หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] หยุด’ราวด์’แล้วไป’ลาว’กัน | บันทึกการเดินทางของ 4 นิสิตแพทย์ไปยังดินแดนที่เขาว่ากันว่า ‘ขื้อๆกั๋น’ กับบ้านเรา
กระทู้รีวิว
บันทึกนักเดินทาง
ภาพถ่ายทิวทัศน์
ภาพถ่าย
Backpack
ประเทศลาว
“ลาวหรอ…ไปด้วยดิ”
เป็นการตัดสินใจที่เร็วมากกว่าการตัดสินใจออกเดินทางครั้งใดที่ผ่านมา หัวใจสูบฉีดเลือดถี่ขึ้นทันที อาจเป็นเพราะภาพเก่าๆมันย้อนกลับมาก็ว่าได้ ถ้ายังคงพอจำได้เมื่อราว 10 ปีก่อน หนังเรื่อง สะบายดี หลวงพระบาง มันยังคงติดอยู่ในใจ เชื่อว่าสักวันอยากไปสโลว์ไลฟ์ใช้ชีวิตน่ารักๆแบบนั้นบ้าง แค่สักครั้งก็ยังดี เพราะจากชีวิตในตอนนี้อยู่ในสังคมที่รีบเร่งเหลือเกิน ความรับผิดชอบก็ใหญ่มากกว่าตัวเราหลายล้านเท่า ความเครียด ความกังวล ก็กระเด็นเข้าหัวมาแบบไม่ได้ตั้งใจ คนเราจะต้องการอะไรมากไปกว่า กินอิ่ม นอนหลับ ได้เที่ยว ได้ทำอะไรที่อยากทำ ได้อยู่กับคนที่เรารัก และรักเรา พอดีเลยปิดเทอมอันแสนจะน้อยนิดนี้ขอให้เวลากับชีวิตหน่อยแล้วกัน ด้วยความที่ทางฝ่ายแม่มีเชื้อสายทางลาวอยู่พันเปอร์เซ็น ทำให้ฟัง พูด อ่าน ภาษาลาวได้บ้าง แต่ความจริงลาวกับไทยเราเขาว่า “ขื้อๆกั๋น” แฝดพี่แฝดน้องท้องเดียวกัน เลยคิดว่าทางการสื่อสารเราพร้อมเลยทีเดียว
เพื่อนร่วมเดินทางผู้ซึ่งจุดประกายการเดินทางครั้งนี้ เราเรียกสั้นๆว่า กันไก่ กันไก่เป็นเพื่อนชายตัวเล็กของเราเอง”หมูเมย์” กันไก่ตัวเล็กแต่ใจใหญ่เบิ้ม คนนี้เขาแบกเป้ไปหลายที่แล้ว ได้ภาพสวยๆมาเพียบ อีกคนเราเรียกสั้นๆว่า กี้ เป็นหวานใจของกันไก่นั่นแหละ ยอมรับว่าตอนแรกไม่รู้ว่ากี้จะชอบการเดินทางแบบบุกตะลุยแบบนี้ไหม แต่เราต้องเชื่อใจกันไก่เขานะคะ เขาทำได้ คนสุดท้าย บอลลี่ หนุ่มฟิตเนสแข็งแรงดีแต่ขี้ลื่น แนะนำให้เขาเปลี่ยนรองเท้าหลายรอบละ การเดินทางครั้งนี้ก็มีกันแค่นี้แหละ เพราะมันเป็นการเดินทางที่ใครได้ยินก็คิดแล้วคิดอีก “หะ ล่องเรือในแม่น้ำโขง 2 วัน” “เดี๋ยวๆ no plan!” “ป๊ากับแม่ว่าเอาเงินไปช้อปปิ้ง ไปกับทัวร์ ดีมั้ยลูก ไปหามาสิอยากไปไหน อย่างนี้มันอันตราย”
แต่รู้ไหม ที่การเดินทางมันสนุก ก็เพราะมันเจออะไรที่ไม่คาดคิดนี่แหละ แล้วถ้าเรายิ่งแก้ปัญหาผ่านไปได้ ตอนนั้นแหละเราจะรู้สึกว่าเราตัวโตคับโลกเลยล่ะ เชื่อว่าการเดินทางครั้งนี้ของเราจะทำให้เราโตขึ้นอีก ไม่ต้องมากอะไร ค่อยๆโต ค่อยๆเรียนรู้ก็พอ
“เคยมานะ…เชียงราย”
เริ่มต้นการเดินทางในเช้ามืดวันเสาร์ วันขี้เกียจของใครหลายๆคน แต่ใจของนิสิตแพทย์ 4 หน่อนี้ เต้นไม่เป็นจังหวะ เราเริ่มออกเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมืองมุ่งหน้าท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย พอลงเครื่องเท่านั้นแหละ ไอร้อนปะทะหน้า เสียงอังกะลุงแว่วมาแต่ไกล “เห้ย ถึงแล้วว่ะ ตื่นเต้นละ” หลังจากออกมาเราเลือกที่จะเช่ารถคันเล็กๆเที่ยวในตัวจังหวัดเชียงรายก่อน “เคยมานะเชียงราย แต่ไปไงเนี่ย” ความทรงจำผังเมืองเชียงรายของหมูมันเลือนลางจริงๆ บอลลี่ถือแผนที่ที่แอบหยิบมากจากเคาร์เตอร์เช่ารถ กางออก “อ่าว มันมี 2 สนามบินว่ะ นี่เราอยู่อันไหนวะ” ไม่ใช่ปัญหาหรอกป๋ากูช่วยคุณได้ กูเกิลแมปสิคะรออะไร เราไปวัดร่องขุ่นกันที่แรก แต่ไปยังไม่ถึงก็เลี้ยวผิดซะก่อน เข้าวัดนะ แต่วัดอะไรไม่รู้ ประตูสวยดี ไม่มีใครขัดอยากรู้อยากเห็นกันหมด เข้าไปดูโลดลูกพี่ ป้ายเขาเขียนว่า “วัดเชตวัน(พระนอน)เชียงราย” ข้างในเป็นพระพุทธไสยาสน์ ศิลปะล้านนา มีชมรมกลองปู๋จา และพิพิธภัณฑ์เครื่องสูง คิดว่าเป็นวัดสำคัญในเชียงรายเลยนะ โชคดีอะไรขนาดนี้ คนอะไรเลี้ยวผิดเข้าวัด
จากนั้นก็ไปตามเส้นทางเพื่อที่จะไปวัดร่องขุ่น แต่ก่อนจะไปเราต้องแวะเช็ครอบรถบัส ที่ท่ารถก่อน เพื่อคืนนี้จะได้มีที่นอนที่เชียงของ ริมฝั่งโขงชายแดนไทย-ลาว โรแมนติกมั้ยล่ะ เราวางแผนว่าจะมาให้ทันรอบสุดท้ายของวันนี้เพื่อที่จะได้มีเวลาเที่ยวในเชียงรายก่อน รถไปเชียงของไม่ต้องซื้อตั๋ว ไม่ต้องจอง มาถึงคือขึ้น คิดค่าเสียหายกันบนรถ จากนั้นเลี้ยวซ้ายออกเดินทางตามถนนพหลโยธิน 10 นาที จากท่ารถเราก็ถึงวัดร่องขุ่น ถือเป็นสถาปัตยกรรมที่อาศัยความละเอียดมากทีเดียวถ้าใครเคยได้มาสัมผัส เป็นความผสมกลมกลืนของคำว่า”พุทธศิลป์ที่มีเอกลักษณ์”อย่างแท้จริง เข้าไปดูภายในหอศิลป์สักครู่ก็ถึงเวลาอาหารกลางวัน เราฝากท้องไว้ที่ร้านข้าวซอยน้ำกะทิฝั่งตรงข้าม และจบด้วยสับปะรดลูกเล็กๆ “ภูแล” มาถึงที่ไม่โดนสักหน่อยถือว่าเอ้าท์! นะ
ขับไปตามถนนที่ป๋ากูบอก อ้าว โผล่ ‘สิงห์ปาร์ค’ เฉย สิงห์อ้วนน่ารักยืนยิ้มอยู่บนเนินเขาลูกเล็ก นี่แหละ signature ของไร่บุญรอดเขา เรามาหลบร้อนในร้านกาแฟของสิงห์ปาร์คก่อนจะใช้บริการนั่งรถทัวร์สิงห์ปาร์ครอบบ่ายโมงตรง เครื่องดื่มเขาดีเลยนะ พอดีสั่งชาเขียวนมแก้วเดียว นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องเดินทางต่ออีกไกล จะสั่งอย่างละแก้วมาดื่มแล้วรีวิวให้เลย ก่อนรถพาทัวร์ไร่จะออก 15 นาที เราก็มานั่งรอกันที่ท่ารถพาชมไร่ สัญญาต้องเป็นสัญญา การตรงต่อเวลาสำคัญมากนะสำหรับคนที่ร่วมเดินทางด้วย เจ้าหน้าที่ ไกด์ คนขับรถชมไร่ ทุกคนมีหน้าที่ ทุกอย่างมีระบบ ถ้าทำได้ทำตามกติกาไว้ก่อนแหละดี
สิงห์ปาร์คใหญ่ม๊ากมาก ไกด์เขาก็พูดไประหว่างที่ล้อหมุนพาเราชมไร่ เหยียบเบรคจุดแรกที่ไร่ชาอู่หลง ถือว่าเป็นพระเอกของทางไร่บุญรอด พื้นที่ราวๆ 600 ไร่ ยาวไปสุดลูกหูลูกตา แต่ความจริงตานี่เหลืออันเล็กนิดเดียว ยิ่งเพื่อนหน้าตี๋ด้วยแล้วตาเป็นสระอิเลย ร้อนเอาเรื่องไงล่ะ ตาไม่สู้แสง ชาอู่หลงที่ปลูกเป็นสายพันธุ์จินซวน (Jin Xuan) หรือง่ายๆคือชาอู่หลงเบอร์ 12 จากไต้หวันนั่นเอง
ถ้าร้อนหรือกระหายน้ำเนี่ยทางไร่เขามีคูปองแลกน้ำดื่มสิงห์กับซันโวด้วยนะ ‘ซันโวคือไรวะ’ หันถามเพื่อน เนื่องจากเราค่อนข้างหลังเขา พอได้เรื่องได้ราวว่า อ๋อๆ ซันโว ก็คือเครื่องดื่มเกลือแร่รสผลไม้ สุดท้ายซันโวเสร็จเราไป 2 ขวดเลย ทั้งที่ยังไม่เสียเหงื่อสักกะหยดเดียว
จุดต่อมาพี่เขาเบรคที่สวนสัตว์ มีน้องยีราฟ ม้าลาย ให้ป้อนแครอท นางน่ารักแต่ลิ้นนางไม่น่ารักเท่าไหร่ ข้ามฝั่งไปหาพี่วัวชื่อ วาตูซี่ ตอนแรกนึกว่าพี่เค้าชื่อ ตุ๊ดซี่ เรียกอยู่นานไม่หัน คุยกับพี่ตุ๊ดซี่อยู่นานระหว่างที่เพื่อนถ่ายรูปก้นพี่เค้าอยู่ สัญญากับพี่วัวว่า ถ้าหนูเรียนไม่เก่งแล้ว จะมาอยู่เลี้ยงพี่เขาที่คอก พี่เขาบอกให้ ตื่นค่ะ!
สักพักไกด์ก็เรียกขึ้นรถ ไปยังจุดคล้ายร้านอาหาร มีหอโดด zipline อยู่ เลยเดินๆขึ้นไป โอ้โห เห็นวิว 360 องศาเลย กว้างมาก สวยมาก มีดอกไม้สีสันเต็มไปหมด ถ้ามีโอกาสหน้าหนาวจะมาอีกครั้งนะ ตอนนี้ลมแดดจะจับละ สิ้นสุดการทัวร์ไร่ที่เข็มสั้นชี้เลขสองบนหน้าปัด ก็นึกขึ้นได้ว่ากินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่ เป้าหมายต่อไป ‘ร้านชีวิตธรรมดา’ ที่ห่างออกไป 25 นาที เดินเข้าไปในร้านมีต้นไม้เยอะมาก แต่งร้านสวยดี ส้วมยังสวยเลย สงบ ร่มรื่น และแล้วก็มีดนตรีสดลอยลมมา เดินเข้าไปอีก อ้าวเห้ย เป่าๆ ดีดๆ กดๆ กันตรงนี้เลยหรอ ชอบ นี่ถ้าเป็นคนเชียงรายนะจะเอางานมาทำ เอารูปมาวาด กินขนมไปเรื่อยๆ สั่งกาแฟมาวางขอแค่กลิ่นก็ยังดี แต่งตัวเซอร์ๆ นั่งหมุนดินสอไม้ ตื่นๆ!ความจริงปลุกชั้นอยู่ เหลือเวลาอีกประมาณ 1 ชั่วโมงต้องเอารถที่พวกเราเช่าไปคืนที่สนามบิน แล้วกลับมาขึ้นบัสไปนอนชายแดนเชียงของ เลยสั่งขนมอย่างรวดเร็วตามสัญชาตญาณหญิงผู้ชอบเขมือบของหวานเป็นชีวิต ได้บานอฟฟี่กับมะม่วงชีสเค้กมาอย่างละชิ้น และเครื่องดื่มตามสไตล์ตัวเองมาคนละแก้ว อาหารเขาดีเชียวนะ ให้เต็มสิบยังได้เลย แต่ก็ว่าไม่ได้’ลางเนื้อชอบลางยา’สไตล์ใครสไตล์มันอย่าเทียบกันเลย แต่นี่แหละสไตล์เรา เราชอบ
คืนรถเสร็จ ก็มาขึ้นรถที่ท่ารถเชียงราย รถได้อารมณ์มาก เป็นรถกระป๋องขึ้นสนิม ตอนนั่งสังเกตว่ารถเอียงไปข้างหนึ่ง ล้อมันส่งเสียงเหมือนอยากจะหลุดออกมายังไงไม่รู้ กระจกฝืดๆขัดๆ มีชาวบ้าน พระ นักเรียน บุคคลทุกเพศ ทุกวัย อยู่ในรถคันนี้ รวมทั้งนักท่องเที่ยวเด๋อๆอย่างเรา 4 คนด้วย เลยค่อนข้างเป็นจุดสังเกตไม่น้อย เราเดินทางไปตามถนนชนบท แต่ไม่ถึงขั้นขึ้นเขา เพียงแค่เปลี่ยนอำเภอเท่านั้น ถนนเลยยังไม่ชวนอ้วกมากนัก ตอนนี้เวลาเริ่มเย็นแล้วเราอยู่บนถนนในอำเภอพญาเม็งราย พระอาทิตย์เริ่มง่วงนอนแก้มแดงตุ่ย โชคดีที่รถคันนี้ไม่ปิดประตู ไม่มีประตู หรือประตูปิดไม่ได้ ก็จำความไม่ได้ รู้แต่ว่าเย็นวันนี้พวกเราได้ดูพระอาทิตย์ตกผ่านบานประตูรถกระป๋องขึ้นสนิมที่โยกไปโยกมาตามสภาพถนนชนบท ในบรรยากาศท้องนาที่มีข้าวสีเขียวตองอ่อนสลับเหลืองทอง มีพระอาทิตย์ทรงไข่แดงเข็มไชยาลอยอยู่ข้างบน สักพักก็ลับขอบฟ้าไป
ฟ้าเริ่มมืดอากาศเริ่มเย็นแต่เรายังไม่ถึงเชียงของเลย เมื่อไหร่จะถึง แล้วถ้าถึงแล้วไงต่อล่ะ เดินหาที่พักหรอ จะมีร้านเปิดให้เรากินข้าวเย็นไหมเนี่ย คำถามเริ่มเกิดขึ้น แต่ไม่มีความกลัวปนอยู่เลย ไม่นานก็ถึงเชียงของ รู้ก็ตอนกระเป๋ารถปลุกนี่แหละ ลงมาก็ยังงงๆอยู่ เปิดป๊ากูเขาบอกว่าต้องเดินเท้าไปถึงจะเจอที่พัก ทางเข้าที่พักมืดและเงียบมาก คนที่นี่เขาไม่รอดูละครหลังข่าวกันเลยหรอ นี่นอนสองทุ่มกันหมดเลยรึเปล่า หลังจากวางสัมภาระก็เริ่มต้องหาอะไรใส่ท้อง เราเดินไปตามถนนเพื่อหาร้านที่เคยอ่านรีวิวไว้ เสียดายเขาปิดไปแล้ว สงสัยเราจะมาช้าเกินไป เดินย้อนกลับทางเดิมเจอร้านอาหารตามสั่งร้านหนึ่ง คุณป้าใจดี ทำอาหารอร่อย เราพูดคุยกับคุณป้าว่า ‘เดินมายังไม่เจอร้านอาหารเลย ร้านที่อยากกินก็ปิดหมด น่าเสียดาย มาเจอร้านป้านี่แหละ เอาแซ่บๆเลยนะคะป้า’ ป้านางน้อยอกน้อยใจ “นี่ป้าเป็นทางเลือกสุดท้ายใช่ไหมหนู” หนูว่าไม่ใช่นะป้า หนูว่าเป็น’พรหมลิขิต’มากกว่า ถ้าเขาไม่ปิด เราจะมาเจอกันได้ยังไง หนูจะได้กินอาหารตามสั่งริมแม่น้ำโขงที่อร่อยที่สุดได้ยังไง ถ้าใครจะมาหรือหนูจะมาอีกครั้ง ป้าคือร้านที่อยู่ในใจร้านแรกเลย
ระเบิดกะเพราะเสร็จพวกเราเดินกลับที่พักตามถนนเลียบฝั่งโขง พร้อมโรตีกล้วย 1 ถาด วันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน นี่แค่การเดินทางวันแรก นี่ยังอยู่ประเทศไทย แค่การเดินทางข้ามจังหวัด ข้ามอำเภอ ที่เราต่างรู้ๆกันอยู่ว่ามันถูกบันทึกไว้ตรงที่ใดในแผนที่ประเทศไทยตั้งแต่ประถม พรุ่งนี้ล่ะจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง… กับประเทศเพื่อนบ้านที่เขาว่ากันว่าเรา ‘ขื้อๆกั๋น’
ชื่อสินค้า:
เชียงราย เชียงของ ลาว ห้วยทราย ปากแบง หลวงพระบาง พูคูน วังเวียง เวียงจันทน์
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ลำปาง เชียงราย ไปลาวก็ได้นะ Tesla Model 3 LR RWD ไม่ต้องชาร์จ
ต่อจากกระทู้ที่แล้วครับ ขับทดลอง Model 3 Long Range RWD จาก กทมไปลำปาง มาถึงกระทู้นี้ ขับจาก ลำปางไปเชียงราย แบบไม่ปั้นตัวเลขระยะทาง ใช้งานจริงมีคนนั่ง 4 คนเพื่อจะดูว่าไปถึงที่ชาร์จ Tesla SC เชียงรายแ
สมาชิกหมายเลข 8577804
เที่ยวเชียงใหม่ 4 คืน 5 วัน แบบไหนดี ตัวเมือง - ม่อนแจ่ม - เชียงดาว - แม่แตง - แม่กำปอง - น้ำพุสันกำแพง - ในเมือง
- ขับรถไปเองออกจากนางเลิ้ง เช้าพฤหัสฯ ตี 4 บ่าย 2 เข้าที่พักเก็บของย่านสนามกีฬาช้างเผือก ไปกินฮ้านถึงเจียงใหม่ เที่ยววัดอุโมงค์ ไปกาแล กินสุกี๊ช้างเผือก เข้าที่พัก - ศุกร์ 8 โมงเช้า โจ๊กสมเพชร ไปสวนด
sunman
เชียงของ, เชียงราย : ชมโขงที่เชียงของ ตามหาปลาบึก และไก ..ไหว้พระ ใส่บาตร ปั่นจักยานชมวิถีชีวิตริมแม่น้ำโขง (แบบไม่มีรถ)
เชียงของ, เชียงราย : ชมโขงที่เชียงของ ตามหาปลาบึก และไก ..ไหว้พระ ใส่บาตร ปั่นจักยานชมวิถีชีวิตริมแม่น้ำโขง (แบบไม่มีรถยนต์ส่วนตัว) สวัสดีครับ ทริปนี้จัดมาเพื่ออยากเปลี่ยนบรรยากาศไปใกล้เมือง อากาศด
White_Cloud
[Backpack Trip] 3 วัน 2 คืน “เชียงคาน” ผู้คนใจดี บรรยากาศอบอุ่น กับนักศึกษาปี 4 ที่ฟิต ๆ จ.เลย
สวัสดีค่ะทุกคน 🙋🏻♀️ กระทู้นี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา GEN441 (CULTURE AND EXCURSION) ที่ให้นักศึกษาได้ไปเรียนรู้วัฒนธรรมและวิถีชีวิตท้องถิ่น โดยพวกเรากลุ่มฟิต ฟิต เลย สมาช
สมาชิกหมายเลข 9100629
ปรึกษาทริป เชียงราย 3คืน4วัน ควรแก้ไขตรงไหนอีกไหม
วางแผนคร่าวๆไว้แบบนี้ รบกวนช่วยแนะนำหน่อยคะ day 1 เสาร์ 9.30 สนามบินแม่ฟ้าหลวง เชียงราย สักการะอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งราย วัดพระแก้ว วัดพระสิงห์ วัดร่องขุ่น ไร่บุญรอด ไร่เชิญตะวัน 18.00 วัดห้วยปลากั้ง
andthegang
พาเที่ยว วัดพระแก้ว (Wat Phra Kaew) จังหวัดเชียงราย
คุณเคยได้ยินตำนาน พระแก้วมรกต พระพุทธรูปหยกสีเขียวที่มีชื่อเสียงที่สุดองค์หนึ่งของประเทศไทยหรือไม่ และรู้หรือไม่ว่า พระองค์นี้มีความสัมพันธ์ตรงกับวัดพระแก้ว ณ จังหวัดเชียงรา
Tiger not smile
รบกวนช่วยตรวจแพลน เที่ยวอุบล ค่ะ
สวัสดีค่ะ พอดีเรากำลังแพลนจะไปเที่ยวอุบลฯ ช่วงปลายปี (รีบแพลนเพราะจะได้รีบจองตั๋ว/โรงแรมค่ะ) กะว่าจะไป 4 คืน 5 วันค่ะ ไปกัน 2 คนกับแฟน พอดีมีวันลาเหลือ และอยากเที่ยวแบบไม่รีบร้อนค่ะ แพลนของเราคือ เบ
แป้งทอด
คาเฟ่แมวในเชียงรายน้ำอร่อยมากๆๆๆ
เป็นคาเฟ่เล็กที่เนมูน้ำอร่อยมากจริงๆอยู่ที่เชียงแสนแถวริมโขงค่ะเราสั่งมัจฉะลาเต้รส.ว่านมเขาละมุนมากๆเราไปมาสามรอบแล้วน้ำเขาอร่อยทุกรอบทุกเมนูจริงราคาประมาณ50฿แต่ดูตั้งใจทำทุกแก้วมากๆค่ะและมีน้องแมวมาน
สมาชิกหมายเลข 8872347
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
ภาพถ่ายทิวทัศน์
ภาพถ่าย
Backpack
ประเทศลาว
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] หยุด’ราวด์’แล้วไป’ลาว’กัน | บันทึกการเดินทางของ 4 นิสิตแพทย์ไปยังดินแดนที่เขาว่ากันว่า ‘ขื้อๆกั๋น’ กับบ้านเรา
เป็นการตัดสินใจที่เร็วมากกว่าการตัดสินใจออกเดินทางครั้งใดที่ผ่านมา หัวใจสูบฉีดเลือดถี่ขึ้นทันที อาจเป็นเพราะภาพเก่าๆมันย้อนกลับมาก็ว่าได้ ถ้ายังคงพอจำได้เมื่อราว 10 ปีก่อน หนังเรื่อง สะบายดี หลวงพระบาง มันยังคงติดอยู่ในใจ เชื่อว่าสักวันอยากไปสโลว์ไลฟ์ใช้ชีวิตน่ารักๆแบบนั้นบ้าง แค่สักครั้งก็ยังดี เพราะจากชีวิตในตอนนี้อยู่ในสังคมที่รีบเร่งเหลือเกิน ความรับผิดชอบก็ใหญ่มากกว่าตัวเราหลายล้านเท่า ความเครียด ความกังวล ก็กระเด็นเข้าหัวมาแบบไม่ได้ตั้งใจ คนเราจะต้องการอะไรมากไปกว่า กินอิ่ม นอนหลับ ได้เที่ยว ได้ทำอะไรที่อยากทำ ได้อยู่กับคนที่เรารัก และรักเรา พอดีเลยปิดเทอมอันแสนจะน้อยนิดนี้ขอให้เวลากับชีวิตหน่อยแล้วกัน ด้วยความที่ทางฝ่ายแม่มีเชื้อสายทางลาวอยู่พันเปอร์เซ็น ทำให้ฟัง พูด อ่าน ภาษาลาวได้บ้าง แต่ความจริงลาวกับไทยเราเขาว่า “ขื้อๆกั๋น” แฝดพี่แฝดน้องท้องเดียวกัน เลยคิดว่าทางการสื่อสารเราพร้อมเลยทีเดียว
เพื่อนร่วมเดินทางผู้ซึ่งจุดประกายการเดินทางครั้งนี้ เราเรียกสั้นๆว่า กันไก่ กันไก่เป็นเพื่อนชายตัวเล็กของเราเอง”หมูเมย์” กันไก่ตัวเล็กแต่ใจใหญ่เบิ้ม คนนี้เขาแบกเป้ไปหลายที่แล้ว ได้ภาพสวยๆมาเพียบ อีกคนเราเรียกสั้นๆว่า กี้ เป็นหวานใจของกันไก่นั่นแหละ ยอมรับว่าตอนแรกไม่รู้ว่ากี้จะชอบการเดินทางแบบบุกตะลุยแบบนี้ไหม แต่เราต้องเชื่อใจกันไก่เขานะคะ เขาทำได้ คนสุดท้าย บอลลี่ หนุ่มฟิตเนสแข็งแรงดีแต่ขี้ลื่น แนะนำให้เขาเปลี่ยนรองเท้าหลายรอบละ การเดินทางครั้งนี้ก็มีกันแค่นี้แหละ เพราะมันเป็นการเดินทางที่ใครได้ยินก็คิดแล้วคิดอีก “หะ ล่องเรือในแม่น้ำโขง 2 วัน” “เดี๋ยวๆ no plan!” “ป๊ากับแม่ว่าเอาเงินไปช้อปปิ้ง ไปกับทัวร์ ดีมั้ยลูก ไปหามาสิอยากไปไหน อย่างนี้มันอันตราย”
“เคยมานะ…เชียงราย”
เริ่มต้นการเดินทางในเช้ามืดวันเสาร์ วันขี้เกียจของใครหลายๆคน แต่ใจของนิสิตแพทย์ 4 หน่อนี้ เต้นไม่เป็นจังหวะ เราเริ่มออกเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมืองมุ่งหน้าท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย พอลงเครื่องเท่านั้นแหละ ไอร้อนปะทะหน้า เสียงอังกะลุงแว่วมาแต่ไกล “เห้ย ถึงแล้วว่ะ ตื่นเต้นละ” หลังจากออกมาเราเลือกที่จะเช่ารถคันเล็กๆเที่ยวในตัวจังหวัดเชียงรายก่อน “เคยมานะเชียงราย แต่ไปไงเนี่ย” ความทรงจำผังเมืองเชียงรายของหมูมันเลือนลางจริงๆ บอลลี่ถือแผนที่ที่แอบหยิบมากจากเคาร์เตอร์เช่ารถ กางออก “อ่าว มันมี 2 สนามบินว่ะ นี่เราอยู่อันไหนวะ” ไม่ใช่ปัญหาหรอกป๋ากูช่วยคุณได้ กูเกิลแมปสิคะรออะไร เราไปวัดร่องขุ่นกันที่แรก แต่ไปยังไม่ถึงก็เลี้ยวผิดซะก่อน เข้าวัดนะ แต่วัดอะไรไม่รู้ ประตูสวยดี ไม่มีใครขัดอยากรู้อยากเห็นกันหมด เข้าไปดูโลดลูกพี่ ป้ายเขาเขียนว่า “วัดเชตวัน(พระนอน)เชียงราย” ข้างในเป็นพระพุทธไสยาสน์ ศิลปะล้านนา มีชมรมกลองปู๋จา และพิพิธภัณฑ์เครื่องสูง คิดว่าเป็นวัดสำคัญในเชียงรายเลยนะ โชคดีอะไรขนาดนี้ คนอะไรเลี้ยวผิดเข้าวัด
จากนั้นก็ไปตามเส้นทางเพื่อที่จะไปวัดร่องขุ่น แต่ก่อนจะไปเราต้องแวะเช็ครอบรถบัส ที่ท่ารถก่อน เพื่อคืนนี้จะได้มีที่นอนที่เชียงของ ริมฝั่งโขงชายแดนไทย-ลาว โรแมนติกมั้ยล่ะ เราวางแผนว่าจะมาให้ทันรอบสุดท้ายของวันนี้เพื่อที่จะได้มีเวลาเที่ยวในเชียงรายก่อน รถไปเชียงของไม่ต้องซื้อตั๋ว ไม่ต้องจอง มาถึงคือขึ้น คิดค่าเสียหายกันบนรถ จากนั้นเลี้ยวซ้ายออกเดินทางตามถนนพหลโยธิน 10 นาที จากท่ารถเราก็ถึงวัดร่องขุ่น ถือเป็นสถาปัตยกรรมที่อาศัยความละเอียดมากทีเดียวถ้าใครเคยได้มาสัมผัส เป็นความผสมกลมกลืนของคำว่า”พุทธศิลป์ที่มีเอกลักษณ์”อย่างแท้จริง เข้าไปดูภายในหอศิลป์สักครู่ก็ถึงเวลาอาหารกลางวัน เราฝากท้องไว้ที่ร้านข้าวซอยน้ำกะทิฝั่งตรงข้าม และจบด้วยสับปะรดลูกเล็กๆ “ภูแล” มาถึงที่ไม่โดนสักหน่อยถือว่าเอ้าท์! นะ
ขับไปตามถนนที่ป๋ากูบอก อ้าว โผล่ ‘สิงห์ปาร์ค’ เฉย สิงห์อ้วนน่ารักยืนยิ้มอยู่บนเนินเขาลูกเล็ก นี่แหละ signature ของไร่บุญรอดเขา เรามาหลบร้อนในร้านกาแฟของสิงห์ปาร์คก่อนจะใช้บริการนั่งรถทัวร์สิงห์ปาร์ครอบบ่ายโมงตรง เครื่องดื่มเขาดีเลยนะ พอดีสั่งชาเขียวนมแก้วเดียว นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องเดินทางต่ออีกไกล จะสั่งอย่างละแก้วมาดื่มแล้วรีวิวให้เลย ก่อนรถพาทัวร์ไร่จะออก 15 นาที เราก็มานั่งรอกันที่ท่ารถพาชมไร่ สัญญาต้องเป็นสัญญา การตรงต่อเวลาสำคัญมากนะสำหรับคนที่ร่วมเดินทางด้วย เจ้าหน้าที่ ไกด์ คนขับรถชมไร่ ทุกคนมีหน้าที่ ทุกอย่างมีระบบ ถ้าทำได้ทำตามกติกาไว้ก่อนแหละดี
สิงห์ปาร์คใหญ่ม๊ากมาก ไกด์เขาก็พูดไประหว่างที่ล้อหมุนพาเราชมไร่ เหยียบเบรคจุดแรกที่ไร่ชาอู่หลง ถือว่าเป็นพระเอกของทางไร่บุญรอด พื้นที่ราวๆ 600 ไร่ ยาวไปสุดลูกหูลูกตา แต่ความจริงตานี่เหลืออันเล็กนิดเดียว ยิ่งเพื่อนหน้าตี๋ด้วยแล้วตาเป็นสระอิเลย ร้อนเอาเรื่องไงล่ะ ตาไม่สู้แสง ชาอู่หลงที่ปลูกเป็นสายพันธุ์จินซวน (Jin Xuan) หรือง่ายๆคือชาอู่หลงเบอร์ 12 จากไต้หวันนั่นเอง
ถ้าร้อนหรือกระหายน้ำเนี่ยทางไร่เขามีคูปองแลกน้ำดื่มสิงห์กับซันโวด้วยนะ ‘ซันโวคือไรวะ’ หันถามเพื่อน เนื่องจากเราค่อนข้างหลังเขา พอได้เรื่องได้ราวว่า อ๋อๆ ซันโว ก็คือเครื่องดื่มเกลือแร่รสผลไม้ สุดท้ายซันโวเสร็จเราไป 2 ขวดเลย ทั้งที่ยังไม่เสียเหงื่อสักกะหยดเดียว
จุดต่อมาพี่เขาเบรคที่สวนสัตว์ มีน้องยีราฟ ม้าลาย ให้ป้อนแครอท นางน่ารักแต่ลิ้นนางไม่น่ารักเท่าไหร่ ข้ามฝั่งไปหาพี่วัวชื่อ วาตูซี่ ตอนแรกนึกว่าพี่เค้าชื่อ ตุ๊ดซี่ เรียกอยู่นานไม่หัน คุยกับพี่ตุ๊ดซี่อยู่นานระหว่างที่เพื่อนถ่ายรูปก้นพี่เค้าอยู่ สัญญากับพี่วัวว่า ถ้าหนูเรียนไม่เก่งแล้ว จะมาอยู่เลี้ยงพี่เขาที่คอก พี่เขาบอกให้ ตื่นค่ะ!
สักพักไกด์ก็เรียกขึ้นรถ ไปยังจุดคล้ายร้านอาหาร มีหอโดด zipline อยู่ เลยเดินๆขึ้นไป โอ้โห เห็นวิว 360 องศาเลย กว้างมาก สวยมาก มีดอกไม้สีสันเต็มไปหมด ถ้ามีโอกาสหน้าหนาวจะมาอีกครั้งนะ ตอนนี้ลมแดดจะจับละ สิ้นสุดการทัวร์ไร่ที่เข็มสั้นชี้เลขสองบนหน้าปัด ก็นึกขึ้นได้ว่ากินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่ เป้าหมายต่อไป ‘ร้านชีวิตธรรมดา’ ที่ห่างออกไป 25 นาที เดินเข้าไปในร้านมีต้นไม้เยอะมาก แต่งร้านสวยดี ส้วมยังสวยเลย สงบ ร่มรื่น และแล้วก็มีดนตรีสดลอยลมมา เดินเข้าไปอีก อ้าวเห้ย เป่าๆ ดีดๆ กดๆ กันตรงนี้เลยหรอ ชอบ นี่ถ้าเป็นคนเชียงรายนะจะเอางานมาทำ เอารูปมาวาด กินขนมไปเรื่อยๆ สั่งกาแฟมาวางขอแค่กลิ่นก็ยังดี แต่งตัวเซอร์ๆ นั่งหมุนดินสอไม้ ตื่นๆ!ความจริงปลุกชั้นอยู่ เหลือเวลาอีกประมาณ 1 ชั่วโมงต้องเอารถที่พวกเราเช่าไปคืนที่สนามบิน แล้วกลับมาขึ้นบัสไปนอนชายแดนเชียงของ เลยสั่งขนมอย่างรวดเร็วตามสัญชาตญาณหญิงผู้ชอบเขมือบของหวานเป็นชีวิต ได้บานอฟฟี่กับมะม่วงชีสเค้กมาอย่างละชิ้น และเครื่องดื่มตามสไตล์ตัวเองมาคนละแก้ว อาหารเขาดีเชียวนะ ให้เต็มสิบยังได้เลย แต่ก็ว่าไม่ได้’ลางเนื้อชอบลางยา’สไตล์ใครสไตล์มันอย่าเทียบกันเลย แต่นี่แหละสไตล์เรา เราชอบ
คืนรถเสร็จ ก็มาขึ้นรถที่ท่ารถเชียงราย รถได้อารมณ์มาก เป็นรถกระป๋องขึ้นสนิม ตอนนั่งสังเกตว่ารถเอียงไปข้างหนึ่ง ล้อมันส่งเสียงเหมือนอยากจะหลุดออกมายังไงไม่รู้ กระจกฝืดๆขัดๆ มีชาวบ้าน พระ นักเรียน บุคคลทุกเพศ ทุกวัย อยู่ในรถคันนี้ รวมทั้งนักท่องเที่ยวเด๋อๆอย่างเรา 4 คนด้วย เลยค่อนข้างเป็นจุดสังเกตไม่น้อย เราเดินทางไปตามถนนชนบท แต่ไม่ถึงขั้นขึ้นเขา เพียงแค่เปลี่ยนอำเภอเท่านั้น ถนนเลยยังไม่ชวนอ้วกมากนัก ตอนนี้เวลาเริ่มเย็นแล้วเราอยู่บนถนนในอำเภอพญาเม็งราย พระอาทิตย์เริ่มง่วงนอนแก้มแดงตุ่ย โชคดีที่รถคันนี้ไม่ปิดประตู ไม่มีประตู หรือประตูปิดไม่ได้ ก็จำความไม่ได้ รู้แต่ว่าเย็นวันนี้พวกเราได้ดูพระอาทิตย์ตกผ่านบานประตูรถกระป๋องขึ้นสนิมที่โยกไปโยกมาตามสภาพถนนชนบท ในบรรยากาศท้องนาที่มีข้าวสีเขียวตองอ่อนสลับเหลืองทอง มีพระอาทิตย์ทรงไข่แดงเข็มไชยาลอยอยู่ข้างบน สักพักก็ลับขอบฟ้าไป
ฟ้าเริ่มมืดอากาศเริ่มเย็นแต่เรายังไม่ถึงเชียงของเลย เมื่อไหร่จะถึง แล้วถ้าถึงแล้วไงต่อล่ะ เดินหาที่พักหรอ จะมีร้านเปิดให้เรากินข้าวเย็นไหมเนี่ย คำถามเริ่มเกิดขึ้น แต่ไม่มีความกลัวปนอยู่เลย ไม่นานก็ถึงเชียงของ รู้ก็ตอนกระเป๋ารถปลุกนี่แหละ ลงมาก็ยังงงๆอยู่ เปิดป๊ากูเขาบอกว่าต้องเดินเท้าไปถึงจะเจอที่พัก ทางเข้าที่พักมืดและเงียบมาก คนที่นี่เขาไม่รอดูละครหลังข่าวกันเลยหรอ นี่นอนสองทุ่มกันหมดเลยรึเปล่า หลังจากวางสัมภาระก็เริ่มต้องหาอะไรใส่ท้อง เราเดินไปตามถนนเพื่อหาร้านที่เคยอ่านรีวิวไว้ เสียดายเขาปิดไปแล้ว สงสัยเราจะมาช้าเกินไป เดินย้อนกลับทางเดิมเจอร้านอาหารตามสั่งร้านหนึ่ง คุณป้าใจดี ทำอาหารอร่อย เราพูดคุยกับคุณป้าว่า ‘เดินมายังไม่เจอร้านอาหารเลย ร้านที่อยากกินก็ปิดหมด น่าเสียดาย มาเจอร้านป้านี่แหละ เอาแซ่บๆเลยนะคะป้า’ ป้านางน้อยอกน้อยใจ “นี่ป้าเป็นทางเลือกสุดท้ายใช่ไหมหนู” หนูว่าไม่ใช่นะป้า หนูว่าเป็น’พรหมลิขิต’มากกว่า ถ้าเขาไม่ปิด เราจะมาเจอกันได้ยังไง หนูจะได้กินอาหารตามสั่งริมแม่น้ำโขงที่อร่อยที่สุดได้ยังไง ถ้าใครจะมาหรือหนูจะมาอีกครั้ง ป้าคือร้านที่อยู่ในใจร้านแรกเลย
ระเบิดกะเพราะเสร็จพวกเราเดินกลับที่พักตามถนนเลียบฝั่งโขง พร้อมโรตีกล้วย 1 ถาด วันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน นี่แค่การเดินทางวันแรก นี่ยังอยู่ประเทศไทย แค่การเดินทางข้ามจังหวัด ข้ามอำเภอ ที่เราต่างรู้ๆกันอยู่ว่ามันถูกบันทึกไว้ตรงที่ใดในแผนที่ประเทศไทยตั้งแต่ประถม พรุ่งนี้ล่ะจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง… กับประเทศเพื่อนบ้านที่เขาว่ากันว่าเรา ‘ขื้อๆกั๋น’