สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
อ่านแล้วเป็นบทเรียนมาก
เรื่องสินสอดมันมีปัญหาจริงๆ แต่ปัญหาหลักๆมันมาจากการที่ ‘คุณคิดไปเอง’ ค่ะ
การที่ญาติฝ่ายชายจะขอลดค่าสินสอดบ้าง เราว่ามันเป็นเรื่องปกตินะคะ
แล้วในกรณีนี้แม่ฝ่ายชายบอกว่าถ้าอยากให้แต่งกันเร็วๆ ให้ทางฝั่งคุณช่วยออก
ซึ่งมันก็ตรงตัวเพราะการเก็บเงิน 500,000 ฝ่ายเดียว มันก็ต้องใช้เวลานานกว่าเก็บ 300,000 อยู่แล้ว ถ้าฝั่งคุณรับปากว่าช่วยได้ก็จะได้แต่งกันไปเลย ไม่ต้องรอเก็บต่อ เพราะยังไงก็ต้องคืนเงินหมดอยู่แล้ว
แต่คุณเล่นเอาจิตไปปรุงแต่งเยอะมาก เค้าทำแบบนี้ เค้าไม่ไว้ใจบ้านเราหรอ กลัวเราไม่คืนหรอ เค้าไม่อยากได้เราเป็นสะใภ้รึเปล่า
มโนเป็นตุเป็นตะ คิดเองเออเองจนเรื่องมันแย่ลง ทั้งๆที่ความจริงแม่ฝ่ายชายอาจจะไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้นก็ได้
คราวนี้แม่ฝ่ายชายคงเห็นแล้วแหละ ว่าอาจมีการเข้าใจผิด เลยจะโทรมาคุย ปรับความเข้าใจ หาทางแก้ปัญหา (อันนี้เดาแบบแง่ผู้ใหญ่นะคะ ความจริงเค้าอาจจะโทรมาด่าก็ได้ 5555555) แต่คุณทำตัวเหมือนเด็ก งอนก็หนี ไม่คุย ไม่รับโทรศัพท์ (ประหนึ่งว่าตัวเองเป็นเด็กม.3ที่ทะเลาะกับเพื่อนสาวข้างบ้าน)
แถมไปบอกเลิกแฟนอีก อะไรก็ไม่รู้ รุงรัง ใหญ่โตมาก (เพราะมโนไปเองล้วนๆ)
ถ้าเป็นเราเป็นแม่เค้า เราก็โกรธ คนที่จะแต่งงานกับลูกชายฉันมีวิธีคิด วิธีการแก้ปัญหาแบบนี้หรอ
ไม่ได้ดั่งใจก็งอน ก็หนี แทนที่จะมาคุยกันให้รู้เรื่อง ก่อนแต่งยังขนาดนี้ แต่งกันไปจะขนาดไหน คงไม่เห็นหัวกันเลยมั้ง
แล้วนอกจากคุณจะมีปัญหากับแม่ฝ่ายชายแล้ว นี่ยังจะทำให้แม่คุณกับแม่ฝ่ายชายเข้าหน้ากันไม่ติดด้วย
ลองนึกภาพถ้าเค้าไปมโนแบบที่คุณทำบ้างว่า ‘ฝ่ายหญิงหน้าเงินมาก ให้ช่วยออก 200,000 ก็ทำสะบัดสะบิ้ง ไม่ยอมแต่งอีก’ จะว่าไง ?
เรื่องมันเกิดเพราะตัวกลางอย่างคุณแท้ๆ ทำอะไรขี้ใจน้อยเกิน หากทำใจแข็งคุยกันให้รู้เรื่องแต่แรก เรื่องคงไม่เรื้อรังขนาดนี้
ทางเดียวที่ทำได้คือไปขอโทษค่ะ ขอโทษที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม ไม่เคารพผู้หลักผู้ใหญ่
น้อมรับผิด คราวหลังจะปรับปรุงตัวเอง
แต่ดูทรงแล้วคงยาก ผู้ใหญ่บางคนเค้าไม่ได้งอนง่าย หายเร็วเหมือนเด็กๆ เจออะไรแบบนี้จำจนตาย เอามาพูดไม่จบไม่สิ้นแน่นอน
ป.ล. ขอบคุณที่แชร์เรื่องนี้ค่ะ สอนใจเราเหมือนกัน
จริงๆเราก็นิสัยขี้งอนแบบนี้แหละ พอได้มามองในมุมคนนอกเลยรู้ว่ามันไม่เหมาะสมจริงๆ
เรื่องสินสอดมันมีปัญหาจริงๆ แต่ปัญหาหลักๆมันมาจากการที่ ‘คุณคิดไปเอง’ ค่ะ
การที่ญาติฝ่ายชายจะขอลดค่าสินสอดบ้าง เราว่ามันเป็นเรื่องปกตินะคะ
แล้วในกรณีนี้แม่ฝ่ายชายบอกว่าถ้าอยากให้แต่งกันเร็วๆ ให้ทางฝั่งคุณช่วยออก
ซึ่งมันก็ตรงตัวเพราะการเก็บเงิน 500,000 ฝ่ายเดียว มันก็ต้องใช้เวลานานกว่าเก็บ 300,000 อยู่แล้ว ถ้าฝั่งคุณรับปากว่าช่วยได้ก็จะได้แต่งกันไปเลย ไม่ต้องรอเก็บต่อ เพราะยังไงก็ต้องคืนเงินหมดอยู่แล้ว
แต่คุณเล่นเอาจิตไปปรุงแต่งเยอะมาก เค้าทำแบบนี้ เค้าไม่ไว้ใจบ้านเราหรอ กลัวเราไม่คืนหรอ เค้าไม่อยากได้เราเป็นสะใภ้รึเปล่า
มโนเป็นตุเป็นตะ คิดเองเออเองจนเรื่องมันแย่ลง ทั้งๆที่ความจริงแม่ฝ่ายชายอาจจะไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้นก็ได้
คราวนี้แม่ฝ่ายชายคงเห็นแล้วแหละ ว่าอาจมีการเข้าใจผิด เลยจะโทรมาคุย ปรับความเข้าใจ หาทางแก้ปัญหา (อันนี้เดาแบบแง่ผู้ใหญ่นะคะ ความจริงเค้าอาจจะโทรมาด่าก็ได้ 5555555) แต่คุณทำตัวเหมือนเด็ก งอนก็หนี ไม่คุย ไม่รับโทรศัพท์ (ประหนึ่งว่าตัวเองเป็นเด็กม.3ที่ทะเลาะกับเพื่อนสาวข้างบ้าน)
แถมไปบอกเลิกแฟนอีก อะไรก็ไม่รู้ รุงรัง ใหญ่โตมาก (เพราะมโนไปเองล้วนๆ)
ถ้าเป็นเราเป็นแม่เค้า เราก็โกรธ คนที่จะแต่งงานกับลูกชายฉันมีวิธีคิด วิธีการแก้ปัญหาแบบนี้หรอ
ไม่ได้ดั่งใจก็งอน ก็หนี แทนที่จะมาคุยกันให้รู้เรื่อง ก่อนแต่งยังขนาดนี้ แต่งกันไปจะขนาดไหน คงไม่เห็นหัวกันเลยมั้ง
แล้วนอกจากคุณจะมีปัญหากับแม่ฝ่ายชายแล้ว นี่ยังจะทำให้แม่คุณกับแม่ฝ่ายชายเข้าหน้ากันไม่ติดด้วย
ลองนึกภาพถ้าเค้าไปมโนแบบที่คุณทำบ้างว่า ‘ฝ่ายหญิงหน้าเงินมาก ให้ช่วยออก 200,000 ก็ทำสะบัดสะบิ้ง ไม่ยอมแต่งอีก’ จะว่าไง ?
เรื่องมันเกิดเพราะตัวกลางอย่างคุณแท้ๆ ทำอะไรขี้ใจน้อยเกิน หากทำใจแข็งคุยกันให้รู้เรื่องแต่แรก เรื่องคงไม่เรื้อรังขนาดนี้
ทางเดียวที่ทำได้คือไปขอโทษค่ะ ขอโทษที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม ไม่เคารพผู้หลักผู้ใหญ่
น้อมรับผิด คราวหลังจะปรับปรุงตัวเอง
แต่ดูทรงแล้วคงยาก ผู้ใหญ่บางคนเค้าไม่ได้งอนง่าย หายเร็วเหมือนเด็กๆ เจออะไรแบบนี้จำจนตาย เอามาพูดไม่จบไม่สิ้นแน่นอน
ป.ล. ขอบคุณที่แชร์เรื่องนี้ค่ะ สอนใจเราเหมือนกัน
จริงๆเราก็นิสัยขี้งอนแบบนี้แหละ พอได้มามองในมุมคนนอกเลยรู้ว่ามันไม่เหมาะสมจริงๆ
แสดงความคิดเห็น
ทะเลาะกับแม่แฟน แต่แฟนดีกับเรามากควรทำยังไงกับเรื่องนี้ดีคะ?