การขอให้คนในโรงหนังเบาเสียงแปลว่าเราไร้มารยาทและละเมิดสิทธิ์เขาหรอคะ?

สืบเนื่องจากเพจและกระทู้ต่างในพันทิปที่เคยตั้งเกี่ยวกับเรื่องคนคุยกันและใช้มือถือในโรงหนัง แล้วมีคนมาตอบว่าควรจะเตือนเขากลับไปนะคะ เราเองก็เห็นด้วยว่าการบอกเขาดีๆเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่ก็อยากจะแชร์ประสบการณ์ให้ทุกคนลองอ่านดูนะคะว่า การเตือนดีๆมันคงใช้ไม่ได้ผลกับบางคนจริงๆ

หมายเหตุ - นี่คือเรื่องที่มองจากมุมมองของเรานะคะ เราอยากทราบว่าเราเข้าใจผิดหรือมองอะไรผิดไปหรือไม่เข้าใจอะไรไหม ขอน้อมรับฟังความเห็นจากอีกหลายๆมุมมองล่วงหน้าค่ะ

เข้าเรื่องเลยละกันนะคะ

วันนี้เราเข้าไปดู Captain America กับเพื่อนที่พารากอน รอบ 16.15 ค่ะ เราไปกับเพื่อน 5 คน และเราเป็นคนนั่งริมขวาสุดของคนในกลุ่ม นั่ง C12 ค่ะ ถัดจากเราไปเป็นครอบครัว คุณพ่อ คุณแม่ และเด็ก 2 คนที่คิดว่าน่าจะวัยประถมปลายหนึ่งคนและมัธยมต้น (เห็นจากชุดนักเรียน) ค่ะ

ตั้งแต่เห็นเด็กเราก็เตรียมใจแล้วค่ะ ต้องคุยกันแน่ๆ แต่พอเห็นว่าคนนั่งติดกับเราเป็นคุณแม่เด็กเราก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อย คิดว่าคุณแม่คงช่วยคุมไม่ให้เด็กเสียงดังได้ แต่เราคงโลกสวยเกินไปค่ะ เพราะตลอดทั้งเรื่องเราได้รู้ว่าที่เราคิดมัน "ผิด" หมดเลย

เด็กคุยยุกยิกกับคุณแม่ตลอดทั้งเรื่อง และคุณแม่เองก็คุยยุกยิกกับลูกตลอดทั้งเรื่องเหมือนกัน ทั้ง 2 คนไม่ได้คุยกันเสียงดังนะคะ ย้ำว่าไม่ได้เสียงดัง แต่คุยตลอดทั้งเรื่องจริงๆ ซึ่งสำหรับเรามันรบกวนสมาธิค่อนข้างมากเลยแหละ พอชมไปได้สักพักเราก็เลยตัดสินใจบอกกับคุณแม่น้องเบาๆว่า

"ขอโทษนะคะ รบกวนเบาเสียงหน่อยได้ไหมคะ"

คุณแม่น้องก็มองเราด้วยสายตาไม่ปกตินะคะ ซึ่งเราก็เริ่มรู้สึกแล้วแหละว่าเดี๋ยวต้องมีเรื่องเดือดแน่ ตลอดเรื่องที่เหลือคุณแม่เด็กก็เหลือบมองเราเป็นพักๆ เราก็ทราบค่ะว่าเค้าไม่พอใจ แต่เราก็ไม่ใส่ใจเท่าไหร่เพราะรู้สึกว่าเราก็ไม่ได้ทำผิดอะไร

ตอนเดินออกมาจากโรงหนัง คุณแม่น้องก็เรียกเราค่ะ

"น้องคะ ที่น้องว่าพี่เนี่ย พี่คุยกับลูกเสียงดังมากเลยหรอคะ" อ่านผ่านๆเหมือนจะเป็นประโยคถามดีๆใช่มั้ยคะ แต่น้ำเสียงและสีหน้าไม่ใช่ค่ะ รู้เลยว่าจะสาวความต่อแน่ๆ
เราก็ตอบเขาไปตามจริงค่ะ "ไม่ได้เสียงดังค่ะ แต่มันรบกวนจริงๆ"
แล้วประโยคที่ไม่น่าอภิรมย์ก็เริ่มมาค่ะ "นั่นสิคะ เพราะพี่ว่าพี่ก็กระซิบกับลูกแล้วนะ น้องนี่เซนส์ดีจังเลยนะคะ หูดีมากๆเลยอะ"

ในใจเราก็ 'เอาแล้ว..' แล้วตลอดทางเดินออกมาจากโรงเขาก็เหน็บเราตลอดเลยค่ะ เราก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรนะคะ จนมาถึงหน้าโรงเขาก็เริ่มเทศนาเราเป็นชุดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่ไม่โอเคมากๆ ขอใช้คำว่าด่าเลยก็ได้ค่ะ คำพวกนี้ไม่บิดเบือนใดๆแต่ลำดับอาจสับสนเล็กน้อยค่ะ จริงๆยาวกว่านี้ด้วย แต่ก็วกวนอยู่แค่นี้แหละค่ะ

"ทุกคนจ่ายเงินเข้ามามีความสุขในโรงนะคะ ทุกคนจ่ายเงินเข้ามาเท่ากัน พี่มีสิทธิ์ที่จะคุยกับลูก พี่ไม่ได้คุยเสียงดัง นี่เป็นหนังเด็กนะคะ น้องจะไม่ให้ลูกพี่ถามอะไรเลยหรอ ลูกพี่กระซิบถามพี่ก็กระซิบตอบ ไม่ได้รบกวนหรือละเมิดสิทธิ์ใคร น้องแอบฟัง(หรือตั้งใจฟังนี่แหละค่ะ ไม่ค่อยแน่ใจ)ขนาดนั้นเลยหรอคะ ถ้าไม่อยากได้ยินเสียงใครคุยกันเลยน้องก็ไปนั่งริมทางเดินหรือนั่งเก้าอี้แบบสองตัวค่ะ น้องอยู่สถาบันอะไรคะ(มองเข็มบนอกเรา) สถาบันน้องก็ดีนะคะ ทำตัวให้สมกับสถาบันหน่อยสิคะ พี่เป็นคนมีมารยาทนะคะ น้องแหละค่ะที่เป็นคนไม่มีมารยาทมาด่าพี่"

เราฟังแล้วก็นิ่งนะคะ ยิ้มพยักหน้ารับเป็นพักๆ ยิ้มหวานให้ด้วยทั้งที่ความจริงข้างในเราโกรธมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก โกรธจนแผ่รังสีเลยแหละ แต่ก็รู้เลยว่าคนแบบนี้ตอบอะไรกลับไปก็คงไม่ได้ประโยชน์อะไร ส่งยิ้มนิ่งๆให้คงทำให้เขาเดือดได้มากกว่า น่าสนุกกว่า 555555555 แต่เราก็รู้สึกว่าเขาคงเข้าใจเจตนาเราผิด ก็เลยแก้ไป

"หนูไม่ได้มีเจตนาจะว่าคุณพี่นะคะ หนูแค่ขอให้ลดเสียงลงเพราะมันรบกวนหนูแค่นั้นเอง" แต่เขาก็ตอบกลับมาด้วยประโยคเดิมๆค่ะว่าเราไปละเมิดสิทธิ์เขา เราไปด่าเขา เราก็ตัดปัญหา (เพราะเพื่อนยืนรออยู่ 5555 ) ด้วยการส่งยิ้มหวานให้และบอกว่า "ขอบคุณนะคะ น้อมรับคำติและจะนำไปปรับปรุงนะคะ" บอกเลยค่ะว่าวินาทีนั้นขอกวนตีนให้สุดชาติเกิดไปเลย 5555555 สุดท้ายเราเลยเตรียมยกมือไหว้(ประชดน่ะค่ะ)และบอกว่า "ถ้าหนูทำให้คุณพี่เข้าใจผิดหรือไม่พอใจก็ขอโทษด้วยนะคะ" นางก็ตอบกลับมาเหวี่ยงๆว่า "พี่ไม่รับค่ะ" และสะบัดตูดไปพร้อมกับครอบครัวนางที่ตลอดการสนทนาทำเพียงแค่ยืนฟังตาปริบๆกันทุกคน

จากที่ยืนให้โดนด่าเฉยๆอยู่ประมาณ 5 นาที เรามีคำถามนิดหน่อยค่ะ

1.ในเมื่อจ่ายเงินมาเท่ากัน แล้วทำไมเราต้องนั่งฟังเขา 'กระซิบ' คุยกับลูกเขาตลอดทั้งเรื่องคะ? หรือเราใจแคบไปเองหรือเปล่า? เพราะคนรบกวนเป็นเด็กเราเลยต้องหยวนๆให้มากกว่าคนอื่นหรอคะ? หรือทั้งหมดนี่ผิดที่เรา 'หูดี' ไปเอง?

2.เราไม่มีสิทธิ์ขอให้เขาเบาเสียงลงหรอคะ? ที่เราทำคือการละเมิดสิทธิ์เขาหรอ? และสิ่งที่เราทำเป็นการด่าหรือเสียมารยาทหรือเปล่าคะ? (เรายืนยันว่าเราไม่ได้ใช้น้ำเสียงหรือสายตาที่ไม่สุภาพใดๆทั้งสิ้น ขอกันดีๆทั่วไปค่ะ)

3.(อันนี้ฟังละงงจริงๆแหละ) หนังเรื่องนี้เป็นหนังเด็กหรอคะ 5555555 คือมันเป็นหนังสำหรับคนทุกวัยแหละ แต่มันไม่ใช่ 'หนังเด็ก' หรือเปล่าคะ? แล้วการที่เขานำคำนี้มาว่าเรามันสมเหตุสมผลหรอคะ? เป็นหนังเด็กแล้วแปลว่าเด็กจะยุกยิกคุยตลอดทั้งเรื่องโดยที่เขาไม่แคร์คนอื่นได้หรอคะ?

(แถม 4.การเหมารวมที่โยงไปหาสถาบันนี่มันใช่หรอคะ..? ส่วนตัวเราเกลียดคำนี้มากๆเลยแหละ ไม่โอเคกับข้อนี้มากๆ จะด่าเราก็ด่าที่เราค่ะ ตัวเราคือตัวเรา อย่าโยงอย่างอื่นมาเกี่ยว อันนี้ขอระบายเฉยๆค่ะ)

นั่นแหละค่ะ เป็นประสบการณ์ที่เดือดที่สุดในชีวิตเราเลย ก็เป็นบทเรียนให้เราได้รู้ว่าในสังคมมีคนแบบที่คิดต่างจากเรามากขนาดนี้อยู่จริงๆ ทั้งเกิดความเข้าใจและไม่เข้าใจอะไรหลายๆอย่างเยอะเลยค่ะ โลกเรามันก็.. มีอะไรให้เซอร์ไพร์สอีกเยอะเนอะ 555555

ขอรับฟังมุมมองและความเห็นล่วงหน้านะคะ ขอบคุณค่ะ

Edit (30.04.16) - ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ ได้มุมมองเพิ่มอีกพอสมควร และขออนุญาตอธิบายเหตุผลส่วนตัวเพิ่มว่าจริงๆเราไม่ใช่คนใจเย็นค่ะ ไม่ใช่เลย ปกติลุยและตอบกลับไวตลอด แต่เราคุยด้วยเหตุผลและเลือกคนที่จะลุยใส่ค่ะ ถ้าอีกคนคุยด้วยเหตุผลไม่ได้เราจะเลือกทำแบบที่ทำไปข้างต้นแทน ที่ยืนฟังนั่นไม่ได้ช้าหรือนางเอกหรอกค่ะ เรายิ้มกวนตีนตลอดเวลาแหละ (ยิ่งยิ้มเค้ายิ่งเดือดด้วยนะ แปลว่าเรากวนตีนได้ดีระดับนึงแหละ สนุกดี) คือเราพิจารณาตั้งแต่สายตาแวบแรกที่ได้รับในโรงตอนขอแล้วค่ะว่าคนๆนี้คุยกันดีๆไม่ได้ และสำหรับเรา เราไม่ชอบให้คนมาด่า เพราะฉะนั้นเราก็ไม่อยากด่าใคร แต่จุดนี้เข้าใจนะคะว่าพอเราไม่ตอบกลับไปเค้าก็ไม่เข้าใจว่าเค้าทำผิดอะไรด้วยหรือเปล่า อันนี้น้อมรับเลยค่ะ ถูกต้องเลย แต่ก็ด้วยเหตุผลที่ว่าไปค่ะ เราทำแบบนั้นเพราะเห็นแล้วว่าพูดด้วยเหตุผลชี้แจ้งไปก็ไม่ช่วยแน่ๆ เราไม่ใช่นางเอกค่ะ ด่าเจ็บด้วยนะ 55555 แต่ถ้าพูดกันด้วยเหตุผลแต่แรกแล้วเขาไม่เข้าใจ เราก็ถือว่าคนประเภทนี้ไม่มีคุณค่าพอที่จะไปยุ่งด้วยค่ะ ส่วนคนที่งงว่าเพื่อนไปไหน เพื่อนเราไม่ทราบค่ะว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะตอนเกิดเหตุเขาหันหลังให้เพื่อนเราและเรียกตัวเราไว้(เพื่อนเห็นแค่หน้าเราค่ะ แบะมันเห็นเรายิ้มกันไงคะเลยคิดว่าไม่มีอะไร 555555) หลังจากเพื่อนเราเดินไปแล้วระยะนึง เพื่อนเลยยืนรอห่างๆ ตอนนั้นมีเสียงประกาศโฆษณานั่นนี่ด้วยเพื่อนเลยไม่ได้ยินค่ะ แต่เพื่อนทราบเรื่องทีหลังนี่เดือดกว่าเราอีกนะคะ แทบจะวิ่งตามไปด่าแทนเลย 5555555
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
จากที่ยืนให้โดนด่าเฉยๆอยู่ประมาณ 5 นาที


ความรู้สึกของคุณช้านะคะ

คุณไม่แกร่งพอที่จะรับมือได้ ถึงยอมคน... ถ้าจะตัดสินใจทำอะไรไป ต้องมีความพร้อมนะคะ อย่าคิดหวังพึ่งพันทิปหลังจากเกิดเหตุแล้ว คุณต้องพึ่งตัวเองให้ได้กับปัญหาแบบนี้

ปรับปรุงที่ตัวเองนะคะ อย่าปากหนัก และมาคิดได้หลังจากเรือ่งมันผ่านไปแล้ว
ความคิดเห็นที่ 12
ขอก็อปข้อความนะครับ
"เด็กคุยยุกยิกกับคุณแม่ตลอดทั้งเรื่อง และคุณแม่เองก็คุยยุกยิกกับลูกตลอดทั้งเรื่องเหมือนกัน ทั้ง 2 คนไม่ได้คุยกันเสียงดังนะคะ ย้ำว่าไม่ได้เสียงดัง แต่คุยตลอดทั้งเรื่องจริงๆ ซึ่งสำหรับเรามันรบกวนสมาธิค่อนข้างมากเลยแหละ พอชมไปได้สักพักเราก็เลยตัดสินใจบอกกับคุณแม่น้องเบาๆว่า

"ขอโทษนะคะ รบกวนเบาเสียงหน่อยได้ไหมคะ"  "

คือ น้องเล่าแบบย้ำว่า เค้าไม่ได้คุยกันเสียงดัง แต่คุยตลอดทั้งเรื่อง  แต่น้องไปบอกให้เค้าเบาเสียง
เค้าก็เถียงว่าเค้ากระซิบเลยนะ ไม่ได้พูดดัง  
อันนี้ประเด็นแรกครับ คือ แบบว่ามันสื่อสารกันคนละเรื่องนะ

อีกอย่าง เรื่องบางเรื่องนะครับ ถึงแม้มันเป็นสิทธิ์ ถึงแม้เรามันอยู่ในโลกพันทิพย์ มีกลุ่มคนในนี้เห็นด้วยมากมาย
ต้องอย่างนั้น ต้องอย่างนี้ พอเราไปสู่โลกความเป็นจริง เราใช้สิทธิ์ตามโลกพันทิพย์ซะเลย
ไม่ได้บอกว่าผิดหรือถูกนะครับ  จริงอยู่มันเป็นสิทธิ์  แต่บางครั้งมันก็ไม่คุ้มหรอกครับ
ไปเจอคนนิสัยไม่ดีแบบในเคสนี้เข้า ได้ไม่คุ้มเสีย
เรื่องบางเรื่องถ้าเรานิ่งล่ะ จะออกมาแบบไหน  แต่บางเรื่องเราไม่นิ่งล่ะ เป็นเรื่องไปเลยก็มี
บางท่านในนี้ทักษะเค้าสูงครับ เค้าเตือน เค้าโดนสวน เค้าสวนกลับได้
เราต้องดูด้วยว่าเราประเภทไหนครับ ไม่งั้นคราวหน้า ถึงแม้เราถูกแต่เรื่องมันอาจจะลามไปกันใหญ่ก็ได้

คนที่คิด ทำ ไม่เหมือนเรา เราไปเตือนเขา ไปสอนเขา มีแต่คนดีๆเท่านั้นจะตอบสนองโดยดีครับ
ความคิดเห็นที่ 40
ผมมองว่าคุณปฎิบัติตัวดี ถูกขั้นตอนอยู่แล้วครับ
คุณตักเตือนด้วยคำสุภาพตามสิทธิ์ที่ทำ

แต่แน่นอนว่า คนที่ถูกเตือน ให้เราสุภาพแค่ไหน เขาก็ไม่พอใจหรอกครับ ยิ่งถ้าเป็นผู้ชายแบบผมนี่ หวิดจะชกต่อยหลายที ทั้งๆ ที่เราก็พูดสุภาพดีๆ มันเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว เพราะคนเราอีโก้มันเยอะ ที่เตือนแล้วสุภาพตอบ รับฟังดีๆ ก็มีแต่น้อยมาก ส่วนมากก็เดือดกลับมาแบบนี้ทั้งนั้น

ผมกลับ งง คนที่ยุให้โต้ตอบไปมากกว่า บางทีมันต้องดูบริบทบ้าง ถ้าเราเป็นนักศึกษา เข็มปักบนอกเสื้อ สวมเสื้อฟอร์มบริษัท ฯลฯ เราก็คงต้องเกรงใจชุดที่ใส่อยู่แหละครับ เพราะมันไม่งาม เผลอๆ เกิดมีปากเสียงกันจริงๆ โดนลากไปเกี่ยวกัลสถาบัน หรือที่ทำงานก็ยุ่งอีก มองในมุมนี้ผมถือว่าทำตัวดีโอเคแล้ว ถ้าเป็นผมก็คงไม่ไปโต้ตอนนั้นเหมือนกัน ถ้าแต่งไปรเวทไปก็คงได้ใส่กันเต็มเหนี่ยว

ได้มาถามและระบายในนี้ก็โอเคครับ อย่างน้อยผมก็เข้าใจและเป็นกำลังใจให้นะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่