คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
คุณติดต่อกับนายจ้างระหว่างที่เขาไม่อยู่ด้วยวิธีไหนคะ...
ถ้าติดต่อทางอีเมล์ สำเนาอีเมล์นั่นแหละคือหลักฐานการทำงานของคุณ ถ้าลงว่าถึงกับขายรถแทนให้ คงไม่ใช่การทำให้ฟรีๆ แล้ว เพราะไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่เพื่อน ไม่ใช่หุ้นส่วน หลักฐานการนำเงินเข้าบัญชีกับยอดขาย มันระบุชัดเจนอยู่ในตัวแล้วว่า คุณขายรถไป และหักเงินค่าจ้างออกไว้ ก่อนนำฝาก
คุณมีทางเลือกคือ หนึ่ง..... ทำไปจนครบกำหนดเขากลับมา แล้วนำหลักฐานทั้งหมด ไปฟ้องกระทรวงแรงงานในพื้นที่รับผิดชอบที่กิจการนี้ตั้งอยู่ ถึงแม้ว่าจะไม่มีการเซ็นสัญญา แต่หลักฐานอื่นมี ถือว่าใช้ได้ ทางแรงงานจะติดต่อนายจ้า สืบสวนหาข้อเท็จจริง และถ้าพบว่าเขาผิดจริง ก็จะสั่งให้เขาจ่ายให้คุณ ส่วนมากนายจ้างจะยอมจ่ายเพื่อให้รีบจบ เพราะถ้าขืนดันทุรังสู้ไปข้างๆ คูๆ มีโอกาสที่จะเสียเงินมากกว่าค่าจ้างของคุณ วิธีนี้ไม่จำเป็นต้องมีทนายก็ได้ หรือ...
สอง.... ขู่ไปเลยว่าถ้าไม่จ่ายตามที่ตกลง กลับมารถหายหมดไม่รู้ด้วย แล้วก็เงียบไว้ ให้มันกังวลใจเล่น คุณอยู่เฉยๆ อย่าไปทำลายข้าวของของเขา แต่อย่าขู่จนล้ำเส้น เดี๋ยวเขาจะเอาประเด็นนี้มาเล่นงานคุณทางกฏหมายได้
แนะนำวิธีแรกค่ะ...... คนส่วนมากไม่รู้ว่ากระทรวงแรงงานนั้น คุ้มครองแรงงานทุกคน ลงว่าถ้านายจ้างเขาจ้างแล้ว ถือว่าเท่าเทียมกันหมด จะมีวีซ่าทำงานหรือเปล่า ไม่เกี่ยว คนที่เดือดร้อนเรื่องคนงานไม่มีวีซ่าคือนายจ้างค่ะ
ถ้าติดต่อทางอีเมล์ สำเนาอีเมล์นั่นแหละคือหลักฐานการทำงานของคุณ ถ้าลงว่าถึงกับขายรถแทนให้ คงไม่ใช่การทำให้ฟรีๆ แล้ว เพราะไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่เพื่อน ไม่ใช่หุ้นส่วน หลักฐานการนำเงินเข้าบัญชีกับยอดขาย มันระบุชัดเจนอยู่ในตัวแล้วว่า คุณขายรถไป และหักเงินค่าจ้างออกไว้ ก่อนนำฝาก
คุณมีทางเลือกคือ หนึ่ง..... ทำไปจนครบกำหนดเขากลับมา แล้วนำหลักฐานทั้งหมด ไปฟ้องกระทรวงแรงงานในพื้นที่รับผิดชอบที่กิจการนี้ตั้งอยู่ ถึงแม้ว่าจะไม่มีการเซ็นสัญญา แต่หลักฐานอื่นมี ถือว่าใช้ได้ ทางแรงงานจะติดต่อนายจ้า สืบสวนหาข้อเท็จจริง และถ้าพบว่าเขาผิดจริง ก็จะสั่งให้เขาจ่ายให้คุณ ส่วนมากนายจ้างจะยอมจ่ายเพื่อให้รีบจบ เพราะถ้าขืนดันทุรังสู้ไปข้างๆ คูๆ มีโอกาสที่จะเสียเงินมากกว่าค่าจ้างของคุณ วิธีนี้ไม่จำเป็นต้องมีทนายก็ได้ หรือ...
สอง.... ขู่ไปเลยว่าถ้าไม่จ่ายตามที่ตกลง กลับมารถหายหมดไม่รู้ด้วย แล้วก็เงียบไว้ ให้มันกังวลใจเล่น คุณอยู่เฉยๆ อย่าไปทำลายข้าวของของเขา แต่อย่าขู่จนล้ำเส้น เดี๋ยวเขาจะเอาประเด็นนี้มาเล่นงานคุณทางกฏหมายได้
แนะนำวิธีแรกค่ะ...... คนส่วนมากไม่รู้ว่ากระทรวงแรงงานนั้น คุ้มครองแรงงานทุกคน ลงว่าถ้านายจ้างเขาจ้างแล้ว ถือว่าเท่าเทียมกันหมด จะมีวีซ่าทำงานหรือเปล่า ไม่เกี่ยว คนที่เดือดร้อนเรื่องคนงานไม่มีวีซ่าคือนายจ้างค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ทำงานแล้วไม่ได้ค่าจ้างจากนายจ้างชาวอินเดีย ควรทำอย่างไรดีคะ
เราเองเพิ่งเรียนจบ รอรับปริญญาแล้วจะกลับไทยปลายเดือน พค ค่ะ ช่วงเวลาพอเหมาะพอดีกัน ก็เลยตกลงว่าจ้างให้เราดูเแลเต๊นท์รถ เป็นเวลาเจ็ดสัปดาห์ โดยจ่ายค่าจ้างตามเรทค่าแรงขั้นต่ำของที่นี่แต่ไม่ให้ค่าคอมมิชชั่น ตกลงจ่ายเงินเข้าบัญชีเราโดยหักภาษีตอนที่จ่ายเลยทุกๆสองอาทิตย์ค่ะ ซึ่งเราก็ตกลงตามนั้นค่ะ เราพลาดเองตรงนี้เพราะ ทุกอย่างเป็นการตกลงแบบปากเปล่าไม่มีการเซนต์สัญญา
2 อาทิตย์แรกผ่านไปเราขายรถได้ 1 คัน โดยที่ลูกค้าจ่ายเป็นเงินสดให้เรา เราจึงบอกนายจ้างว่าเราจะหักค่าจ้างของเราออกก่อน แล้วจะโอนเงินส่วนที่เหลือเข้าไปในบัญชีของนายจ้าง ก็ตกลงกันด้วยดี ไม่มีปัญหาค่ะ
2 อาทิตย์ต่อมา ธุรกิจค่อนข้างเงียบ มีการขายรถออกไปอีก 1 คัน โดยที่คนซื้อเป็นเพื่อนของนายจ้างและทำการโอนเงินให้นายจ้างโดยตรง เรามีหน้าที่เพียงแค่ให้กุญแจเท่านั้น เมื่อครบเวลาจ่ายค่าจ้าง (ปกติที่นี่จ่ายค่าจ้างทุกๆวันพฤหัสค่ะ) เราก็ได้แจ้งไปยังนายจ้างว่าให้โอนเงินเข้าบัญชีเราด้วย นายจ้างไม่อ่านข้อความ
จนวันนี้ (วันเสาร์) นายจ้างส่งข้อความมาหาเรา บอกว่า ขายรถได้คันเดียวมันน้อยเกินไปต้องขายให้ได้อีก "trie to sell at least three cars bz few cars coming need money only one car sold since we left need to sell more" ข้อความนี้ตามที่นายจ้างส่งมาเลยนะคะ และเราได้เชคบัญชีธนาคารของเราไม่มีการโอนเงินเข้ามา
เราควรจะทำอย่างไรดีคะ ตอนนี้กุญแจร้าน กุญแจรถทุกคันในเต๊นท์อยู่ที่เรา เราเข้าใจดีว่าไม่สามารถไปร้องเรียนหรือแจ้งตำรวจได้ แต่จะมีทางไหนที่พอจะทำให้นายจ้างยอมจ่ายค่าจ้างให้เราได้บ้างคะ