สวัสดีครับ เนื่องจากเมื่อวันหยุดยาวที่ผ่านมา มีเวลาว่างเลยคิดว่าจะหาที่พักผ่อนท่องเที่ยวสักที่ ที่ไม่ไกล กทม. มากนัก คิดแล้วคิดอีกกลัวเจอมวลมหาประชาชนเที่ยว กลัวราคาที่พักในช่วงวันหยุดยาวๆแบบนี้ แต่ด้วยบังเอิญว่า มีเพื่อนเป็นคนจังหวัดกาญจนบุรี เลยเป็นโอกาสเหมาะ เลยที่จะถือโอกาสไปเที่ยวแถมมีที่พักและยังไกด์พาเที่ยวไปในตัว 555 แต่เราเองก้ไปเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี ค่อนข้างบน ทุกครั้งที่ไปก็ไปแต่น้ำตกๆ รอบนี้เพื่อนบอกว่าจะพาไปที่ๆไม่ใช่น้ำตกดู ไอ้เราก็นั่งนึกว่ามันมีอะไรอีกหรอนอกจากน้ำตก ตัดสินใจเก็บกระเป๋าโดดขึ้นรถไปดู ตามสไตล์การท่องเที่ยวเดิมแบบผมครับ วางแผนมักล่ม ต้องสดๆเอาหน้างานแบบนี้ตลอด 555

ออกจากบ้านมาประมาณเก้าโมงกว่าครับ เลยแวะหาร้านกาแฟเติมพลังแก้ง่วงสักหน่อย เพื่อนเลยพามาร้านรี้เลยครับ เป็นทางผ่าน ของเราอยู่แล้วด้วย ชื่อร้าน Cafecini Cafe ในร้านมีทั้ง เค้าเตอร์บาร์ และโต๊ะให้เลือกนั่งหลายมุมครับทั้งในร้านแอร์เย็นๆหรือจะออกไปนั่งในสวนริมสระก็ได้ กาแฟรสชาติดี ราคาคือว่าทั่วๆไปในราคาร้านกาแฟสดครับ แต่ที่พิเศษร้านนี้คือ ขนมของทางร้านที่ทำเองครับ รสชาติต้องบอกเลยว่า กินเข้าไปคำแรกหันไปถามเพื่อนเลยว่านี้เขาสั่งมาจากร้านเบเกอรี่ ชื่อดังที่ที่เราคุ้นเคยกันหรือป่าว 55555 ร้านนี้อยู่แถว ศาลาธรรมศพธ์
เติมพลังเรียบร้อย มุ่งหน้าต่อ ไปกาญจนบุรี กันเลย ตลอดสองข้างทางบอกเลยว่าได้บรรยากาศความเป็นธรรมชาติมากๆต้นไม้ ภูเขา เต็มสองข้างทาง
มาถึงตัวเมืองกาญจนบุรีเที่ยงพอดีเลยแวะมาหาไรทานกันก่อนแถวๆบริเวณท่าแพลาก แม่น้ำแคว ซึ่งแถวๆนั้นมีร้านก๋วยเตี๋ยวเรือขึ้นชื่อเยอกมากรสชาติดุเด็ดเผ็ดดีครับ555 แถมมีของหวานดับร้อนดับเผ็ดเป็นร้าน น้ำแข็งใส เจ้าเก่าซึ่งต้องเป็นคนกาญจนบุรีถึงจะรู้จักร้านนี้ครับ เป็นร้านเล็กอยู่ตรงข้ามร้านอาหารลุงแหมะ นอกชาติขนมอร่อยที่ขึ้นชื่อแล้วอรกอย่างที่ใครๆมาร้านนี้ต่างรู้ดีว่าต้องนึกเมนูมาจากทางบ้าน เพราะถ้าสั่งช้าโดนข้ามคิว สั่งผิดโดนแม่ค้าดุ 55555 เป็นเอกลักษณ์เลยครับผมนิ ไม่กล้าสั่งเลย ขอเอาตามเพื่อนเหมือนกัหมดเลย แต่ว่าจริงๆแล้วคุณยายที่เป็นแม่ค้าแกใจดีครับลูกค้าที่มาส่วนมากจะรู้ว่าเป็นแค่วาทะของแกเฉยๆไม่ได้ดุจริงจังอะไร ใครผ่านไปผ่านมาแนะนำเลยครับ รสชาติของน้ำกะทิหอมทั้งใบเตยและกลิ่นไทยๆไม่หวานโดด ทั้งหวานทั้งมัน เครื่องทุกอย่างยายทำเองครับ อร่อยมากๆ ชื่นใจเลยแต่เพื่อนบอกว่าขายดีมากน่ะครับแป็บเดียวหมดใครอยากชิมต้องรีบๆมาหน่อย
เป้าหมายแรกของเรา เขื่อนวชิราลงกรณ์ เป็นเขื่อนกักเก็บน้ำ ที่มีขนาดใหญ่ตั้งอยู่ที่ อำเภอทองผาภูมิ น้ำในเขื่อนเขียวเหมือนน้ำทะเลเลยครับ มีบริการ นั่งเรือชมบรรยากาศในเขื่อนด้วย บังเอิญว่าเรามาถึงช่วง บ่าย3โมง แดดอ่อนๆ มีฝูงลิง น้อยใหญ่ลงมาจากเขามาขออาหารจากนักท่องเที่ยวด้วย
หลังจากเที่ยวถ่ายรูปที่เขื่อนเสร็จ ก็ลงมาพักที่บ้านเพื่อนแถวไทรโยคใหญ่อันี้ไม่มีรูปมาอวดเพราะดูจะไม่เหมาะสมครับ55 โดยเราวางทริปในวันต่อไปไว้ว่าจะเที่ยวตามเส้นทางขากลับเข้า กทม ที่ผ่าน โดยไม่ต้องย้อนขึ้นไป
เช้าวันต่อมาที่แรกเช่นเคยครับ หาร้านกาแฟ555 บังเอิญเมื่อวานผ่านมาร้านนึงหน้า มหาวิทยาลัยมหิคล กาญจนบุรี น่าสนใจ เลยต้องไปลอง
มาถึงร้านบรรยากาศดีครับ ร้านกว้างขวาง ที่สำคัญมีตุ๊กตาขายด้วยส่วนรสชาติกาแฟก็ดีเลยครับใครผ่านไปลองแวะไปนั่งพักนั่งชิมกาแฟดูครับรับรองไม่ผิดหวังอยู่ด้านหน้าทางเข้ามหาวิทยาลัยมหิดล กาญจนบุรีเลย
ที่ต่อไปที่เราจะไปกัน คือ รางรถไฟสายมรณะครับ เพื่อนที่มาเที่ยวเมืองกาญ ลองแวะมาชื่นชมธรรมชาติและวิวสวยๆตรงนี้ได้ครับ
ไปที่ต่อไปเลยดีกว่า
พิพิธพันธุ์ปราสาทเมืองสิงห์ ซึ่งเก็บค่าเข้าชมคนละ 50 บาท เป็นสถานที่ที่รวบรวมวัตถุโบราณ รวมถึง ปราสาทเก่าแก่ อยู่ด้วย เราสามารถเดินเข้าไปเที่ยวชมปราสาทเก่าภายในได้ ในส่วนนี้มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่รอบๆดูร่มรื่นดี
ประทับใจห้องน้ำครับ ดูเท่ดี แต่ข้างในแอบร้อนอยู่55555 ไปๆต่อกันเลย

เขาบอกว่านี้คือแหล่ง เช็คอินที่ใหม่ที่ไม่ควรพลาดอีกหนึ่งที่ กับ ต้นก้ามปูยักษ์ ครับ ทางเข้าอาจดูเป็นไร่ๆนาหรือป่าๆสักหน่อยแต่พอมาถึงแล้ว ก็ต้องบอกว่าใหญ่จริงครับ ใหญ่มากกก
ถ่ายรูปเสร็จ ทางออกไปเราสามารถเลยไปที่วัดถ้ำเสือ เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมไทยจีน ครับ มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่สูงเด่นเห็นแต่ใกล้อยู่บนวัด วึง่การจะขึ้นไปบนวัดนั้น มีสองทาง คือมีรถรางบริการหรือสำหรับใครที่อยากออกแรงก้เดินขึ้นทางบันไดครับ เดินไปนับขั้นบันไดไปเพลินๆ 55555
ด้านบน สามารถมองเห็นวิวรอบๆออกไปได้ไกลครับ สวยงามมากๆ ใครที่มาเที่ยวที่จังหวัดกาญจรบุรี ถือว่าต้องมาที่วัดนี้ให้ได้สักครั้งครับ มาชื่นชมความงามของวัด ได้ทำบุญด้วย
เอาละเที่ยวมาทั้งวันแล้วข้าวก็ยังไม่ได้กินเลย มุ่งหน้าเข้าเส้นทางหลักหาของกินกันดีกว่า 555
หิวท้องมาจนเกือบ 4โมงเย็นฝ่ารถติดมาจนถึง นครปฐมครับ พอดีมีร้านอาหารร้านนึงเป็นเคยมากิน รสชาติดีบรรยาศชิวครับเลยแวะร้านนี้แล้วกัน ถ้ารอถึงกทม คง หมดแรงกลางทางแน่ๆ
ชื่อร้าน ดีมนจัง เป็นร้านอาหารไม่ใหญ่มากแต่ลูกค้าแน่นตลอดครับ มีทั้งส่วนที่ยื่นไปในสระน้ำนั่งห้อยขารับลมเย็ยสบายๆหรือมาช้าก็นั่งในร้านได้ครับ
ใครชอบอาหารรสจัดจ้านไม่ผิดหวังแน่นอนครับ อยู่ด้านหลัง ราชภัฏนครปฐม ข้ามสะพานข้ามคลองชลประทานมาก็จะเห็นครับ
ต้มยำปลาคัง รสเด็ดถึงใจ

ส้มตำแมงดา ไม่ได้ใส่แค่กลิ่น แต่มาเป็นต่อนๆตัวๆ

ผัดปูนิ่มผงกะหรี่สีสันน่าทาน รสชาติดี

ยำหมูแดดเดียว

ลาบปลาช่อน

จานนี้ถ่ายแทบไม่ทันครับ55 กบทอดกระเทียม กินไม่เหลือแม้แต่กระเทียมเลย

อาจจะดูยาวรูปเยอะไปหน่อยน่ะครับถือเป็นหนึ่งบันทึกการเดินทางของผม แต่ก็อยากจะบอกว่าได้รับความเป็นธรรมชาติมากๆครับห่างจากกรุงเทพไม่มาก ใครที่เบื่อๆความวุ่นวายอยากหาที่ไปพักผ่อน จะเป็น One Days Trip หรือจะมาค้างสักคืนสองคน ผมว่าเป็นอีกจังหวัดเลยครับที่น่าสนใจ ด้วยธรรมชาติที่ยังคงเป็นธรรมชาติไม่ได้รับการปรุงแต่งมากมาย ทำให้เราผ่อนคลายลืมความวุ่นวายจากในเมืองหลวงไปได้เยอะเลยครับ และที่ผมไปก็ต้องบอกว่านี่ถือเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรีเอง เพื่อนบอกว่ายังมีอีกหลายที่เลยที่ยังไม่ได้พาไป ไว้รอบหน้าไปแล้วจะเอารูปมาฝากอีกนะครับ
กาญจนบุรี วันเดียวเที่ยวไม่หมด
สวัสดีครับ เนื่องจากเมื่อวันหยุดยาวที่ผ่านมา มีเวลาว่างเลยคิดว่าจะหาที่พักผ่อนท่องเที่ยวสักที่ ที่ไม่ไกล กทม. มากนัก คิดแล้วคิดอีกกลัวเจอมวลมหาประชาชนเที่ยว กลัวราคาที่พักในช่วงวันหยุดยาวๆแบบนี้ แต่ด้วยบังเอิญว่า มีเพื่อนเป็นคนจังหวัดกาญจนบุรี เลยเป็นโอกาสเหมาะ เลยที่จะถือโอกาสไปเที่ยวแถมมีที่พักและยังไกด์พาเที่ยวไปในตัว 555 แต่เราเองก้ไปเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี ค่อนข้างบน ทุกครั้งที่ไปก็ไปแต่น้ำตกๆ รอบนี้เพื่อนบอกว่าจะพาไปที่ๆไม่ใช่น้ำตกดู ไอ้เราก็นั่งนึกว่ามันมีอะไรอีกหรอนอกจากน้ำตก ตัดสินใจเก็บกระเป๋าโดดขึ้นรถไปดู ตามสไตล์การท่องเที่ยวเดิมแบบผมครับ วางแผนมักล่ม ต้องสดๆเอาหน้างานแบบนี้ตลอด 555
ออกจากบ้านมาประมาณเก้าโมงกว่าครับ เลยแวะหาร้านกาแฟเติมพลังแก้ง่วงสักหน่อย เพื่อนเลยพามาร้านรี้เลยครับ เป็นทางผ่าน ของเราอยู่แล้วด้วย ชื่อร้าน Cafecini Cafe ในร้านมีทั้ง เค้าเตอร์บาร์ และโต๊ะให้เลือกนั่งหลายมุมครับทั้งในร้านแอร์เย็นๆหรือจะออกไปนั่งในสวนริมสระก็ได้ กาแฟรสชาติดี ราคาคือว่าทั่วๆไปในราคาร้านกาแฟสดครับ แต่ที่พิเศษร้านนี้คือ ขนมของทางร้านที่ทำเองครับ รสชาติต้องบอกเลยว่า กินเข้าไปคำแรกหันไปถามเพื่อนเลยว่านี้เขาสั่งมาจากร้านเบเกอรี่ ชื่อดังที่ที่เราคุ้นเคยกันหรือป่าว 55555 ร้านนี้อยู่แถว ศาลาธรรมศพธ์
เติมพลังเรียบร้อย มุ่งหน้าต่อ ไปกาญจนบุรี กันเลย ตลอดสองข้างทางบอกเลยว่าได้บรรยากาศความเป็นธรรมชาติมากๆต้นไม้ ภูเขา เต็มสองข้างทาง
มาถึงตัวเมืองกาญจนบุรีเที่ยงพอดีเลยแวะมาหาไรทานกันก่อนแถวๆบริเวณท่าแพลาก แม่น้ำแคว ซึ่งแถวๆนั้นมีร้านก๋วยเตี๋ยวเรือขึ้นชื่อเยอกมากรสชาติดุเด็ดเผ็ดดีครับ555 แถมมีของหวานดับร้อนดับเผ็ดเป็นร้าน น้ำแข็งใส เจ้าเก่าซึ่งต้องเป็นคนกาญจนบุรีถึงจะรู้จักร้านนี้ครับ เป็นร้านเล็กอยู่ตรงข้ามร้านอาหารลุงแหมะ นอกชาติขนมอร่อยที่ขึ้นชื่อแล้วอรกอย่างที่ใครๆมาร้านนี้ต่างรู้ดีว่าต้องนึกเมนูมาจากทางบ้าน เพราะถ้าสั่งช้าโดนข้ามคิว สั่งผิดโดนแม่ค้าดุ 55555 เป็นเอกลักษณ์เลยครับผมนิ ไม่กล้าสั่งเลย ขอเอาตามเพื่อนเหมือนกัหมดเลย แต่ว่าจริงๆแล้วคุณยายที่เป็นแม่ค้าแกใจดีครับลูกค้าที่มาส่วนมากจะรู้ว่าเป็นแค่วาทะของแกเฉยๆไม่ได้ดุจริงจังอะไร ใครผ่านไปผ่านมาแนะนำเลยครับ รสชาติของน้ำกะทิหอมทั้งใบเตยและกลิ่นไทยๆไม่หวานโดด ทั้งหวานทั้งมัน เครื่องทุกอย่างยายทำเองครับ อร่อยมากๆ ชื่นใจเลยแต่เพื่อนบอกว่าขายดีมากน่ะครับแป็บเดียวหมดใครอยากชิมต้องรีบๆมาหน่อย
เป้าหมายแรกของเรา เขื่อนวชิราลงกรณ์ เป็นเขื่อนกักเก็บน้ำ ที่มีขนาดใหญ่ตั้งอยู่ที่ อำเภอทองผาภูมิ น้ำในเขื่อนเขียวเหมือนน้ำทะเลเลยครับ มีบริการ นั่งเรือชมบรรยากาศในเขื่อนด้วย บังเอิญว่าเรามาถึงช่วง บ่าย3โมง แดดอ่อนๆ มีฝูงลิง น้อยใหญ่ลงมาจากเขามาขออาหารจากนักท่องเที่ยวด้วย
หลังจากเที่ยวถ่ายรูปที่เขื่อนเสร็จ ก็ลงมาพักที่บ้านเพื่อนแถวไทรโยคใหญ่อันี้ไม่มีรูปมาอวดเพราะดูจะไม่เหมาะสมครับ55 โดยเราวางทริปในวันต่อไปไว้ว่าจะเที่ยวตามเส้นทางขากลับเข้า กทม ที่ผ่าน โดยไม่ต้องย้อนขึ้นไป
เช้าวันต่อมาที่แรกเช่นเคยครับ หาร้านกาแฟ555 บังเอิญเมื่อวานผ่านมาร้านนึงหน้า มหาวิทยาลัยมหิคล กาญจนบุรี น่าสนใจ เลยต้องไปลอง
มาถึงร้านบรรยากาศดีครับ ร้านกว้างขวาง ที่สำคัญมีตุ๊กตาขายด้วยส่วนรสชาติกาแฟก็ดีเลยครับใครผ่านไปลองแวะไปนั่งพักนั่งชิมกาแฟดูครับรับรองไม่ผิดหวังอยู่ด้านหน้าทางเข้ามหาวิทยาลัยมหิดล กาญจนบุรีเลย
ที่ต่อไปที่เราจะไปกัน คือ รางรถไฟสายมรณะครับ เพื่อนที่มาเที่ยวเมืองกาญ ลองแวะมาชื่นชมธรรมชาติและวิวสวยๆตรงนี้ได้ครับ
ไปที่ต่อไปเลยดีกว่า
พิพิธพันธุ์ปราสาทเมืองสิงห์ ซึ่งเก็บค่าเข้าชมคนละ 50 บาท เป็นสถานที่ที่รวบรวมวัตถุโบราณ รวมถึง ปราสาทเก่าแก่ อยู่ด้วย เราสามารถเดินเข้าไปเที่ยวชมปราสาทเก่าภายในได้ ในส่วนนี้มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่รอบๆดูร่มรื่นดี
ประทับใจห้องน้ำครับ ดูเท่ดี แต่ข้างในแอบร้อนอยู่55555 ไปๆต่อกันเลย
เขาบอกว่านี้คือแหล่ง เช็คอินที่ใหม่ที่ไม่ควรพลาดอีกหนึ่งที่ กับ ต้นก้ามปูยักษ์ ครับ ทางเข้าอาจดูเป็นไร่ๆนาหรือป่าๆสักหน่อยแต่พอมาถึงแล้ว ก็ต้องบอกว่าใหญ่จริงครับ ใหญ่มากกก
ถ่ายรูปเสร็จ ทางออกไปเราสามารถเลยไปที่วัดถ้ำเสือ เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมไทยจีน ครับ มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่สูงเด่นเห็นแต่ใกล้อยู่บนวัด วึง่การจะขึ้นไปบนวัดนั้น มีสองทาง คือมีรถรางบริการหรือสำหรับใครที่อยากออกแรงก้เดินขึ้นทางบันไดครับ เดินไปนับขั้นบันไดไปเพลินๆ 55555
ด้านบน สามารถมองเห็นวิวรอบๆออกไปได้ไกลครับ สวยงามมากๆ ใครที่มาเที่ยวที่จังหวัดกาญจรบุรี ถือว่าต้องมาที่วัดนี้ให้ได้สักครั้งครับ มาชื่นชมความงามของวัด ได้ทำบุญด้วย
เอาละเที่ยวมาทั้งวันแล้วข้าวก็ยังไม่ได้กินเลย มุ่งหน้าเข้าเส้นทางหลักหาของกินกันดีกว่า 555
หิวท้องมาจนเกือบ 4โมงเย็นฝ่ารถติดมาจนถึง นครปฐมครับ พอดีมีร้านอาหารร้านนึงเป็นเคยมากิน รสชาติดีบรรยาศชิวครับเลยแวะร้านนี้แล้วกัน ถ้ารอถึงกทม คง หมดแรงกลางทางแน่ๆ
ชื่อร้าน ดีมนจัง เป็นร้านอาหารไม่ใหญ่มากแต่ลูกค้าแน่นตลอดครับ มีทั้งส่วนที่ยื่นไปในสระน้ำนั่งห้อยขารับลมเย็ยสบายๆหรือมาช้าก็นั่งในร้านได้ครับ
ใครชอบอาหารรสจัดจ้านไม่ผิดหวังแน่นอนครับ อยู่ด้านหลัง ราชภัฏนครปฐม ข้ามสะพานข้ามคลองชลประทานมาก็จะเห็นครับ
ต้มยำปลาคัง รสเด็ดถึงใจ
ส้มตำแมงดา ไม่ได้ใส่แค่กลิ่น แต่มาเป็นต่อนๆตัวๆ
ผัดปูนิ่มผงกะหรี่สีสันน่าทาน รสชาติดี
ยำหมูแดดเดียว
ลาบปลาช่อน
จานนี้ถ่ายแทบไม่ทันครับ55 กบทอดกระเทียม กินไม่เหลือแม้แต่กระเทียมเลย
อาจจะดูยาวรูปเยอะไปหน่อยน่ะครับถือเป็นหนึ่งบันทึกการเดินทางของผม แต่ก็อยากจะบอกว่าได้รับความเป็นธรรมชาติมากๆครับห่างจากกรุงเทพไม่มาก ใครที่เบื่อๆความวุ่นวายอยากหาที่ไปพักผ่อน จะเป็น One Days Trip หรือจะมาค้างสักคืนสองคน ผมว่าเป็นอีกจังหวัดเลยครับที่น่าสนใจ ด้วยธรรมชาติที่ยังคงเป็นธรรมชาติไม่ได้รับการปรุงแต่งมากมาย ทำให้เราผ่อนคลายลืมความวุ่นวายจากในเมืองหลวงไปได้เยอะเลยครับ และที่ผมไปก็ต้องบอกว่านี่ถือเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรีเอง เพื่อนบอกว่ายังมีอีกหลายที่เลยที่ยังไม่ได้พาไป ไว้รอบหน้าไปแล้วจะเอารูปมาฝากอีกนะครับ