อารมณ์มีผลกับชีวิตของเรามากไหม
ในคนที่สามารถแยกความรู้สึกออกจากเหตุผลได้ชัดเจน อารมณ์อาจไม่มีผลกับชีวิตมาก
คนๆนั้นเป็นคนที่โชคดีมากที่มีความสามารถนี้
ในขณะที่หลายๆคน รวมถึงผม บ่อยครั้งที่อารมณ์มันส่งผลชัดเจน
เคยหงุดหงิดจนเราพูดไม่ดีกับคนที่เราแคร์ไหมครับ
เราอาจลืมประโยคนั้นได้ แต่เขาอาจจะไม่ลืมเลยตลอดชีวิต
นี่แค่การพูดคุยเล็กๆน้อยๆ
ถ้าเป็นการตัดสินใจเรื่องใหญ่ เช่น การเลือกงาน หรือการลงทุนธุรกิจ
มันจะมีผลกับชีวิตเราขนาดไหน ถ้าเรายังปล่อยให้อารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง
ในวงการแพทย์ที่ผมทำงานอยู่ องค์กรระดับโลกเขามีการเก็บข้อมูล ดูว่าโรคอะไรที่ทำความเสียหายให้กับชีวิตผู้คนทั่วโลกมากที่สุด
ลองทายดูว่าโรคซึมเศร้าได้อันดับที่เท่าไรครับ
ผมเองมีเพื่อนคนหนึ่งที่ตอนเรียนเป็นที่ 1 ของห้อง แต่ว่าปัจจุบันไม่สามารถทำงานอย่างที่เขาควรได้ทำ เพราะว่าโรคซึมเศร้าทำให้ทานยาล้างห้องน้ำเพื่อจะฆ่าตัวตาย
โชคดีที่เขารอดพ้นมาได้
แต่ผลจากยาล้างห้องน้ำ ทำให้หลอดอาการเกิดพังผืด ไม่สามารถกลืนอาหารได้
ต้องต่อท่อสายยาง ให้อาหารทางหน้าท้องไปตลอด
หรือตามหนังสือพิมพ์ที่ เด็ก หรือหัวหน้าครอบครัว ที่ออกจากวังวนโรคนี้ไม่ได้ จบชีวิตลงด้วยการฆ่าตัวตาย ครอบครัวที่เหลืออยู่ก็ขาดที่พึ่งในอนาคต
โรคซึมเศร้า เป็นโรคที่ทำความเสียหายให้กับผู้คนทั่วโลก เป็นอันดับ 2 ครับ
เมื่อรู้ว่าโรคซึมเศร้า สามารถทำปัญหาได้มากขนาดนี้
สิ่งสำคัญที่สุดคือ การรู้ตัวและจัดการให้เร็ว ก่อนที่ความซึมเศร้า จะกลายเป็น โรคซึมเศร้าครับ
คำถามคือเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรา หรือคนใกล่ตัวคนไหนเข้าข่ายซึมเศร้า
ผมมีมีคู่มือง่ายๆ เป็นคำถามสั้นๆ 2 ชุด ที่หมอใช้จริงในการประเมินคนไข้ที่มีความซึมเศร้า ว่ารุนแรงพอจะเป็น โรคซึมเศร้าไหม
คำถามคัดกรอง 2 คำถามนี้ เพื่อดูว่ามีความซึมเศร้าหรือไม่ครับ
ถ้าตอบ ใช่ เพียง 1 ข้อขึ้นไป ให้ทำชุดต่อไป เพื่อประเมินละเอียดขึ้น
ถ้า ไม่ใช่ ทั้ง 2 ข้อ ก็แสดงว่าไม่น่าจะเป็นโรคซึมเศร้าครับ
-2สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ มีความรู้สึกหดหู่ เศร้า ท้อแท้ หรือ สิ้นหวัง
-2สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ รู้สึกเบื่อ หรือทำอะไรก็ไม่เพลิดเพลิน
คำถามชุดต่อมา เพื่อประเมินความซึมเศร้า ว่ามีความรุนแรงถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้าไหม
ถ้าได้มากกว่า > 7 แสดงว่ามีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้า
ทำอย่างไรต่อดี
สิ่งที่สำคัญที่น่าลองทำดูคือ
การมองดูจิตใจตัวเองครับ
ทำไมเราถึงคิดแบบนี้ เพราะอะไร
แล้วสิ่งนั้นเป็นความจริง จริงๆหรือ
ค่อยๆสาวไปถึงต้นตอของอารมณ์
เพราะส่วนใหญ่ของโรคซึมเศร้า เกิดจากความเข้าใจผิด จุดๆเล็กๆในความคิด
ถ้าหาจุดนั้นเจอ ทุกอย่างอาจจะคลายได้เกือบหมด
ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมของตัวเอง
ออกไปเจอผู้คนใหม่ๆ สถานที่ใหม่ๆ
เปิดกล่องให้กับตัวเอง
แม้แต่พระพุทธเจ้าเอง ก็ตรัสรู้ด้วยวิธีแบบนี้
วิธีนี้ทางตะวันตกเขาเรียกว่า Cognitive behavioral therapy ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าได้ผลดีมาก
สุดท้ายแล้วถ้าไม่ไหว ก็อย่าฝืนนะครับ จิตแพทย์ช่วยได้จริงๆ ประเทศอย่างอเมริกาจิตแพทย์เป็นสิ่งจำเป็นมากๆเลย
สุดท้ายอยากให้ทุกคนเข้าใจว่า โรคซึมเศร้า เป็น "โรค" จริงๆครับ ที่เกิดจาก ระบบสารเคมีในสมองทำงานไม่ปกติ ตัวคนไข้ไม่ได้มีจิตใจอ่อนแอ หรือเป็นโรคทำตัวเองอย่างที่สังคมคิดกัน
ความเข้าใจจากคนรอบข้างเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่คนไข้จะมีกำลังใจเอาชนะโรคนี้ได้
พระท่านว่า จิตเป็นนายกายเป็นบ่าว
ขอให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผมเป็นหมอครับ กำลังทำเพจเกี่ยวกับสุขภาพแบบง่ายๆ Facebook :
https://www.facebook.com/qiniccom/
หากเห็นว่ามีประโยชน์ ฝากแชร์ให้คนใกล้ตัวด้วยนะครับ : )
ซึมเศร้า อย่าปล่อยไว้นาน ... วิธีจัดการและมุมมองใหม่
อารมณ์มีผลกับชีวิตของเรามากไหม
ในคนที่สามารถแยกความรู้สึกออกจากเหตุผลได้ชัดเจน อารมณ์อาจไม่มีผลกับชีวิตมาก
คนๆนั้นเป็นคนที่โชคดีมากที่มีความสามารถนี้
ในขณะที่หลายๆคน รวมถึงผม บ่อยครั้งที่อารมณ์มันส่งผลชัดเจน
เคยหงุดหงิดจนเราพูดไม่ดีกับคนที่เราแคร์ไหมครับ
เราอาจลืมประโยคนั้นได้ แต่เขาอาจจะไม่ลืมเลยตลอดชีวิต
นี่แค่การพูดคุยเล็กๆน้อยๆ
ถ้าเป็นการตัดสินใจเรื่องใหญ่ เช่น การเลือกงาน หรือการลงทุนธุรกิจ
มันจะมีผลกับชีวิตเราขนาดไหน ถ้าเรายังปล่อยให้อารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง
ในวงการแพทย์ที่ผมทำงานอยู่ องค์กรระดับโลกเขามีการเก็บข้อมูล ดูว่าโรคอะไรที่ทำความเสียหายให้กับชีวิตผู้คนทั่วโลกมากที่สุด
ลองทายดูว่าโรคซึมเศร้าได้อันดับที่เท่าไรครับ
ผมเองมีเพื่อนคนหนึ่งที่ตอนเรียนเป็นที่ 1 ของห้อง แต่ว่าปัจจุบันไม่สามารถทำงานอย่างที่เขาควรได้ทำ เพราะว่าโรคซึมเศร้าทำให้ทานยาล้างห้องน้ำเพื่อจะฆ่าตัวตาย
โชคดีที่เขารอดพ้นมาได้
แต่ผลจากยาล้างห้องน้ำ ทำให้หลอดอาการเกิดพังผืด ไม่สามารถกลืนอาหารได้
ต้องต่อท่อสายยาง ให้อาหารทางหน้าท้องไปตลอด
หรือตามหนังสือพิมพ์ที่ เด็ก หรือหัวหน้าครอบครัว ที่ออกจากวังวนโรคนี้ไม่ได้ จบชีวิตลงด้วยการฆ่าตัวตาย ครอบครัวที่เหลืออยู่ก็ขาดที่พึ่งในอนาคต
โรคซึมเศร้า เป็นโรคที่ทำความเสียหายให้กับผู้คนทั่วโลก เป็นอันดับ 2 ครับ
เมื่อรู้ว่าโรคซึมเศร้า สามารถทำปัญหาได้มากขนาดนี้
สิ่งสำคัญที่สุดคือ การรู้ตัวและจัดการให้เร็ว ก่อนที่ความซึมเศร้า จะกลายเป็น โรคซึมเศร้าครับ
คำถามคือเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรา หรือคนใกล่ตัวคนไหนเข้าข่ายซึมเศร้า
ผมมีมีคู่มือง่ายๆ เป็นคำถามสั้นๆ 2 ชุด ที่หมอใช้จริงในการประเมินคนไข้ที่มีความซึมเศร้า ว่ารุนแรงพอจะเป็น โรคซึมเศร้าไหม
คำถามคัดกรอง 2 คำถามนี้ เพื่อดูว่ามีความซึมเศร้าหรือไม่ครับ
ถ้าตอบ ใช่ เพียง 1 ข้อขึ้นไป ให้ทำชุดต่อไป เพื่อประเมินละเอียดขึ้น
ถ้า ไม่ใช่ ทั้ง 2 ข้อ ก็แสดงว่าไม่น่าจะเป็นโรคซึมเศร้าครับ
-2สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ มีความรู้สึกหดหู่ เศร้า ท้อแท้ หรือ สิ้นหวัง
-2สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ รู้สึกเบื่อ หรือทำอะไรก็ไม่เพลิดเพลิน
คำถามชุดต่อมา เพื่อประเมินความซึมเศร้า ว่ามีความรุนแรงถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้าไหม
ถ้าได้มากกว่า > 7 แสดงว่ามีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้า
ทำอย่างไรต่อดี
สิ่งที่สำคัญที่น่าลองทำดูคือ
การมองดูจิตใจตัวเองครับ
ทำไมเราถึงคิดแบบนี้ เพราะอะไร
แล้วสิ่งนั้นเป็นความจริง จริงๆหรือ
ค่อยๆสาวไปถึงต้นตอของอารมณ์
เพราะส่วนใหญ่ของโรคซึมเศร้า เกิดจากความเข้าใจผิด จุดๆเล็กๆในความคิด
ถ้าหาจุดนั้นเจอ ทุกอย่างอาจจะคลายได้เกือบหมด
ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมของตัวเอง
ออกไปเจอผู้คนใหม่ๆ สถานที่ใหม่ๆ
เปิดกล่องให้กับตัวเอง
แม้แต่พระพุทธเจ้าเอง ก็ตรัสรู้ด้วยวิธีแบบนี้
วิธีนี้ทางตะวันตกเขาเรียกว่า Cognitive behavioral therapy ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าได้ผลดีมาก
สุดท้ายแล้วถ้าไม่ไหว ก็อย่าฝืนนะครับ จิตแพทย์ช่วยได้จริงๆ ประเทศอย่างอเมริกาจิตแพทย์เป็นสิ่งจำเป็นมากๆเลย
สุดท้ายอยากให้ทุกคนเข้าใจว่า โรคซึมเศร้า เป็น "โรค" จริงๆครับ ที่เกิดจาก ระบบสารเคมีในสมองทำงานไม่ปกติ ตัวคนไข้ไม่ได้มีจิตใจอ่อนแอ หรือเป็นโรคทำตัวเองอย่างที่สังคมคิดกัน
ความเข้าใจจากคนรอบข้างเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่คนไข้จะมีกำลังใจเอาชนะโรคนี้ได้
พระท่านว่า จิตเป็นนายกายเป็นบ่าว
ขอให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผมเป็นหมอครับ กำลังทำเพจเกี่ยวกับสุขภาพแบบง่ายๆ Facebook : https://www.facebook.com/qiniccom/
หากเห็นว่ามีประโยชน์ ฝากแชร์ให้คนใกล้ตัวด้วยนะครับ : )