ของขวัญชิ้นสุดท้าย

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ที่ผมมานั่งเขียนกระทู้ตอนนี้เพราะว่าในหัวผมคิดแต่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นกับผมครับ ผมไม่สามารถสลัดมันออกจากความคิดผมได้เลย ก่อนอื่นผมขออนุญาตแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมชื่อหนุ่มครับ อายุ 31 ปีแล้ว ปัจจุบันผมเป็น Manager อยู่บริษัทของญี่ปุ่นแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท และ ก็เปิดร้านอาหาร Style Italian ด้วย ร้านอาหารนี้ผมให้แฟนเป็นคนดูแล แต่ว่าหลังจากนี้คงจะต้องเป็นผมที่เป็นคนดูแลต่อ หรืออาจต้องจะปิดกิจการไปเลย นี้เป็นการเขียนกระทู้ครั้งแรกของผมครับ โดยเรื่องที่ผมจะเขียนให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันต่อไปนี้เป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริงกับผม เกี่ยวกับของขวัญชิ้นพิเศษชิ้นสุดท้ายที่ผมกำลังจะมอบให้แฟน ของขวัญชิ้นสุดท้ายชิ้นนี้ผมไม่อาจลืมมันได้เลย

เมื่อ 7 ปีที่แล้วผมยังเป็นแค่พนักงานออฟฟิศธรรมดาคนนึงไม่ได้มีตำแหน่ง Manager เหมือนทุกวันนี้ และ ก็ยังไม่มีแฟนเช่นกันครับ จริง ๆ แล้วผมโสดมาตั้งแต่ปี 4 แล้ว ตอนนั้นผมโดนผู้หญิงทิ้งหลังจากนั้นผมก็ไม่มีแฟนอีกเลย บริษัทที่ผมทำงานอยู่ตอนนั้นก็เหมือนบริษัททั่ว ๆ ไปครับ ที่มีวันลาพักร้อนให้กับพนักงานที่ผ่านโปรทุกคน แต่ปีนั้นผมยังไม่เคยได้ใช้สิทธิลาพักร้อนของผมเลย และ มันก็ใกล้จะสิ้นปีแล้วถ้าผมไม่รีบใช้สิทธิผมก็จะเสียสิทธิทันทีโดยไม่สามารถเอาไปรวมกับของปีหน้าได้ ตอนนั้นก็ยังไม่มีแพลนที่จะไปไหนหรอกครับแต่ก็ลาไว้ก่อน ถ้าไม่ไปไหนจริง ๆ ก็นั่ง ๆ นอน ๆ อยู่คอนโดก็ได้ แต่เหมือนโชคเข้าข้างครับเพื่อนผมได้ให้ Gift Voucher ที่พักฟรีที่รีสอทชื่อดังที่หัวหินครับ เพราะเพื่อนผมได้ใช้วันหยุดหมดแล้ว จะลางานก็กลัวไม่ได้ Bonus มันก็เลยให้ผมมา

ทริปหัวหินครั้งนั้นขับรถของที่บ้านไปตนเดียวครับ เพราะไม่มีเพื่อนคนไหนว่างไปด้วย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากไปคนเดียวก็ได้ถือว่าไปพักผ่อนครับ ระหว่างทางผมก็แวะเติมน้ำมันและเมื่อเติมเสร็จผมก็ขับรถไปจอดที่หน้าเซเว่นเผื่อหาอะไรดื่มซักหน่อย ขณะที่ผมกำลังเดินกลับมาที่รถผมก็เห็นว่าข้าง ๆ รถผมที่มีรถจอดอยู่แล้ว มีผู้หญิง 3 คนกำลังยืนคุยกันสีหน้าดูเครียด ๆ เมื่อผมถึงรถผมจับใจความได้ประมาณว่า “ก็มันสตาร์ทไม่ติดจะให้ทำยังไง” ผมก็เลยตัดสินใจถามพวกเธอไปว่า “รถเป็นไรหรอครับ” และหนึ่งในก็ตอบผมกลับมาว่า “สตาร์ทไม่ติดค่ะ” ผมก็ไม่แน่ใจสาเหตุที่รถสตาร์ทไม่ติดนั้นเกิดจากอะไรผมเลยบอกพวกเธอไปว่า “ลองจั๊มแบตดูกรไหมครับ เผื่อบางทีอาจจะเป็นที่แบตเตอรี่” พวกเธอก็ตอบตกลง ผมก็ลองไปค้นหาสายที่ใช้ในการจั๊มแบตออกมา แล้วก็ลองจั๊มแบตให้พวกเธอ และรถก็สตาร์ทติดครับ ระหว่างที่ช่วยพวกเธอจั๊มแบตนั้นเราไม่ได้คุยอะไรกันเลย ก่อนที่จะแยกจากทางกันพวกเธอก็ขอบคุณผม แต่หนึ่งในนั้นส่งยิ้มให้ผมพร้อมกับคำขอบคุณ วินาทีที่เธอส่งยิ้มมาให้ผมนั้นเหมือนโลกหยุดเลยครับ เพราะเธอเป็นผู้หญิงที่ยิ้มสวยมาก ลืมบอกไปว่าผมเป็นคนชอบผู้หญิงยิ้มสวยครับ หลังจากพวกเธอขอบคุณผมเสร็จเธอก็ขึ้นแล้วขับออกไปกันเลยครับ ส่วนตัวผมก็ยืนตะลึ่งกับรอยยิ้มของเธอคนนั้น จนผมได้สติกลับมาเพราะความร้อนของแดดตอนนั้น เมื่อผมมีสติผมก็รีบเดินทางต่อเพราะใจผมไปอยู่ที่หัวหินเรียบร้อยแล้ว ต้องบอกตรง ๆ นะครับว่าตลอดทางที่เหลือจากปั๊มน้ำมันจนถึงหัวหิน ในหัวผมนอกจากภาพทะเลแล้วก็เป็นภาพรอยยิ้มของเธอคนนั้นครับ เมื่อถึงทะเลผมก็รีบเชคอินแล้วก็เอาของไปเก็บที่ห้องครับ เผื่อที่จะออกมาเดินเล่นที่ริมชายหาด

เพื่อน ๆ ครับ พอดีว่าก่อนที่ผมจะมานั่งเขียนกระทู้ผมกำลังนั่งจิบเบียอยู่ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกมึน ๆ แล้วครับ ยังไงผมขอตัวไปนอนก่อนนะครับเดี๋ยวพรุ้งนี้จะไปทำงานสายเอา เปิดงานวันแรกหลังหยุดยาวด้วย ไว้พรุ้งนี้ผมเลิกงานแล้วจะรีบมาเขียนให้อ่านต่อนะครับ ฝันดีครับทุกคน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่