สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เราสมัครพันทิปมานานละ แต่ไม่เคยตั้งกระทู้หรือคอมเมนต์ใดๆเลย เราเป็นว่าที่บัณฑิตที่กำลังจะรับปริญญาในปีนี้ เห็นรีวิวการแต่งหน้าทำผมรับปริญญามาก็เยอะ ใจนึงก็อยากจ้างช่าง เราว่าราคามันก็พอสมควรอยู่อ่ะ ไหนจะวันซ้อมใหญ่ ไหนจะวันรับจริงอีก แต่มันก็น่าจะคุ้มเนอะ แค่ครั้งเดียวในชีวิตหนิ แต่อีกใจนึงก็อยากแต่งเอง จะได้ประหยัดขึ้นเยอะ ทำผมนี่เราดูรีวิวมาส่วนใหญ่เราค่อนข้างทำทรงที่ไม่ยากได้หลายๆทรงเลยนะ ติดตรงที่ต้องแต่งหน้าที่แหละ พื่นฐานการแต่งหน้าของเราหนะหรอ 555 งูๆปลาๆ ทาครีม ลงกันแดด แป้งเด็ก เขียนคิ้ว จบข่าวค่ะ แต่ถ้าไปเที่ยวไปไหนไกลๆออกงานเป็นทีก็มีกรีดอายไลน์เนอร์ ปัดมาสคาร่า ดัดขนตา แค่นั้นแหละ แป้งพัฟ ปัดแก้มนี่เคยนะ แต่เลือนหายออกไปจากชีวิตหลายปีละ จากที่เรานั่งคิด นอนคิด ยืนคิด ตีลังกาคิด (เห้ย เยอะไปแก...) เราเลยตัดสินใจจะแต่งหน้าเองค่ะ นั่งลิสต์รายการเลย ใช้ไรบ้าง จะซื้อไรบ้าง แล้วก็ได้มาดังนี้
1. แป้ง Covermark ที่งานกาชาด 200 บาท ตอนถามราคาบอกราคานี้จริงๆนะ พอตอนจ่ายตัง หยิบพัฟมาใส่ถุงด้วยบอกอันนี้60 กว่าบาทมั้ง จำไม่ได้ละ เลย ห๊ะ ทำหน้ามึนๆงงๆ ไหนบอก 200 แต่ไม่ได้อะไร แป้งกระปุกมันก็ต้องงมีพัฟสิเนอะ ไม่งั้นจะทาไงล่ะ
2. รองพื้น Revlon colerstay ฝาดำในตำนานนนนน...(หาข้อมูลในพันทิปมานาน เลยตกลงปลงใจเลือกตัวนี้) สี 03 sand beige ณ ห้างแห่งหนึ่ง ทีแรกเลือกเข้าไปลองร้านขึ้นต้นด้วยS ชั้น2 BA 2คน ให้คำปรึกษาดีมาก เป็นกันเองสุดๆ เราเดินเข้าร้านไปเลย..
เรา : พี่คะ ดูรองพื้น revlon ค่ะ พี่ว่าหน้าอย่างหนูเนี่ยต้องใช้เบอร์อะไรคะ
BA : สี 02 buff ค่ะ หน้าน้องขาวนะ ขาวมากกกก... ขาวกว่าหน้าพี่อีก
(คิดในใจ เห้ยยยย.. หน้าตูเนี่ยต้องใช้เบอร์ขาวสุดเลยหรอ)
BA : หน้าน้องทารองพื่น แป้งพัฟ มารึป่าวคะ
เรา : ป่าวค่ะ ทาครีม กันแดด ละก็แป้งเด็ก
BA : อันนั้นเลยน้อง ขนาดพี่ยังใช้เลย บลาๆๆๆๆ แต่น้องก็ใช้ สี 03 sand beige ได้นะมันจะออกเหลืองๆ แต่พี่ว่าตัวแรกดีกว่า แล้วก็ทดลองที่ท้องแขนให้
เรา : (ยืนคิด พี่เค้าทาให้ข้างละสี สีตัวแรกมันเนียนมันกลืนไปกับผิวมากกว่า สีตัวที่สองมันวอกๆเหมือนพอกครีมแป้งอ่ะ แต่ไม่มาก นึกขึ้นได้เค้าบอกต้องลองเดินให้เหงื่อออก ทดสอบการดรอปของรองพื้นเละความกลมกลืนก่อน เลยพูดกับพี่เค้า) ขอลองเดินซักพักก่อนนะคะ ทดสอบความดรอปความกลมกลืน (จริงๆนี่ กำลังตัดสินใจค่ะ สีแรกกลัวขาวไป สีที่สองกลัวเทาไป)
เลยไปเดินเล่นซักพักใหญ่ๆ ลงมาชั้น1 เจอร้านขึ้นต้นด้วยW เลยเดินเข้าตรงเครื่องสำอางค์Revlon BA เค้าก็จัดของตรงนั้นอยู่ เลยถาม
เรา : พี่คะ ดูรองพื้น revlon ค่ะ พี่ว่าหน้าอย่างหนูเนี่ยต้องใช้เบอร์อะไรคะ (ถามแบบเดิมเลย)
BA : สี 03 sand beige หน้าน้องมีรอยแดง ต้องใช้เบอร์นี้ จะได้กลบรอยแดงด้วย
เรา : อ่าว พอดีหนูไปลองมา พี่ BA บอกให้ใช้ สี 02 buff อ่ะค่ะ
BA : BA คะน้อง ไปลองที่ไหนมา
เรา : ข้างบนอ่ะค่ะ
BA : อ๋อออ BAใหม่ เค้าไม่ค่อยรู้อะไรหรอก พี่อ่ะเป็น BA มานานแล้วนะ เลือกสีรองพื้นให้ลูกค้ามานานละไม่เคยพลาด น้องมีรอยแดงที่หน้าใช้เบอร์นี้แหละ
BA : พี่คะ ดูรองพื้น revlon ค่ะ พี่ว่าหน้าอย่างหนูเนี่ยต้องใช้เบอร์อะไรคะ (ถามแบบเดิมเลย)
เรา : (มองแขนตัวเอง สีเบอร์แรกมันเนียนกว่า อีกเบอร์มันเริ่มซอฟๆลง เริ่มคิดหนัก)
BA : นางก็พูดเชียร์ 03 sand beige บลาๆๆ
เรา : (เอิ่มมม.. คิดหนัก เอาไงดี BA พูดขนาดนี้) เบอร์นี้ก็ได้ค่ะ
จ่ายตังค์เสร็จ ด้วยความที่เราเป็นคนรูขุมขนกว้าง เลยอยากได้ไพรเมอร์ด้วยเนื่องจากสรรพคุณที่ค้นมาพรรณนาซะแบบ เห้ยยยย... ช้านต้องได้มาครอบครองงงงง(ขอภาษาวิบัติหน่อย) เลยกลับไปร้านแรกค่ะ
เรา : ดูไพรเมอร์ collection หน่อยค่ะ
BA : ค่ะ เป็นไงคะสีรองพื้น
เรา : (ยื่นแขนให้ดู) พี่ว่าสีไหนเข้ากับหนูมากกว่ากัน
BA : สีแรกนะ พี่ว่าเนียนกว่า
เรา : พี่ข้างล่างเค้าบอกให้หนูใช้ 03 sand beige อ่า
BA : ใครบอก พี่ว่าสีแรกเข้ากับหนูนะ หน้าหนูขาวกว่าพี่อ่ะ พี่ยังใช้เบอร์แรกเลย
เริ่มลังเลค่ะ คิดไปคิดมา สรุปไพรเมอร์ไม่ได้ เลยเดินลงไปชั้นล่างไปปรึกษา BA อีกรอบ
เรา : พี่คะ หนูขอถามหน่อยค่ะ พอดีหนูกลัว 03 sand beige มันไม่เข้ากับหน้า กลัวดรอปอ่ะค่ะ พี่ข้างบนบอกว่าหนูต้องใช้เบอร์แรก
BA : (เริ่มทำหน้าเหวี่ยงๆ) พี่เป็น BA มานานเลือกให้ลูกค้ามาเยอะ ไม่เคยพลาดค่ะ ไม่ต้องกลัว ละก็บลาๆๆๆ (ด้วยสีหน้าเริ่มไม่ค่อยเป็นมิตร)
เรา : (เริ่มทำหน้าเครียด เอาไงดีวะ สีนี้ก็สีนี้) พี่คะมีไพรเมอร์แนะนำไม๊คะ (ซื้อข้างล่างนี่แหละ ขี้เกียจเดินขึ้นละ)
BA : (เค้าก็แนะนำ บลาๆๆ)
เรา : (สรุปก็ได้มาค่ะ แต่เป็นของ Revlon มิใช่แบรนด์ที่เล็งไว้แต่แรก)
เดินออกมาจาก BA แฟนเดินเข้ามาหาเรา ถามเราว่าได้ไม๊ จะได้ไปกดเงินให้ เราบอกว่าได้ ละแฟนเราก็ไปกดเงิน เลยยืนมองของในรอ อ่านฉลากรอ เหลือบไปเห็น BA คนเดิมเดินมายืนมองแบบว่าสายตาไม่เป็นมิตรเลย
ซักแป๊ปแฟนก็มา เลยไปจ่ายตังค์ที่เคาท์เตอร์ ซึ่งหันไป เราก็เห็น BA คนนั้นยังยืนมองอยู่
หลังจากนั้นกลับบ้านมาลองค่ะ ลองเล่น ลองแต่งหน้าดู ลงรองพื้นนี่หน้าหมองเหมือนโดนของเชียว พอล้างหน้าออกนี่ หน้าขาวกว่ารองพื้นไปเยอะเลยอ่ะ (สะอื้นในใจเบาๆ)
สรุป....
1. เราควรทำยังไงกับรองพื้นดีคะ มีครีมตัวไหนที่ผสมแล้วทำให้หน้าไม่คล้ำไม๊? หรือต้องซื้อรองพื้นใหม่
2. คือเราไม่ชอบเลยที่ BA ทำสีหน้าแบบนั้นใส่เรา คือเราเรื่องมากใช่ไม๊เกินไปใช่ไม๊ เรายอมรับนะว่าเราเรื่องมาก คือเราไม่เข้าใจไง เราไม่รู้ไง เราเลยถาม
เราเรื่องมากไปใช่ไม๊
1. แป้ง Covermark ที่งานกาชาด 200 บาท ตอนถามราคาบอกราคานี้จริงๆนะ พอตอนจ่ายตัง หยิบพัฟมาใส่ถุงด้วยบอกอันนี้60 กว่าบาทมั้ง จำไม่ได้ละ เลย ห๊ะ ทำหน้ามึนๆงงๆ ไหนบอก 200 แต่ไม่ได้อะไร แป้งกระปุกมันก็ต้องงมีพัฟสิเนอะ ไม่งั้นจะทาไงล่ะ
2. รองพื้น Revlon colerstay ฝาดำในตำนานนนนน...(หาข้อมูลในพันทิปมานาน เลยตกลงปลงใจเลือกตัวนี้) สี 03 sand beige ณ ห้างแห่งหนึ่ง ทีแรกเลือกเข้าไปลองร้านขึ้นต้นด้วยS ชั้น2 BA 2คน ให้คำปรึกษาดีมาก เป็นกันเองสุดๆ เราเดินเข้าร้านไปเลย..
เรา : พี่คะ ดูรองพื้น revlon ค่ะ พี่ว่าหน้าอย่างหนูเนี่ยต้องใช้เบอร์อะไรคะ
BA : สี 02 buff ค่ะ หน้าน้องขาวนะ ขาวมากกกก... ขาวกว่าหน้าพี่อีก
(คิดในใจ เห้ยยยย.. หน้าตูเนี่ยต้องใช้เบอร์ขาวสุดเลยหรอ)
BA : หน้าน้องทารองพื่น แป้งพัฟ มารึป่าวคะ
เรา : ป่าวค่ะ ทาครีม กันแดด ละก็แป้งเด็ก
BA : อันนั้นเลยน้อง ขนาดพี่ยังใช้เลย บลาๆๆๆๆ แต่น้องก็ใช้ สี 03 sand beige ได้นะมันจะออกเหลืองๆ แต่พี่ว่าตัวแรกดีกว่า แล้วก็ทดลองที่ท้องแขนให้
เรา : (ยืนคิด พี่เค้าทาให้ข้างละสี สีตัวแรกมันเนียนมันกลืนไปกับผิวมากกว่า สีตัวที่สองมันวอกๆเหมือนพอกครีมแป้งอ่ะ แต่ไม่มาก นึกขึ้นได้เค้าบอกต้องลองเดินให้เหงื่อออก ทดสอบการดรอปของรองพื้นเละความกลมกลืนก่อน เลยพูดกับพี่เค้า) ขอลองเดินซักพักก่อนนะคะ ทดสอบความดรอปความกลมกลืน (จริงๆนี่ กำลังตัดสินใจค่ะ สีแรกกลัวขาวไป สีที่สองกลัวเทาไป)
เลยไปเดินเล่นซักพักใหญ่ๆ ลงมาชั้น1 เจอร้านขึ้นต้นด้วยW เลยเดินเข้าตรงเครื่องสำอางค์Revlon BA เค้าก็จัดของตรงนั้นอยู่ เลยถาม
เรา : พี่คะ ดูรองพื้น revlon ค่ะ พี่ว่าหน้าอย่างหนูเนี่ยต้องใช้เบอร์อะไรคะ (ถามแบบเดิมเลย)
BA : สี 03 sand beige หน้าน้องมีรอยแดง ต้องใช้เบอร์นี้ จะได้กลบรอยแดงด้วย
เรา : อ่าว พอดีหนูไปลองมา พี่ BA บอกให้ใช้ สี 02 buff อ่ะค่ะ
BA : BA คะน้อง ไปลองที่ไหนมา
เรา : ข้างบนอ่ะค่ะ
BA : อ๋อออ BAใหม่ เค้าไม่ค่อยรู้อะไรหรอก พี่อ่ะเป็น BA มานานแล้วนะ เลือกสีรองพื้นให้ลูกค้ามานานละไม่เคยพลาด น้องมีรอยแดงที่หน้าใช้เบอร์นี้แหละ
BA : พี่คะ ดูรองพื้น revlon ค่ะ พี่ว่าหน้าอย่างหนูเนี่ยต้องใช้เบอร์อะไรคะ (ถามแบบเดิมเลย)
เรา : (มองแขนตัวเอง สีเบอร์แรกมันเนียนกว่า อีกเบอร์มันเริ่มซอฟๆลง เริ่มคิดหนัก)
BA : นางก็พูดเชียร์ 03 sand beige บลาๆๆ
เรา : (เอิ่มมม.. คิดหนัก เอาไงดี BA พูดขนาดนี้) เบอร์นี้ก็ได้ค่ะ
จ่ายตังค์เสร็จ ด้วยความที่เราเป็นคนรูขุมขนกว้าง เลยอยากได้ไพรเมอร์ด้วยเนื่องจากสรรพคุณที่ค้นมาพรรณนาซะแบบ เห้ยยยย... ช้านต้องได้มาครอบครองงงงง(ขอภาษาวิบัติหน่อย) เลยกลับไปร้านแรกค่ะ
เรา : ดูไพรเมอร์ collection หน่อยค่ะ
BA : ค่ะ เป็นไงคะสีรองพื้น
เรา : (ยื่นแขนให้ดู) พี่ว่าสีไหนเข้ากับหนูมากกว่ากัน
BA : สีแรกนะ พี่ว่าเนียนกว่า
เรา : พี่ข้างล่างเค้าบอกให้หนูใช้ 03 sand beige อ่า
BA : ใครบอก พี่ว่าสีแรกเข้ากับหนูนะ หน้าหนูขาวกว่าพี่อ่ะ พี่ยังใช้เบอร์แรกเลย
เริ่มลังเลค่ะ คิดไปคิดมา สรุปไพรเมอร์ไม่ได้ เลยเดินลงไปชั้นล่างไปปรึกษา BA อีกรอบ
เรา : พี่คะ หนูขอถามหน่อยค่ะ พอดีหนูกลัว 03 sand beige มันไม่เข้ากับหน้า กลัวดรอปอ่ะค่ะ พี่ข้างบนบอกว่าหนูต้องใช้เบอร์แรก
BA : (เริ่มทำหน้าเหวี่ยงๆ) พี่เป็น BA มานานเลือกให้ลูกค้ามาเยอะ ไม่เคยพลาดค่ะ ไม่ต้องกลัว ละก็บลาๆๆๆ (ด้วยสีหน้าเริ่มไม่ค่อยเป็นมิตร)
เรา : (เริ่มทำหน้าเครียด เอาไงดีวะ สีนี้ก็สีนี้) พี่คะมีไพรเมอร์แนะนำไม๊คะ (ซื้อข้างล่างนี่แหละ ขี้เกียจเดินขึ้นละ)
BA : (เค้าก็แนะนำ บลาๆๆ)
เรา : (สรุปก็ได้มาค่ะ แต่เป็นของ Revlon มิใช่แบรนด์ที่เล็งไว้แต่แรก)
เดินออกมาจาก BA แฟนเดินเข้ามาหาเรา ถามเราว่าได้ไม๊ จะได้ไปกดเงินให้ เราบอกว่าได้ ละแฟนเราก็ไปกดเงิน เลยยืนมองของในรอ อ่านฉลากรอ เหลือบไปเห็น BA คนเดิมเดินมายืนมองแบบว่าสายตาไม่เป็นมิตรเลย
ซักแป๊ปแฟนก็มา เลยไปจ่ายตังค์ที่เคาท์เตอร์ ซึ่งหันไป เราก็เห็น BA คนนั้นยังยืนมองอยู่
หลังจากนั้นกลับบ้านมาลองค่ะ ลองเล่น ลองแต่งหน้าดู ลงรองพื้นนี่หน้าหมองเหมือนโดนของเชียว พอล้างหน้าออกนี่ หน้าขาวกว่ารองพื้นไปเยอะเลยอ่ะ (สะอื้นในใจเบาๆ)
สรุป....
1. เราควรทำยังไงกับรองพื้นดีคะ มีครีมตัวไหนที่ผสมแล้วทำให้หน้าไม่คล้ำไม๊? หรือต้องซื้อรองพื้นใหม่
2. คือเราไม่ชอบเลยที่ BA ทำสีหน้าแบบนั้นใส่เรา คือเราเรื่องมากใช่ไม๊เกินไปใช่ไม๊ เรายอมรับนะว่าเราเรื่องมาก คือเราไม่เข้าใจไง เราไม่รู้ไง เราเลยถาม