สวัสดีเพื่อนๆทุกคน วันนี้เราจะมารีวิว ใช้คำว่าเล่าประสบการณ์การไปทำpassportดีกว่า หลายๆคนคงจะคิดว่า ก็แค่ไปทำpassport จะมาตั้งกระทู้ให้รกทำใม ใจร่มๆนะคะทุกคน เพราะการไปทำpassportของเราในครั้งนี้ มีปัญหาเยอะแยะมากมาย อันดับแรก เราอายุยังไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ อันดับสอง พ่อกับแม่ของเราหย่ากัน ซึ่งอันหลังมันสร้างปัญหาอย่างร้ายกาจ ตามเวปของกรมการกงศุล [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.consular.go.th/main/th/services/21987-%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%B2.html เอกสารที่เราต้องใช้มีเยอะและยุ่งยากมาก เพราะพ่อกับแม่ไม่ได้บันทึกไว้ว่าให้บุตรอยู่ในการรับรองของใคร เราต้องไปขึ้นศาล   บลาๆๆ คือตอนที่อ่านครั้งแรก ถอดใจมากเพราะมันยุ่งยาก แต่ด้วยความอยากเที่ยวอันแรงกล้า ก็เลยลองหาข้อมูลจากในpantip หลายๆกระทู้ช่วยเราได้มาก แต่ไม่มีกระทู้ไหนบอกเราได้อย่างชัดเจนเลยว่า ในกรณีแบบเราต้องใช้เอกสารหรือมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง(หรือมีแต่หาไม่เจอ ยิ่งเด๋อๆอยู่=.,=) พออ่านไปอ่านมา ก็เลยได้ความว่าพ่อกับแม่ต้องมาเซ็นต์ทั้งคู่!!! โลกแตกเลยค่าาา ส่วนเอกสารที่เราต้องใช้คือ
      1. บัตรประจําตัวประชาชนฉบับจริง ของพ่อ แม่และลูก
      2. สูติบัตรฉบับจริง
      3. หนังสือเดินทางเล่มเดิมฉบับจริง(ถ้ามี)
      4. หนังสือให้ความยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศฉบับจริง
      5. บันทึกคําให้การรับรองปกครองบุตร (ป.ค.14) ฉบับจริง
      6. บันทึกการหย่าที่ระบุให้บิดาหรือมารดาเป็นผู้ใชอํานาจปกครองผู้เยาว์แต่ผู้เดียวฉบับจริง
เยอะมาก ยิ่งเอกสารอันหลังๆ ไม่มีท่าทีว่าจะหามาได้ง่ายๆเลย เศร้าไปอีก หาไปหามาปัญหาเกิดอีกอย่างคือ
แ ม่ มา เ ซ็ น ต์ ต่ อ ห น้ า เ จ้ า พ นั ก ง า น ไ ม่ ไ ด้ !! งื้อออ โลกถล่มเลยค่า ดับฝันมากมาย
ก็เลยหาข้อมูลใหม่ ได้ความว่า ในกรณีที่ พ่อหรือแม่คนได้คนหนึ่งมาเซ็นต์ต่อหน้าเจ้าพนักงานไม่ได้ ให้ใช้หนังสือให้ความยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศแทน ซึ่งไปขอได้ที่ที่ว่าการอำเภอตามทะเบียนบ้าน โอ๊ยยยโล่งง ก็เลยพาแม่ไปขอพอได้มา หน้าตาก็เป็นแบบนี้

ตอนที่ไปขอ ต้องไปทั้งแม่และลูกนายอำเภอจะซักถามเล็กน้อย แล้วก็ได้มา(ต้องใช้บัตรประชาชนฉบับจริงของทั้งแม่และลูกนะคะ)
ได้เอกสารแม่มาแล้ว ปัญหางอกมาอีกอย่างคือ ติ ด ต่ อ พ่ อ ไ ม่ ไ ด้!!! เราโตมากับครอบครัวทางแม่ ก็เลยไม่ค่อยได้ติดต่อพ่อ ที่บ้านโมโหพ่อกันใหญ่
เพราะเราโทรไปก็ไม่รับ ไลน์ไปก็อ่านแล้วก็ไม่ตอบ(เข้าใจฟิลคนที่แอบชอบ ส่งข้อความไปเค้าอ่านแต่ไม่ตอบเลยอ่ะ คือเศร้ามาก แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะโทรไปก็ไม่รับ ไลน์ไปก็ไม่ตอบเนี้ยแหละ!) ป้าเราก็เลยไปบ้านพี่สาวพ่อ ถามว่าทำใมไม่รับโทรศัพย์เรา พี่สาวพ่อเลยโทรหาพ่อ สรุปคือ นางอ้างว่า(ขอใช้คำนี้ เพราะคำพูดนางเชื่อถือไม่ได้!)นางป่วย ปิดเสียงโทรศัพย์ ไม่ได้ยินเสียง โถ่คุณพ่อคะ ลูกโทรหาเป็นสิบรอบ ไม่ใช่แค่มันเดียวนะคะ เป็นอาทิตย์ จำได้ว่าตอนนั้น ร้องไห้หนักมาก เค้างอนพ่ออ่ะ งื้ออออ(ดราม่าไป) สุดท้ายพ่อก็โทรมาด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด ถามว่าจะไปทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ นัดวันเวลารู้เรื่องแล้วคุยไปดราม่าไป(เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า พ่อแพ้น้ำตาผู้หญิง! เชอะ) หาข้อมูลต่อทีแรกคิดว่าต้องใช้ใบหย่า บันทึกการหย่าด้วย แต่หาไม่เจอจริงๆว่าต้องใช้ไหม ก็เลยตัดสินใจ โทรไปถาม call centre 025728442 แบบ 24 ชั่วโมง ได้ความว่า ในกรณีของผู้เยาว์อายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ใช้เอกสารดังนี้
    1. บัตรประชาชนตัวจริงของทั้ง พ่อ แม่และลูก
    2. หนังสือให้ความยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศฉบับจริง ของพ่อหรือแม่(ของคนที่มาเซ็นต์ต่อหน้าเจ้าพนักงานในวันที่ไปทำไม่ได้)
    3. พ่อหรือแม่ คนใดคนหนึ่งต้องมา
    4. ไม่ต้องใช้เอกสารทางการหย่าของพ่อกับแม่
คือชีวิตง่ายขึ้นเยอะมาก (โทรไปถามตั้งแต่แรกก็จบแล้วป่ะ! ก็เค้ากลัวพี่call centreดุอ่ะ คิดว่าพี่เค้าจะส่งเสียงนางยักษ์มาตามสายอ่ะ เค้ากลัววว) เอาจริงๆแนะนำเลยว่า โทรไปถามเถอะ จะได้ไม่เป็นภาระต่อต่อมน้ำตา 55555 วางสายเสร็จ สายตาก็ไปปะกับเวปแนะนำการจองคิวออนไลน์ เห่ยย มันง่ายหว่ะแก
เราก็เลยจองคิวออนไลน์ไป[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.passport.in.th/eService/ จะบอกว่าสะดวกมากกกกกกก เราทำตามเวปนี้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://dreamdestination.in.th/webboard_post.aspx?tid=224 เราจองไปทำที่กรมการกงศุล เวลา 14.30 น.-14.45 น. ต้องจองก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วันนะคะ กรอกข้อมูลทุกอย่างเรียบร้อย ก็จะได้บาร์โค้ดมา จะปริ้นต์หรือแคปไว้ในโทรศัพย์ก็ได้เป็นหลักฐาน ว่าเราคือคนที่จองมาน่ะ แล้ววันสำคัญก็มาถึง เราไปก่อนเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ขุ่นพระคนเยอะมากกกก จะเสร็จกี่โมงคะคุณ จำนวนคนรอคิวประมาณ 300 กว่าคิว OMG! คือชั้นพลาดอะไรไปหรือเปล่า คือคนเยอะไป คือไม่ทันแน่เพราะพ่อต้องกลับไปทำงาน คือตาย นะตอนนั้นคืองงมากไม่คิดว่าคนจะเยอะขนาดนี้ แต่ แต่ แต่!!! ไม่ต้องตกใจไปคะ เราจองคิวออนไลน์มา (ฮึฮึฮึหัวเราะอย่างสะจายยยยยยย) การจองคิวออนไลน์มาก่อนนั้น มีข้อดีตรงที่ เราจะมีช่องทางสำหรับผู้ที่จองคิวออนไลน์มาโดยเฉพาะ(แยกจากบริเวณที่ใช้บริการปกติ) เข้าไปยื่นบาร์โค้ดและใช้บัตรประชาชนตัวจริงยื่นทั้งของพ่อแม่และลูกนะคะ ขาดคนใดคนหนึ่งไม่ได้เด็ดขาดพอเสร็จก็จะได้บัตรคิวมา(อันที่จริงก็ ยื่นปุ๊ปถึงคิวปั๊ป ดีงามพระรามสี่ ) พอเข้าไปก็วัดส่วนสูง เซ็นต์เอกสาร ถ่ายรูป สแกนลายนิ้วมือ พ่อเซ็นต์เอกสาร เสร็จเรียบร้อยค่ะ ทั้งหมดใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที พอเสร็จพี่พนักงานก็บอกให้ไปชำระเงินค่าธรรมเนียม ค่าไปรษณีย์ เป็นอันเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ทั้งหมดใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที จะช้าเล็กน้อยก็ตรงที่ไปต่อแถวจ่างเงิน แต่ก็ไม่มากอาจเป็นเพราะตอนนั้นคนมาจ่ายเงินน้อยด้วย(น่าจะนะคะ) พี่พนักงานบริการดี ยิ้มแย้ม เป็นกันเองมากกก ถ่ายรูปเสร็จพี่เค้าก็จะถามว่าโอเคไหมถ้าไม่โอเคขอถ่ายใหม่ได้ ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายๆคนคิด นับเป็นประสบการณ์ใหม่ที่น่าประทับใจ

-เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า-
    การที่โตมากับครอบครัวที่สอนให้เราทำอะไรเองตั้งแต่เด็กเป็นลาภอันประเสริฐ ไม่รู้จึงถามไม่ใช่เรื่องผิด ไม่รู้ไม่ถามเป็นเรื่องที่ผิด การทำในสิ่งที่เราไม่ถนัดหรือไม่เคยทำมาก่อนครั้งแรกมักน่ากลัวเสมอ(โทรถามcall centreเป็นต้น เดี๋ยวมันน่ากลัวตรงไหนห่ะ? ก็เก๊ากลัวอ่ะ T.T) เด็กที่พ่อแม่แยกทางกันไม่ใช่เด็กมีปัญหาแต่สังคมต่างหากที่กำหนดให้พวกเค้าเป็นปัญหา สุดท้ายจริงๆครอบครัวเก๊าน่ารักเนอะ 555555555555555 (ไม่เกี่ยวกับกระทู้ไหม?!)

ปล. อย่ากลัวที่จะต้องทำอะไรเองนะคะ สนุกดีออก คิดซะว่าการได้ทำอะไรใหม่ๆด้วยตัวเองเป็นการเอาชนะตัวเองให้ได้ เหมือนการผ่านด่านของชีวิต ถ้าเราชนะไม่ได้เราก็จะติดอยู่ตรงนี้ตลอดไป(ตรรกะแบบเด็กน้อย 55555555)
ปล. มันไปทำpassportกันทำใม? จะหนีไปไหนนั้น? ครุคริ รอติดตาม EP. ต่อไปนะคะ จะไปก็ไปที่ไหนต่อนั้น รอติดตามนะคะ
    ขอบคุณที่อ่านถึงตรงนี้นะคะ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อใครหลายๆคน ขอบคุณค่าาาาา