สวัสดีคะเพื่อนๆพันทิพทุกท่าน ส่องอ่านกระทู้เงียบๆมาเป็นปีเพิ่งจะมีโอกาศได้ตั้งของตัวเองวันนี้
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า จขกท เรียนต่อโทอยู่ที่ออสเตรเลีย อยู่ประเทศนี้มาเข้าปีที่ 7 คบกับแฟนคนปัจจุบันได้มาปีกว่าๆ มีแพลนจะหมั้นหมายกัน และแต่งงานหลังจบโท
แฟนของ จขกท เป็นคนลาวที่พ่อแม่ยกโขยงมาตั้งรกรากที่ออสเตรเลียตั้งแต่ยังสาวๆ พูดง่ายๆก็คือเป็นหนึ่งในผู้ลี้ภัยตอนเกิดความไม่สงบในลาวเมื่อ 30 กว่าปีก่อน (แฟนจขกท อายุ 33 จขกท 24)
ตั้งแต่คบกันมาก็ดีมากมาโดยตลอด รับในนิสัยใจคอได้เป็นอย่างดี พาไปเจอแม่ของเขา แล้วลุงป้าน้าอา ทุกคนก็ไม่มีอะไรติดขัด ก็เลยคิดว่าแผนว่าตอนำอแม่ของ จขกท บินมางานรับปริญญาจะให้แม่เขาลองพูดเกริ่นๆเรื่องหมั้นหมายดู (ดูจากตรงนี้ก็คงคิดว่าจะไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมคะ แต่ปัญหามันมาจากครอบครัวของจขกทนี่แหละ)
บ้านของจขกท เป็นครึ่งจีน (แม่ไทย พ่อไทยจีน) พ่อของ จขกท เพิ่งจะโดนจับได้ว่ามีเมียน้อยเมื่อปีที่แล้ว แม่จขกททำเรื่องหย่าเรียบร้อย แต่ด้วยความที่แม่เป็นคนที่ค่อนข้างจะหัวโบราณ เลยรู้สึกอายที่จะต้องหย่าร้างกับสามี เลยให้โอกาศพ่ออีกครั้ง
*อาจจะเป็นเรื่องเมียหลวงเมียน้อยธรรมดา แต่พ่อของจขกท มีเรื่องยักยอก พยายามจะโอนที่โอนทาง ทำให้ตัวเองเหมือนมีหนี้สิน เผื่อที่จะวางแผนหย่าแม่ก่อนที่แม่จะจับได้เรื่องเมียน้อย พ่อถึงกับจะหลอกโอนที่ให้ลูกๆในรูปแบบสิทธิเก็บกิน เผื่อที่จะเรียกคืนทีหลัง (ทั้งหมดทั้งมวล ได้มาจากการดักฟังโทรศัพท์ทั้งสิน มีอีกหลายๆเรื่องที่ทำให้ จขกทถึงกับไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่านี่คือความคิดของคนเป็นพ่อ) แต่ถึงเรื่องขนาดนี้แต่แม่ก็ยังหลงคิดว่าพ่อกลับตัวได้แล้ว (พ่อเคยขู่ฆ่าตัวตาย)
จขกทเคยพูดถึงแฟนให้แม่ฟังตลอด (ไม่ได้บอกทางพ่อเลย เพราะตัดการติดต่อไปตั้งแต่รู้เรื่องเมียน้อย) แม่ก็เห็นดีว่าควรหมั้นหมายไว้ก่อนก็ไม่เสียหาย บอกว่าจขกท รักใครเขาก็รักด้วย น้องสาวสองคนของจขกท ก็มาเยี่ยมบ่อย มีโอกาศได้พูดคุยกับแฟน ก็เข้ากันได้ดีทุกฝ่าย แต่พอแม่บอกว่าพ่อจะมางานด้วย จขกทก็ลังเลแต่ก็ต้องให้มาเพราะยังไงเขาก้เป็นพ่อ สิ่งที่จขกทคิดเอาไว้คือ ต่างคนต่างอยู
แม่ก็อยู่ของแม่ พ่อก็ส่วนพ่อ คุยได้เป็นเพื่อนเท่านั้น แต่สิ่งที่เห็นคือแม่สวีทกับพ่อตลอด (พ่อจขกทเป็นคนเห็นผลประโยชน์เป็นหลัก เหมือนนักธุรกิจทั่วๆไป ไม่ติดมารยาททางสังคม เรียกง่ายๆว่าถ้าไม่มีเงอน ก็จะจิกหัวใช้ ไม่ไว้หน้า แม่จขกทเป็นคนร่าเริ่งแต่กลัวพ่อมาก ขนาดไปกินบุฟเฟ่ แม่ต้องเดินไปหยิบอาหาร ส่วนพ่อนั่งรอ ถ้ามีกุ้งมีปูแม่ก็ต้องนั่งแกะให้ก่อนที่ตัวเองจะกิน แม่จะทำตามคำสั่งพ่อทุกอย่าง ไม่มีสิทธิคัดค้านเป็นช้างเท้าหลังที่ดี) และทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นตอนพวกเขาบินมา แม่กลับมาเป็นภรรยาที่เชื่อฟังคนเดิมทั้งทีเรื่องฟ้องหย่าก็ยังอยู่ในขั้นตอนทางกฏหมาย จขกทกับน้องๆก็รู้สึกอึดอัดรับไม่ได้ที่จะต้องมาเจอมาอยุ่กับพ่อ แต่เราก็ต้องยอมทำตามให้แม่มีความสุข
ตอนไปกินข้าวสองครอบครัว พ่อก็จะพูดอยู่อย่างเดียว ย้ำอยู่อย่างเดียวเรื่องเงิน พูดโอ้อวดตัวว่ามีเงินมีที่ดินเยอะ เป็นเจ้าของรีสอร์ท ทำให้ทางครอบครัวแฟนรู้สึกอึดอัด แล้วยังมีท่าทีรังเกียจทางฝั่งเขาที่เป็นคนลาว พูดจาไม่คิดถึงจิตใจคน จขกทโกรธมากแต่ก็ต้องระวังคำพูดเพราะยังไงก็คือพ่อ แม่จขกทก็ไม่ได้มีท่าทีจะเข้ามาช่วยเพิ่งแต่นั่งเอ่อออตามพ่อ
จขกท ไม่รู้จะทำยังไงให้เรื่องราวมันดีขึ้น ได้แต่เก็บไว้ในใจ อึดอัดแค่ไหนก็พยายามทนแต่แอบหวังให้ทางพ่อแม่ของจขกทเปลี่ยนความคิด/การกระทำ อยากให้เห็นถึงความสุขของลูกบ้าง เห็นความดีของแฟนจขกทบ้าง
พ่อแม่ไม่ชอบแฟน เพราะเป็นคนลาว แม้จะเกิดและอยู่ออสเตรเลียตั้งแต่เด็ก
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า จขกท เรียนต่อโทอยู่ที่ออสเตรเลีย อยู่ประเทศนี้มาเข้าปีที่ 7 คบกับแฟนคนปัจจุบันได้มาปีกว่าๆ มีแพลนจะหมั้นหมายกัน และแต่งงานหลังจบโท
แฟนของ จขกท เป็นคนลาวที่พ่อแม่ยกโขยงมาตั้งรกรากที่ออสเตรเลียตั้งแต่ยังสาวๆ พูดง่ายๆก็คือเป็นหนึ่งในผู้ลี้ภัยตอนเกิดความไม่สงบในลาวเมื่อ 30 กว่าปีก่อน (แฟนจขกท อายุ 33 จขกท 24)
ตั้งแต่คบกันมาก็ดีมากมาโดยตลอด รับในนิสัยใจคอได้เป็นอย่างดี พาไปเจอแม่ของเขา แล้วลุงป้าน้าอา ทุกคนก็ไม่มีอะไรติดขัด ก็เลยคิดว่าแผนว่าตอนำอแม่ของ จขกท บินมางานรับปริญญาจะให้แม่เขาลองพูดเกริ่นๆเรื่องหมั้นหมายดู (ดูจากตรงนี้ก็คงคิดว่าจะไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมคะ แต่ปัญหามันมาจากครอบครัวของจขกทนี่แหละ)
บ้านของจขกท เป็นครึ่งจีน (แม่ไทย พ่อไทยจีน) พ่อของ จขกท เพิ่งจะโดนจับได้ว่ามีเมียน้อยเมื่อปีที่แล้ว แม่จขกททำเรื่องหย่าเรียบร้อย แต่ด้วยความที่แม่เป็นคนที่ค่อนข้างจะหัวโบราณ เลยรู้สึกอายที่จะต้องหย่าร้างกับสามี เลยให้โอกาศพ่ออีกครั้ง
*อาจจะเป็นเรื่องเมียหลวงเมียน้อยธรรมดา แต่พ่อของจขกท มีเรื่องยักยอก พยายามจะโอนที่โอนทาง ทำให้ตัวเองเหมือนมีหนี้สิน เผื่อที่จะวางแผนหย่าแม่ก่อนที่แม่จะจับได้เรื่องเมียน้อย พ่อถึงกับจะหลอกโอนที่ให้ลูกๆในรูปแบบสิทธิเก็บกิน เผื่อที่จะเรียกคืนทีหลัง (ทั้งหมดทั้งมวล ได้มาจากการดักฟังโทรศัพท์ทั้งสิน มีอีกหลายๆเรื่องที่ทำให้ จขกทถึงกับไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่านี่คือความคิดของคนเป็นพ่อ) แต่ถึงเรื่องขนาดนี้แต่แม่ก็ยังหลงคิดว่าพ่อกลับตัวได้แล้ว (พ่อเคยขู่ฆ่าตัวตาย)
จขกทเคยพูดถึงแฟนให้แม่ฟังตลอด (ไม่ได้บอกทางพ่อเลย เพราะตัดการติดต่อไปตั้งแต่รู้เรื่องเมียน้อย) แม่ก็เห็นดีว่าควรหมั้นหมายไว้ก่อนก็ไม่เสียหาย บอกว่าจขกท รักใครเขาก็รักด้วย น้องสาวสองคนของจขกท ก็มาเยี่ยมบ่อย มีโอกาศได้พูดคุยกับแฟน ก็เข้ากันได้ดีทุกฝ่าย แต่พอแม่บอกว่าพ่อจะมางานด้วย จขกทก็ลังเลแต่ก็ต้องให้มาเพราะยังไงเขาก้เป็นพ่อ สิ่งที่จขกทคิดเอาไว้คือ ต่างคนต่างอยู
แม่ก็อยู่ของแม่ พ่อก็ส่วนพ่อ คุยได้เป็นเพื่อนเท่านั้น แต่สิ่งที่เห็นคือแม่สวีทกับพ่อตลอด (พ่อจขกทเป็นคนเห็นผลประโยชน์เป็นหลัก เหมือนนักธุรกิจทั่วๆไป ไม่ติดมารยาททางสังคม เรียกง่ายๆว่าถ้าไม่มีเงอน ก็จะจิกหัวใช้ ไม่ไว้หน้า แม่จขกทเป็นคนร่าเริ่งแต่กลัวพ่อมาก ขนาดไปกินบุฟเฟ่ แม่ต้องเดินไปหยิบอาหาร ส่วนพ่อนั่งรอ ถ้ามีกุ้งมีปูแม่ก็ต้องนั่งแกะให้ก่อนที่ตัวเองจะกิน แม่จะทำตามคำสั่งพ่อทุกอย่าง ไม่มีสิทธิคัดค้านเป็นช้างเท้าหลังที่ดี) และทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นตอนพวกเขาบินมา แม่กลับมาเป็นภรรยาที่เชื่อฟังคนเดิมทั้งทีเรื่องฟ้องหย่าก็ยังอยู่ในขั้นตอนทางกฏหมาย จขกทกับน้องๆก็รู้สึกอึดอัดรับไม่ได้ที่จะต้องมาเจอมาอยุ่กับพ่อ แต่เราก็ต้องยอมทำตามให้แม่มีความสุข
ตอนไปกินข้าวสองครอบครัว พ่อก็จะพูดอยู่อย่างเดียว ย้ำอยู่อย่างเดียวเรื่องเงิน พูดโอ้อวดตัวว่ามีเงินมีที่ดินเยอะ เป็นเจ้าของรีสอร์ท ทำให้ทางครอบครัวแฟนรู้สึกอึดอัด แล้วยังมีท่าทีรังเกียจทางฝั่งเขาที่เป็นคนลาว พูดจาไม่คิดถึงจิตใจคน จขกทโกรธมากแต่ก็ต้องระวังคำพูดเพราะยังไงก็คือพ่อ แม่จขกทก็ไม่ได้มีท่าทีจะเข้ามาช่วยเพิ่งแต่นั่งเอ่อออตามพ่อ
จขกท ไม่รู้จะทำยังไงให้เรื่องราวมันดีขึ้น ได้แต่เก็บไว้ในใจ อึดอัดแค่ไหนก็พยายามทนแต่แอบหวังให้ทางพ่อแม่ของจขกทเปลี่ยนความคิด/การกระทำ อยากให้เห็นถึงความสุขของลูกบ้าง เห็นความดีของแฟนจขกทบ้าง