ทริปหาเรื่องเจ็บตัว โหนสลิง zip line ข้ามต้นแม่น้ำ สาละวิน นูเจียง เจอผีหลอกบนหน้าผา ตามดูน้ำพุร้อน ภูเขาไฟ ในจีน

ผมเดินทางไป ประเทศจีนหนนี้ กะว่า เดินทางขนานกับพรมแดนพม่า (รัฐกะฉิ่น)  จากคุนหมิง ลี่กิว ก๋องชาน บิงจงหลัว แล้ว อ้อมเขาติดพรมแดนทิเบต วกกลับมาทาง เต๋อชิง จงเตี้ยน แชงกรีล่า ลี่เจียง ต้าลี่ คุนหมิง ใช้เวลา 14 วัน  จะไปดู แม่น้ำ สาละวิน  ในเขตจีน  ซึ่งแม่น้ำสาละวิน มีชื่อใน จีนว่า นูเจียง (Nu  โดยคำว่า Nu แปลว่า เกรี้ยวกราด Jiang แปลว่า แม่น้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดที่จะไป คือ มรดกโลกทางธรรมชาติ จุดขนานกันที่สุด ของแม่น้ำสามสาย คือ แม่น้ำนู  แม่น้ำ ล้านช้าง (แม่น้ำโขง)  และแม่น้ำแยงซี  เรียกว่า Three Parallel River of Yunnan  โค้งแรกของแม่น้ำนู  กับ  เส้นทาง Yunnan – Tibetan Tea Horse Trail เส้นทาง นำใบชา จากยูนาน ไปแลก กับม้าและสมุนไพร ในทิเบต. ซึ่งเป็นเส้นทางค้าขาย อันดับ 2 รองจาก Silk road เส้นทางสายไหม จากกนั้นจะไป โหน Zip line สลิงข้ามแม่น้ำนู ( Rope across Nu Jiang ) เหมือนชาวบ้านแถวนี้ใช้เดินทาง  เห็นรูปในเนต ข้างล่างนี่แหละครับ แล้วอยากไปบ้าง


เส้นทางการเดินทาง


ผมเริ่มต้นการเดินทาง คนเดียว จากเมืองไทย ดังนี้ ครับ..........
         ก่อนไป ผมคำนึงถึงอายุไข ตนเองก่อน ว่าจะไหว หรือไม่  ผมอายุย่าง เข้า 61 ปีแล้วครับ แต่ก็คิดว่า เอาวะ ไปไม่ไหวก็พัก นอน แล้วไปต่อ ไปเรื่อยๆ  ผมเดินทางหนนี้ เดือน เมษายน 2014  และกำลังเข้าไปย่าน ชาวเขาจีน ทั้งสิ้น ผมพูดภาษาจีนไม่ได้ซักคำ เลยคิดจะหา คู่หู ซักคนที่พูดจีนได้ ผมเลยใช้ พวกเวปบอร์ดในจีน หาคนที่สนใจจะไปด้วย  ใช้เวลาพอสมควร ได้มาคนนึงที่สนใจจะไปด้วย เธออยู่คุนหมิง อายุ 25 ปี ชื่อ Lin yan และอยากฝึกภาษาอังกฤษ แล้วเธอก็ไม่เคยไปแถวนี้เหมือนกัน ให้ไปเจอกัน ที่คุนหมิง
         พอไปถึง คุนหมิง  ผมบอกเธอว่า ผมอยากไหว้พระ เจ้าที่เจ้าทางของเมืองยูนนาน ผมต้องอธิบาย เรื่องเจ้าที่ เป็นภาษาอังกฤษ ให้คนจีนฟัง ค่อนข้างยากเธอถามว่ามีด้วยเหรอ พึ่งเคยได้ยิน  ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า มาทำเวรกรรม อะไรไว้ที่เมืองจีน หรือเปล่า เดี๋ยวเกิดกรรมตามทัน ที่นี่ เลยต้องมาอธิบายเรื่องเวรกรรม ชาตินี้ ชาติที่แล้ว ให้ฟังอีก เรื่องชักจะไปกันใหญ่ ผมตัดบทบอกว่า เพื่อขออนุญาต เดินทางไปในดินแดน ขุนเขาแม่น้ำ ไม่ให้มีอุปสรรค เธอ ก็พาไป วัด หยวนทง (Yuantong)

บอกให้เธอ ไหว้ ซะด้วย

การเดินทางนั้น ต้องไปขึ้นรถบัส ที่ สถานีรถบัสตะวันตก ไป เมือง ลิวกู (Luiku) ก่อน แล้วไปต่อรถตู้ ไป บิงจงหลัว (Bingzhonglou) เป็นระยะทางทั้งหมด 995 กม. รถออก หกโมงเย็น เป็นรถนอน  พอขึ้นรถ คนขับบอกทุกคน ให้ใส่ ถุงพลาสติคครอบเท้าไว้

พอรถ วิ่งไปถึงเวลาเที่ยงคืน ก็จอด คนขับตะโกนบอกว่า จอดที่นี่ ถึงตีห้า ออกอีกที ลิวกู  ว่าแล้ว มันก็เดินลงไป หายไปความมืด เปิดประตูรถทิ้งไหว  ผมถาม Lin ว่า จอดทำไม เธอว่า รัฐบาลไม่ให้รถบัสวิ่งบนเขา หลังเที่ยงคืน เพราะมีอุบัติเหตุบ่อยมาก รถตกเขา ขี้เกียจตามเก็บศพ  ที่จอดก็ไม่ใช่สถานี
มีเพิ่งหมาแหงน ขายก๋วยเตี๋ยว กับส้วม ที่ไม่มีไฟฟ้า

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่