แทบไม่น่าเชื่อว่าตัวอักษรและสระที่มีอยู่ไม่เกินร้อยตัว เมื่อนำมาเรียงร้อยกันอย่างบรรจงเพื่อจุดประสงค์ใดจุดประสงค์หนึ่ง มันมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของมนุษย์ได้เป็นอย่างสูง บทกลอน บทประพันธ์ บทความ ฯลฯ เหล่านี้ล้วนเป็นได้ทั้ง ”ยารักษา”สุขภาพจิต พร้อมกับเป็น “ยาพิษ” สมาชิกพันทิปตกหลุมรักกันผ่านตัวอักษรก็มีให้เห็น ฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาลก็ปรากฏ ว่าไปทำไมมี... จิวยี่ผู้ผ่านสมรภูมิมาหลายครั้ง โดนเกาทัณฑ์อาบยาพิษของตันเกียวยังรอดชีวิตมาได้ ท้ายที่สุดต้องมากระอักเลือดตายด้วยถ้อยอักษรบนกระดาษเพียงแผ่นเดียวของขงเบ้ง.......
สังคมมนุษย์ปัจจุบันนับวันก็ยิ่งจะใช้เวลาบนโลกเสมือนมากขึ้นไปเรื่อยๆ....น้ำเสียง สีหน้า ท่าทาง และแววตาไม่ได้สำคัญหรือแทบจะไม่ได้เป็นองค์ประกอบของการสื่อสารในโซเชียลอีกต่อไป การตีความหมายจากตัวอักษรบนโลกโซเซียลมีเดียเวปบอร์ดอย่างพันทิปหรืออื่นๆ จึงมีแนวโน้มของการคลาดเคลื่อน กำกวม เข้าใจผิดสูงมาก
ขอยอมรับโดยดุษฏีว่า แทบทุกครั้งหลังจากที่โลดแล่นในโลกโซเชี่ยลและปิดคอมพ์ไปแล้ว ความรู้สึกไม่ได้ชัตดาวน์ตามเลย แต่จะค่อยๆ เฟดไปตามแต่สถานการณ์ ผมไม่แปลกใจหรอก....ว่าทำไมสมาชิกบางท่านถึงบึ้งตึ้งใส่กัน ไม่แปลกใจว่าทำไมบางท่านถึงหอบหิ้วอารมณ์จากกระทู้หนึ่งไปอีกกระทู้หนึ่ง(ทั้งๆ ที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อหา แต่เป็น “ตัวบุคคล” มากกว่า) ไม่แปลกใจว่าทำ บางท่านลาบอรด์แล้ว แต่ก็ย้อนกลับมาในภายหลัง และต่างๆ อีกมากมาย ....เหล่านี้แหละคือ “อารมณ์และความรู้สึก” ที่ปิดไม่ลง
หลายปีมาแล้ว...ผมพยายามจะ “หักดิบ” กับอารมณ์และความรู้สึกตรงนี้ ขอคืนสมาชิกภาพให้กับพันทิปที่ใช้มานาน ...ว่างเว้นไปเกือบสองปีกว่า......นึกว่าตัวเองเป็นอิสระแล้ว.....เกิดเหตุการณ์ปฏิวัติก็เลยต้องกลับมา(โทษการปฏิวัติเฉยเลย555) พุ่งตรงมาที่ห้องราชฯ เลย
จะว่าไปแล้ว....การใช้ชีวิตใน “สองโลก” (ให้ถูกวิธี)นั้นก็ดีไปอย่าง วันไหนที่โลกเป็นจริงมันโหดร้าย เราก็หลบมาพักใจในโลกเสมือนเสีย วันไหนที่โลกเสมือนมันโหดร้าย ก็เข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริง.......แต่ถ้าหากวันไหนโลกทั้งสองโลกมันโหดร้าย....อย่าลืมหันหน้าเข้าวัดเด้อ ไปนั่งดูเนตรพระประธานในโบสถ์สักครึ่งชั่วโมง เย็นลงเยอะครับ เอารูปดอกแอปเปิ้ลถ่ายจากที่ทำงานมาฝาก
....ปิดคอมพ์..จบ!! ความรู้สึกใดๆ ในพันทิปหรือโซเชียลมีเดียอื่นๆ จบลงด้วย....อย่างนั้นจริงหรือ??...
สังคมมนุษย์ปัจจุบันนับวันก็ยิ่งจะใช้เวลาบนโลกเสมือนมากขึ้นไปเรื่อยๆ....น้ำเสียง สีหน้า ท่าทาง และแววตาไม่ได้สำคัญหรือแทบจะไม่ได้เป็นองค์ประกอบของการสื่อสารในโซเชียลอีกต่อไป การตีความหมายจากตัวอักษรบนโลกโซเซียลมีเดียเวปบอร์ดอย่างพันทิปหรืออื่นๆ จึงมีแนวโน้มของการคลาดเคลื่อน กำกวม เข้าใจผิดสูงมาก
ขอยอมรับโดยดุษฏีว่า แทบทุกครั้งหลังจากที่โลดแล่นในโลกโซเชี่ยลและปิดคอมพ์ไปแล้ว ความรู้สึกไม่ได้ชัตดาวน์ตามเลย แต่จะค่อยๆ เฟดไปตามแต่สถานการณ์ ผมไม่แปลกใจหรอก....ว่าทำไมสมาชิกบางท่านถึงบึ้งตึ้งใส่กัน ไม่แปลกใจว่าทำไมบางท่านถึงหอบหิ้วอารมณ์จากกระทู้หนึ่งไปอีกกระทู้หนึ่ง(ทั้งๆ ที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อหา แต่เป็น “ตัวบุคคล” มากกว่า) ไม่แปลกใจว่าทำ บางท่านลาบอรด์แล้ว แต่ก็ย้อนกลับมาในภายหลัง และต่างๆ อีกมากมาย ....เหล่านี้แหละคือ “อารมณ์และความรู้สึก” ที่ปิดไม่ลง
หลายปีมาแล้ว...ผมพยายามจะ “หักดิบ” กับอารมณ์และความรู้สึกตรงนี้ ขอคืนสมาชิกภาพให้กับพันทิปที่ใช้มานาน ...ว่างเว้นไปเกือบสองปีกว่า......นึกว่าตัวเองเป็นอิสระแล้ว.....เกิดเหตุการณ์ปฏิวัติก็เลยต้องกลับมา(โทษการปฏิวัติเฉยเลย555) พุ่งตรงมาที่ห้องราชฯ เลย
จะว่าไปแล้ว....การใช้ชีวิตใน “สองโลก” (ให้ถูกวิธี)นั้นก็ดีไปอย่าง วันไหนที่โลกเป็นจริงมันโหดร้าย เราก็หลบมาพักใจในโลกเสมือนเสีย วันไหนที่โลกเสมือนมันโหดร้าย ก็เข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริง.......แต่ถ้าหากวันไหนโลกทั้งสองโลกมันโหดร้าย....อย่าลืมหันหน้าเข้าวัดเด้อ ไปนั่งดูเนตรพระประธานในโบสถ์สักครึ่งชั่วโมง เย็นลงเยอะครับ เอารูปดอกแอปเปิ้ลถ่ายจากที่ทำงานมาฝาก