เป็นหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อ กำลังหาทางออกไม่ได้ ช่วยผมด้วยครับ

ตอนนี้มีบัตรเครดิตอยู่ 5 ใบครับ  กสิกร , ทหารไทย , KTC  , เฟิร์สช้อย , บัตรกดเงินสด Kexpress ,สินเชื่อธนาคารทหารไทย ,สินเชื่อผ่อนคอนโด
หนี้สินที่เกิดจากรายการพวกนี้ผมเป็นมานานกว่าห้าปีแล้วครับ  จ่ายหนี้มาจนถึงปัจจุบันเหลือเดือนหนึ่งก็ราวๆ 29,000 บาท  แต่มาตอนนี้ผมมีปัญหาเรื่อง  รายได้ไม่พอรายจ่ายแล้วครับเพราะว่าเปลี่ยนงานตามสภาวะเศรษฐกิจของบริษัท  ผมควรทำอย่างไรดีกับรายได้ปัจจุบัน 31,000 บาท หักภาษีแล้ว (มนุษย์เงินเดือนครับ)  ไม่พอค่าน้ำมันรถกับค่าข้าวตลอดทั้งเดือนเลยครับ  ตันมาสองเดือนแล้ว  นี่เดือนที่สามกำลังจะมาถึง  ไม่มีเงินเก็บเหลือซักบาท
- บัตรเครดิตกสิกร 5,200 บาท
- บัตรเครดิต KTC 5,800 บาท
- บัตรเครดิต TMB 5,900 บาท
- บัตรกดเงินสด เฟิร์สช้อย 1,700 บาท
- บัตรกดเงินสดกสิกร  1,000 บาท
- สินเชื่อเงินสดทหารไทย 2,000 บาท
- สินเชื่อผ่อนคอนโด 7,000 บาท
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 28,600 บาท  ** ที่ต้องจ่ายจริงของเดือนล่าสุดนี้ **  ไม่นับรวมเบ็ดเตล็ดพวกค่าโทรศัทพ์ ,ค่าน้ำ ,ค่าไฟ นะครับ

*** อย่าเพิ่งต่อว่าผมนะครับว่าทำไมสร้างหนี้เยอะขนาดนี้  ผมไม่เที่ยวกลางคืน  ไม่กินเหล้าสูบบุหรี่  ไม่ใช้ของฟุ่มเฟือยหรือกินหรู  แต่เป็นหนี้เพราะหมุนเงินมาช่วยพ่อแม่ที่บ้านครับ  ผมเป็นลูกคนสวน  พ่อแม่จบ ป.4 บ้านไม่ได้มีฐานะอะไร  ทำสวนกู้หนี้ยืมสินเขามาลงทุนตั้งแต่สมัยผมยังเรียนอยู่  ทุกวันนี้ผมก็ยังทำสวนอยู่ครับไม่เคยลืมกำพืด  แต่การเกษตรมันเป็นของธรรมชาติควบคุมยากก็มีขาดทุนกันไป  เงินที่พ่อแม่กู้มาก็สูญเปล่า  ผมก็ต้องหาทางช่วยพวกท่าน  เงินที่ผมนำออกมาใช้นั้นไม่ได้เกิดขึ้นในคราวเดียวครับ  เคยใช้หมดไปแล้วก็เอาออกมาอีก ในช่วงระยะเวลาห้าปีกว่าๆ ที่ผ่านมา***

     ตอนนี้เครดิตหนี้ผมยังเป็นลูกหนี้ชั้นดีอยู่ครับ  แต่สิ้นเดือนนี้ผมจะผิดนัดจ่ายหนี้แล้ว  เพราะต้องนำเงินไปช่วยที่บ้าน  ผมเครียดมากไม่มีเงินมาจ่ายหนี้  สำคัญคือไม่มีเงินจะใช้ดำเนินชีวิตตัวเองให้ไปทำงานได้มีข้าวกินจนถึงสิ้นเดือน  ผมหยิบยืมใครก็ไม่ได้เลยเขาไม่ให้และบอกตัวเองก็แย่พอกันไม่มีกันทั้งนั้น  ผมโสดตัวคนเดียวครับ  ผมควรทำอย่างไรดี
   1. รวมหนี้ทั้งหมดไปขอกู้กับธนาคารอื่นมาปิดหนี้ดีไหมครับ
   2. กดเงินเพิ่มเพื่อมาโปะบัตรหมุนเงินไปเรื่อยๆ
   3. กู้นอกระบบมาปิดหนี้ (ที่บ้านก็เป็นอยู่แล้วกว่าจะใช้หมด ไม่อยากกู้อีกแล้ว)
   4. คิดไม่ออกครับ  ทางตัน  หยิบยืมใครไม่ได้จริงๆ ทั้งญาติพี่น้องเพื่อนฝูง

   รบกวนท่านผู้รู้ช่วยผมคิดด้วยครับ  ขอความกรุณาอนุเคราะห์ผมด้วยนะครับ (T.T)

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
จขกท.ใจเย็นๆ ค่อยๆคิด
ตอนกลุ้มมันจะหาทางออกไม่ได้นะครับ  
ตอนใจนิ่งสติมาปัญญาจะเกิดเลยครับ

ปัญหาเรื่องหนี้ที่คุณถามว่าจะกู้ที่ใหม่หรืออะไรดีมั้ย คือการแก้ปัญหาปลายเหตุครับ
เพราะต้นเหตุคือคุณหมุนหนี้จากสินเชื่อต่างๆเพื่อมาช่วยคุณพ่อคุณแม่ที่ขาดทุน
นั่นละ "ต้นตอก่อหนี้"
หนี้สินแก้ไม่ได้ด้วยเงินครับ ต้องแก้ที่ต้นเหตุ  ถ้าต้นเหตุไม่หายไปหนี้ก็ไม่จบ มีแต่เพิ่มครับ

คุณเงินเดือนดีนะครับ แต่แบ่งเงินช่วยใช้หนี้ที่บ้านแบบผิดวิธี  ไม่มีการวางแผนที่ดีก่อน
เหมือนแก้ปัญหาเรือรั่วด้วยการพายไปอุดไป หนี้เลยมีแต่เพิ่ม
ทางที่ดีคุณต้อง
1. หยุดหมุนหนี้เอาไปใช้หนี้ให้พ่อแม่ก่อนครับ

ก่อนจะรักษาแผลต้องหยุดเลือดไหลก่อน
ไม่งั้นเลือดมีแต่ไหลออก หมดตัวพอดี

2. เรียกประชุมพ่อแม่ลูก นั่งลง "วางแผนจัดการหนี้" กัน
หนี้พ่อแม่มีอยู่เท่าไหร่ แบ่งเป็นหนี้อะไรบ้าง รวมยอดเท่าไหร่ ดอกเท่าไหร่
แล้ววางแผนว่าจะบริหารจัดการหนี้ยังไง จะเอาเงินที่ไหนมาผ่อนใช้
เจ้าหนี้มีใครบ้าง  เข้าเจรจาตามแผนเลยครับ ทุกเจ้า

3. ถ้าไม่สามารถหาเงินจากการทำสวนได้ แถมก่อหนี้เพิ่ม ต้องหยุดทำสวนครับ
แล้วคุณหาเงินอุดหนุนพ่อแม่จนกว่าท่านจะหารายได้อื่นมาทดแทนได้
เช่นให้ท่านเดือนละหมื่น คุณเหลือ 2.1 หมื่น
อยู่ได้เลยครับถ้าประหยัดและรู้จักวางแผนใช้จ่าย

การแค่บอกว่า "ไม่มีเงินเพราะสวนมันล่มมันแล้ง" ไม่ได้ครับ
เหมือนธุรกิจแหละครับ  ถ้า วิกฤตมันมาชั่วคราว จะเลิกก็ไม่ฉลาด
ก็ต้องอดทนประคับประคองจนกว่าจะพ้น
แต่ถ้า วิกฤตมันมาถาวร แปลว่าคุณต้องปิดกิจการครับ  อย่าฝืนทำต่อ


4. ส่วนหนี้ของคุณ  คุมหนี้ให้ยอดเท่าเดิมครับ อย่าเพิ่มหนี้
บัตร-จ่ายขั้นต่ำ(ห้ามต่ำกว่าขั้นต่ำแม้แต่บาทเดียว) ประคองไปก่อน จนมีเงินออมมากพอจะจ่ายหนี้ได้เต็มทั้งยอด
สินเชื่ออื่นๆ-เข้าเจรจาทำเรื่องผ่อนจ่ายครับ  ยอดน้อย ทำเรื่องผ่อนเดือนละต่ำกว่าพันก็ได้
สินเชื่อคอนโด-เข้าหาแบงก์ทำเรื่องขอผ่อนผันหนี้  ส่งแต่ดอกก็ได้ครับ  
ไม่ติดบูโรแน่นอนเพราะคุณส่งทุกงวดไม่ขาดส่ง

ปกติต่างประเทศจะมีศูนย์พิเศษทุกแบงก์ (เช่นออสเตรเลีย แคนาดา สหรัฐ ฯลฯ)
ที่รับคำร้อง hardship-ลูกหนี้ที่เจอวิกฤตขัดสน  (กฎหมายเขาบังคับให้มีครับ)
ถ้าลูกหนี้เจอปัญหาชีวิตทำให้ขัดสนเงินผ่อนงวด (ไม่จำเป็นต้องเจอภัยพิบัติระดับชาติแบบบ้านเรา)
เช่น ที่บ้านป่วย หรือตนเองตกงาน หรือหย่าร้างทำให้ร่วมกันผ่อนงวดไม่ได้
ให้เข้าไปยื่นคำร้องที่หน่วยนี้ แบงก์จะลดอัตราดอก  จะยืดหนี้ จะให้ส่งแต่ดอกพักต้น ฯลฯ อะไรก็ว่าไป
ไม่เกิน 1-2 ปีครับ  ไม่มีเงื่อนไขใดๆ  แบงก์ต้องให้ ตามกฎหมายการเงินที่รัฐบังคับไว้

บ้านเราไม่มี  เพราะรัฐไม่สามารถคุมแบงก์ได้  แต่คุณก็สามารถยื่นเรื่องได้เองเลยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่