วันว่างๆ นั่งเล่นเฟสเพลินๆ กดนู้น กดนนี้ จนไปเจอโพสต์แนะนำงาน โดยมีเนื้อความประมาณว่า
"รับเจ้าหน้าที่คีย์ข้อมูลสินค้า ผู้ช่วยรับออเดอร์ออนไลน์ บันทึกประวัติลูกค้า แจ้งสถานะจัดส่งสินค้า แอดมินเวปไซต์ วันละ500บาทต่อวัน รับงานไปทำที่บ้านได้ ใครว่างงานหรือหางานเสริมอยู่ #สนใจติดต่อเจ้าหน้าที่........... หรือ คลิกลงทะเบียนรับข้อมูลเพิ่มเติม>>>https://.............. " กดตามไปก็จะเป็นแบบให้กรอกประวัติทิ้งไว้ แล้วจะมีเจ้าหน้าที่โทรกลับ
#คุณสมบัติผู้สมัคร :
1. ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา อายุ 20 ขึ้นไป
2. ใช้อินเตอร์เน็ตพื้นฐานได้ ( เล่นเฟส,เล่นไลน์)
2. ทำงาน 2-3 ชั่วโมงทุกวัน
3. ขยัน มีความตั้งใจในการทำงาน
4. สอนงานให้ฟรี! อบรมแค่ 3 ชั่วโมง ก็รับงานกลับไปทำที่บ้านได้เลย *รายได้ 8,000-15,000 มากน้อยตามความขยัน
เอกสารที่ต้องใช้ในการสมัคร
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ฉบับ
- สำเนาบัญชีธนาคาร 1 ฉบับ
เท่าที่อ่านก็น่าสนใจแหะ เพราะเห็นเป็นงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ค่อนข้างตรงสายที่เรียนมา น่าจะได้ใช้ เป็นงานเสริมได้ด้วย ก็กรอกข้อมูลทิ้งไว้ วันต่อมาก็มีเจ้าหน้าที่โทรมาอธิบายการทำงาน พูดประมาณว่า ตัวเขาขายของออนไลน์เยอะมาก คือรับออเดอร์ไม่ทัน เลยอยากได้ผู้ช่วยเพิ่ม เราก็คิดว่าเป็นแม่ค้าขายของออนไลน์ทั่วไป ที่คงขายดีมากเลยอยากได้ผู้ช่วยเพิ่มในระบบงาน แต่ก็แอบคิดว่าทำไมต้องมีนัดไปอบรมที่โรงแรมเลยนะ คุยกัน สอนงานกันธรรมดาๆ ไม่ได้เหรอ สงสัยสินค้าในเครือจะเยอะมากกกกก อีกทั้งยังมีแจ้งเบื้องต้นในการเตรียมตัวมาอบรมงาน ให้เราเลือกเวลาที่สะดวกมาอบรม มีเช้า/บ่าย บอกให้เตรียมสมาร์ทโฟน เพาเวอร์แบงค์มาด้วย เพราะจะเรียนรู้งานกันในนั้น แล้วก็มี sms แจ้งรายละเอียด เพื่อนำไปแสดงตอนลงทะเบียนหน้างานอีกรอบ
เมื่อวันอบรมมาถึง คนเยอะมากกกกกก มากถึงมากที่สุด เริ่มคิดแล้วว่าใช่ ต้องใช่แน่ๆ แต่ก็เอาวะ ไหนๆก็ถ่อมาถึงนี่ละ ลองนั่งฟังดู เพราะรู้ว่าตัวเองใจแข็ง และมีวิจารณญาณพอสมควรกับงานพวกนี้ ไม่สามารถโน้มน้าวฉันได้ง่ายๆหรอก (ขนาดไม่ง่ายนะ ก็ยังมานั่งฟังอยู่นี่) คือเราเคยทำงานส่งเสริมการขายมาก่อน เคนบรีฟงานข้อมูลผลิตภัณฑ์ มีทักษะในการเชียร์ขายพอสมควร เลยค่อนข้างรู้ทันกับคนโน้มน้าวในการขายของเหมือนๆกัน
เมื่อถึงเวลาที่มีวิทยากรมาพูดบนเวที กว่าจะได้เริ่มฟังบรรยายจริงๆ เลทไปจากเวลานัดหมายตั้ง 1 ชั่วโมง ก็นั่นแหละ มาอธิบายการตลาดให้ดูเป็นการเป็นงานดี แล้วก็เริ่มบอกชื่อองค์กร หน่วยงาน ตอนแรกๆก็อธิบายการทำแบนเนอร์ เว็บไซต์ ทำโฆษณาบนอินเตอร์เน็ต(ตรงนี้กือบจะเชื่อแล้ว) แล้วก็เข้าสู่วัตถุประสงค์ของงาน วิทยากรก็พูดตรงๆเลยว่าบริษัทของเราเป็น "ขายตรง" อ๊ะ อ๊ะ แต่เดี๋ยวก่อน ได้ยินคำว่าขายตรงอย่าเพิ่งยี๊กันนะคะคุณขา(จำประโยคเขามา ฮ่าาาา) ทุกอย่างต่อจากนี้.... ถ้าคนที่เคยไปนั่งฟังพวกแนวขายตรงมาแล้วก็คงจะพอนึกออกว่ามันเป็นเช่นไร ต้องเสียตังในการสมัครสมาชิก มีขั้นธรรมดา 350 ไปถึงขั้นไดเร็กเตอร์ ต้องซื้อผลิตภัณฑ์โดยมียอดสุทธิถึง 65000 บาท(เยอะสุดในบรรดาที่เคยไปฟังพวกนี้มาเลยนะเจ้านี้) ที่จะสามารถได้เงินจากคนที่มาต่อๆเรา แนวๆลูกโซ่นั่นเอง แต่เขาจะพยายามพรีเซ้นท์ว่า ไม่มีเงินตอนนี้ยังไม่เป็นไร ที่ปรึกษาเราช่วยได้ มีช่องทางให้ซื้อตามกำลังทรัพย์ แต่จะเป็นขั้นไดเรกเตอร์ได้อย่างที่บอกต้องซื้อให้ถึง หกหมื่นกว่าบาทในระยะเวลา 3 เดือน...มั้ง(จำไม่ค่อยได้ละ) เมื่อเราซื้อไปก็ให้เรานำไปขาย แล้วจะได้กำไรกลับมา ทีนี้ไม่ต้องซื้อเองอีกแล้ว ซื้อแค่ครั้งเดียว ต่อไปถ้าลูกค้ามาซื้อกับเรา ก็ให้เราสั่งกับทางบริษัทแล้วเป็นคนเอามาให้ลูกค้าได้เลย เขาจะย้ำกำไรจากช่องทางที่หาคนมาได้เยอะๆ มากกว่า แบบหาดาวน์ไลน์ วิทยากรก็อธิบายๆ
วิทยากรที่ขึ้นมาพูดก็จะมีสตอรี่แบบจนมาก่อน ตอนมานั่งฟังแบบพวกคุณๆผมก็ไม่เชื่อ จนมาทุกวันนี้ได้กำไรหลักแสนต่อเดือน บลาๅ ซึ่งก็ไม่รู้ข้อเท็จจริงอย่างไร เน้นการไปเที่ยวต่างประเทศมากกก แบบทำงานดี มีคะแนนเยอะ ได้ไปนู้นไปนี่ พยายามพาวทูพรีเซ้นท์ว่าตัวเองจบเกียรตินิยมมานะ แต่ก่อนทำงานประจำได้เงินเดือน 11000 บาท ขยับขึ้นก็ไม่เท่าไหร่ จนมาเจอที่นี่ จากแค่จะทำเป็นพาร์ทไทม์แต่ได้เงินเยอะกว่างานประจำ เลยออกมาจากงานประจำนั้นซะเลย แล้วก็โชว์พรรคพวกของตัวเองว่ามีทั้งสถาปนิก เงินเดือน 5-6 หมื่นยังมาทำงานนี้เลย แล้วตัวเองทำตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว คนยังไม่เยอะ ป่านนี้ก็อยู่ต้นๆหัวอยู่ละ ถามว่าถ้าเรามาทำกันตอนนี้จากคนทำเป็นร้อยๆพันๆ ไหนจะคนเก่า และคนใหม่ จะมีพื้นที่เหลือให้ใครเป็นลูกค้าได้ ในเมื่อมีแต่พ่อค้าแม่ขายกันอยู่แล้วทั้งนั้น แล้วสินค้าราคาเป็นพันๆ สภาพสังคม แวดล้อมเรา เราคงไม่สามารถไปแนะนำใครให้มาซื้อได้หรอก ทำไม่ลงจริงๆ
ตลกอีกอย่างคือ เวลาวิทยากรที่ขึ้นไปบนเวทีนะ จะมีลูกคู่ เสียงตอบรับแบบให้อารมณ์เชียร์มากกก คอยเฮ ปรบมือ มีรีแอคชั่นตลอด ใครเคยซื้อของเล่นประมูลตามตลาด งานวัดอ่ะ แบบนั้นเลย จะเป็นพวกพนักงานเก่า ที่เคยมานั่งฟังแบบเราๆนี่แหละ ก็พวกนี้แหละที่โฆษณาดึงให้เราๆมาฟังกันต่อๆอีกที
สิ่งที่เสียความรู้สึกที่สุดคือที่เขาให้เราเตรียมสมาร์ทโฟน สำเนาบัตรประชาชน หน้าบุ๊คแบงค์ แต่ไม่เห็นมีใครมาเก็บไปเลย แถมไม่มีการทดลอง ปฏิบัติงานใดๆทั้งสิ้น อุตส่าห์พกเพาเวอร์แบงค์หนักๆมาเก้อเลย วิทยากรกลับบอกว่าให้มาใหม่ในวันพรุ่งนี้ เพื่ออบรมทดลองงาน เพราะวันนี้มีปัญหาเรื่องสถานที่มีการปรับปรุงไฟ ตัดไฟไรสักอย่าง เลยไม่ได้อบรมที่บริษัท ทำให้ไม่สะดวกในการทดลองงาน คือเราแบบ นี่ต้องมาเสียเวลาอีกเหรอวะ ไหนตอนโทรมาไม่บอกให้หมดตามนี้ จะได้ไม่เสียเวลามาแต่แรก มีหลายคนที่ไม่สามารถมาได้ในวันพรุ่งนี้ รู้ไหมเจ้าหน้าที่บอกว่าอะไร.... นางบอกให้ทุกคนหยุดงานเพื่อมาอบรมงานกับนาง เพราะโอกาสไม่ได้มาง่ายๆนู้นนี้ แนะช่องทางให้ทุกคนแกล้งป่วย ปวดหัว ปวดท้อง ซื้อใบรับรองแพทย์ คือเราแบบ นี่ความคิดของคนระดับบนๆ ในองค์กรนี้ใช่ปะ เออ....รู้เลยว่าภายในจะเป็นยังไง ทำยังไงก็ได้ให้ได้มาโดยไม่สนวิธีการกันเลย
และอย่างที่สอง ที่เสียความรู้สึก คือตอนวิทยากรนางเล่าสตอรี่ของตัวเองว่าแบบตอนตัวเองมาทำจนมาก จนแบบเงินในบัญชีไม่ถึงร้อย มาทำงานครั้งแรก ได้กำไรกลับมา 3 หรือ 5 พันนี่แหละ โดยที่ยังไม่ได้ลงทุนอะไร แค่คลิ๊กๆๆๆ กลังจากนั้นก็แบบอยากจะเป็นไดเร็กเตอร์เร็วๆ เลยไปยืมเงินเพื่อนมาคนละนิดคนละหน่อย จนถึงจำนวน 3 หมื่นกว่าบาท คือความคิดตรงนี้เราโคตรขัดแย้งเลย ทำไมนางถึงพูดเชิงแนะให้คนอื่นต้องไปกู้หนี้ยืมสินมา ถึงนางจะพยายามพรีเซ้นท์ว่างานนางได้ทุนเร็ว ได้กำไรเร็ว คืนทุนได้แน่นอน แต่การหยิบยืมคนอื่นก็ไม่ควรไหม ไม่ชอบเลย
วิทยากรคอยบอกสโลแกน เราไม่ตื๊อ ไม่ตามคนไม่สนใจ แต่คนที่ชวนนี่มาคือตามยิกๆ บอกไม่ได้จะมาตื๊อ ไม่ได้จะมาบิ้ว มาคุยกัน แล้วก็เล่าสตอรี่ของตัวเองให้ฟังอีกรอบ เออแหะ ฟังอัตชีวประวัติคนเยออะเลยวันนี้ สงสารผู้สูงอายุหลายคน กลัวแทนว่าทำไปจะไม่ได้กำไร ตามที่เขาโฆษณาไว้น่ะสิ แต่ถ้าทำได้กัน ได้จริงก็ดีใจด้วย เห็นสีหน้า แววตาแต่ละคนแล้วคือดูออกเลยนะ แบบมาที่นี่ด้วยหวังว่าเป็นที่พึ่ง มีใจหวัง แต่ไม่รู้ว่าที่สุดแล้วทุกคนจะตัดสินใจอะไรยังไง พอเขาปล่อยเรานี่รีบเดินออกเร็วๆเลย ขอบาย ตอนแรกจากเฉยๆกับงานขายตรง บอกเลยว่าขอแอนตี้เลยดีกว่า
นี่ลองเอาชื่อองค์กรมาเสิร์ชหาข้อมูล แล้วก็โป๊ะ เจอความเห็นที่ทำให้ตาสว่างแบบชัดมากๆ เป็น HD เลย ถ้ารู้ชื่อองค์กรแต่แรก ได้หาข้อมูลแต่แรก คงไม่ต้องเสียเวลา เสียค่าเดินทางแล้ว
หลงกลไปสมัครงานเพราะคำว่า "เจ้าหน้าที่เช็คออเดอร์ออนไลน์ แอดมินเว็บไซด์ คีย์ข้อมูลสินค้า" ที่แท้เป็น "ขายตรง"
"รับเจ้าหน้าที่คีย์ข้อมูลสินค้า ผู้ช่วยรับออเดอร์ออนไลน์ บันทึกประวัติลูกค้า แจ้งสถานะจัดส่งสินค้า แอดมินเวปไซต์ วันละ500บาทต่อวัน รับงานไปทำที่บ้านได้ ใครว่างงานหรือหางานเสริมอยู่ #สนใจติดต่อเจ้าหน้าที่........... หรือ คลิกลงทะเบียนรับข้อมูลเพิ่มเติม>>>https://.............. " กดตามไปก็จะเป็นแบบให้กรอกประวัติทิ้งไว้ แล้วจะมีเจ้าหน้าที่โทรกลับ
#คุณสมบัติผู้สมัคร :
1. ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา อายุ 20 ขึ้นไป
2. ใช้อินเตอร์เน็ตพื้นฐานได้ ( เล่นเฟส,เล่นไลน์)
2. ทำงาน 2-3 ชั่วโมงทุกวัน
3. ขยัน มีความตั้งใจในการทำงาน
4. สอนงานให้ฟรี! อบรมแค่ 3 ชั่วโมง ก็รับงานกลับไปทำที่บ้านได้เลย *รายได้ 8,000-15,000 มากน้อยตามความขยัน
เอกสารที่ต้องใช้ในการสมัคร
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ฉบับ
- สำเนาบัญชีธนาคาร 1 ฉบับ
เท่าที่อ่านก็น่าสนใจแหะ เพราะเห็นเป็นงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ค่อนข้างตรงสายที่เรียนมา น่าจะได้ใช้ เป็นงานเสริมได้ด้วย ก็กรอกข้อมูลทิ้งไว้ วันต่อมาก็มีเจ้าหน้าที่โทรมาอธิบายการทำงาน พูดประมาณว่า ตัวเขาขายของออนไลน์เยอะมาก คือรับออเดอร์ไม่ทัน เลยอยากได้ผู้ช่วยเพิ่ม เราก็คิดว่าเป็นแม่ค้าขายของออนไลน์ทั่วไป ที่คงขายดีมากเลยอยากได้ผู้ช่วยเพิ่มในระบบงาน แต่ก็แอบคิดว่าทำไมต้องมีนัดไปอบรมที่โรงแรมเลยนะ คุยกัน สอนงานกันธรรมดาๆ ไม่ได้เหรอ สงสัยสินค้าในเครือจะเยอะมากกกกก อีกทั้งยังมีแจ้งเบื้องต้นในการเตรียมตัวมาอบรมงาน ให้เราเลือกเวลาที่สะดวกมาอบรม มีเช้า/บ่าย บอกให้เตรียมสมาร์ทโฟน เพาเวอร์แบงค์มาด้วย เพราะจะเรียนรู้งานกันในนั้น แล้วก็มี sms แจ้งรายละเอียด เพื่อนำไปแสดงตอนลงทะเบียนหน้างานอีกรอบ
เมื่อวันอบรมมาถึง คนเยอะมากกกกกก มากถึงมากที่สุด เริ่มคิดแล้วว่าใช่ ต้องใช่แน่ๆ แต่ก็เอาวะ ไหนๆก็ถ่อมาถึงนี่ละ ลองนั่งฟังดู เพราะรู้ว่าตัวเองใจแข็ง และมีวิจารณญาณพอสมควรกับงานพวกนี้ ไม่สามารถโน้มน้าวฉันได้ง่ายๆหรอก (ขนาดไม่ง่ายนะ ก็ยังมานั่งฟังอยู่นี่) คือเราเคยทำงานส่งเสริมการขายมาก่อน เคนบรีฟงานข้อมูลผลิตภัณฑ์ มีทักษะในการเชียร์ขายพอสมควร เลยค่อนข้างรู้ทันกับคนโน้มน้าวในการขายของเหมือนๆกัน
เมื่อถึงเวลาที่มีวิทยากรมาพูดบนเวที กว่าจะได้เริ่มฟังบรรยายจริงๆ เลทไปจากเวลานัดหมายตั้ง 1 ชั่วโมง ก็นั่นแหละ มาอธิบายการตลาดให้ดูเป็นการเป็นงานดี แล้วก็เริ่มบอกชื่อองค์กร หน่วยงาน ตอนแรกๆก็อธิบายการทำแบนเนอร์ เว็บไซต์ ทำโฆษณาบนอินเตอร์เน็ต(ตรงนี้กือบจะเชื่อแล้ว) แล้วก็เข้าสู่วัตถุประสงค์ของงาน วิทยากรก็พูดตรงๆเลยว่าบริษัทของเราเป็น "ขายตรง" อ๊ะ อ๊ะ แต่เดี๋ยวก่อน ได้ยินคำว่าขายตรงอย่าเพิ่งยี๊กันนะคะคุณขา(จำประโยคเขามา ฮ่าาาา) ทุกอย่างต่อจากนี้.... ถ้าคนที่เคยไปนั่งฟังพวกแนวขายตรงมาแล้วก็คงจะพอนึกออกว่ามันเป็นเช่นไร ต้องเสียตังในการสมัครสมาชิก มีขั้นธรรมดา 350 ไปถึงขั้นไดเร็กเตอร์ ต้องซื้อผลิตภัณฑ์โดยมียอดสุทธิถึง 65000 บาท(เยอะสุดในบรรดาที่เคยไปฟังพวกนี้มาเลยนะเจ้านี้) ที่จะสามารถได้เงินจากคนที่มาต่อๆเรา แนวๆลูกโซ่นั่นเอง แต่เขาจะพยายามพรีเซ้นท์ว่า ไม่มีเงินตอนนี้ยังไม่เป็นไร ที่ปรึกษาเราช่วยได้ มีช่องทางให้ซื้อตามกำลังทรัพย์ แต่จะเป็นขั้นไดเรกเตอร์ได้อย่างที่บอกต้องซื้อให้ถึง หกหมื่นกว่าบาทในระยะเวลา 3 เดือน...มั้ง(จำไม่ค่อยได้ละ) เมื่อเราซื้อไปก็ให้เรานำไปขาย แล้วจะได้กำไรกลับมา ทีนี้ไม่ต้องซื้อเองอีกแล้ว ซื้อแค่ครั้งเดียว ต่อไปถ้าลูกค้ามาซื้อกับเรา ก็ให้เราสั่งกับทางบริษัทแล้วเป็นคนเอามาให้ลูกค้าได้เลย เขาจะย้ำกำไรจากช่องทางที่หาคนมาได้เยอะๆ มากกว่า แบบหาดาวน์ไลน์ วิทยากรก็อธิบายๆ
วิทยากรที่ขึ้นมาพูดก็จะมีสตอรี่แบบจนมาก่อน ตอนมานั่งฟังแบบพวกคุณๆผมก็ไม่เชื่อ จนมาทุกวันนี้ได้กำไรหลักแสนต่อเดือน บลาๅ ซึ่งก็ไม่รู้ข้อเท็จจริงอย่างไร เน้นการไปเที่ยวต่างประเทศมากกก แบบทำงานดี มีคะแนนเยอะ ได้ไปนู้นไปนี่ พยายามพาวทูพรีเซ้นท์ว่าตัวเองจบเกียรตินิยมมานะ แต่ก่อนทำงานประจำได้เงินเดือน 11000 บาท ขยับขึ้นก็ไม่เท่าไหร่ จนมาเจอที่นี่ จากแค่จะทำเป็นพาร์ทไทม์แต่ได้เงินเยอะกว่างานประจำ เลยออกมาจากงานประจำนั้นซะเลย แล้วก็โชว์พรรคพวกของตัวเองว่ามีทั้งสถาปนิก เงินเดือน 5-6 หมื่นยังมาทำงานนี้เลย แล้วตัวเองทำตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว คนยังไม่เยอะ ป่านนี้ก็อยู่ต้นๆหัวอยู่ละ ถามว่าถ้าเรามาทำกันตอนนี้จากคนทำเป็นร้อยๆพันๆ ไหนจะคนเก่า และคนใหม่ จะมีพื้นที่เหลือให้ใครเป็นลูกค้าได้ ในเมื่อมีแต่พ่อค้าแม่ขายกันอยู่แล้วทั้งนั้น แล้วสินค้าราคาเป็นพันๆ สภาพสังคม แวดล้อมเรา เราคงไม่สามารถไปแนะนำใครให้มาซื้อได้หรอก ทำไม่ลงจริงๆ
ตลกอีกอย่างคือ เวลาวิทยากรที่ขึ้นไปบนเวทีนะ จะมีลูกคู่ เสียงตอบรับแบบให้อารมณ์เชียร์มากกก คอยเฮ ปรบมือ มีรีแอคชั่นตลอด ใครเคยซื้อของเล่นประมูลตามตลาด งานวัดอ่ะ แบบนั้นเลย จะเป็นพวกพนักงานเก่า ที่เคยมานั่งฟังแบบเราๆนี่แหละ ก็พวกนี้แหละที่โฆษณาดึงให้เราๆมาฟังกันต่อๆอีกที
สิ่งที่เสียความรู้สึกที่สุดคือที่เขาให้เราเตรียมสมาร์ทโฟน สำเนาบัตรประชาชน หน้าบุ๊คแบงค์ แต่ไม่เห็นมีใครมาเก็บไปเลย แถมไม่มีการทดลอง ปฏิบัติงานใดๆทั้งสิ้น อุตส่าห์พกเพาเวอร์แบงค์หนักๆมาเก้อเลย วิทยากรกลับบอกว่าให้มาใหม่ในวันพรุ่งนี้ เพื่ออบรมทดลองงาน เพราะวันนี้มีปัญหาเรื่องสถานที่มีการปรับปรุงไฟ ตัดไฟไรสักอย่าง เลยไม่ได้อบรมที่บริษัท ทำให้ไม่สะดวกในการทดลองงาน คือเราแบบ นี่ต้องมาเสียเวลาอีกเหรอวะ ไหนตอนโทรมาไม่บอกให้หมดตามนี้ จะได้ไม่เสียเวลามาแต่แรก มีหลายคนที่ไม่สามารถมาได้ในวันพรุ่งนี้ รู้ไหมเจ้าหน้าที่บอกว่าอะไร.... นางบอกให้ทุกคนหยุดงานเพื่อมาอบรมงานกับนาง เพราะโอกาสไม่ได้มาง่ายๆนู้นนี้ แนะช่องทางให้ทุกคนแกล้งป่วย ปวดหัว ปวดท้อง ซื้อใบรับรองแพทย์ คือเราแบบ นี่ความคิดของคนระดับบนๆ ในองค์กรนี้ใช่ปะ เออ....รู้เลยว่าภายในจะเป็นยังไง ทำยังไงก็ได้ให้ได้มาโดยไม่สนวิธีการกันเลย
และอย่างที่สอง ที่เสียความรู้สึก คือตอนวิทยากรนางเล่าสตอรี่ของตัวเองว่าแบบตอนตัวเองมาทำจนมาก จนแบบเงินในบัญชีไม่ถึงร้อย มาทำงานครั้งแรก ได้กำไรกลับมา 3 หรือ 5 พันนี่แหละ โดยที่ยังไม่ได้ลงทุนอะไร แค่คลิ๊กๆๆๆ กลังจากนั้นก็แบบอยากจะเป็นไดเร็กเตอร์เร็วๆ เลยไปยืมเงินเพื่อนมาคนละนิดคนละหน่อย จนถึงจำนวน 3 หมื่นกว่าบาท คือความคิดตรงนี้เราโคตรขัดแย้งเลย ทำไมนางถึงพูดเชิงแนะให้คนอื่นต้องไปกู้หนี้ยืมสินมา ถึงนางจะพยายามพรีเซ้นท์ว่างานนางได้ทุนเร็ว ได้กำไรเร็ว คืนทุนได้แน่นอน แต่การหยิบยืมคนอื่นก็ไม่ควรไหม ไม่ชอบเลย
วิทยากรคอยบอกสโลแกน เราไม่ตื๊อ ไม่ตามคนไม่สนใจ แต่คนที่ชวนนี่มาคือตามยิกๆ บอกไม่ได้จะมาตื๊อ ไม่ได้จะมาบิ้ว มาคุยกัน แล้วก็เล่าสตอรี่ของตัวเองให้ฟังอีกรอบ เออแหะ ฟังอัตชีวประวัติคนเยออะเลยวันนี้ สงสารผู้สูงอายุหลายคน กลัวแทนว่าทำไปจะไม่ได้กำไร ตามที่เขาโฆษณาไว้น่ะสิ แต่ถ้าทำได้กัน ได้จริงก็ดีใจด้วย เห็นสีหน้า แววตาแต่ละคนแล้วคือดูออกเลยนะ แบบมาที่นี่ด้วยหวังว่าเป็นที่พึ่ง มีใจหวัง แต่ไม่รู้ว่าที่สุดแล้วทุกคนจะตัดสินใจอะไรยังไง พอเขาปล่อยเรานี่รีบเดินออกเร็วๆเลย ขอบาย ตอนแรกจากเฉยๆกับงานขายตรง บอกเลยว่าขอแอนตี้เลยดีกว่า
นี่ลองเอาชื่อองค์กรมาเสิร์ชหาข้อมูล แล้วก็โป๊ะ เจอความเห็นที่ทำให้ตาสว่างแบบชัดมากๆ เป็น HD เลย ถ้ารู้ชื่อองค์กรแต่แรก ได้หาข้อมูลแต่แรก คงไม่ต้องเสียเวลา เสียค่าเดินทางแล้ว