราะอะไร แฟนก็เลยไปบอกแม่ และแม่ก็โทรมาหาเรา แต่เราไม่รับค่ะ ตอนนั้นยอมรับว่าโกรธมาก น้อยใจ แต่แฟนเราไม่ยอมเลิกค่ะ ปัญหาที่ตามมาหลังจากนั้นคือ แม่แฟนโกรธที่เราไม่รับโทรศัพท์แก กลายเป็นเกลียดเราไปเลยค่ะ แต่แฟนเราก็ยังยืนยันที่จะไม่เลิกเพราะเค้ามองว่าปัญหามันเล็กมาก  มันแก้ไขกันได้ แต่แม่แฟนเราไม่ยอมค่ะยังยืนยันว่าไม่ให้เราแต่งงานกัน และก็พูดจากระแทก-ดันเราตลอด หาเรื่องว่าให้เรา เพื่อให้เรากับแฟนทะเลาะกัน แต่เราก็พยามยามอดทนค่ะ เพราะแฟนก็ดีกับเรา แต่ปัญหาคือตอนนี้แฟนเราไม่ได้มีปัญหาอะไรเรื่องจะแต่งงาน (จริงๆไม่ได้มีปัญหาตั้งแต่ทีแรกแต่แม่แฟนไม่ยอม) แต่เราแต่งกันไม่ได้เพราะแม่แฟนไม่ยอม เราก็สงสารแฟนจนบางทีอยากเลิกใก้เค้าเริ่มต้นชีวิตใหม่ แค่เค้าบอกว่าไม่เคยคิดจะเลิกกับเรา เราควรหาทางออกเรื่องนี้ยังไงดีคะ ตอนนี้เครียดมากเพราะแม่แฟนคือหาเรื่องว่าให้เราตลอด
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
อ่านแล้วเป็นบทเรียนมาก

เรื่องสินสอดมันมีปัญหาจริงๆ แต่ปัญหาหลักๆมันมาจากการที่ ‘คุณคิดไปเอง’ ค่ะ
การที่ญาติฝ่ายชายจะขอลดค่าสินสอดบ้าง เราว่ามันเป็นเรื่องปกตินะคะ
แล้วในกรณีนี้แม่ฝ่ายชายบอกว่าถ้าอยากให้แต่งกันเร็วๆ ให้ทางฝั่งคุณช่วยออก
ซึ่งมันก็ตรงตัวเพราะการเก็บเงิน 500,000 ฝ่ายเดียว มันก็ต้องใช้เวลานานกว่าเก็บ 300,000 อยู่แล้ว ถ้าฝั่งคุณรับปากว่าช่วยได้ก็จะได้แต่งกันไปเลย ไม่ต้องรอเก็บต่อ เพราะยังไงก็ต้องคืนเงินหมดอยู่แล้ว
แต่คุณเล่นเอาจิตไปปรุงแต่งเยอะมาก เค้าทำแบบนี้ เค้าไม่ไว้ใจบ้านเราหรอ กลัวเราไม่คืนหรอ เค้าไม่อยากได้เราเป็นสะใภ้รึเปล่า
มโนเป็นตุเป็นตะ คิดเองเออเองจนเรื่องมันแย่ลง ทั้งๆที่ความจริงแม่ฝ่ายชายอาจจะไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้นก็ได้

คราวนี้แม่ฝ่ายชายคงเห็นแล้วแหละ ว่าอาจมีการเข้าใจผิด เลยจะโทรมาคุย ปรับความเข้าใจ หาทางแก้ปัญหา (อันนี้เดาแบบแง่ผู้ใหญ่นะคะ ความจริงเค้าอาจจะโทรมาด่าก็ได้ 5555555) แต่คุณทำตัวเหมือนเด็ก งอนก็หนี ไม่คุย ไม่รับโทรศัพท์ (ประหนึ่งว่าตัวเองเป็นเด็กม.3ที่ทะเลาะกับเพื่อนสาวข้างบ้าน)
แถมไปบอกเลิกแฟนอีก อะไรก็ไม่รู้ รุงรัง ใหญ่โตมาก (เพราะมโนไปเองล้วนๆ)

ถ้าเป็นเราเป็นแม่เค้า เราก็โกรธ คนที่จะแต่งงานกับลูกชายฉันมีวิธีคิด วิธีการแก้ปัญหาแบบนี้หรอ
ไม่ได้ดั่งใจก็งอน ก็หนี แทนที่จะมาคุยกันให้รู้เรื่อง ก่อนแต่งยังขนาดนี้ แต่งกันไปจะขนาดไหน คงไม่เห็นหัวกันเลยมั้ง

แล้วนอกจากคุณจะมีปัญหากับแม่ฝ่ายชายแล้ว นี่ยังจะทำให้แม่คุณกับแม่ฝ่ายชายเข้าหน้ากันไม่ติดด้วย
ลองนึกภาพถ้าเค้าไปมโนแบบที่คุณทำบ้างว่า ‘ฝ่ายหญิงหน้าเงินมาก ให้ช่วยออก 200,000 ก็ทำสะบัดสะบิ้ง ไม่ยอมแต่งอีก’ จะว่าไง ?
เรื่องมันเกิดเพราะตัวกลางอย่างคุณแท้ๆ ทำอะไรขี้ใจน้อยเกิน หากทำใจแข็งคุยกันให้รู้เรื่องแต่แรก เรื่องคงไม่เรื้อรังขนาดนี้

ทางเดียวที่ทำได้คือไปขอโทษค่ะ ขอโทษที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม ไม่เคารพผู้หลักผู้ใหญ่
น้อมรับผิด คราวหลังจะปรับปรุงตัวเอง
แต่ดูทรงแล้วคงยาก ผู้ใหญ่บางคนเค้าไม่ได้งอนง่าย หายเร็วเหมือนเด็กๆ เจออะไรแบบนี้จำจนตาย เอามาพูดไม่จบไม่สิ้นแน่นอน

ป.ล. ขอบคุณที่แชร์เรื่องนี้ค่ะ สอนใจเราเหมือนกัน
จริงๆเราก็นิสัยขี้งอนแบบนี้แหละ พอได้มามองในมุมคนนอกเลยรู้ว่ามันไม่เหมาะสมจริงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่