เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นมาจากฟังวิญญาณในบ้านได้ คำว่าผีที่เราเข้าใจคือ น่ากลัว แต่เราก็อยากรู้ในมุมของความน่ากลัว เกิดคำถามมากมาย ความกลัวกับสิ่งที่เรามองไม่เห็น สัมผัสไม่ได้ แต่เหตุใดทำไมเราต้องขนลุก เสียงนั้นมาจากไหน สมองเราคงเพี้ยนไปแล้วแน่ คนใกล้ตัวเปิดโอกาสให้ลองถามและใจเย็นๆลดความกลัวลง ถามอะไรดีละ จะถามว่าอะไร ถามชื่อก่อนเลย มาจากไหน มาทำไม มาทำให้เรากลัวทำไม และต่อจากนี้คือเรื่องที่เราได้รับรู้มา......
เรื่องก่อนหน้า
http://pantip.com/topic/35093770
สิ่งที่ผมจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องที่หนักอกอยู่มาก
เพราะว่าการที่เราต้องทำตามคำสั่ง
หรือเวลาเราทำตามคำสั่งแล้วทำสำเร็จมันได้ความภาคภูมิใจ
แต่พอมาคิดถึงตอนนี้ สิ่งเหล่านั้นมันทำให้เราเสียใจ
ไม่ได้อยากจะดราม่าตรงนี้ แต่จะขอเล่าเรื่องก่อนจะได้รู้ว่าต้องดราม่ากันไหม
เหตุการณ์เริ่มขึ้นเหมือนทุกครั้ง ก็คือจะมีคำสั่งจากเฮียหมีไปบ้านของคนอื่น
เอาของที่ดีออก และเอาของที่ไม่ดีที่เราเตรียมไว้ใส่เข้าไป
ของไม่ดีที่เตรียมไว้ส่วนใหญ่จะเป็นโรคภัยไข้เจ็บก่อนเลย
เอาไปไว้ที่เตียงของเจ้าของบ้านทำให้เจ็บป่วยและต่อมา
เป็นเรื่องของโชคลาภไม่มีเข้าบ้าน ส่วนใหญ่มักจะไว้ตรงห้องทำงานหรือไม่ก็ไว้ตามห้องครัว
เพราะที่เหล่านี่จะเป็นที่บ่งชี้เรื่องโชคลาภ วาสนา
ห้องรับแขกอะไรแบบนี้ แขกมาจะรู้สึกไม่พึ่งพอใจที่บ้าน
พวกยันต์กันผี ไม่ใช่แค่กันผีแต่ก็กันคนดีดี ไม่ให้เข้าไปด้วยได้เหมือนกัน
ก็มีของพวกนี้ละที่เราใช้กัน
พวกเราก็ไปกันเหมือนเดิมครับ แก๊งเดิมๆประมาณ 7-8 ผี ไปที่บ้านคนอื่น
ตอนเราไปถึงบ้านนั้นไม่มีอะไรเลย ผมก็ไม่รู้นะ เป็นบ้านชั้นเดียวมีที่โล่งๆ
ดูออกว่าเค้าทำค้าขายอาหารทะเล เพราะมีของตากแห้งเต็มไปหมดเลย
ไม่ใช่บ้านหลังใหญ่เลย ห้องก็มีอยู่ไม่กี่ห้อง เข้าไปทำเหมือนทุกครั้งไปดูห้องพระก่อนเลย
เข้าไปห้องพระก็ไม่ได้มีของดีอะไรนะ ไม่มีให้เอาออกครับ แล้วเราก็เอาของไม่ดีใส่เข้าไป
จากนั้นผมก็ขึ้นไปกับพี่ไสว ไปพูดกระซิบเจ้าของบ้าน
พวกเค้านอนห้องเดียวกันนะ มีปู่ พ่อ เมีย ลูก 3 คน
นอนอยู่ห้องเดียวกันหมดเลย ดูแล้วไม่มีเงิน
ดูแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกับเฮียหมีนะ แต่ตอนนั้นผมก็มาตามคำสั่ง
ไม่ได้คิดอะไรกับเรื่องพวกนี้ เข้าบ้านไปก็ทำหน้าที่ตนเองให้เสร็จและผมก็กระซิบกับเจ้าของบ้านเลย
“เลิกทำงานเลย ไม่ต้องคิดจะสู้ ยอมแพ้ทุกอย่างนะ” เสร็จธุระทุกอย่างเราก็รื่นเริงกลับกัน
พวกเราก็กลับกันไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างเป็นไปตามแผน พอกลับมาถึงบ้าน
ผมก็เห็นพี่ไสวดูแกเฉยๆนิ่งๆเงียบๆ ปกติแกจะอยู่กับพวกผม แล้วก็ยินดีในสิ่งที่ทำ
รอบนี้แกดูเงียบแปลกๆ
ผมก็เข้าไปถามว่า “พี่ครับผมทำอะไรผิดไปหรือเปล่า”
พี่เค้าบอกว่า “นุ้ยทำได้ถูกต้องแล้ว ทำได้ดีแล้ว ทำตามที่สั่งถูกต้อง แต่พี่เบื่อว่ะ พี่พูดตรงๆการที่มีคำสั่งต้องทำ พี่เบื่อ”
และเค้าก็ไม่ได้พูดอะไรต่อนะ เค้าพูดแค่นั้น จากนั้นเวลาผ่านไปหลายเดือนอยู่ พวกผมกับพี่ยักษ์ และพี่ไข่
แก๊งเดิมๆเลยครับ พวกเราจะชอบไปเที่ยวตามวัดก็ไปเจอ จิตของคนที่เราไปกระซิบมา
เค้าเหลือแต่จิตแล้วก็แสดงว่า"เค้าตาย" ผมจำได้เลยความรู้สึกของผมครั้งแรก
แบบเย็นวูบขึ้นมาในดวงจิตของผม
เราเพิ่งทำคนตายหรือเปล่า?
เราเป็นสาเหตุไหม?
เวลาที่เหลือแต่จิต เมื่อคิดปุ๊บมันก็มาเลย ทุกอย่างมันหลั่งไหลเข้ามา
ผมจำได้ว่าผมหนี ผมหนีเลย พี่สองคนนั้นดูนิ่งๆแต่เค้าก็ตามผมมา
ผมหนีจากตรงนั้น ไม่ได้ไปคุยกับพวกเค้า กับวิญญาณที่ผมจำได้ว่าเค้าเคยอยู่ที่บ้านหลังนั้น
ความรู้สึกของผมสลัดมันไม่ออก
เราเป็นต้นเหตุหรือเปล่า?
แล้วทำไมเรารู้สึกว่าเราเป็นต้นเหตุ?
เราไม่ได้ทำเค้าตายนะ!
ความสับสน
ความกังวล
ความไม่เข้าใจ
มันเทประดังเข้ามาทุกอย่าง
พี่ไข่ลอยมาจับผมแล้วพูดว่า
"นุ้ยคนตายได้หลายอย่าง เราอาจจะมีส่วนแต่เราก็คือหนึ่งในความลำบากที่เค้าต้องเจอ
กรรมมันทำกันมาและเราก็ถูกสั่ง ให้เราไปทำเค้า เราถูกสร้างมาแบบนี้ ให้ทำเรื่องไม่ดี
เราถูกใช้โดยคนไม่ดี พวกเรารู้ตัวนะ"
พี่ยักษ์ก็ตามมาอีก แล้วบอกว่า
"นุ้ยไม่ต้องสลัดมันหรอกไม่ต้องลืม แต่จำไว้ว่าพวกเราเป็นแบบนี้ แค่นั้น"
ความรู้สึกของผมมันต่อต้าน และ รู้สึกว่าผมเป็นผู้ที่รับทั้งหมดเอง
ผมถามพี่เค้ากลับไปว่า
"เราทำใช่ไหมพี่?"
"เราเป็นคนทำให้พวกเค้าตายหรือเปล่า?"
"ทำไมผมรู้สึกคนนี้เหมือนมีอะไรมา กระแทกเข้ามาที่ผม?"
"ทำไมมันเป็นอย่างนั้น?"
สิ่งที่พี่ยักษ์พูดคำสั้นๆนะ
“นั้นละ เค้าเรียกว่าบาป บาปมันเกิดเมื่อจิตรับรู้ในสิ่งที่ทำ"
คำว่า "บาป"
นั้นคือครั้งแรกที่ผมได้ยินคำว่า "บาป"
ก่อนหน้านั้นคือ ความสนุก ความอยากทำ ความอยากที่จะทำให้ได้
แต่อันนี้คือคำว่า "บาป" ที่ผมทำไป "ผมทำบาป"
และผมรับรู้มันทันทีผมรู้สึกอย่างไร
ตอนนั้นผมลอยกลับแบบหนักๆ
มันหนักเสียจนพี่สองคนต้องพยุงผม
พอผมกลับไปพี่ไสวก็บอกว่า
“อยู่ตรงนี้ถ้าถึงเวลาเราก็ต้องไปเราเลี่ยงไม่ได้
ยอมรับเถอะ ถ้ายอมรับไม่ได้ก็ต้องไปจากที่นี่ให้ได้”
กลัวที่จะทำบาป แต่ผมก็ไม่คิดที่จะไปจากที่นั้น
เพราะตอนนั้นผมก็ไม่มีความกล้า ที่จะหยุดทำ
เพราะมาตอนนี้ผมคิดว่า ถ้าผมไม่ทำเค้าตอนนั้น ผมคงไม่รู้สึกเสียใจอย่างทุกวันนี้ เศร้ามากเลยครับทำคนอื่นตาย แต่ผมก็ต้องเดินต่อไป
ฟัง ผี บอก....ตอน ผมทำคนตายหรือเปล่า? โดย พรรณกาญจน์
เรื่องก่อนหน้า http://pantip.com/topic/35093770
สิ่งที่ผมจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องที่หนักอกอยู่มาก
เพราะว่าการที่เราต้องทำตามคำสั่ง
หรือเวลาเราทำตามคำสั่งแล้วทำสำเร็จมันได้ความภาคภูมิใจ
แต่พอมาคิดถึงตอนนี้ สิ่งเหล่านั้นมันทำให้เราเสียใจ
ไม่ได้อยากจะดราม่าตรงนี้ แต่จะขอเล่าเรื่องก่อนจะได้รู้ว่าต้องดราม่ากันไหม
เหตุการณ์เริ่มขึ้นเหมือนทุกครั้ง ก็คือจะมีคำสั่งจากเฮียหมีไปบ้านของคนอื่น
เอาของที่ดีออก และเอาของที่ไม่ดีที่เราเตรียมไว้ใส่เข้าไป
ของไม่ดีที่เตรียมไว้ส่วนใหญ่จะเป็นโรคภัยไข้เจ็บก่อนเลย
เอาไปไว้ที่เตียงของเจ้าของบ้านทำให้เจ็บป่วยและต่อมา
เป็นเรื่องของโชคลาภไม่มีเข้าบ้าน ส่วนใหญ่มักจะไว้ตรงห้องทำงานหรือไม่ก็ไว้ตามห้องครัว
เพราะที่เหล่านี่จะเป็นที่บ่งชี้เรื่องโชคลาภ วาสนา
ห้องรับแขกอะไรแบบนี้ แขกมาจะรู้สึกไม่พึ่งพอใจที่บ้าน
พวกยันต์กันผี ไม่ใช่แค่กันผีแต่ก็กันคนดีดี ไม่ให้เข้าไปด้วยได้เหมือนกัน
ก็มีของพวกนี้ละที่เราใช้กัน
พวกเราก็ไปกันเหมือนเดิมครับ แก๊งเดิมๆประมาณ 7-8 ผี ไปที่บ้านคนอื่น
ตอนเราไปถึงบ้านนั้นไม่มีอะไรเลย ผมก็ไม่รู้นะ เป็นบ้านชั้นเดียวมีที่โล่งๆ
ดูออกว่าเค้าทำค้าขายอาหารทะเล เพราะมีของตากแห้งเต็มไปหมดเลย
ไม่ใช่บ้านหลังใหญ่เลย ห้องก็มีอยู่ไม่กี่ห้อง เข้าไปทำเหมือนทุกครั้งไปดูห้องพระก่อนเลย
เข้าไปห้องพระก็ไม่ได้มีของดีอะไรนะ ไม่มีให้เอาออกครับ แล้วเราก็เอาของไม่ดีใส่เข้าไป
จากนั้นผมก็ขึ้นไปกับพี่ไสว ไปพูดกระซิบเจ้าของบ้าน
พวกเค้านอนห้องเดียวกันนะ มีปู่ พ่อ เมีย ลูก 3 คน
นอนอยู่ห้องเดียวกันหมดเลย ดูแล้วไม่มีเงิน
ดูแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกับเฮียหมีนะ แต่ตอนนั้นผมก็มาตามคำสั่ง
ไม่ได้คิดอะไรกับเรื่องพวกนี้ เข้าบ้านไปก็ทำหน้าที่ตนเองให้เสร็จและผมก็กระซิบกับเจ้าของบ้านเลย
“เลิกทำงานเลย ไม่ต้องคิดจะสู้ ยอมแพ้ทุกอย่างนะ” เสร็จธุระทุกอย่างเราก็รื่นเริงกลับกัน
พวกเราก็กลับกันไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างเป็นไปตามแผน พอกลับมาถึงบ้าน
ผมก็เห็นพี่ไสวดูแกเฉยๆนิ่งๆเงียบๆ ปกติแกจะอยู่กับพวกผม แล้วก็ยินดีในสิ่งที่ทำ
รอบนี้แกดูเงียบแปลกๆ
ผมก็เข้าไปถามว่า “พี่ครับผมทำอะไรผิดไปหรือเปล่า”
พี่เค้าบอกว่า “นุ้ยทำได้ถูกต้องแล้ว ทำได้ดีแล้ว ทำตามที่สั่งถูกต้อง แต่พี่เบื่อว่ะ พี่พูดตรงๆการที่มีคำสั่งต้องทำ พี่เบื่อ”
และเค้าก็ไม่ได้พูดอะไรต่อนะ เค้าพูดแค่นั้น จากนั้นเวลาผ่านไปหลายเดือนอยู่ พวกผมกับพี่ยักษ์ และพี่ไข่
แก๊งเดิมๆเลยครับ พวกเราจะชอบไปเที่ยวตามวัดก็ไปเจอ จิตของคนที่เราไปกระซิบมา
เค้าเหลือแต่จิตแล้วก็แสดงว่า"เค้าตาย" ผมจำได้เลยความรู้สึกของผมครั้งแรก
แบบเย็นวูบขึ้นมาในดวงจิตของผม
เราเพิ่งทำคนตายหรือเปล่า?
เราเป็นสาเหตุไหม?
เวลาที่เหลือแต่จิต เมื่อคิดปุ๊บมันก็มาเลย ทุกอย่างมันหลั่งไหลเข้ามา
ผมจำได้ว่าผมหนี ผมหนีเลย พี่สองคนนั้นดูนิ่งๆแต่เค้าก็ตามผมมา
ผมหนีจากตรงนั้น ไม่ได้ไปคุยกับพวกเค้า กับวิญญาณที่ผมจำได้ว่าเค้าเคยอยู่ที่บ้านหลังนั้น
ความรู้สึกของผมสลัดมันไม่ออก
เราเป็นต้นเหตุหรือเปล่า?
แล้วทำไมเรารู้สึกว่าเราเป็นต้นเหตุ?
เราไม่ได้ทำเค้าตายนะ!
ความสับสน
ความกังวล
ความไม่เข้าใจ
มันเทประดังเข้ามาทุกอย่าง
พี่ไข่ลอยมาจับผมแล้วพูดว่า
"นุ้ยคนตายได้หลายอย่าง เราอาจจะมีส่วนแต่เราก็คือหนึ่งในความลำบากที่เค้าต้องเจอ
กรรมมันทำกันมาและเราก็ถูกสั่ง ให้เราไปทำเค้า เราถูกสร้างมาแบบนี้ ให้ทำเรื่องไม่ดี
เราถูกใช้โดยคนไม่ดี พวกเรารู้ตัวนะ"
พี่ยักษ์ก็ตามมาอีก แล้วบอกว่า
"นุ้ยไม่ต้องสลัดมันหรอกไม่ต้องลืม แต่จำไว้ว่าพวกเราเป็นแบบนี้ แค่นั้น"
ความรู้สึกของผมมันต่อต้าน และ รู้สึกว่าผมเป็นผู้ที่รับทั้งหมดเอง
ผมถามพี่เค้ากลับไปว่า
"เราทำใช่ไหมพี่?"
"เราเป็นคนทำให้พวกเค้าตายหรือเปล่า?"
"ทำไมผมรู้สึกคนนี้เหมือนมีอะไรมา กระแทกเข้ามาที่ผม?"
"ทำไมมันเป็นอย่างนั้น?"
สิ่งที่พี่ยักษ์พูดคำสั้นๆนะ
“นั้นละ เค้าเรียกว่าบาป บาปมันเกิดเมื่อจิตรับรู้ในสิ่งที่ทำ"
คำว่า "บาป"
นั้นคือครั้งแรกที่ผมได้ยินคำว่า "บาป"
ก่อนหน้านั้นคือ ความสนุก ความอยากทำ ความอยากที่จะทำให้ได้
แต่อันนี้คือคำว่า "บาป" ที่ผมทำไป "ผมทำบาป"
และผมรับรู้มันทันทีผมรู้สึกอย่างไร
ตอนนั้นผมลอยกลับแบบหนักๆ
มันหนักเสียจนพี่สองคนต้องพยุงผม
พอผมกลับไปพี่ไสวก็บอกว่า
“อยู่ตรงนี้ถ้าถึงเวลาเราก็ต้องไปเราเลี่ยงไม่ได้
ยอมรับเถอะ ถ้ายอมรับไม่ได้ก็ต้องไปจากที่นี่ให้ได้”
กลัวที่จะทำบาป แต่ผมก็ไม่คิดที่จะไปจากที่นั้น
เพราะตอนนั้นผมก็ไม่มีความกล้า ที่จะหยุดทำ
เพราะมาตอนนี้ผมคิดว่า ถ้าผมไม่ทำเค้าตอนนั้น ผมคงไม่รู้สึกเสียใจอย่างทุกวันนี้ เศร้ามากเลยครับทำคนอื่นตาย แต่ผมก็ต้องเดินต่อไป